Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

Pajerosport Room => ดูแลและบำรุงรักษา/เทคนิค/ปัญหา/การแก้ไขน้องปา => ข้อความที่เริ่มโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 22, 2013, 04:27:46 pm



Languages

หัวข้อ: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 22, 2013, 04:27:46 pm
จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเราทำตัวเป็นรถขี้โรค ซะแล้ว (สาระพัดจะป่วย เหนื่อยที่จะรักษา)

          สวัสดีครับ พ่อ-แม่-พี่น้อง-และมิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน ผมต้องออกตัวเสียหน่อยครับว่า ก่อนหน้าที่ mitsubisshi จะออกรถรุ่น Pajero Sport  นี้ออกมาขาย ไม่มีรถรุ่นใดๆในค่ายนี้เลยที่อยู่ในความคิดที่ผมจะซื้อมาขับ เนื่องจากด้วยชื่อเสียๆ ต่่างๆ นาๆที่ชาวพิจิตรต่างสวดส่งให้ กับศูนย์บริการที่นั้น ทำให้ในอดีตจนเป็นต้นมาครอบครัวผมจะใช้รถหลายๆคัน อยู่เพียง 2 ค่าย เจ้าตลาดเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่างในพื้นที่ ส่งเสริมให้เป็นแบบนั้น จนในปี 2005-06 มั้งจำไม่ได้ สมัยที่ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยบ้านนอกอยู่เลย ที่ผมได้พบเห็นข่าว แว่วๆมาว่าทาง MMTH มีโครงการที่จะพัฒนา และ จะทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ นามว่า Pajero Sport เมื่อเห็นรูปลัก ผมก็หลงรักมันเลย จนมีความคิดว่าต้องหามาเป็น รถคู่กลายให้จงได้ จนเวลาผ่านไปในปี 07 เมื่อทางบ้านมีโครงการจะหารถคันใหม่มาใช้งาน ผมจึงทำการทรยศ ค่ายเจ้าตลาดที่ใช้งานอยู่มาเชียรให้ พ่อแม่ตัดสินใจซื้อ น้องปา มาใช้งานแทนโดยเอาข้อมูลคุณสมบัติต่างๆ นาๆ มากรอกหูพ่อแม่ผมอยู่ทุกวันๆ แต่สุดท้ายก็พบกับความพ่ายแพ้ พ่อไปออก New D-Max 3.0 dbi hilander ในสมัยนั้นมาใช้แทน ผมจึงพบกับความพ่ายแพ้ไปต้องทนใช้ isuzu TFR มักทอง 90 HP แก่ๆของพ่อต่อไป จนในปี 09 ผมสอบติด KMITL หลักสูตรต่อเนื่อง ต้องมาเรียนในกรุงเทพ ทางบ้านจึงได้ให้ของขวัญเป็น vios 03 สีทองแก่ๆ ของแม่มาใช้งานอีกคันซึ่งก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหาใดๆมาจนถึงปี 2011 ที่ผมสามารถเรียนจบมีงานมีการทำ จนเก็บเงินได้ก้อนนึง จึงมีความคิดว่า สมควรจะซื้อรถในฝันที่เฝ้าฝันจะหามาไว้ในครอบครองตั้งแต่วัยเด็กนั้น คือ Pajero Sport คันงาม แต่เนื่องจากในปี 2011 มีมหกรรมความบันเทิง เล่นน้ำกันทั่วบ้านทั่วเมือง ผมจึงตัดสินใจซื้อ Pajero ในงาน Motor Expor ปีนั้นเอง เพราะจะเอา vios ลุยน้ำคงไม่ไหวแน่ๆ และ ในที่สุดฝันอันยาวนานก็เป็นจริง ในงวันที่ 30 ม.ค. 2012 เมื่อทาง sale ของ su-torn motor ศรีนคริน โทรมาให้ไปรับรถได้ ...... แต่แล้ว ความโชคร้ายก็มาเยือน เมื่อใช้งานไปแล้วรถในฝันของเรา ดันกลายเป็นฝันร้าย ดังนี้

1.เนื่องจากใช้งานรถอยู่ในกรุงเทพเป็นส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยได้วิ่งระยะทางไกลๆมากนัก แต่ เมื่อราวๆ เดือน สิงหาคม 2012 มีโอกาสขับรถกลับบ้านที่จังหวัดพิจิตร รับพ่อ แม่ และ น้องไปเที่ยว พิษณุโลกกัน และ ถือ โอกาส แวะ เช็คระยะ 20,000 กิโลที่ ศูนย์พิษณุโลก (นเรศวร)   (ศูนย์พิจิตรเหรอ ไปไกลๆเลย เพราะตอนไปเช็คหมื่นโล ทางศูนย์เอาสมุดคือมือไปทำไรซักอย่างแล้วไม่ได้เอามาคืน พ่อก็ขับรถกลับบ้าน แต่พอนึกได้ว่าไม่ได้รับสมุดคู่มือคืนก็กลับไปสอบถาม แต่ศูนย์บอกว่าไม่ได้เก็บเอาไว้ และ ไม่รับผิดชอบ ไม่คิดจะช่วยหาด้วยซ้ำ ครอบครัวผมจึงเข้าใจว่าทำไมคนพิจิตรถึงได้สาบส่งศูนย์นี้นึก จึงทำการกาหัวตัวแดงๆไว้ว่าจะไม่เฉียบไปเข้าอีกเลย) เอามาๆๆต่อๆ.. เมื่อทำการเช็คระยะเสร็จก็ขับรถไปเที่ยวบ้านญาติต่อ ก่ะว่าจะรับลุง ป้า แล้วก็พี่สาวไปเที่ยว ก่ะว่า จะอวดรถใหม่เต็มที่เลย แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นครับ ในห้องโดยสาร นั้น ค่อยๆร้อนขึ้นๆ เรื่อยๆจนผิดสังเกตุ ผมจึงได้ชลอรถเพิ่มหาที่จอดดูว่าเกิดอะไรขึ้น และ เอารถเข้าศูนย์ แต่ว่าอยู่ๆ เครื่องยนต์รถก็ดับลงกลางทางเสียก่อนจึงค่อยๆ นำรถเข้าจอดข้างทาง (เครื่องดับกลางทางครั้งที่ 1 เกือบโดนสิบล้อที่วิ่งตามมาชนเละ) พอดีไปจอดหน้าร้านซ่อมแอร์พอดี เลยให้ช่างมาช่วงดู เมื่อช่างแอร์มาช่วยดูก็พบว่า บ่ะเจ้า ในระบบหล่อเย็นไม่มีน้ำหล่อเย็นเหลือเลยแม้แต่น้อย ..... (้ป็นไปได้ไงว่ะ) ด้วยความมึนงง จึงได้ติดต่อให้บริษัทประกันมาช่วยลากรถ ทางประกันก็ลงรถ 6 ล้อมาช่วยลากให้อย่างรวดเร็ว และ ไม่คิดค่าใช้จ่าย (ขอบคุณทาง tokio marine  มากครับที่ช่วยเหลือ) สรุปวันนั้นรถต้องไปนอนที่ศูนย์ มิตซู แถวๆ สี่แยก อินโดจีน อยู่ 2-3 วัน รถน่ะเป็นไงไม่รู้แต่ที่แน่ๆนะ เจ้าของน่ะ โคตรจะอายเลย รถใหม่ยังเป็นป้ายแดงอยู่เลย ที่สำคัญมันดันเสียต่อหน้าคนที่เรากำลังคุยอวดเค้าอยู่ด้วยว่ารถเราดีอย่างโน้นอย่างนี้ อายจนแทบแซกแผ่นดินหนีเลย สุดท้ายวันนั้น ลุงผมก็ขับ frod ranger แก่ๆ รุ่นเดียว กับ TFR พ่อผมมาส่งบ้านที่พิจิตร  :-\

2.เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้ผมหน้าแหกต่อหน้าเพื่อนฝูงอีกครานึงสืบเนื่องมาจากเหตุการคราวที่แล้วที่รถมีปัญหา คุณพ่อเป็นคนไปรับรถที่ศูนย์โดยทางศูนย์บอกว่าทำการตรวจสอบแ้ล้ว โดยการดูดอากาศออกจากระบบหล่อเย็น ไม่พบความผิดปกติ (เอิ่มครั้งที่ 1 ไม่ผิดปกติแล้วน้ำหล่อเย็นหายไปไหนหมด รึ ช่างถ่ายน้ำออก แล้ว ลืมเติม รึ เติมน้ำแล้วฝาหม้อน้ำมันปีนเกลียว รึน้ำมันซึมออกมาตลอด แต่ช่างที่เช็คระยะมันไม่ได้ดูเลย แล้วจะเอารถไปเซ็ค ศูนย์ทำแมวอะไร ????????????) อ่ะรายยาวเป็นคุณ JIMMY แห่ง www.headlightmag.com เลย หุหุ มาเข้าเรื่องต่อ เมื่อทางศูนย์ยืนยันว่ารถปกติ ในวันที่ 5 ธ.ค. 2012 ซึ่งเป็นวันหยุดยาวๆๆๆๆ ผมกับเพื่อนๆ รวม 7 คน และ สัมภาระ เต็มพิกัด สำหรับไปตั้งแคมป์ ยาวๆ 3 วัน 2 คืน ที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โดยออกเดินทางจาก จ.พิจิตร อันเป็นที่พำนักพักอาศัย มุงหน้าสู่แดนไกล สู่งพงไพร่ป่าตะวันตก อันสวยงามของไทย เมื่อออกเดินทางจากพิจิตร มาถึงจังหวัดตากก็ไม่มีปัญหาอะไร และ ผมก็จ้องอยู่แล้วล่ะครับว่าความร้อนมันจะขึ้นอีกรึเปล่า จนเริ่มมุ่งหน้าไปยัง อ.แม่สอด ที่ถนนเป็นเส้นทางขึ้นเขาสูงชัน จึงต้องใช้งานเครื่องยนต์อย่างหนักตลอดระยะทางกว่า 80 km จนเมื่อเหลือระยะทาง ไม่ถึง 10 km สุดท้าย ซึ่งเป็นทางลงเขาลาดชัน ไม่มีที่หยุดพัก หรือ เอารถหลบเข้าข้างทางได้ เจ้าเข็มความร้อนเจ้่กำมันก็ชี้เกินครึ่งนึงซึ่งเป็นจุดความร้อนปกติ และ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนั้นไม่มีทางเลือกใดๆเลยนอกจากประครองรถลงทางเขาลาดชัน มายังพื้นราบให้ได้เสียก่อน แต่ยิ่งขับรถลงเขามาไกลเท่าใด ความร้อนก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น จนท้ายที่สุดลงมาถึงที่ราบบริเวณ วงเวียนก่อนเขา อ.แม่สอด สายตาก็เหลือบไปเห็นบางสิ่ งโอ๊ะแม่เจ้า ที่แม่สอดมีศูนย์มิตซูด้วย รอดแล้ว กรู เลยตัดสินใจ โดยไม่ลังเล เอารถเสียบหัวเข้าไปในทันที แต่อนิจจา วันนั้น ศูนย์เค้ายังสร้างไม่เสร็จยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีแต่ฝ่ายขายอยู่เท่านั้น ความหวังอันเลือนลาง พลันจะดับวูบลง (นึกในใจเอาไงดีหว่า เสียหน้า+อายเพื่อน น่ะไม่เท่าไหร่ แต่จะเอารถลงไปซ่อมยังไง นี่ล่ะสิ  กลุ้ม) แต่ในแสงสว่างอันน้อยนิด ก็ยังไม่ความหวัง เสมอเปรียบเสมือนเดินเข้าอุโมงค์ ที่ถึงแม้ว่ามันจะมืดมิด หนาวเหน็บ แต่ซักวันมันก็จะถึงทางออก เพราะว่ามีช่างจากศูนย์มิตซูตาก เค้ากลับมาบ้่านที่แม่สอด และ แวะ เข้ามาดูศูนย์ใหม่ในเครื่อที่จะเปิดพอดี จึงให้ช่างเค้าดูให้ ทางช่างก็ดูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดูโน้นดูนี่ ดูที่เครื่อง ดูที่คอนโซล ดูไปดูมา ช่างก็ไปเปิดฝาหม้อน้ำซะงั้น รถมันเพิ่ง overheat มานะครับ เฮ้ย ค้นพบน้ำพุร้อนแห่งใหม่ที่แม่สอดว่ะ ย๊ากๆๆๆๆ วงแตก ล่ะครับพี่น้อง พอสถานการณ์กลับเข้าสู่ความเรียบร้อย ทางช่างคนเดิม (ไม่รู้ว่าเมื่อกี้เค้าไปหลบตรงไหนไว จริงๆ) ก็มำการถอดๆๆๆๆๆ ปั้มน้ำ ถอด ท่อ ต่างๆๆ ที่ฟังเค้าอธิบายแล้วก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามีไว้ทำไม ฮ่าๆๆๆ สุดท้าย ท้ายที่สุด ฏ้มาสรุปอยู่ที่ วาวล์น้ำครับพี่น้อง ไว้วาวล์ตัวนี้ทำหน้าที่เกิด ปิด น้ำ ให้ไหลเข้าไปที่เครื่องยนต์ เห็นช่างบอกว่ามันเปิดให้น้ำเข้าเครื่องได้ไม่เต็มที่ (จริงเปล่าหว่า???) แต่ถึงจะหาจุดเจอ แต่ไม่มีอะไหล์อยู่ใกล้ๆเลย เฮ้อๆๆ ไม่มีทางเลือกช่างเลย ถอดมันออก แล้วต่อท่อทุกอย่างกับเข้าที่ โดย bypass วาวล์น้ำไว้ก่อน โดยช่างบอกว่าไอ้วาวล์นี้ไม่มีก็ไม่เป็นไร (เอิ่ม ครั้งที่ 2 มันจะแก้ได้จริงเหรอ ถ้าไม่จำเป็นต้องมีแล้วคนออกแบบเค้าจะใส่มันมาไว้ ทำมะเขื่อยาว อะไร หว่า ??? ) แล้วช่างก็เติมน้ำ ฟังไม่ผิดครับ เติมน้ำ น้ำประปานี่แหละ ลงไปในหม้อน้ำประมา สี่ขวดโค๊กขนาดกลาง แล้วก็สตาร์เครื่องยนต์ ติดเครื่องทิ้งไว้ความร้อนก็ไม่ขึ้น สมาชิกผู้ร่วมทางก็พากันดีใจ ไปต่อได้ หุหุหุ เลยเริ่มออกเดินทางไปกันต่อ เสียเวลาไปกว่า 4 ชั่วโมงตรงนี้

