Languages
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 11 12   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร  (อ่าน 65558 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #30 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 01:52:34 am »

น้องให้เห็นแบบนี้แล้วเครียดแทน......หายไวๆๆนะครับ



ปล.เล่าเรื่องได้สนุกน่าติดตามอ่านเพลินเลย ยอดเยี่ยม

เดียวต้องรอลุ้นตอบจบครับ ไม่ว่าจะเป็นแก้ปัญหาได้ หรือ ผมขายรถทิ้ง ผมจะมาทำฉบับรวมเล่ม ออกวางขายดีมั้ยครับ รถราคาเป็นล้าน อยากมีปัญหาเยอะนัก อิอิอิอิอิอิอิอิอิ?
บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #31 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 02:21:10 am »

อัพเดตความคืบหน้าครับ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 21/4/2556 วันที่ผมพบว่าที่ตัวเครื่องของรถผมนั้นมีน้ำมันเครื่องรั่วซึมออกมาตาม กระทู้ในข้อที่ 4 นั้นผมได้ทำการโทรไปแจ้ง Call Center นั้นได้ความว่าทาง Call Center ได้ทำการบันทึกข้อมูลไว้ว่ารถมีปัญหา แล้วนั้นทางศูนย์ก็ทำการสอบถามว่าผมสามารถเอารถเข้าศูนย์บริการได้มั้ย? ตอนนั้นผมอยู่ใน สำนักสงฆ์ บ้านตาขีด อ.บรรพต จ.นครสวรรค ห่างตัวเมืองเป็นร้อยกิโล ถ้าขับไปแล้วมันตายกลางทาง ผมจะได้กินข้าวลิงอีกแน่ะ (แต่ก็ไม่เป็นไรนะกับรถคันนี้ชินแล้ว) ผมเลยแจ้งทาง Call Center ว่าไม่น่าเป็นการดีแน่ๆทาง MMTH สามารถประสานงานหารถมาลาก หรือ มาแบกไปได้มั้ย (หมายถึงเอาถึงรถ หกล้อน่ะครับ) ทาง Call Center ก็แจ้งว่าไม่สะดวก (ไม่เข้าใจในเวลาโทรเข้าไป Call Center ข้อที่ 1 ที่สามารถกดเข้าไปได้ คือ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนี่นา?Huh?Huh?Huh??) ผมเลยตัดสินใจค่อยๆขับรถเอาไปฝากไว้ที่บ้านพ่อที่ อ.เมือง จ.พิจิตร แล้ว ผมก็ขโมย Vios 03 คันเก่าที่ยกให้น้องชายไปก่อนที่จะซื้อ น้องปาขี้โรคคันนี้มา แล้ว เดินทางกลับกรุงเทพในวันอาทิตย์

ในวันจันทร์ที่ 23/4/2556 ทาง Call Center MMTH ก็โทรมาหาผมอีกรอบเรื่องสอบถามอาการผมก็ บรรยายไปโดยระเอียดแบบที่ผมเขียน กระทู้นั้นล่ะครับ ว่าผมมีปัญหาเครื่องมีน้ำมันเครื่องซึมออกมา ซึ่งคำตอบที่ได้จาก Call Center เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากนั้นคือ เค้าให้ผมกลับไปดูที่รถว่าน้ำมันที่ซึมมันเกิดจากสาเหตุที่ว่า เด็ก (ทาง Call Center ใช้คำว่าเด็กแทนช่างที่ศูนย์ ที่ทำการเปลี่ยนประเก็น และ เช็คระยะ * ไอ้ครั้งที่เช็คระยะเสร็จไปรับรถกลับบ้าน แต่พอออกมานอกศูนย์ แล้วฉีดน้ำล้างกระจกแต่ไม่มีน้ำออกมา ลงไปดูพบว่าน้ำในถังล้างกระจกแห้งนั้นแหละครับ) เค้าเติมน้ำมันเครื่องให้แล้วมันไปหกอยู่แถวฝาสูบ ผมฟังแล้ว ช็อกไปเลย ระดับ Call Center MMTH นะครับ คิดได้ไง เค้าก็มีประวัติรถผมอยู่ในมือ รถผมเปลี่ยนประเก็นเสร็จไปตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ที่เลขไมล์ 27,xxx km และ ผมก็ทำการล้างรถ ล้างห้องเครื่อง คอยดูสภาพ ความผิดปกติมันอยู่ทุกวัน จนมาพบปัญหาเมื่อวันที่ 21/4/2556 ที่ผ่านมาเลขไมล์อยู่ที่ 34,xxx km ระยะเวลาผ่านมาตั้งสามเดือน ระยะทางที่รถวิ่งไปก็ตั้ง หกพันกว่ากิโล ถ้ามันเติมน้ำมันแล้วหก มันคงเพิ่งอยากจะเยิ้มล่ะมั้ง คนถามเค้าก็ช่างคิดได้เนอะ ผมก็บอกเค้าไปว่าผมไม่สะดวก เพราะตอนนี้ผมกลับมากรุงเทพแล้ว แต่รถฝากไว้จากญาติที่ต่างจังหวัด คุณไปลากรถเข้ามาตรวจสอบ หรือ ประสานงานไปยังญาติผมได้มั้ย คำตอบที่ได้นั้นก็ช่างเหลือเชื่อครับ เพราะเค้าตอบว่าไม่สะดวกครับ หึหึหึ (เวลาโทรไปเบอร์ Call Center อย่าเลือกข้อหนึ่งนะครับ ไม่มีประโยชน์เค้าทำไว้ให้มันฟังดูดีเฉยๆ) ผมก็คิดในใจว่ามันจะรีบปฏิเสธไปไหนว่ะ บ้านผมกับศูนย์มิตซูพิจิตร มันก็ห่างกัน 2 กิโลเองมั้ง แล้วผู้จัดการศูนย์ แล้วก็ช่าง แม้แต่เจ้าหน้าที่ในนั้น มันก็ผ่านไม้เรียวพ่อแม่ผมมาแล้วทั้งนั้น หุหุ มันจะวิ่งมาดูรถให้อาจารย์มันที่บ้านหน่อยไม่ได้รึไง บ้านก็รู้จักกันอยู่แล้ว .......  ฟังแล้วก็ช็อก ผมเลยเสนอไปว่า งั้นผมจะเอารถไปเข้าศูนย์ที่พิษณุโลก แต่ให้ทาง Call Center เป็นคนประสานงานให้ ผ่านไปซักพักใหญ่ๆ ทาง Call Center ก็โทรกับมาว่าได้ติดต่อนัดหมายไว้เรียบร้อยแล้ว ให้เอารถเอาไปตรวจสอบได้ในวันอังคารที่ 23/4/2556 ผมก็โทรบอกพ่อที่บ้านว่าให้เอารถไปเข้าตรวจตามเวลาดังกล่าว



บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #32 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 02:40:33 am »

อัพเดตต่อนะจ้า

วันอังคารที่ 23/4/2013 พ่อผมก็ตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวขับรถออกจากบ้านที่พิจิตร เพื่อเอารถไปเข้าศูนย์ที่พิดโลกแต่เช้า งานการช่างมัน (น่าสงสารนักเรียนตาดำๆ อาจารย์โดดสอนเอารถไปซ่อม) ที่ต้องออกเช้าเพราะว่าพ่อผมไม่กล้าที่จะขับเร็วนักกลัวมีปัญหากลางทางแล้วเอารถไม่อยู่งานใหญ่มันจะเข้า ระยะทาง พิจิตร - พิดโลก ประมาณ 60-80 km ครับ แต่พอไปถึงศูนย์ ก็ช็อกอีกรอบเพราะที่เรานัดหมายไว้แล้วไปตามกกำหนดนนั้นมีรถที่ไปรอที่ศูนย์แต่เช้าเข้าคิวรอยาวเยียด Huh?Huh?? (เอิ่ม ถ้าเอารถมาเช็คแล้วต้องเข้าคิวยาวแบบนี้ เมิงนะนัดเวลาให้มาเสียเวลาทำงานทำการทำไมว่ะ อันนี้คิดในใจนะครับ) พ่อผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ไหนๆก็มาแล้วคงต้องรอ อ่ะงั้นก็ต้องรอกันต่อไป ต้องเข้าใจรถเค้าทำมาขายแล้วมันมีแต่ปัญหาต้องแก้กันเยอะ คิวเลยยาว หุหุหุ ระหว่างนั้นผมก็ทำงานต่อไป ................... พอบ่ายโมงผมก็โทรไปหาพ่อใหม่ ถามว่าเรื่องรถเป็นไงบ้าง แล้วก็ต้องช็อกไปอีกรอบเมื่อพ่อผมตอบว่า ไม่รุ เพราะยังไม่ได้เช็กเลยรอคิวอยู่ (นัดตรวจเช็คผ่าน Call Center MMTH นะครับ นัดเก้าโมง แต่นี่บ่ายโมงแล้วยังไม่ได้คิว แล้วเมิงจะนัดทำ ห่_ อะไรอันนี้คิดในใจอีกแล้ว หุหุ) พ่อผมก็เลยต้องไปนั้งกินข้าวหน้าศูนย์มิตซูพิดโลก หุหุหุ และผมก็ทำงานต่อปายๆๆๆๆๆๆๆๆๆ........................ จนเลิกงานห้าโมงเย็น ผมก็โทรไปหาพ่อใหม่ แล้วก็ต้องช็อกอีก เพราะพ่อบอกว่ากำลังรอน้องชายขับรถ อีกคันมารับ เพราะว่าต้องทิ้งรถไว้ที่ศูนย์เนื่องจากยังทำการตรวจสอบไม่เสร็จ แต่เท่าที่คุยกับพ่อเรื่องน้ำมันเครื่องที่ซึมออกมาทางช่างที่ศูนย์เค้าพบว่ามันเกิดจากการที่มีแหวนในส่วนประกอบที่เคยถอดตอนเปลี่ยนประเก็นนั้นแหละ แล้วประกอบกับไม่ดีมันเลนเหมือนปีนเกลียวอยู่นิดนึง เวลาบรรทุกผู็โดยสารเต็มที่นั้งอัดขึ้นเขาลาดชันมันเลยเกิดอาการไส้แตกมีน้ำมันเครื่องซึมออกมา ... สรุปช่างมันชุ่ยจริงๆ ขอบคุณนะ สิทธิผลพระรามสาม สมาชิกท่านใดไปใช้บริการก็ระวังๆไว้ด้วยเน้อ... ส่วนในเรื่องของเครื่องยนต์ที่มีเสียงแปลกๆตอนออกตัวจาดจุดหยุดนิ้งไปที่ความเร็ว 2o km/h ที่รอบเครื่อง 15kp นั้นทางช่างยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ (ผมคิดว่าผมคงต้องศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องนี้ด้วยตัวเองอีกแล้วล่ะครับ แล้วก็คงต้องหาวิธีแก้ไขไปบอกช่างของศูนย์ เหมือนคราวที่พบเป็นคนพบเองว่าที่เครื่องร้อนคราวก่อนเป็นเพราะอะไร  แต่ตามความคิด และ ความรู้เรื่องเครื่องยนต์อันน้อยนิด ผมคิดว่าเครื่องมันคงเน่าใน เลอะมาตั้งแต่ที่มันร้อน และ ขับต่อจนดับในครั้งแรกนั้นแหละ วิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือ ยกเครื่องใหม่มาใส่ให้ผมเถอะน่าจะจบนะ เพราะไม่งั้นผมอาจจะทำตามความต้องการของพ่อแม่ก็ได้ที่ต้องการให้ขายๆมันทิ้งไป แล้วไปซื้อ toyota fortuner มาใช้ตามความตั้งใจแต่แรก *** ผมต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหนกว่าที่จะทำให้ทุกคนในบ้านเค้ายอมเปลี่ยนใจมาซื้อ Pajero Sport ได้ มันเหนื่อยมากเลยนะรู้ป่ะ MMTH)
บันทึกการเข้า
KARN2519
Newbie
*