2.1 ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคิดว่าเรื่องมันคงจบไปแล้ว...หึหึหึ คุณคิดผิดครับ พอผมออกเดินทางจาก อ.แม่สอด มุ่งหน้าไปตามเส้นทางหมายเลข 105 อันสวยงาม ผ่าน อ.แม่ระมาด อ.ท่าสองยาง ผ่านค่ายอพยพ ขนาดใหญ่ของ คนพม่า ที่น่าสงสาร แต่.................. ในระหว่างที่ทุกคนกำลังชื่นชมความงามของธรรมชาติอยู่นั้น เหตุการณ์ผิดปกติก็เริ่มเกิดขึ้น นั้นคือ แอร์มันเริ่มไม่เย็นล่ะครับ พอก้มลงมาดูที่หน้าปัด โอ้ว...................... ความร้อนขึ้นอีกแล้วคราบ (ไหนช่างมันบอกว่า แก้ปัญหาได้แล้วไงล่ะ หลอกกันนี่หว่า) และที่สำคัญในขณะนั้น ผมกำลังขับรถเลาะไปตามลำน้ำเมยครับ เป็นถนน 2 เลนเล็กๆ ที่แทบจะใช้เป็นเส้นพรมแดนประเทศกันเลยทีเดียว มองไปทางหว่า ก็เป็นป่า และ ภูเขา มองไปทางซ้าย ข้างถนนก็เป็นแม่น้ำเมย เลยไปไม่เกิน 20 เมตรก็ประเทศพม่า ชุมชนที่ผ่านมาก็ห่างไปกว่า 50 km ใน GPS ก็บอกว่าชุมชนที่ใกล้ที่สุดก็ห่างไปกว่า 30 km เอาไงดีหว่าฟ้าก็เริ่มมืด จนไฟหน้าก็ติดขึ้นมาเองแล้ว คืนนี้มีหวังได้กินข้าวลิงแน่ๆๆๆๆ ไม่งั้นก็คงไปตั้งแคมป์กันตรงนี้แน่ๆ ไหนๆก็ขนอุปกรณ์ดำรงค์ชีพในป่ากันมาให้หนักรถแล้ว วิญญาณลูกเสือ วิทยาลัยเทคนิคพิจิตรเก่าเริ่มเข้าสิง เอาก็เอาว่ะ 555+ แต่ผมก็ยังพยายามขับรถต่อมาอีกหน่อย จนพบสิ่งช่วยชีวิตนั้นคือ สำนักงาน ศูนย์อนุรักษ์ต้นน้ำเมยที่ 2 ซึ่งในนั้นมีคนเฝ้าอยู่ 1 คน แต่กำ อีกก็คือ เราพูดภาษาไทยไปเค้าก็ไม่เข้าใจ เค้าพูดมาเราก็ฟังเค้าไม่รู้เรื่อง .... (เอิ่ม พม่านี่หว่า หุหุ) แต่พอเค้าเห็นอาการรถเราเท่านั้นเค้าก็เดินไปห้องน้ำหลังสำนักงานตักเอาน้ำมาถังนึง รอจนเครื่องเริ่มเย็น ประมาณ 30 นาที เค้าก็เปิดฝาหม้อน้ำแล้วเติมน้ำลงไปในหม้อน้ำ (ฉลาดกว่าช่างมิตซูอีกแนะ ที่รอให้เครื่องเย็นก่อน ฮ่าๆๆ) เชื่อมั้ยครับ ว่าเค้าเติมลงไปจนเือบหมดถึงไม่ต่ำกว่า 2-3 L แน่นอน ...(น้ำที่เพิ่งเติมมามันหายไปไหนหว่า) เลยออกเดินทางต่อไปที่อุทยาน (ขอบคุณชาวต่างชาติที่ช่วยเหลือนะครับ อิอิ)

2.2 พอผมขับรถออกมาได้ ประมาณ 50 Km ความร้อนเจ้ากำ มันก็เริ่มขึ้นอีกล่ะ แต่คราวนี้ต้องกัดฟันขับรถไปต่อล่ะ ไม่งั้นได้กินข้าวลิงสมใจแน่ๆ เพราะฟ้าก็มืดแล้ว ย้ำนะครับว่ามืดแล้ว บริเวณนั้นเป็นป่าช่ายแดน เวลามืด มันมืด สนิท จริงๆนะครับ มืดแบบมองลายมือตัวเองไม่เห็นเลย พอขับมาได้อีกซักพัก ความหวังก็เริ่มกลับมาเพราะหน้าทางเขาที่ทำการอุทยาน เป็นชุมชนเล็กๆครับ เล็กขนาดที่คนทำแผนที่ใน GPS ของ Speed Navi ไม่เอาใส่ไว้ในแผนที่ซะด้วย ซ้ำ พวกเราเลยจอดพักรถกัน พอดับเครื่องเพื่อนผมมันก็ ซนครับเปิดฝากระโปรงรถได้มันก็เอามือ ไปจับหม้อน้ำ ตรงช่องด้านหลังพัดลมไฟฟ้า ไอ้เราก็เตือนมันแล้วว่่า อย่าไปจับนะมันร้อน เพราะรถยังร้อนเลย แต่เพื่อนผมมันกลับบอกว่าหม้อน้ำเย็นๆๆๆมาก ผมก็คิดว่ามันอำเปล่าหว่า รถความร้อนขึ้นขนาดนี้หม้อน้ำจะเย็นได้ไง .... เลยเอามือไปจับบ้างมันก็เย็นจริงๆ ครับ เลยสงสัย  หรือ ว่าหม้อน้ำจะรั่ว..... เลยพยายามเติ่มน้ำแล้วช่วยกันดูว่ามาน้ำหยดลงพื้นบ้างรึเปล่า แต่มันก็ไม่มี เลยเดินไปกินข้าวแบบจอดรถทิ้งไว้ข้างทางประชดชีวิต ซะงั้น พอกินข้าวเสร็จก็กลับมาหาทางปลุกปั้นเพื่อให้รถสุดที่รักเดินทางต่อได้ พอดีมีนักท่องเที่ยวท่านนึงที่มาเที่ยวที่เดียวกัน เดินมาถามว่ารถเป็นอะไรครับ เลยอธิบายไปแบบยาวๆๆๆ เหมือนกับที่พิมพ์มาทั้งหมดนี่แหละ พี่เค้าเลยเติมน้ำลงไปในหม้อน้ำให้เต็ม แล้ว สตาร์เครื่อง พอน้ำในหม้อน้ำเริ่มถูกดูด ก็เติมเรื่อยๆ จนน้ำไม่ยุบแล้ว จึงเริ่มสังเกตุว่า มันมีฟองเป็นผอยๆ ผุดขึ้นมาที่ปากหม้อน้ำ  พี่เค้าบอกว่าอาการเหมือนฝาสูบโกงเลย  หืมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงดิ แต่ฟองมันไม่ใหญ่มากอาจจะเป็นที่ประเก็นก็ได้ หลังจากนั้นผมก็สามารถขับรถขึ้นอุทยานไปเที่ยวได้สมใจ แต่ไปถึงช้ากว่ากำหนด 8 ชั่วโมงเนื่องจากเสียเวลา กลับการที่รถมีปัญหา ที่นี้เวลาขับรถกลับคณะของเราก็จะจอดรถชมธรรมชาติกันทุกๆ 100-150 Km เมื่อไหร่ที่น้ำเริ่มยุบเราก็เติมๆๆๆๆ จนกลับถึงพิจิตรจนได้ หุหุหุ

ข้อ 3-4 ไปต่อด้านล่างนะครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเราทำตัวเป็นรถขี้โรค ซะแล้ว (สาระพัดจะป่วย เหนื่อยที
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 22, 2013, 04:29:05 pm
ใครเคยเป็นแบบผมบ้างแนะนำผมหน่อยตอนนี้เครียดเรื่องรถมากๆๆๆๆจนอยากจะยาวๆๆๆทิ้งไปแล้ว cry1 :P :-\ :( :'( ext


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเราทำตัวเป็นรถขี้โรค ซะแล้ว (สาระพัดจะป่วย เหนื่อยที
เริ่มหัวข้อโดย: TONGSOOK ที่ เมษายน 22, 2013, 04:53:29 pm
 มหากาพย์ ปาเจโร  เห็นใจมากครับ  ถามท่านผู้รู้ครับ คำว่า "ประเก็นแล็ป" ประเก็นมันเป็นอะไรครับถ้า มีภาพประกอบจะขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเราทำตัวเป็นรถขี้โรค ซะแล้ว (สาระพัดจะป่วย เหนื่อยที
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ เมษายน 22, 2013, 04:57:03 pm
ขออนุญาติ

ขอตามอ่าน อีกสัก 10 ตอนจบนะคับ
อ่านกำลังสนุก ปนเครียดเลยจริงๆ
เรื่องน้ำดัน ของเจ้าเครื่อง 4D56
เคยได้ยินกิติศัพท์ อันเลื่องชื่อมาเหมือนกัน
เห็นว่าจบด้วย วาล์วน้ำของ Cefiro มั้งคับ
รถยังอยู๋ในประกันใช่ไหม ก็น่าจะสบายใจไปอย่างนึง
 faint


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเราทำตัวเป็นรถขี้โรค ซะแล้ว (สาระพัดจะป่วย เหนื่อยที
เริ่มหัวข้อโดย: ชายอิสระ ที่ เมษายน 22, 2013, 06:02:28 pm

อ่านไม่จบครับ มึนก่อน เดี๋ยวกลับมาอ่านอีกรอบ ^-^


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเราทำตัวเป็นรถขี้โรค ซะแล้ว (สาระพัดจะป่วย เหนื่อยที
เริ่มหัวข้อโดย: tojung02 ที่ เมษายน 22, 2013, 07:00:55 pm
 ตกใจหมด