like: 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 188



« ตอบ #33 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 02:42:15 am »

เอาใจช่วยให้รถป๋ากลับมาเป็นปกติโดยเร็วนะครับ เท่าที่อ่านดูลองนึกว่าถ้เป็นเรา....(คงไปไม่เป็นเลย เมียด่าหูเป็นน้ำหนวกแน่ หูแฉะเลยทีเดียว)
บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #34 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 03:10:57 am »

ไหนๆๆๆๆก็บ่นมาเยอะแล้วครับ เลยขอเล่าตำนาน ความร้อนขึ้นของน้องปาของผมซึ่งเพิ่งได้รับถ่ายทอด Version เต็ม มาจากคุณพ่อเมื่อเย็นนี้

หลังจากผมถามข้อมูลโดยละเอียดว่าทำไมรถถึงความร้อนถึงได้ ก็ได้รับคำอธิบายมาดังนี้ครับ
หลังจากที่ผมได้รับรถเมื่อวันที่ 30/1/2555 ที่ศูนย์ สุธร มอเตอร์ ถนนศรีนครินทร์ ผมเป็นคนไปรับด้วยตัวเองเลยตอนนั้นดีใจสุดๆ ได้น้องปามาไว้ในสังกัด ตามความฝัน ผมก็ทำการตรวจเช็คอย่างดีตามคำแนะนำของพี่ๆในบอร์ดถึงวิธีตรวจรับรถใหม่ แล้วก็ใช้รถเรื่อยมาเข้าเช็คที่ศูนย์ตามระยะที่กำหนดไม่ได้ขาด แล้วผมก็ขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวขึ้นเหนือล่องใต้ ขับจากกรุงเทพ ไปรับพ่อแม่ที่พิจิตร แล้วยิงยาวไปรับน้อง เด็ก มช. ที่เชียงใหม่ ไปเที่ยวดอยหม่อนแจ๋ม ที่แม่ริมแบบยิงยาวขับคนเดียว หรือ จะขนกันไปเที่ยวแม่สอด ไปเทียวเขาค้อ ก็ไปมาแล้วไม่มีความผิดปกติ ซึ่งผมก็ไปคุ้ยฟุ้งเลยด้วยความภูมิใจว่ารถเราดีอย่างโน้นอย่างนี้  แต่จนรถวิ่งมาใกล้จะครบ 20k km เป็นจังหวะที่เดินทางไปเที่ยวพิษณุโลก กับครอบครัวพอดี จึงได้ถือโอกาสเอารถเข้าเช็คระยะที่ศูนย์มิตซู พิษณูโลก แถวๆ มหาวิทยาลัยนเรศวร  (ก็แน่ล่ะ ถ้าเข้าไปที่ Toyota หรือ ISUZU เค้าคงไม่ทำให้ หุหุ) เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้นจ่ายค่าเสียหายเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อไปได้ถึงแค่แถวๆ อ.บ้านก่างก็พบว่าในห้องโดยสารเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆ จนผิดปกติ พ่อผมซึ่งเป็นคนขับเค้าก็พยายามมองหาร้านแอร์เพื่อดูว่าเป็นอะไร (พอผมก็ครูแก่ๆ คนนึงนี่แหละแกไม่ค่อยรู้อะไรอ่านะ) จนอยู่ๆๆๆรถมันก็ดับไปเองเฉยๆ พ่อผมเลยพยายามบังคับรถให้หลบออกมาจากเลนขวาสุดมาที่ไหลทางให้ได้ ดีนะที่มันไม่ดับแล้วหยุดอยู่ตรงนั้น ไม่งั้นคงเลอะ กันทั้งรถแน่ะนอน แต่ก็อาจจะเป็นความโชคดีในความโชคร้ายที่รถที่เครื่องดับสนิทไปแล้วมาจอดสงบนิ้งไว้อาลัยให้ตัวเอง อยู่บริเวณร้านซ่อมแอร์รถยนต์พอดี เลยไปตามช่างแอร์มาดู พอช่างแอร์มาดูเท่านั้นแหละ อุบ่ะ แม่เจ้า น้ำหล่อเย็นมันหายไปไหนหมดล่ะครับเนี้ย ร้อนจนดับไปเลยแบบนี้มันก็มีแต่พังๆๆๆๆๆๆๆ ล่ะครับ ขับต่อไม่ได้แล้ว เลยโทรตามรถลากของบริษัทประกันมาลาก คุณรถลากของประกัน tokio marine ก็น่ารักครับมาช่วยเหลืออย่างเร็ว สุภาพพูดจาดีมาก แล้วก็ช่วยยกรถขึ้นบนกระบะบันทุกของรถหกล้อแล้วก็แบกเข้าไปที่ศูนย์มิตซูพิษณุโลก ตอนนั้นล่ะอย่างเท่ Pajero Sport ป้ายแดง เสียโดนลาก บอกได้เลยอย่างหล่อ เฮ้อๆๆๆ เจ้าของอยากจะแทรกแผ่นดินหนี พอไปถึงศูนย์ ทางช่าง กับผู้จัดการก็เข้ามาดูแล้วเค้าก็พูดในสิ่งที่ฟังแล้วซ็อกออกมานั้นคือ ที่น้ำหายเครื่องดับ น่าจะเกิดจากเด็ก (เด็กอีกแล้ว) ปิดฝาหม้อน้ำไม่แน่นล่ะมั้ง Huh?Huh??? เอิ่ม... (ผมคิดในใจ ถ้าลองให้ พ่องเมิง แม่งเมิง อยู่บนรถขับอยู่กลางถนน เลนขวาสุดแล้วอยู่ๆเครื่องดับบ้าง เมิงจะรู้สึกไง พูดออกมาได้นะ) แล้วทางศูนย์ก็รับรถคันงาน ป้ายแดง ย้ำป้ายแดง ไว้ตรวจสอบ โดยทำการอัดอาสเข้าไปในระบบหล่อเย็นแล้วหารูรั่ว แต่ก็ไม่เจอ ทางศูนย์ก็เลยโทรมาบอกพ่อผมว่ารถปกติ (ถ้าปกติ แล้วมันร้อนจนดับ รึ น้ำหายได้ไง Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh??) ให้มารับกลับได้ พ่อผมก็ไปรับกลับ แล้วพอมาใช้งานก็เจอแต่ปัญหาความร้อนขึ้น พอขึ้นก็เอาเข้าเช็คศูนย์ ศูนย์ก็บอกปกติ จนผมมาหาสาเหตุว่าทำไมมันถึงร้อน แล้วช่างมันถึงรู้หลังจากผมนั้นแหละ (เพิ่งรู้ว่า MMTH เลี้ยงหญ้าช่างศูนย์เป็นอาหาร)    


ปล. การที่โพสชมทาง ประกัน tokio marine ไม่ได้เป็นการประชาสัมพันธ์ให้ แต่ผมเห็นว่าใครทำดีเราก็ควรชื่นชม ส่งเสริม และ ให้กำลังใจ เพื่อที่เค้าจะได้ทำสิ่งดีดี ต่อไป ส่วนอีกที่ๆโดนด่าอยู่ก็ไม่ใช่ว่าเรารังเกียจ อาคาดจ้องทำลาย เราเพียงแค่ต้องการให้คุณมีการปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น   ก็ไปลองคิดดูล่ะกันว่าทำไมยอดขายรถถึงสู้เจ้าตลาดไม่ได้ คุณต่างจากเค้าตรงไหน Huh?Huh?Huh?