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเราทำตัวเป็นรถขี้โรค ซะแล้ว (สาระพัดจะป่วย เหนื่อยที
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 22, 2013, 07:16:36 pm

อ่านไม่จบครับ มึนก่อน เดี๋ยวกลับมาอ่านอีกรอบ ^-^
ขออภัยครับเนื่องจากเรื่องมันยาว เดียวผมเรียบเรียงให้ใหม่นะครับ สาธุ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเราทำตัวเป็นรถขี้โรค ซะแล้ว (สาระพัดจะป่วย เหนื่อยที
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 22, 2013, 07:24:40 pm
ขออนุญาติ

ขอตามอ่าน อีกสัก 10 ตอนจบนะคับ
อ่านกำลังสนุก ปนเครียดเลยจริงๆ
เรื่องน้ำดัน ของเจ้าเครื่อง 4D56
เคยได้ยินกิติศัพท์ อันเลื่องชื่อมาเหมือนกัน
เห็นว่าจบด้วย วาล์วน้ำของ Cefiro มั้งคับ
รถยังอยู๋ในประกันใช่ไหม ก็น่าจะสบายใจไปอย่างนึง
 faint


ผมมาขออภัยครับ เนื่องจากความคับแค้น และ อัดอั้นตันใจ ในความโชคร้ายที่ในรถที่ผลิตพันคันจะเป็นแบบผมซักคัน ทำให้จัดหนักไปหน่อย ครับ  รถยังอยู่ในประกันครับ แต่ปัญหาที่ทำให้เครียดมากก็คือ ซ่อมแล้วไม่จบ แก้ปัญหาโน้น ก็มา เจอปัญหาใหม่ เอาเข้าซ่อมมาแล้ว สี่ครั้งยังไม่จบ ตามเรื่องกันมาเกือบปีแล้ว รถก็ต้องผ่อน ซ่อมก็ต้องตาม มันเหนื่อยกายเหนื่อยใจ น่ะครับ  :'( สาธุ   


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเราทำตัวเป็นรถขี้โรค ซะแล้ว (สาระพัดจะป่วย เหนื่อยที
เริ่มหัวข้อโดย: seto16(เอก) ที่ เมษายน 22, 2013, 07:27:18 pm
เครียดแทนเลยแฮะ

มีอะไรให้ช่วยบอกได้นะครับ  eie eie


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: ปาเงินคลอง 8 ที่ เมษายน 22, 2013, 07:37:37 pm
เป็นกำลังใจให้ครับ เป็นผมก็คงเครียดเหมือนกัน ผมเจอแค่เฟืองท้ายหอนกับอาการเพลาสั่น ปัญหาผมเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับป๋าเจอ ปาเงินผมขึ้นเขาลงเขา เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เคยเจออาการเกียร์ค้างแค่ครั้งเดียวและเป็นแค่แป๊ปเดียว เรื่องความร้อนขึ้นไม่เคยเจอเลย ขอให้ป๋าแก้ไขปัญหาจบและกลับมาขับปาอย่างมีความสุขนะครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: FLIPYO ที่ เมษายน 22, 2013, 08:22:04 pm
น่าเห็นใจ...น่าเห็นใจ
ถ้าแก้แล้วไม่จบจริงๆ ก็คืนรถเลยครับ สคบ.สั่งลุย  ตกใจ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: vmazz ที่ เมษายน 22, 2013, 09:11:09 pm
อ่านแล้วเห็นใจเลย แบบอารมณ์ซื้อป้ายแดงแล้วรถดันมาพัง เวลาเดินทาง
ยิ่งเรื่องความร้อนนี่เรื่องไหญ่ครับ ลองให้ 0 เช็คดูครับ แก้ไม่ยากครับ
แต่ถ้าปล่อยไว้นี่บานแน่ๆ

ถ้าไม่ไว้ใจ 0 ลองหาช่างเก่งไว้ใจได้ก็ได้ครับผมว่าเจ๋งกว่า 0 อีก

ส่วนเรื่องเกียร์ค้างแบบของคุณ MK28
รถผมใช้เชียงใหม่ ขับบนดอยทางดำบ่อยๆ
สะเมิง-ฝาง-เชียงราย ทางเขาทั้งนั้นครับ เกียร์มันจะ Heat ครับ
เพราะชุดเกียร์มันใช้หม้อน้ำหน้ารถระบายความร้อน
แก้โดยติด oli cooler gear เพิ่มไปครับ รับรอง ยืดอายุชุดเกียร์ไปได้ทั้งชีวิตรถ
ถ้าออยไม่พังก่อนครับ เอารูปให้ดูละกัน
คันนี้รถผมเอง แต่รูปผมยืมมาจาก เฟสบุ๊คของอู่ที่ติดให้ให้นะครับ

(http://upic.me/i/z7/541598_284553751678948_1745151072_n.jpg) (http://upic.me/show/44434519)

(http://upic.me/i/89/521563_284553875012269_1373007658_n.jpg) (http://upic.me/show/44434520)



หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: navamin ที่ เมษายน 22, 2013, 09:24:29 pm
เห็นใจเลยครับ แต่อาการแบบนี้ น่าจะปะเก็นแลปแน่นอนเลยครับ ยังไงขอให้ศูนย์มันอย่าแกล้งโง่เลยนะครับ

รอผู้รู้มาตอบอีกทีครับ    ขอให้ซ่อมหาย กลับมาใช้แบบมีความสุขเร็ว ๆ นะครับ สู้ ๆ ครับ  O0


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: JAJA-RY ที่ เมษายน 23, 2013, 12:29:27 am
อาการที่ว่าก็น้ำดันอีกคันแล้วครับ ส่วนต้นเหตุจะมาจากปิดฝาหม้อน้ำไม่สนิทหรือความผิดผลาดของการประกอบก็คงต้องตามที่ศูนย์ต่อไป แต่ในกรณีแบบนี้มีสมาชิกเราได้เปลี่ยนเครื่องใหม่มาแล้ว ป๋าลองศึกษาและปรึกษาป๋าจากกระทู้นี้ดูครับว่ามีขั้นตอนและวิธีการอย่างไรถึงได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=9679.0 เพราะรถที่เคยน้ำดันมาแล้วหลังจากซ่อมที่มีการปาดฝาความร้อนจะสูงกว่าเดิมครับผมมีประสบการณ์กับเรื่องนี้สองรอบกับคันเก่าซ่อมที่ศูนย์ได้ไม่ถึง 3 เดือนก็ดันอีกต้องเข้าอู่รถซิ่งอุดตาน้ำระหว่างสูบจุดที่เป็นจุดอ่อนของ 4D56 ถึงใช้ได้ยันขายรถ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: suPreme ที่ เมษายน 23, 2013, 06:30:06 am
สู้ๆครับ ปัญหาแก้ได้แต่ต้องแก้ให้ถูกจุด อยากให้นำข้อมูลต่างๆ พยายามทำเรื่องขอเปลี่ยนเครื่องใหม่ (ผมนอนอ่านเมื่อคืนจนหลับ มาจบเช้านี่ อยากรู้ว่ามันจะจบยังไง)
ว่าแต่ป๋าก็ใจเย็นมานาน เป็นผมคงไม่กล้าเดินทางไกล หากความร้อนขึ้นแล้วยังฝืนใช้ก็มีแต่ผลเสีย

ขอให้ happy ending นะครับ งานนี้ต้องกัดฟันสู้ครับ เป็นผมต้องได้เครื่องใหม่เท่านั้น  strive


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 23, 2013, 09:13:34 am
อ่านแล้วเห็นใจเลย แบบอารมณ์ซื้อป้ายแดงแล้วรถดันมาพัง เวลาเดินทาง
ยิ่งเรื่องความร้อนนี่เรื่องไหญ่ครับ ลองให้ 0 เช็คดูครับ แก้ไม่ยากครับ
แต่ถ้าปล่อยไว้นี่บานแน่ๆ

ถ้าไม่ไว้ใจ 0 ลองหาช่างเก่งไว้ใจได้ก็ได้ครับผมว่าเจ๋งกว่า 0 อีก

ส่วนเรื่องเกียร์ค้างแบบของคุณ MK28
รถผมใช้เชียงใหม่ ขับบนดอยทางดำบ่อยๆ
สะเมิง-ฝาง-เชียงราย ทางเขาทั้งนั้นครับ เกียร์มันจะ Heat ครับ
เพราะชุดเกียร์มันใช้หม้อน้ำหน้ารถระบายความร้อน
แก้โดยติด oli cooler gear เพิ่มไปครับ รับรอง ยืดอายุชุดเกียร์ไปได้ทั้งชีวิตรถ
ถ้าออยไม่พังก่อนครับ เอารูปให้ดูละกัน
คันนี้รถผมเอง แต่รูปผมยืมมาจาก เฟสบุ๊คของอู่ที่ติดให้ให้นะครับ

(http://upic.me/i/z7/541598_284553751678948_1745151072_n.jpg) (http://upic.me/show/44434519)

(http://upic.me/i/89/521563_284553875012269_1373007658_n.jpg) (http://upic.me/show/44434520)



ตามปกติแล้วในขณะรถหยุดนิ่ง เวลาเราเปลี่ยน gear จาก N มาเป็น D รถคันอื่นจะมีการกระตุ๊ก 1 ครั้งเหมือน รถของ จขกท รึเปล่าครับ crying หรือรถผมขี้โรคอยู่คันเดียว


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 23, 2013, 09:13:44 am
อ่านแล้วเห็นใจเลย แบบอารมณ์ซื้อป้ายแดงแล้วรถดันมาพัง เวลาเดินทาง
ยิ่งเรื่องความร้อนนี่เรื่องไหญ่ครับ ลองให้ 0 เช็คดูครับ แก้ไม่ยากครับ
แต่ถ้าปล่อยไว้นี่บานแน่ๆ

ถ้าไม่ไว้ใจ 0 ลองหาช่างเก่งไว้ใจได้ก็ได้ครับผมว่าเจ๋งกว่า 0 อีก

ส่วนเรื่องเกียร์ค้างแบบของคุณ MK28
รถผมใช้เชียงใหม่ ขับบนดอยทางดำบ่อยๆ
สะเมิง-ฝาง-เชียงราย ทางเขาทั้งนั้นครับ เกียร์มันจะ Heat ครับ
เพราะชุดเกียร์มันใช้หม้อน้ำหน้ารถระบายความร้อน
แก้โดยติด oli cooler gear เพิ่มไปครับ รับรอง ยืดอายุชุดเกียร์ไปได้ทั้งชีวิตรถ
ถ้าออยไม่พังก่อนครับ เอารูปให้ดูละกัน
คันนี้รถผมเอง แต่รูปผมยืมมาจาก เฟสบุ๊คของอู่ที่ติดให้ให้นะครับ

(http://upic.me/i/z7/541598_284553751678948_1745151072_n.jpg) (http://upic.me/show/44434519)

(http://upic.me/i/89/521563_284553875012269_1373007658_n.jpg) (http://upic.me/show/44434520)



ตามปกติแล้วในขณะรถหยุดนิ่ง เวลาเราเปลี่ยน gear จาก N มาเป็น D รถคันอื่นจะมีการกระตุ๊ก 1 ครั้งเหมือน รถของ จขกท รึเปล่าครับ crying หรือรถผมขี้โรคอยู่คันเดียว