ขอยืนยันว่าข้อความที่โพสในกระทู้นี้มิใดต้องการทำให้ผู้ใดเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นเพียงการเผยแพร่สิ่งที่ จขกท ได้พบเจอมา และ ต้องการแชร์ใช้เพ่อนที่ใช้รถรุ่นเดียวกันได้รับรู้รับทราบถึงข้อมูลข่าว ตามสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูล ข้อดีข้อเสีย รวมถึงปัญหา ได้โดยไม่มีการปิดบังใดๆๆ

สุดท้ายนี้ขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจด้วยว่าข้อความที่โพสไว้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงแต่อย่างใด
ลงชื่อ นายอภินัทธ์ ดำมินเสก เลขที่บัตรประชาชน 1549900114276

บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #35 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 03:12:16 am »

เอาใจช่วยให้รถป๋ากลับมาเป็นปกติโดยเร็วนะครับ เท่าที่อ่านดูลองนึกว่าถ้เป็นเรา....(คงไปไม่เป็นเลย เมียด่าหูเป็นน้ำหนวกแน่ หูแฉะเลยทีเดียว)

ขอบคุณกำลังใจครับ ถ้ามีความคืบหน้ายังไงจะมารายงานเป็นระยะครับ
บันทึกการเข้า
suPreme
Global Mod
Hero Member
*

like: 46
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2418


ปาไทยแลนด์ 2805


« ตอบ #36 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 06:59:32 am »

อ่านเพลินเลยครับป๋า (ป๋าก็ถ่ายภาพได้สวยไม่น้อนเลยน้า) สรุปว่าสาเหตุหลักมาจาก "ศูนย์มิตซู พิษณูโลก แถวๆ มหาวิทยาลัยนเรศวร" ซึ่งเป็นต้นเหตุของความร้อนที่เกิดขึ้น
ร้อนจนดับเนี่ยะจบยากจริงๆ เข็มวัดอุณหภูมิขึ้นไปจนถึงขีดไหนครับ ถึงได้ดับกลางอากาศ (ถามไว้เป็นข้อมูล) แล้วศูนย์พิษณุโลกเค้ารับผิดชอบอะไรให้ป๋าบ้างไหมครับ

ปล. ขอบคุณที่ตอบผมที่หน้า 2 ครับ ผมเข้าใจอารมณ์ป๋าจริงๆ สู้ๆครับ ขอให้ได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ไวๆครับ
บันทึกการเข้า

"พรีม" คือชื่อลูกสาวผมคร๊าบ แต่ตัวเองชื่อว่า "เก๋"
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #37 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 09:10:05 am »

อ่านเพลินเลยครับป๋า (ป๋าก็ถ่ายภาพได้สวยไม่น้อนเลยน้า) สรุปว่าสาเหตุหลักมาจาก "ศูนย์มิตซู พิษณูโลก แถวๆ มหาวิทยาลัยนเรศวร" ซึ่งเป็นต้นเหตุของความร้อนที่เกิดขึ้น
ร้อนจนดับเนี่ยะจบยากจริงๆ เข็มวัดอุณหภูมิขึ้นไปจนถึงขีดไหนครับ ถึงได้ดับกลางอากาศ (ถามไว้เป็นข้อมูล) แล้วศูนย์พิษณุโลกเค้ารับผิดชอบอะไรให้ป๋าบ้างไหมครับ

ปล. ขอบคุณที่ตอบผมที่หน้า 2 ครับ ผมเข้าใจอารมณ์ป๋าจริงๆ สู้ๆครับ ขอให้ได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ไวๆครับ

แฮะๆๆ เรื่องรูปที่ถ่ายก็ หัดถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกอ่ะครับ ต่อไปก็คงซ่อมรถเป็นงานอดิเรกเพิ่มมาอีกอย่าง แฮะๆๆ ส่วนเรื่องความเข็มความร้อนขึ้นเท่าไหร่ถึงเครื่องดับนั้นเท่าที่สอบถามอาการจากคุณพ่อ คือ เข็มชี้ชนเพดานครับ เลบ ขีดสีแดงที่มีตัว H แล้วค้างเลย แต่เครื่องยังไม่ดับทันที ให้สังเกตุที่เครื่องปรับอากาศมันจะหยุดทำงานไปก่อนครับ พอเครื่องปรับอากาศหยุดไปได้ไม่นาน เครื่องก็ดับตามครับ  แต่ที่ผมเจอมากับตัวเองคือ เมื่อเข็มความร้อนขึ้นจนชนเพดานยังสามารถขับต่อได้อีกประมาณ 10กว่า km ครับ แต่ได้เท่าไหร่ไม่รู้นะเพราะผมเห็นเข็มขึ้นกับตาครั้งแรกมันตอนกำลังขับรถลงเขาที่แม่สอด แต่เนื่องจากเป็นทางลงเขาลาดชันไม่มีที่ให้จอดพักได้ จึงขับลงต่อไปเรื่อยๆ จนถึงแม่สอดครับ (ขืนจอดเลนซ้ายได้โดนสิบล้อที่วิ่งลงเขามาชนยับกันพอดีเนอะ)
บันทึกการเข้า
JAJA-RY
Jr. Member
**

like: 23
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 302



« ตอบ #38 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 10:10:17 am »

อาการที่ว่าก็น้ำดันอีกคันแล้วครับ ส่วนต้นเหตุจะมาจากปิดฝาหม้อน้ำไม่สนิทหรือความผิดผลาดของการประกอบก็คงต้องตามที่ศูนย์ต่อไป แต่ในกรณีแบบนี้มีสมาชิกเราได้เปลี่ยนเครื่องใหม่มาแล้ว ป๋าลองศึกษาและปรึกษาป๋าจากกระทู้นี้ดูครับว่ามีขั้นตอนและวิธีการอย่างไรถึงได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=9679.0 เพราะรถที่เคยน้ำดันมาแล้วหลังจากซ่อมที่มีการปาดฝาความร้อนจะสูงกว่าเดิมครับผมมีประสบการณ์กับเรื่องนี้สองรอบกับคันเก่าซ่อมที่ศูนย์ได้ไม่ถึง 3 เดือนก็ดันอีกต้องเข้าอู่รถซิ่งอุดตาน้ำระหว่างสูบจุดที่เป็นจุดอ่อนของ 4D56 ถึงใช้ได้ยันขายรถ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมคงต้องเอาเยี่ยงอย่างมั้งแล้ว
ลองตามเรื่องดูครับจริงๆอยากให้เปลี่ยนเครื่องไปเลยเพราะถึงขนาดร้อนแล้วดับนี้หนักเหมือนกันครับ ถ้ารถป๋าตอนเกิดเหตุเดิมสนิทไม่มีการใส่กล่องแต่งกล่องซิ่งอะไร ลองปรึกษาขั้นตอนวิธีการขอเคลมเปลี่ยนเครื่องจากป๋า เจ้าของกระทู้ใน link ดูนะครับ ส่วนอาการที่บอกว่าหลังจากซ่อมมามีเสียงแปลกๆก็เกิดจากหลายสาเหตุถ้าให้คิดในเรื่องที่เบาสุดก็แค่เสียงวาล์วดังปรับตั้งใหม่ก็หายครับ แต่ถ้าอาการหนักก็พวกแหวนหักลูกสูบแตก ป๋าลองชักก้านวัดน้ำมันเครื่องออกตอนติดเครื่องอยู่ดูครับถ้ามีน้ำมันพุ่งออกมาแสดงว่ามีปัญหาเครื่องหลวม แหวนหัก หรือลูกสูบแตกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าถึงขั้นนี้อย่าได้ยอมครับเปลี่ยนเครื่องสถานเดียว เอาใจช่วยครับสู้ให้ถึงที่สุด ถ้าไม่ไหวก็ขายไปเลยครับ ของผมเคยเจออาการความร้อนสูงเปลี่ยนปะเก็นไปสองรอบ แต่รถผม triton คันเก่าไปทำให้มันแรงมาเลยเคลมไม่ได้ครับต้องซ่อมเองจากนั้นก็ขายแล้วมาซื้อปานี่หละครับ เครื่องตัวนี้มีจุดอ่อนตรงนี้ครับเค้าถึงไม่ค่อยเอาไปแต่งซิ่งได้เท่าไร การเข้าศูนย์ตอนรับรถเราควรตรวจสอบเรื่องฝาปิดต่างๆด้วยครับเพราะมาตรฐานศูนย์บริการก็รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นไง เวลาผมเข้าศูนย์ผมจะไปยืนเฝ้าตลอดครับว่าเค้าทำอะไรไปบ้าง เอาใจช่วยนะครับขอให้หายไวๆ เปลี่ยนเครื่องใหม่ไปเลยยิ่งดี 
บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #39 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 10:38:48 am »