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 23, 2013, 09:20:46 am
3. เมื่อไปกินข้าวลิงที่ตากมาแล้ว คราวนี้ผมไม่ไว้ใจศูนย์ต่างจังหวัดล่ะ ขับรถเข้ากรุงเทพเอามาซ่อมที่ศูนย์ สิธิผล สาขาพราม 3 ทางศูนย์ ก็รับรถไปทำการตรวจสอบอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ทางศูนย์ก็ไม่พบความผิดปกติ จึงแจ้งให้ไปรับรถกลับมาใช้**ใส่วาวล์น้ำกลับไปแล้วนะครับ (เอิ่ม ครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รุ กับศูนย์มิตซู ถ้ารถมันไม่ผิดปกติ มันจะมีปัญหาตามที่เล่ามาได้ยังไง) ทางศูนย์ก็บอกมาอีกว่าถ้าอยากพิสูจน์จริงๆต้องเปิดฝาสูบเพื่อดูว่าประเก็นมีปัญหา รึไม่ (เอิ่ มอีกรอบ รถใหม่เอี่ยมไม่ถึงปีจะโดนผ่าเครื่อง มันใช่เหรอ) โดยต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ (จะนานไปไหนว่ะ) และ ต้องนัดมาทำหลังปีใหม่ เนื่องจากตอนนั้นใกล้ถึงวันปีใหม่แล้ว ทางผมก็ เอาว่ะ ถ้าศูนย์บอกว่าปกติคงเป้นผมขับรถไม่ถูกวิธีล่ะมั้ง แล้วในช่วงวันปีใหม่ 2013 ที่ผ่านมาก็ได้พาครอบครัวไปเที่ยว (ชายแดนอีกแล้ว) แต่คราวนี้เป็นชายแดนพม่า ฝั่ง อ.สังขละบุรี จะไปเดินเล่นสพานมอญ กินหนมจีน อร่อยๆ ซะหน่อย แต่รถเจ้ากำดันมีปัญหา คว่ทร้อนขึ้นอีก แต่คราวนี้ไม่เหมือนทุกทีเพราะเรารู้วิธีเอาตัวรอดแล้ว หึหึหึ ผมเลยเอารถเข้าไปจอดที่ด่านตรวจของตำรวจ ที่อยู่ใกล้ๆนั้น แล้วลงไปขอความช่วยเหลือ ทางพี่ๆตำรวจก็น่ารักเดินไปลากสายยางมาให้ แถมบอกว่าใช้น้ำได้ตามใจเลย แม่ผมก็น่ารักเอามะขามแก้ว OTOP ของดีประจำจังหวัดพิจิตร ไปแจก พี่ๆตำรวจที่ตั้งด่านอยู่คุยกันสนุกๆสนามเลย ฮ่าๆๆๆ พอครบครึ่งชั่วโมง ผมก็เลยเปิดฝาหม้อน้ำเติมน้ำลงไปจนเต็มแล้วติดเครื่่อง ให้เครื่องมันดูดน้ำที่เติมเข้าระบบ หล่อเย็น จนเต็มแล้วก็ก็ทำการถ่ายรูป ถ่ายคลิป VDO แล้วก็ทำการขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้น่ารักแล้วเดินทางกันต่อ จนการท่อเที่ยวตลอดสี่วันผ่านไป พอเปิดทำการในวันที่ที่ 2 ม.ค. 2013 ผมก็ทำการติดต่อศูนย์สิธิผลพระราม 3 เพื่อเอารถเข้าไปทำการแก้ไข โดยเอารูป และ VDO ที่ถ่ายไว้ให้ช่างดูว่ามันมีฟองผุดในหม้อน้ำแบบนี้ ช่างเลยบอกว่า แบบนี้มันน่าจะเป็นที่ ฝาสูปโก่ง ไม่ก็ประเก็นแล้วล่ะ ?????????????????? (แล้วที่ช่างบอกว่าตรวจเช็คแล้ว ไม่พบความผิดปกติล่ะ ทำไม่เรื่องแค่นี้ไม่เจอ ขนาดช่างพม่าที่ชายแดนมันยังรู้เลย แต่พูดกันไม่รู้เรื่อง ไม่งั้นเค้าคงบอกว่าเป็นที่อะไรมาแล้วล่ะ) สุดท้ายก็ทิ้งรถไว้ เป็นเดือนกว่าจะเสร็จ สรุปเป็นที่ประเก็นแล็ปครับ โรคประจำตัวของเครื่อง 4D56 

Clip VDO ครับ มาดูกันครับว่าฟองผุดกันเห็นๆมันเป็นยังไง
http://www.youtube.com/watch?v=hkcf13AMOyo

4.หลังจากที่แก้ไขประเก็นเรียบร้อยก็ไม่มีโอกาสไปขับรถเที่ยวไกลๆๆอีกเลยจนกระทั้งเมื่อวันที่ 16-19/4/2013 ที่ผ่านมาที่บ้านผมมีทริปเที่ยว ชายแดนอีกแล้ว (บ้านนี้สงสัยชอบชายแดน) เริ่มจากพิจิตร-เลย-เชียงคาน-หนองคาย-เวียงจันทร์ (พาไปเมืองนอกมาแล้วเน้อ) และ ขากลับวิ่งทาง หนองคาย-อุดร-หนองบัว-ชุมแพ-เพชรบูรณ์-พิษณุโลก-พิจิตร ซึ่งเส้นทางก็ขึ้นเขาสลับซับซ้อน ช่วง น้ำหนาว-หล่มสัก-พิษณุโลก ก็ไม่พบอาการเครื่องร้อนแล้ว แอบสบายใจ.....แต่คราวนี้ได้อาการอื่นมาแทนนั้น คือ อาการน้ำมันเครื่องซึม และ เครื่องยนต์มีเสียงแปลกๆๆๆๆ  เวลาเข้าเกีย D ตอนรถหยุดนิ่งก็จะมีอาการกระตุก 1 กึก ซะงั้น


***** เดียวมาต่อกระทู้ พร้อมเอาภาพ มาลงนะครับ ตอนนี้พิมพ์เหนื่อยล่ะ

มาอัพเดตรูปให้ตามสัญญาใจ จากผู้ชายคนนึงครับ
รูปชุดนี้เป็นชุล่าสุดในข้อที่ 4 จากกระทู้แรกนะครับ ที่ถ่ายกรณี น้ำมันเครื่อง ไม่รู้จะเรียกว่ารั่ว หรือ ซึมดี ครับ พอดีเวลาเร่งเครื่องจำชุดกำลังเครื่องยนต์ตอนขึ้นเขา ช่วง น้ำหนาว-หล่มสัก มาลงพิษณุโลก พอมาถึงบ้านมันก็มีน้ำมันหยดลงพื้นเลยหาสาเหต แล้วก็มาเจอตามรูปครับ

(http://image.ohozaa.com/i/c43/MVIr7l.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMLIUg94WB4WGee2)
(http://image.ohozaa.com/i/g55/q8c3b8.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMLIdIHeUQmTSvFs)
(http://image.ohozaa.com/i/56b/JZeKLH.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMLItFJVG4nNPYoQ)
(http://image.ohozaa.com/i/800/vfN0Df.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMLIH8VQs533tyxh)

มี Clip VDO ที่ถ่ายมาให้ดูกันด้วย
http://www.youtube.com/watch?v=gaKCoq6czV0


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 23, 2013, 09:54:45 am
แวะมาเพิ่มเติมรูปภายในข้อที่ 2 ครับ
ตามที่จั่วหัวไว้ว่าไปตายที่ตากนั้นมีรูปภาพอยู่นิดหน่อยนะครับ

1.จอดให้ช่างเช็คเครื่องที่ ศูนย์มิตซูแม่สอดที่ตัวศุนย์ยังไม่เปิดทำการมีแต่ Sale ขายอย่างเดียว แต่โชคดีที่มีช่างจากศูนย์ตากแวะมาเที่ยวพอดี
(http://image.ohozaa.com/i/g79/AaMkD1.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuUvBR1vngOgu8)

พี่คนนี้เป็น Sale ครับทำไรไม่ได้ แต่มายืนดู และ คอยให้กำลังใจครับ ขอบคุณมากๆๆ
(http://image.ohozaa.com/i/c8f/z5DfDo.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuVdzdABF2vhLK)

ช่างเค้ากำลังรื้อเครื่องมือ มาต่อสู้กับรถจอมงอแงครับ
(http://image.ohozaa.com/i/830/zaUExs.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuTNEussMvqOSv)


2.เมื่อทำการถอดวาวล์น้ำออกจากแม่สอดก็ขับรถต่อไปจนรถไปร้อนที่ศูนย์รักษาต้นน้ำแม่เมย ช่างเส้นเขตแดนไทย-พม่า ไม่เกิน 20 เมตรครับ สมาชิกร่วมทางยืน เซ็งกันเป็นแถบ ฮ่าๆๆ
(http://image.ohozaa.com/i/g80/uOiW9l.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuT5H7T3xYfB8P)

(http://image.ohozaa.com/i/9f5/wDXPCU.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuU9DaJTNbvtZE)


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 23, 2013, 10:04:26 am
มาต่อๆๆๆๆอีกชุด หลังจากเครื่องเย็น และ ทำการเติมน้ำลงไปในหม้อน้ำจากศูนย์อนุรักษ์ต้นน้ำแม่เมยแล้วผมก็ขับรถต่อไปจนถึง ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย ซึ่งก็มืดมากๆแล้ว เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะไรมากมายครับ ทำการหุงหาอาหาร เติมพลังกัน
(http://image.ohozaa.com/i/e94/wjK7xt.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuTrFOaIRdQDNp)

หลังจากท้องอิ่มกันแล้ว ก็เป็นเวลา 22.00 น. พอดีทางอุทยานทำการดับเครื่องปั่นไฟครับ ทำให้ไฟฟ้าเกือบทั้งหมด ดับลง เหลือไว้เพียงแค่ส่วนที่จำเป็นเท่านั้น กลุุ่มผมที่เพิ่งไปถึงได้ไม่นานก็บ่นกันใหญ่เลยว่า เหนื่อยๆมากันยังไม่ได้อาบน้ำเลยจะดับไฟแล้วเหรอ แต่เมื่อแสงสว่างจากหลอดไฟดับลง ก็มีแสงจากดาวบนฟ้าอันสวยงาม แสดงตัวออกมา ทำให้สมาชิกผู้ร่วม ทริป ที่อารมษ์ เสียจากการที่รถเสียมาทั้งวัน เพียงแค่เห็นก็ถึงกับหายเหนื่อยกันเลยที่เดียว  ลองดูกันครับว่าทำไมผมถึงได้หายเหนื่อย

สวยเปล่าไม่รู้ แต่ ณ ตรงนั้น มันทำให้ผมหายเหนื่อยเลย หุหุ
(http://image.ohozaa.com/i/281/Wik8na.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuTNEuseMEiCED)

(http://image.ohozaa.com/i/0cf/iPmIPu.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuTNEuseo97sPk)

(http://image.ohozaa.com/i/5ed/bS71PG.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuUvBR1BUpvEBR)

(http://image.ohozaa.com/i/9b4/ZuDXBK.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuURAxiX4R9ygC)

(http://image.ohozaa.com/i/285/EaXn9g.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuVdzdACjNVDYU)

(http://image.ohozaa.com/i/537/Q5NqnQ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuVzxTScvJ7EYX)

(http://image.ohozaa.com/i/gaa/WmW3aw.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuVzxTSpmH4VxE)

แทบจะร้องเพลงคืนที่ดาวเต็มฟ้า ฮ่าๆๆ



หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 23, 2013, 10:10:13 am
ยังไม่หมดนะครับกับเรื่องที่ตาก พอเช้ามาผมก็ไปเช็ครถดูว่าน้ำหายไปบ้าง หรือ ไม่ ก็พบว่ามีหายไปบ้างเหมือน กันแต่ไม่ มาก ก็ ทำการเติมน้ำลงไปแล้วก็ขับรถขึ้นไปชม ทะเลหมอกกันต่อ

(http://image.ohozaa.com/i/94c/Lry35G.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuTrFOaTI3ZhOJ)

(http://image.ohozaa.com/i/aec/dxHJU4.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuU9DaJVxtbZFG)

(http://image.ohozaa.com/i/f65/8IB8Cz.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQuURAxjf96wn6x)

(http://image.ohozaa.com/i/904/f3MITE.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQEWik4oydI77Qo)

(http://image.ohozaa.com/i/6f7/OcH4M8.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMQEVWlo6ROqsQje)