อาการที่ว่าก็น้ำดันอีกคันแล้วครับ ส่วนต้นเหตุจะมาจากปิดฝาหม้อน้ำไม่สนิทหรือความผิดผลาดของการประกอบก็คงต้องตามที่ศูนย์ต่อไป แต่ในกรณีแบบนี้มีสมาชิกเราได้เปลี่ยนเครื่องใหม่มาแล้ว ป๋าลองศึกษาและปรึกษาป๋าจากกระทู้นี้ดูครับว่ามีขั้นตอนและวิธีการอย่างไรถึงได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=9679.0 เพราะรถที่เคยน้ำดันมาแล้วหลังจากซ่อมที่มีการปาดฝาความร้อนจะสูงกว่าเดิมครับผมมีประสบการณ์กับเรื่องนี้สองรอบกับคันเก่าซ่อมที่ศูนย์ได้ไม่ถึง 3 เดือนก็ดันอีกต้องเข้าอู่รถซิ่งอุดตาน้ำระหว่างสูบจุดที่เป็นจุดอ่อนของ 4D56 ถึงใช้ได้ยันขายรถ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมคงต้องเอาเยี่ยงอย่างมั้งแล้ว
ลองตามเรื่องดูครับจริงๆอยากให้เปลี่ยนเครื่องไปเลยเพราะถึงขนาดร้อนแล้วดับนี้หนักเหมือนกันครับ ถ้ารถป๋าตอนเกิดเหตุเดิมสนิทไม่มีการใส่กล่องแต่งกล่องซิ่งอะไร ลองปรึกษาขั้นตอนวิธีการขอเคลมเปลี่ยนเครื่องจากป๋า เจ้าของกระทู้ใน link ดูนะครับ ส่วนอาการที่บอกว่าหลังจากซ่อมมามีเสียงแปลกๆก็เกิดจากหลายสาเหตุถ้าให้คิดในเรื่องที่เบาสุดก็แค่เสียงวาล์วดังปรับตั้งใหม่ก็หายครับ แต่ถ้าอาการหนักก็พวกแหวนหักลูกสูบแตก ป๋าลองชักก้านวัดน้ำมันเครื่องออกตอนติดเครื่องอยู่ดูครับถ้ามีน้ำมันพุ่งออกมาแสดงว่ามีปัญหาเครื่องหลวม แหวนหัก หรือลูกสูบแตกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าถึงขั้นนี้อย่าได้ยอมครับเปลี่ยนเครื่องสถานเดียว เอาใจช่วยครับสู้ให้ถึงที่สุด ถ้าไม่ไหวก็ขายไปเลยครับ ของผมเคยเจออาการความร้อนสูงเปลี่ยนปะเก็นไปสองรอบ แต่รถผม triton คันเก่าไปทำให้มันแรงมาเลยเคลมไม่ได้ครับต้องซ่อมเองจากนั้นก็ขายแล้วมาซื้อปานี่หละครับ เครื่องตัวนี้มีจุดอ่อนตรงนี้ครับเค้าถึงไม่ค่อยเอาไปแต่งซิ่งได้เท่าไร การเข้าศูนย์ตอนรับรถเราควรตรวจสอบเรื่องฝาปิดต่างๆด้วยครับเพราะมาตรฐานศูนย์บริการก็รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นไง เวลาผมเข้าศูนย์ผมจะไปยืนเฝ้าตลอดครับว่าเค้าทำอะไรไปบ้าง เอาใจช่วยนะครับขอให้หายไวๆ เปลี่ยนเครื่องใหม่ไปเลยยิ่งดี 


ขอบคุณมากครับ ป๋า สำหรับคำแนะนำ ตอนนี้คุณพ่อผมได้รับการติดต่อจาก ศูนย์ Mitsu พิษณุโลก ว่าให้ไปรับรถได้แล้ว รถทำการแก้ไขปัญหา หมดแล้ว แต่ผมไม่เชื่อหลอกครับ ผมได้โทรไปบอกให้พ่อทำตามคำแนะนำของ ป๋า ตอนไปรับรถแล้วนะครับ ถ้าเสียงเครื่องยังดังไม่หาย รึ ติดเครื่องไว้แล้วดึงสายวัดระดับน้ำมันเครื่องแล้วมีน้ำมันเครื่องฟุ่งออกมา คงจะยาว เดียวช่วงบ่ายจะไปรับรถครับ ยังไงถ้าได้ความคืบหน้าแล้วจะมาอัพเดตความคืบหน้าให้ทราบกันอีกครั้งนะครับ
บันทึกการเข้า
thara
Sr. Member
****

like: 20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1750



« ตอบ #40 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 10:54:05 am »

ขออนุญาติ

มาติดตามดูคับ
ผมล่ะกังวลกับมาตรฐานการผลิต
ของมิตซูสะแล้ว  ทนไม่ได้
บันทึกการเข้า

เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์
E23FGG Stand by 144.xxx
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #41 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 03:30:33 pm »