พาน้องปามาดู ทะเลหมอก อิอิ ที่หมอน ครูบาใสครับ ถ้าไม่ติดเรื่องรถมีปัญหา มันจะเป็นทริปที่สนุกมากๆ แต่ก็แก้อะไรไม่ได้ล่ะครับ สมาชิกผู้ร่วมชะตากรรมก็มีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยว สนุกปนทุกกันไป มันก็ดีนะครับที่รถมีปัญหาทำให้ได้ขับรถช้าลง แล้วชื่นชมกับความสวยงามของทิวทัศน์อันสวยงามข้างทางเพิ่มขึ้น     แต่ที่สำคัญขากลับจาก อ.ท่าสองยาง - อ.เมือง จ.พิจิตร น้องปา มันไม่เห็นจะมีปัญหาเหมือน ขาไปเลย ซักนิด เอ้ว แปลกดีเหมือน กัน


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: vmazz ที่ เมษายน 23, 2013, 05:14:36 pm
อ่านแล้วเห็นใจเลย แบบอารมณ์ซื้อป้ายแดงแล้วรถดันมาพัง เวลาเดินทาง
ยิ่งเรื่องความร้อนนี่เรื่องไหญ่ครับ ลองให้ 0 เช็คดูครับ แก้ไม่ยากครับ
แต่ถ้าปล่อยไว้นี่บานแน่ๆ

ถ้าไม่ไว้ใจ 0 ลองหาช่างเก่งไว้ใจได้ก็ได้ครับผมว่าเจ๋งกว่า 0 อีก

ส่วนเรื่องเกียร์ค้างแบบของคุณ MK28
รถผมใช้เชียงใหม่ ขับบนดอยทางดำบ่อยๆ
สะเมิง-ฝาง-เชียงราย ทางเขาทั้งนั้นครับ เกียร์มันจะ Heat ครับ
เพราะชุดเกียร์มันใช้หม้อน้ำหน้ารถระบายความร้อน
แก้โดยติด oli cooler gear เพิ่มไปครับ รับรอง ยืดอายุชุดเกียร์ไปได้ทั้งชีวิตรถ
ถ้าออยไม่พังก่อนครับ เอารูปให้ดูละกัน
คันนี้รถผมเอง แต่รูปผมยืมมาจาก เฟสบุ๊คของอู่ที่ติดให้ให้นะครับ





ตามปกติแล้วในขณะรถหยุดนิ่ง เวลาเราเปลี่ยน gear จาก N มาเป็น D รถคันอื่นจะมีการกระตุ๊ก 1 ครั้งเหมือน รถของ จขกท รึเปล่าครับ crying หรือรถผมขี้โรคอยู่คันเดียว

ถ้าจากเกียร N ไป D มีอาการกระตุกนิดหน่อยถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ แต่ถ้าแรงเกินหรือมีเสียงนี่ต้องเช็คครับ มาจากหลายสาเหตุครับ
อาการเกียรค้างคือ มันจะไม่เปลี่ยนเกียรให้ครับ ทั้งๆที่รอบสูงแล้ว บวกกับไฟโชวด้วยครับ ต้องจอดพัก ประมาณ 15 นาที ให้น้ำมันเกียรมันเย็นก่อนครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: vmazz ที่ เมษายน 23, 2013, 05:19:08 pm
น้ำมันเครื่องเลอะห้องเครื่องที่เป็นรอบหลัง
ให้ผมวิเคราะห์น่าจะเกิดจากช่างที่ 0 ถอดฝาวาล์วออกมาเช็ค แล้วใส่กลับไม่ดี
พวกฝาครอบวาล์วแตก/ร้าว ปะะก็นฝาวาล์วเหลื่อม หรือ กาวปะเก็นไม่ยอมทาให้เราครับ ผมเคยเป็นครับ แบบนี้
เวลาเราเร่งเครื่องจะเกิดแรงดันในเครื่องยนต์มากทำให้น้ำมันเครื่องมันออกมาตามจุดที่เป็นช่องว่างครับ

เพราะตอนแรกรถไม่มีอาการนี้เลยใช่มั้ยครับ พอเข้า 0 ปุ๊ป ได้ปัญหาเพิ่มมาอีกซะงั้น anger
ลองเช็คดูจุดที่น้ำมันออกมาก่อนเลยครับ
น่าโวยมากเรื่องนี้ เครียดแทนเลย


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: nokpajero ที่ เมษายน 23, 2013, 08:19:19 pm
น้องให้เห็นแบบนี้แล้วเครียดแทน......หายไวๆๆนะครับ



ปล.เล่าเรื่องได้สนุกน่าติดตามอ่านเพลินเลย ยอดเยี่ยม


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: JAJA-RY ที่ เมษายน 23, 2013, 09:02:20 pm
น้ำมันรั่วรอบหลังนี้น่าจะมาจากการประกอบตอนเปลี่ยนประเก็นฝาสูบ น่าจะสามารถเคลมได้ปกติ แต่จุดที่รั่วตรงนั้นมันเป็นปั้มน้ำมัน power ของระบบพวงมาลัย ลองดูนะครับว่าน้ำมัน power หายไปรึเปล่าถ้าไม่หายก็จะมาจากฝาวาล์วซึ่งเป็นน้ำมันเครื่อง แต่เรื่องความร้อนขึ้น น้ำหาย น้ำดัน ประเก็นไหม้ ป๋าลองหาอุปกรณ์เตือนภัยก่อนจะพังมาใช้สักตัวก็ดีครับพวก monstergauge smartgauge ช่วยได้เยอะทีเดียวให้มันเตือนก่อนที่เครื่องจะ heat หากมีความผิดปกติในระบบน้ำหล่อเย็นเพราะเกจ์ที่หน้าปัทม์ไมล์เทมมากกว่า 100 องศาแล้วมันถึงขยับครับซึ่งจุดนั้นส่วนใหญ่ประเก็นฝาจะเกิดความเสียหายไปแล้วถ้าใช้ smart gauge ก็ตั้งให้ alarm สัก 97'C ก่อนจะถึงจุดที่น้ำจะเดือดครับลองดู  eie


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 01:10:40 am
น้ำมันรั่วรอบหลังนี้น่าจะมาจากการประกอบตอนเปลี่ยนประเก็นฝาสูบ น่าจะสามารถเคลมได้ปกติ แต่จุดที่รั่วตรงนั้นมันเป็นปั้มน้ำมัน power ของระบบพวงมาลัย ลองดูนะครับว่าน้ำมัน power หายไปรึเปล่าถ้าไม่หายก็จะมาจากฝาวาล์วซึ่งเป็นน้ำมันเครื่อง แต่เรื่องความร้อนขึ้น น้ำหาย น้ำดัน ประเก็นไหม้ ป๋าลองหาอุปกรณ์เตือนภัยก่อนจะพังมาใช้สักตัวก็ดีครับพวก monstergauge smartgauge ช่วยได้เยอะทีเดียวให้มันเตือนก่อนที่เครื่องจะ heat หากมีความผิดปกติในระบบน้ำหล่อเย็นเพราะเกจ์ที่หน้าปัทม์ไมล์เทมมากกว่า 100 องศาแล้วมันถึงขยับครับซึ่งจุดนั้นส่วนใหญ่ประเก็นฝาจะเกิดความเสียหายไปแล้วถ้าใช้ smart gauge ก็ตั้งให้ alarm สัก 97'C ก่อนจะถึงจุดที่น้ำจะเดือดครับลองดู  eie

คุณพ่อผมเคยใช้รถ แล้วความร้อนขึ้นแต่แกไม่รู้ตัวขับจนเครื่องดับไปครับ ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ ควรทำไงดีครับเพราะตามความคิดผมมันน่าจะเกิดความเสียหายต่อระบบเครื่องยนต์โดยรวมไปแล้วไม่มากก็น้อย ร้อนจนเครื่องดับเนี้ย แต่ศูนย์บริการเครมเปลี่ยนให้แค่ประเก็นฝาสูบ แถมพอทำเสร็จ เครื่องรถผมก็มีเสียงดังแปลกๆเหมือน มอไซค์เก่าๆที่เครื่องหลวมแล้วเลยครับ แล้วยังมาเจอน้ำมันเครื่องซึมออกมาอีก เฮ้อยิ่งคิดยิ่งเศร้า ปัญหาเยอะอย่างกับรถทดลองประกอบ ว่าแล้วก็เซ็ง


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 01:35:50 am
น้ำมันเครื่องเลอะห้องเครื่องที่เป็นรอบหลัง
ให้ผมวิเคราะห์น่าจะเกิดจากช่างที่ 0 ถอดฝาวาล์วออกมาเช็ค แล้วใส่กลับไม่ดี
พวกฝาครอบวาล์วแตก/ร้าว ปะะก็นฝาวาล์วเหลื่อม หรือ กาวปะเก็นไม่ยอมทาให้เราครับ ผมเคยเป็นครับ แบบนี้
เวลาเราเร่งเครื่องจะเกิดแรงดันในเครื่องยนต์มากทำให้น้ำมันเครื่องมันออกมาตามจุดที่เป็นช่องว่างครับ

เพราะตอนแรกรถไม่มีอาการนี้เลยใช่มั้ยครับ พอเข้า 0 ปุ๊ป ได้ปัญหาเพิ่มมาอีกซะงั้น anger
ลองเช็คดูจุดที่น้ำมันออกมาก่อนเลยครับ
น่าโวยมากเรื่องนี้ เครียดแทนเลย


ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับผม ผมคิดว่าผมใจดีใจเย็นให้โอกาสทาง MMTH แก้ไขปัญหามาหลายครั้งหลายหน และ มันใช้เวลามากเกินไปแล้ว ผมคงจะเริ่มทำอะไรที่มันเป็นการเรียกร้องสิทธิ์ของผม ที่ผมพึงจะได้รับจาก การที่ผมซื้อสินค้าที่มีข้อบกพร่องจากการผู้จำหน่าย ซะแล้วล่ะ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 01:39:06 am
อาการที่ว่าก็น้ำดันอีกคันแล้วครับ ส่วนต้นเหตุจะมาจากปิดฝาหม้อน้ำไม่สนิทหรือความผิดผลาดของการประกอบก็คงต้องตามที่ศูนย์ต่อไป แต่ในกรณีแบบนี้มีสมาชิกเราได้เปลี่ยนเครื่องใหม่มาแล้ว ป๋าลองศึกษาและปรึกษาป๋าจากกระทู้นี้ดูครับว่ามีขั้นตอนและวิธีการอย่างไรถึงได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=9679.0 เพราะรถที่เคยน้ำดันมาแล้วหลังจากซ่อมที่มีการปาดฝาความร้อนจะสูงกว่าเดิมครับผมมีประสบการณ์กับเรื่องนี้สองรอบกับคันเก่าซ่อมที่ศูนย์ได้ไม่ถึง 3 เดือนก็ดันอีกต้องเข้าอู่รถซิ่งอุดตาน้ำระหว่างสูบจุดที่เป็นจุดอ่อนของ 4D56 ถึงใช้ได้ยันขายรถ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมคงต้องเอาเยี่ยงอย่างมั้งแล้ว


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 01:48:44 am
สู้ๆครับ ปัญหาแก้ได้แต่ต้องแก้ให้ถูกจุด อยากให้นำข้อมูลต่างๆ พยายามทำเรื่องขอเปลี่ยนเครื่องใหม่ (ผมนอนอ่านเมื่อคืนจนหลับ มาจบเช้านี่ อยากรู้ว่ามันจะจบยังไง)
ว่าแต่ป๋าก็ใจเย็นมานาน เป็นผมคงไม่กล้าเดินทางไกล หากความร้อนขึ้นแล้วยังฝืนใช้ก็มีแต่ผลเสีย

ขอให้ happy ending นะครับ งานนี้ต้องกัดฟันสู้ครับ เป็นผมต้องได้เครื่องใหม่เท่านั้น  strive
มีต่อข้อ 3-4 ด้วยนะครับได้ไปอ่านรึยังเอ่ย? และกำลังจะมีการอัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมครับเรื่อยๆจากการที่ได้ประสานงานกับทาง MMTH มาครับ

ปล.ที่ผมใจเย็นอยู่เพราะผมเชื่อในความสามารถของศูนย์บริการครับว่าเค้าน่าจะสามารถวิเคราะห์ถึงปัญหา และ หาทางแก้ไขให้เราได้ ที่สิ่งที่ผมได้รับก็คือ ผมเอารถเข้าศูนย์บริการหลายที่มาก หลายครั้งช่างก็ยังไม่มีปัญญาจะแก้ไขให้ได้เลย จนผมต้องใช้รถต่อไปเรื่อยๆเพราะมีมันที่เป็นรถที่นั้งได้ 7 ที่นั้งเพียงคัน จนผมไปเจอปัญหาระหว่างเดินทางจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดมาถึงสามครั้ง ดีที่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องพวกนี้มาก่อนเลยไม่ตื่นตกใจเกินไป เอารถเข้าที่ปลอดภัยมาได้ และ ที่สำคัญผมเป็นคนศึกษาหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆถึงที่มาถึงความผิดปกติของรถด้วยตัวเอง รวมถึงพิสูจน์เองด้วยว่าที่น้ำดันนั้นเป็นเพราะอะไรตามที่ผมได้ ถ่าย Clip VDO ไว้ตาม หัวข้อที่ 3 สาม แล้วผมเอา Clip นั้นไปให้ ช่างที่ศูนย์บริการดูช่างถึงได้รู้ว่าต้องแก้ปัญหาที่ตรงไหน แบบนี้เหรอครับที่จะทำให้ลูกค้าเชื่อมันศูนย์บริการ ทาง MMTH น่าจะมอบปริญญาให้ผมอีกใบด้วยซ้ำที่สามารถศึกษาข้อมูลเรื่องเครื่องยนต์ จนสามารถหาสาเหตุของปัญหาได้ แทนช่าง สมองนิ่มของ MMTH เองเสียด้วยซ้ำ ..... (ตอนที่พิมพ์นี้อารมษ์เสียนะครับอาจจะแรงไปซักหน่อย)


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 01:50:20 am
อ่านแล้วเห็นใจเลย แบบอารมณ์ซื้อป้ายแดงแล้วรถดันมาพัง เวลาเดินทาง
ยิ่งเรื่องความร้อนนี่เรื่องไหญ่ครับ ลองให้ 0 เช็คดูครับ แก้ไม่ยากครับ
แต่ถ้าปล่อยไว้นี่บานแน่ๆ

ถ้าไม่ไว้ใจ 0 ลองหาช่างเก่งไว้ใจได้ก็ได้ครับผมว่าเจ๋งกว่า 0 อีก

ส่วนเรื่องเกียร์ค้างแบบของคุณ MK28
รถผมใช้เชียงใหม่ ขับบนดอยทางดำบ่อยๆ
สะเมิง-ฝาง-เชียงราย ทางเขาทั้งนั้นครับ เกียร์มันจะ Heat ครับ
เพราะชุดเกียร์มันใช้หม้อน้ำหน้ารถระบายความร้อน
แก้โดยติด oli cooler gear เพิ่มไปครับ รับรอง ยืดอายุชุดเกียร์ไปได้ทั้งชีวิตรถ
ถ้าออยไม่พังก่อนครับ เอารูปให้ดูละกัน
คันนี้รถผมเอง แต่รูปผมยืมมาจาก เฟสบุ๊คของอู่ที่ติดให้ให้นะครับ

(http://upic.me/i/z7/541598_284553751678948_1745151072_n.jpg) (http://upic.me/show/44434519)

(http://upic.me/i/89/521563_284553875012269_1373007658_n.jpg) (http://upic.me/show/44434520)



ตามปกติแล้วในขณะรถหยุดนิ่ง เวลาเราเปลี่ยน gear จาก N มาเป็น D รถคันอื่นจะมีการกระตุ๊ก 1 ครั้งเหมือน รถของ จขกท รึเปล่าครับ crying หรือรถผมขี้โรคอยู่คันเดียว


ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล ผมนึกว่ารถผมมันจะมีปัญหาได้ทุกส่วนซะแล้ว ตัดไปได้หนึ่งอย่าง หุหุ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 01:52:34 am
น้องให้เห็นแบบนี้แล้วเครียดแทน......หายไวๆๆนะครับ



ปล.เล่าเรื่องได้สนุกน่าติดตามอ่านเพลินเลย ยอดเยี่ยม

เดียวต้องรอลุ้นตอบจบครับ ไม่ว่าจะเป็นแก้ปัญหาได้ หรือ ผมขายรถทิ้ง ผมจะมาทำฉบับรวมเล่ม ออกวางขายดีมั้ยครับ รถราคาเป็นล้าน อยากมีปัญหาเยอะนัก อิอิอิอิอิอิอิอิอิ?


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 02:21:10 am
อัพเดตความคืบหน้าครับ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 21/4/2556 วันที่ผมพบว่าที่ตัวเครื่องของรถผมนั้นมีน้ำมันเครื่องรั่วซึมออกมาตาม กระทู้ในข้อที่ 4 นั้นผมได้ทำการโทรไปแจ้ง Call Center นั้นได้ความว่าทาง Call Center ได้ทำการบันทึกข้อมูลไว้ว่ารถมีปัญหา แล้วนั้นทางศูนย์ก็ทำการสอบถามว่าผมสามารถเอารถเข้าศูนย์บริการได้มั้ย? ตอนนั้นผมอยู่ใน สำนักสงฆ์ บ้านตาขีด อ.บรรพต จ.นครสวรรค ห่างตัวเมืองเป็นร้อยกิโล ถ้าขับไปแล้วมันตายกลางทาง ผมจะได้กินข้าวลิงอีกแน่ะ (แต่ก็ไม่เป็นไรนะกับรถคันนี้ชินแล้ว) ผมเลยแจ้งทาง Call Center ว่าไม่น่าเป็นการดีแน่ๆทาง MMTH สามารถประสานงานหารถมาลาก หรือ มาแบกไปได้มั้ย (หมายถึงเอาถึงรถ หกล้อน่ะครับ) ทาง Call Center ก็แจ้งว่าไม่สะดวก (ไม่เข้าใจในเวลาโทรเข้าไป Call Center ข้อที่ 1 ที่สามารถกดเข้าไปได้ คือ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนี่นา???????????) ผมเลยตัดสินใจค่อยๆขับรถเอาไปฝากไว้ที่บ้านพ่อที่ อ.เมือง จ.พิจิตร แล้ว ผมก็ขโมย Vios 03 คันเก่าที่ยกให้น้องชายไปก่อนที่จะซื้อ น้องปาขี้โรคคันนี้มา แล้ว เดินทางกลับกรุงเทพในวันอาทิตย์

ในวันจันทร์ที่ 23/4/2556 ทาง Call Center MMTH ก็โทรมาหาผมอีกรอบเรื่องสอบถามอาการผมก็ บรรยายไปโดยระเอียดแบบที่ผมเขียน กระทู้นั้นล่ะครับ ว่าผมมีปัญหาเครื่องมีน้ำมันเครื่องซึมออกมา ซึ่งคำตอบที่ได้จาก Call Center เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากนั้นคือ เค้าให้ผมกลับไปดูที่รถว่าน้ำมันที่ซึมมันเกิดจากสาเหตุที่ว่า เด็ก (ทาง Call Center ใช้คำว่าเด็กแทนช่างที่ศูนย์ ที่ทำการเปลี่ยนประเก็น และ เช็คระยะ * ไอ้ครั้งที่เช็คระยะเสร็จไปรับรถกลับบ้าน แต่พอออกมานอกศูนย์ แล้วฉีดน้ำล้างกระจกแต่ไม่มีน้ำออกมา ลงไปดูพบว่าน้ำในถังล้างกระจกแห้งนั้นแหละครับ) เค้าเติมน้ำมันเครื่องให้แล้วมันไปหกอยู่แถวฝาสูบ ผมฟังแล้ว ช็อกไปเลย ระดับ Call Center MMTH นะครับ คิดได้ไง เค้าก็มีประวัติรถผมอยู่ในมือ รถผมเปลี่ยนประเก็นเสร็จไปตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ที่เลขไมล์ 27,xxx km และ ผมก็ทำการล้างรถ ล้างห้องเครื่อง คอยดูสภาพ ความผิดปกติมันอยู่ทุกวัน จนมาพบปัญหาเมื่อวันที่ 21/4/2556 ที่ผ่านมาเลขไมล์อยู่ที่ 34,xxx km ระยะเวลาผ่านมาตั้งสามเดือน ระยะทางที่รถวิ่งไปก็ตั้ง หกพันกว่ากิโล ถ้ามันเติมน้ำมันแล้วหก มันคงเพิ่งอยากจะเยิ้มล่ะมั้ง คนถามเค้าก็ช่างคิดได้เนอะ ผมก็บอกเค้าไปว่าผมไม่สะดวก เพราะตอนนี้ผมกลับมากรุงเทพแล้ว แต่รถฝากไว้จากญาติที่ต่างจังหวัด คุณไปลากรถเข้ามาตรวจสอบ หรือ ประสานงานไปยังญาติผมได้มั้ย คำตอบที่ได้นั้นก็ช่างเหลือเชื่อครับ เพราะเค้าตอบว่าไม่สะดวกครับ หึหึหึ (เวลาโทรไปเบอร์ Call Center อย่าเลือกข้อหนึ่งนะครับ ไม่มีประโยชน์เค้าทำไว้ให้มันฟังดูดีเฉยๆ) ผมก็คิดในใจว่ามันจะรีบปฏิเสธไปไหนว่ะ บ้านผมกับศูนย์มิตซูพิจิตร มันก็ห่างกัน 2 กิโลเองมั้ง แล้วผู้จัดการศูนย์ แล้วก็ช่าง แม้แต่เจ้าหน้าที่ในนั้น มันก็ผ่านไม้เรียวพ่อแม่ผมมาแล้วทั้งนั้น หุหุ มันจะวิ่งมาดูรถให้อาจารย์มันที่บ้านหน่อยไม่ได้รึไง บ้านก็รู้จักกันอยู่แล้ว .......  ฟังแล้วก็ช็อก ผมเลยเสนอไปว่า งั้นผมจะเอารถไปเข้าศูนย์ที่พิษณุโลก แต่ให้ทาง Call Center เป็นคนประสานงานให้ ผ่านไปซักพักใหญ่ๆ ทาง Call Center ก็โทรกับมาว่าได้ติดต่อนัดหมายไว้เรียบร้อยแล้ว ให้เอารถเอาไปตรวจสอบได้ในวันอังคารที่ 23/4/2556 ผมก็โทรบอกพ่อที่บ้านว่าให้เอารถไปเข้าตรวจตามเวลาดังกล่าว





หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 02:40:33 am
อัพเดตต่อนะจ้า