มาอัพเดตครับ

ในวันนี้ผมได้รับการติดต่อให้ไปรับรถ ที่เอาไปเช็คปัญหาน้ำมันเครื่องรั่วซึมที่ เครื่องยนต์ครับ เลยให้คุณพ่อเป็นคนไปรับ และ ให้ช่วยทำการตรวจสอบ ตามที่ ป๋าๆ ได้แนะนำมา ได้ผลดังนี้ครับ
1.ทางช่างได้ทำการย้ำน๊อตทุกตัวให้ใหม่พร้อม ตรวจสอบรอยกระกบตามซีน และ ขอบประเก็นต่าง และ เอาไปขับทดสอบพบว่าไม่มีการรั่วซึมแล้ว หัวหน้าช่างแอบบ่นว่าต้องมาตามเก็บงานคนอื่นเบื่อจัง หุหุ (แต่ยังไม่แน่ เพราะตอนที่มันซึมตอนนั้น นั้งมา 5 คน + สัมภาระ)เหยียบขึ้นเขา น้ำหนาว-หล่มสัก แบบ เข็มรอบเครื่องแตะ red line)

2.คำแนะนำที่ pa JAJA-RY ให้ทำการติดเครื่องแล้วลองดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก แล้วดูว่ามี ละออง น้ำมัน หรือ ควัน อะไรออกมามั้ย  สรุปว่าไม่มีนะครับ (โล่ง เครื่องมันยังไมหลวม)

3.เรื่องที่เครื่องยนต์มีเสียงตอนออกตัวที่ Gear 1 รอบ 1500 rpm ความเร็วที่ 20 kmph ที่มีเสียงดังแปลกกว่าชาวบ้านชาวช่อง เหมือนรถเครื่องเข็ก นั้นทางช่างได้ทำการ Render เครื่อง (เขียนอย่างนี้เปล่าหว่า) ให้ใหม่ทั้งหมด เท่าที่คุณพ่อฟังมา เสียงดังกล่าวได้หายไปแล้ว

4.ผมได้ส่ง E-Mail ข้อเรียกร้องให้ทาง MMTH ทำการสอบสวนหาสาเหตุที่รถของผมมีปัญหาหลังจากที่เข้าทำการเช็คระยะที่ศูนย์บริการ ว่าเกิดจากความผิดพลาดของศูนย์ หรือ เป็นความผิดพลาดจากโรงงานผลิต โดยให้ทำหนังแจ้งเป็นทางการ (ถ้าสามารถสรุปได้แล้วจะมาอัพเดตอีกทีครับ)

หวังว่ามันจะหายเป็นปกติ ซะทีนะ ป่วยมานานแล้ว

ขอขอบคุณเพื่่อน พี่ๆ ทุกท่านที่ให้คำเสนอแนะ ที่ดี และ คอยแนะนำมาตลอดครับ
ขอขอบคุณ Call Center MMTH ที่ตามเรื่องให้ และ ไม่รำคาญคนขี้บ่นอย่างผมซะก่อน
ขอขอบคุณทุกๆฝ่ายที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาในครั้งนี้
ขอบคุณบ้านหลังนี้ที่ให้ความอบอุ่นเสมอมา   ซึ้งๆๆๆๆ Cry
บันทึกการเข้า
Mr. KUA
Flying Life..
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84


Ratchaburi


« ตอบ #42 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 03:47:39 pm »

   ส่วนตัว...ผมขอเป็นกำลังใจกับ ท่านเจ้าของรถ PJS  ทุกท่าน ทุกรุ่นครับ...เพราะผมก็เป็นสมาชิกเช่นกัน


ขอให้ จขกท. ผ่านพ้นวันอันโหดร้ายไปได้ด้วยดีในที่สุดครับ...ทำบุญเยอะ ๆ บ่อย ๆ หน่อยนะครับ...ป๋า  สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า

PJS . No. 3212
บังซุบรถยก
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 124



« ตอบ #43 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 07:07:14 pm »

 
บันทึกการเข้า

บังซุบ ลาดบัวขาว  2.5 4WD 2012  โซนตะวันออก สุขาภิบาล 3 - มิสทีน NO 2483 lala
AekOverfill
Newbie
*

like: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 203



เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 09:14:29 pm »

ดีใจด้วยป๋าหายละ ผมสงสัยข้อ3อะ
3.เรื่องที่เครื่องยนต์มีเสียงตอนออกตัวที่ Gear 1 รอบ 1500 rpm ความเร็วที่ 20 kmph ที่มีเสียงดังแปลกกว่าชาวบ้านชาวช่อง เหมือนรถเครื่องเข็ก
  นั้นทางช่างได้ทำการ Render เครื่อง (เขียนอย่างนี้เปล่าหว่า) ให้ใหม่ทั้งหมด เท่าที่คุณพ่อฟังมา เสียงดังกล่าวได้หายไปแล้ว
  Render เครื่อง คือทำอย่างไรกับเครื่องอะป๋า จะได้ไปบอกทาง 0 ให้จัดให้บ้าง ของผมก็เป็นอะป๋า ตอนรอบ1500 แต่ไม่ใช่ Gear 1 ฮือๆๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 11 12   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.056 วินาที กับ 20 คำสั่ง