วันอังคารที่ 23/4/2013 พ่อผมก็ตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวขับรถออกจากบ้านที่พิจิตร เพื่อเอารถไปเข้าศูนย์ที่พิดโลกแต่เช้า งานการช่างมัน (น่าสงสารนักเรียนตาดำๆ อาจารย์โดดสอนเอารถไปซ่อม) ที่ต้องออกเช้าเพราะว่าพ่อผมไม่กล้าที่จะขับเร็วนักกลัวมีปัญหากลางทางแล้วเอารถไม่อยู่งานใหญ่มันจะเข้า ระยะทาง พิจิตร - พิดโลก ประมาณ 60-80 km ครับ แต่พอไปถึงศูนย์ ก็ช็อกอีกรอบเพราะที่เรานัดหมายไว้แล้วไปตามกกำหนดนนั้นมีรถที่ไปรอที่ศูนย์แต่เช้าเข้าคิวรอยาวเยียด ??????? (เอิ่ม ถ้าเอารถมาเช็คแล้วต้องเข้าคิวยาวแบบนี้ เมิงนะนัดเวลาให้มาเสียเวลาทำงานทำการทำไมว่ะ อันนี้คิดในใจนะครับ) พ่อผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ไหนๆก็มาแล้วคงต้องรอ อ่ะงั้นก็ต้องรอกันต่อไป ต้องเข้าใจรถเค้าทำมาขายแล้วมันมีแต่ปัญหาต้องแก้กันเยอะ คิวเลยยาว หุหุหุ ระหว่างนั้นผมก็ทำงานต่อไป ................... พอบ่ายโมงผมก็โทรไปหาพ่อใหม่ ถามว่าเรื่องรถเป็นไงบ้าง แล้วก็ต้องช็อกไปอีกรอบเมื่อพ่อผมตอบว่า ไม่รุ เพราะยังไม่ได้เช็กเลยรอคิวอยู่ (นัดตรวจเช็คผ่าน Call Center MMTH นะครับ นัดเก้าโมง แต่นี่บ่ายโมงแล้วยังไม่ได้คิว แล้วเมิงจะนัดทำ ห่_ อะไรอันนี้คิดในใจอีกแล้ว หุหุ) พ่อผมก็เลยต้องไปนั้งกินข้าวหน้าศูนย์มิตซูพิดโลก หุหุหุ และผมก็ทำงานต่อปายๆๆๆๆๆๆๆๆๆ........................ จนเลิกงานห้าโมงเย็น ผมก็โทรไปหาพ่อใหม่ แล้วก็ต้องช็อกอีก เพราะพ่อบอกว่ากำลังรอน้องชายขับรถ อีกคันมารับ เพราะว่าต้องทิ้งรถไว้ที่ศูนย์เนื่องจากยังทำการตรวจสอบไม่เสร็จ แต่เท่าที่คุยกับพ่อเรื่องน้ำมันเครื่องที่ซึมออกมาทางช่างที่ศูนย์เค้าพบว่ามันเกิดจากการที่มีแหวนในส่วนประกอบที่เคยถอดตอนเปลี่ยนประเก็นนั้นแหละ แล้วประกอบกับไม่ดีมันเลนเหมือนปีนเกลียวอยู่นิดนึง เวลาบรรทุกผู็โดยสารเต็มที่นั้งอัดขึ้นเขาลาดชันมันเลยเกิดอาการไส้แตกมีน้ำมันเครื่องซึมออกมา ... สรุปช่างมันชุ่ยจริงๆ ขอบคุณนะ สิทธิผลพระรามสาม สมาชิกท่านใดไปใช้บริการก็ระวังๆไว้ด้วยเน้อ... ส่วนในเรื่องของเครื่องยนต์ที่มีเสียงแปลกๆตอนออกตัวจาดจุดหยุดนิ้งไปที่ความเร็ว 2o km/h ที่รอบเครื่อง 15kp นั้นทางช่างยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ (ผมคิดว่าผมคงต้องศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องนี้ด้วยตัวเองอีกแล้วล่ะครับ แล้วก็คงต้องหาวิธีแก้ไขไปบอกช่างของศูนย์ เหมือนคราวที่พบเป็นคนพบเองว่าที่เครื่องร้อนคราวก่อนเป็นเพราะอะไร  แต่ตามความคิด และ ความรู้เรื่องเครื่องยนต์อันน้อยนิด ผมคิดว่าเครื่องมันคงเน่าใน เลอะมาตั้งแต่ที่มันร้อน และ ขับต่อจนดับในครั้งแรกนั้นแหละ วิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือ ยกเครื่องใหม่มาใส่ให้ผมเถอะน่าจะจบนะ เพราะไม่งั้นผมอาจจะทำตามความต้องการของพ่อแม่ก็ได้ที่ต้องการให้ขายๆมันทิ้งไป แล้วไปซื้อ toyota fortuner มาใช้ตามความตั้งใจแต่แรก *** ผมต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหนกว่าที่จะทำให้ทุกคนในบ้านเค้ายอมเปลี่ยนใจมาซื้อ Pajero Sport ได้ มันเหนื่อยมากเลยนะรู้ป่ะ MMTH)


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: KARN2519 ที่ เมษายน 24, 2013, 02:42:15 am
เอาใจช่วยให้รถป๋ากลับมาเป็นปกติโดยเร็วนะครับ เท่าที่อ่านดูลองนึกว่าถ้เป็นเรา....(คงไปไม่เป็นเลย เมียด่าหูเป็นน้ำหนวกแน่ หูแฉะเลยทีเดียว)


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 03:10:57 am
ไหนๆๆๆๆก็บ่นมาเยอะแล้วครับ เลยขอเล่าตำนาน ความร้อนขึ้นของน้องปาของผมซึ่งเพิ่งได้รับถ่ายทอด Version เต็ม มาจากคุณพ่อเมื่อเย็นนี้

หลังจากผมถามข้อมูลโดยละเอียดว่าทำไมรถถึงความร้อนถึงได้ ก็ได้รับคำอธิบายมาดังนี้ครับ
หลังจากที่ผมได้รับรถเมื่อวันที่ 30/1/2555 ที่ศูนย์ สุธร มอเตอร์ ถนนศรีนครินทร์ ผมเป็นคนไปรับด้วยตัวเองเลยตอนนั้นดีใจสุดๆ ได้น้องปามาไว้ในสังกัด ตามความฝัน ผมก็ทำการตรวจเช็คอย่างดีตามคำแนะนำของพี่ๆในบอร์ดถึงวิธีตรวจรับรถใหม่ แล้วก็ใช้รถเรื่อยมาเข้าเช็คที่ศูนย์ตามระยะที่กำหนดไม่ได้ขาด แล้วผมก็ขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวขึ้นเหนือล่องใต้ ขับจากกรุงเทพ ไปรับพ่อแม่ที่พิจิตร แล้วยิงยาวไปรับน้อง เด็ก มช. ที่เชียงใหม่ ไปเที่ยวดอยหม่อนแจ๋ม ที่แม่ริมแบบยิงยาวขับคนเดียว หรือ จะขนกันไปเที่ยวแม่สอด ไปเทียวเขาค้อ ก็ไปมาแล้วไม่มีความผิดปกติ ซึ่งผมก็ไปคุ้ยฟุ้งเลยด้วยความภูมิใจว่ารถเราดีอย่างโน้นอย่างนี้  แต่จนรถวิ่งมาใกล้จะครบ 20k km เป็นจังหวะที่เดินทางไปเที่ยวพิษณุโลก กับครอบครัวพอดี จึงได้ถือโอกาสเอารถเข้าเช็คระยะที่ศูนย์มิตซู พิษณูโลก แถวๆ มหาวิทยาลัยนเรศวร  (ก็แน่ล่ะ ถ้าเข้าไปที่ Toyota หรือ ISUZU เค้าคงไม่ทำให้ หุหุ) เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้นจ่ายค่าเสียหายเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อไปได้ถึงแค่แถวๆ อ.บ้านก่างก็พบว่าในห้องโดยสารเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆ จนผิดปกติ พ่อผมซึ่งเป็นคนขับเค้าก็พยายามมองหาร้านแอร์เพื่อดูว่าเป็นอะไร (พอผมก็ครูแก่ๆ คนนึงนี่แหละแกไม่ค่อยรู้อะไรอ่านะ) จนอยู่ๆๆๆรถมันก็ดับไปเองเฉยๆ พ่อผมเลยพยายามบังคับรถให้หลบออกมาจากเลนขวาสุดมาที่ไหลทางให้ได้ ดีนะที่มันไม่ดับแล้วหยุดอยู่ตรงนั้น ไม่งั้นคงเลอะ กันทั้งรถแน่ะนอน แต่ก็อาจจะเป็นความโชคดีในความโชคร้ายที่รถที่เครื่องดับสนิทไปแล้วมาจอดสงบนิ้งไว้อาลัยให้ตัวเอง อยู่บริเวณร้านซ่อมแอร์รถยนต์พอดี เลยไปตามช่างแอร์มาดู พอช่างแอร์มาดูเท่านั้นแหละ อุบ่ะ แม่เจ้า น้ำหล่อเย็นมันหายไปไหนหมดล่ะครับเนี้ย ร้อนจนดับไปเลยแบบนี้มันก็มีแต่พังๆๆๆๆๆๆๆ ล่ะครับ ขับต่อไม่ได้แล้ว เลยโทรตามรถลากของบริษัทประกันมาลาก คุณรถลากของประกัน tokio marine ก็น่ารักครับมาช่วยเหลืออย่างเร็ว สุภาพพูดจาดีมาก แล้วก็ช่วยยกรถขึ้นบนกระบะบันทุกของรถหกล้อแล้วก็แบกเข้าไปที่ศูนย์มิตซูพิษณุโลก ตอนนั้นล่ะอย่างเท่ Pajero Sport ป้ายแดง เสียโดนลาก บอกได้เลยอย่างหล่อ เฮ้อๆๆๆ เจ้าของอยากจะแทรกแผ่นดินหนี พอไปถึงศูนย์ ทางช่าง กับผู้จัดการก็เข้ามาดูแล้วเค้าก็พูดในสิ่งที่ฟังแล้วซ็อกออกมานั้นคือ ที่น้ำหายเครื่องดับ น่าจะเกิดจากเด็ก (เด็กอีกแล้ว) ปิดฝาหม้อน้ำไม่แน่นล่ะมั้ง ???????? เอิ่ม... (ผมคิดในใจ ถ้าลองให้ พ่องเมิง แม่งเมิง อยู่บนรถขับอยู่กลางถนน เลนขวาสุดแล้วอยู่ๆเครื่องดับบ้าง เมิงจะรู้สึกไง พูดออกมาได้นะ) แล้วทางศูนย์ก็รับรถคันงาน ป้ายแดง ย้ำป้ายแดง ไว้ตรวจสอบ โดยทำการอัดอาสเข้าไปในระบบหล่อเย็นแล้วหารูรั่ว แต่ก็ไม่เจอ ทางศูนย์ก็เลยโทรมาบอกพ่อผมว่ารถปกติ (ถ้าปกติ แล้วมันร้อนจนดับ รึ น้ำหายได้ไง ???????????????????) ให้มารับกลับได้ พ่อผมก็ไปรับกลับ แล้วพอมาใช้งานก็เจอแต่ปัญหาความร้อนขึ้น พอขึ้นก็เอาเข้าเช็คศูนย์ ศูนย์ก็บอกปกติ จนผมมาหาสาเหตุว่าทำไมมันถึงร้อน แล้วช่างมันถึงรู้หลังจากผมนั้นแหละ (เพิ่งรู้ว่า MMTH เลี้ยงหญ้าช่างศูนย์เป็นอาหาร)    


ปล. การที่โพสชมทาง ประกัน tokio marine ไม่ได้เป็นการประชาสัมพันธ์ให้ แต่ผมเห็นว่าใครทำดีเราก็ควรชื่นชม ส่งเสริม และ ให้กำลังใจ เพื่อที่เค้าจะได้ทำสิ่งดีดี ต่อไป ส่วนอีกที่ๆโดนด่าอยู่ก็ไม่ใช่ว่าเรารังเกียจ อาคาดจ้องทำลาย เราเพียงแค่ต้องการให้คุณมีการปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น   ก็ไปลองคิดดูล่ะกันว่าทำไมยอดขายรถถึงสู้เจ้าตลาดไม่ได้ คุณต่างจากเค้าตรงไหน ?????????


ขอยืนยันว่าข้อความที่โพสในกระทู้นี้มิใดต้องการทำให้ผู้ใดเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นเพียงการเผยแพร่สิ่งที่ จขกท ได้พบเจอมา และ ต้องการแชร์ใช้เพ่อนที่ใช้รถรุ่นเดียวกันได้รับรู้รับทราบถึงข้อมูลข่าว ตามสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูล ข้อดีข้อเสีย รวมถึงปัญหา ได้โดยไม่มีการปิดบังใดๆๆ

สุดท้ายนี้ขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจด้วยว่าข้อความที่โพสไว้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงแต่อย่างใด
ลงชื่อ นายอภินัทธ์ ดำมินเสก เลขที่บัตรประชาชน 1549900114276



หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 03:12:16 am
เอาใจช่วยให้รถป๋ากลับมาเป็นปกติโดยเร็วนะครับ เท่าที่อ่านดูลองนึกว่าถ้เป็นเรา....(คงไปไม่เป็นเลย เมียด่าหูเป็นน้ำหนวกแน่ หูแฉะเลยทีเดียว)

ขอบคุณกำลังใจครับ ถ้ามีความคืบหน้ายังไงจะมารายงานเป็นระยะครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: suPreme ที่ เมษายน 24, 2013, 06:59:32 am
อ่านเพลินเลยครับป๋า (ป๋าก็ถ่ายภาพได้สวยไม่น้อนเลยน้า) สรุปว่าสาเหตุหลักมาจาก "ศูนย์มิตซู พิษณูโลก แถวๆ มหาวิทยาลัยนเรศวร" ซึ่งเป็นต้นเหตุของความร้อนที่เกิดขึ้น
ร้อนจนดับเนี่ยะจบยากจริงๆ เข็มวัดอุณหภูมิขึ้นไปจนถึงขีดไหนครับ ถึงได้ดับกลางอากาศ (ถามไว้เป็นข้อมูล) แล้วศูนย์พิษณุโลกเค้ารับผิดชอบอะไรให้ป๋าบ้างไหมครับ

ปล. ขอบคุณที่ตอบผมที่หน้า 2 ครับ ผมเข้าใจอารมณ์ป๋าจริงๆ สู้ๆครับ ขอให้ได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ไวๆครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 24, 2013, 09:10:05 am
อ่านเพลินเลยครับป๋า (ป๋าก็ถ่ายภาพได้สวยไม่น้อนเลยน้า) สรุปว่าสาเหตุหลักมาจาก "ศูนย์มิตซู พิษณูโลก แถวๆ มหาวิทยาลัยนเรศวร" ซึ่งเป็นต้นเหตุของความร้อนที่เกิดขึ้น
ร้อนจนดับเนี่ยะจบยากจริงๆ เข็มวัดอุณหภูมิขึ้นไปจนถึงขีดไหนครับ ถึงได้ดับกลางอากาศ (ถามไว้เป็นข้อมูล) แล้วศูนย์พิษณุโลกเค้ารับผิดชอบอะไรให้ป๋าบ้างไหมครับ

ปล. ขอบคุณที่ตอบผมที่หน้า 2 ครับ ผมเข้าใจอารมณ์ป๋าจริงๆ สู้ๆครับ ขอให้ได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ไวๆครับ

แฮะๆๆ เรื่องรูปที่ถ่ายก็ หัดถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกอ่ะครับ ต่อไปก็คงซ่อมรถเป็นงานอดิเรกเพิ่มมาอีกอย่าง แฮะๆๆ ส่วนเรื่องความเข็มความร้อนขึ้นเท่าไหร่ถึงเครื่องดับนั้นเท่าที่สอบถามอาการจากคุณพ่อ คือ เข็มชี้ชนเพดานครับ เลบ ขีดสีแดงที่มีตัว H แล้วค้างเลย แต่เครื่องยังไม่ดับทันที ให้สังเกตุที่เครื่องปรับอากาศมันจะหยุดทำงานไปก่อนครับ พอเครื่องปรับอากาศหยุดไปได้ไม่นาน เครื่องก็ดับตามครับ  แต่ที่ผมเจอมากับตัวเองคือ เมื่อเข็มความร้อนขึ้นจนชนเพดานยังสามารถขับต่อได้อีกประมาณ 10กว่า km ครับ แต่ได้เท่าไหร่ไม่รู้นะเพราะผมเห็นเข็มขึ้นกับตาครั้งแรกมันตอนกำลังขับรถลงเขาที่แม่สอด แต่เนื่องจากเป็นทางลงเขาลาดชันไม่มีที่ให้จอดพักได้ จึงขับลงต่อไปเรื่อยๆ จนถึงแม่สอดครับ (ขืนจอดเลนซ้ายได้โดนสิบล้อที่วิ่งลงเขามาชนยับกันพอดีเนอะ)


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: JAJA-RY ที่ เมษายน 25, 2013, 10:10:17 am
อาการที่ว่าก็น้ำดันอีกคันแล้วครับ ส่วนต้นเหตุจะมาจากปิดฝาหม้อน้ำไม่สนิทหรือความผิดผลาดของการประกอบก็คงต้องตามที่ศูนย์ต่อไป แต่ในกรณีแบบนี้มีสมาชิกเราได้เปลี่ยนเครื่องใหม่มาแล้ว ป๋าลองศึกษาและปรึกษาป๋าจากกระทู้นี้ดูครับว่ามีขั้นตอนและวิธีการอย่างไรถึงได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=9679.0 เพราะรถที่เคยน้ำดันมาแล้วหลังจากซ่อมที่มีการปาดฝาความร้อนจะสูงกว่าเดิมครับผมมีประสบการณ์กับเรื่องนี้สองรอบกับคันเก่าซ่อมที่ศูนย์ได้ไม่ถึง 3 เดือนก็ดันอีกต้องเข้าอู่รถซิ่งอุดตาน้ำระหว่างสูบจุดที่เป็นจุดอ่อนของ 4D56 ถึงใช้ได้ยันขายรถ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมคงต้องเอาเยี่ยงอย่างมั้งแล้ว
ลองตามเรื่องดูครับจริงๆอยากให้เปลี่ยนเครื่องไปเลยเพราะถึงขนาดร้อนแล้วดับนี้หนักเหมือนกันครับ ถ้ารถป๋าตอนเกิดเหตุเดิมสนิทไม่มีการใส่กล่องแต่งกล่องซิ่งอะไร ลองปรึกษาขั้นตอนวิธีการขอเคลมเปลี่ยนเครื่องจากป๋า เจ้าของกระทู้ใน link ดูนะครับ ส่วนอาการที่บอกว่าหลังจากซ่อมมามีเสียงแปลกๆก็เกิดจากหลายสาเหตุถ้าให้คิดในเรื่องที่เบาสุดก็แค่เสียงวาล์วดังปรับตั้งใหม่ก็หายครับ แต่ถ้าอาการหนักก็พวกแหวนหักลูกสูบแตก ป๋าลองชักก้านวัดน้ำมันเครื่องออกตอนติดเครื่องอยู่ดูครับถ้ามีน้ำมันพุ่งออกมาแสดงว่ามีปัญหาเครื่องหลวม แหวนหัก หรือลูกสูบแตกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าถึงขั้นนี้อย่าได้ยอมครับเปลี่ยนเครื่องสถานเดียว เอาใจช่วยครับสู้ให้ถึงที่สุด ถ้าไม่ไหวก็ขายไปเลยครับ ของผมเคยเจออาการความร้อนสูงเปลี่ยนปะเก็นไปสองรอบ แต่รถผม triton คันเก่าไปทำให้มันแรงมาเลยเคลมไม่ได้ครับต้องซ่อมเองจากนั้นก็ขายแล้วมาซื้อปานี่หละครับ เครื่องตัวนี้มีจุดอ่อนตรงนี้ครับเค้าถึงไม่ค่อยเอาไปแต่งซิ่งได้เท่าไร การเข้าศูนย์ตอนรับรถเราควรตรวจสอบเรื่องฝาปิดต่างๆด้วยครับเพราะมาตรฐานศูนย์บริการก็รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นไง เวลาผมเข้าศูนย์ผมจะไปยืนเฝ้าตลอดครับว่าเค้าทำอะไรไปบ้าง เอาใจช่วยนะครับขอให้หายไวๆ เปลี่ยนเครื่องใหม่ไปเลยยิ่งดี  smile..


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 25, 2013, 10:38:48 am
อาการที่ว่าก็น้ำดันอีกคันแล้วครับ ส่วนต้นเหตุจะมาจากปิดฝาหม้อน้ำไม่สนิทหรือความผิดผลาดของการประกอบก็คงต้องตามที่ศูนย์ต่อไป แต่ในกรณีแบบนี้มีสมาชิกเราได้เปลี่ยนเครื่องใหม่มาแล้ว ป๋าลองศึกษาและปรึกษาป๋าจากกระทู้นี้ดูครับว่ามีขั้นตอนและวิธีการอย่างไรถึงได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=9679.0 เพราะรถที่เคยน้ำดันมาแล้วหลังจากซ่อมที่มีการปาดฝาความร้อนจะสูงกว่าเดิมครับผมมีประสบการณ์กับเรื่องนี้สองรอบกับคันเก่าซ่อมที่ศูนย์ได้ไม่ถึง 3 เดือนก็ดันอีกต้องเข้าอู่รถซิ่งอุดตาน้ำระหว่างสูบจุดที่เป็นจุดอ่อนของ 4D56 ถึงใช้ได้ยันขายรถ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมคงต้องเอาเยี่ยงอย่างมั้งแล้ว
ลองตามเรื่องดูครับจริงๆอยากให้เปลี่ยนเครื่องไปเลยเพราะถึงขนาดร้อนแล้วดับนี้หนักเหมือนกันครับ ถ้ารถป๋าตอนเกิดเหตุเดิมสนิทไม่มีการใส่กล่องแต่งกล่องซิ่งอะไร ลองปรึกษาขั้นตอนวิธีการขอเคลมเปลี่ยนเครื่องจากป๋า เจ้าของกระทู้ใน link ดูนะครับ ส่วนอาการที่บอกว่าหลังจากซ่อมมามีเสียงแปลกๆก็เกิดจากหลายสาเหตุถ้าให้คิดในเรื่องที่เบาสุดก็แค่เสียงวาล์วดังปรับตั้งใหม่ก็หายครับ แต่ถ้าอาการหนักก็พวกแหวนหักลูกสูบแตก ป๋าลองชักก้านวัดน้ำมันเครื่องออกตอนติดเครื่องอยู่ดูครับถ้ามีน้ำมันพุ่งออกมาแสดงว่ามีปัญหาเครื่องหลวม แหวนหัก หรือลูกสูบแตกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าถึงขั้นนี้อย่าได้ยอมครับเปลี่ยนเครื่องสถานเดียว เอาใจช่วยครับสู้ให้ถึงที่สุด ถ้าไม่ไหวก็ขายไปเลยครับ ของผมเคยเจออาการความร้อนสูงเปลี่ยนปะเก็นไปสองรอบ แต่รถผม triton คันเก่าไปทำให้มันแรงมาเลยเคลมไม่ได้ครับต้องซ่อมเองจากนั้นก็ขายแล้วมาซื้อปานี่หละครับ เครื่องตัวนี้มีจุดอ่อนตรงนี้ครับเค้าถึงไม่ค่อยเอาไปแต่งซิ่งได้เท่าไร การเข้าศูนย์ตอนรับรถเราควรตรวจสอบเรื่องฝาปิดต่างๆด้วยครับเพราะมาตรฐานศูนย์บริการก็รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นไง เวลาผมเข้าศูนย์ผมจะไปยืนเฝ้าตลอดครับว่าเค้าทำอะไรไปบ้าง เอาใจช่วยนะครับขอให้หายไวๆ เปลี่ยนเครื่องใหม่ไปเลยยิ่งดี  smile..


ขอบคุณมากครับ ป๋า สำหรับคำแนะนำ ตอนนี้คุณพ่อผมได้รับการติดต่อจาก ศูนย์ Mitsu พิษณุโลก ว่าให้ไปรับรถได้แล้ว รถทำการแก้ไขปัญหา หมดแล้ว แต่ผมไม่เชื่อหลอกครับ ผมได้โทรไปบอกให้พ่อทำตามคำแนะนำของ ป๋า ตอนไปรับรถแล้วนะครับ ถ้าเสียงเครื่องยังดังไม่หาย รึ ติดเครื่องไว้แล้วดึงสายวัดระดับน้ำมันเครื่องแล้วมีน้ำมันเครื่องฟุ่งออกมา คงจะยาว เดียวช่วงบ่ายจะไปรับรถครับ ยังไงถ้าได้ความคืบหน้าแล้วจะมาอัพเดตความคืบหน้าให้ทราบกันอีกครั้งนะครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ เมษายน 25, 2013, 10:54:05 am
ขออนุญาติ

มาติดตามดูคับ
ผมล่ะกังวลกับมาตรฐานการผลิต
ของมิตซูสะแล้ว  ทนไม่ได้


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 25, 2013, 03:30:33 pm
มาอัพเดตครับ

ในวันนี้ผมได้รับการติดต่อให้ไปรับรถ ที่เอาไปเช็คปัญหาน้ำมันเครื่องรั่วซึมที่ เครื่องยนต์ครับ เลยให้คุณพ่อเป็นคนไปรับ และ ให้ช่วยทำการตรวจสอบ ตามที่ ป๋าๆ ได้แนะนำมา ได้ผลดังนี้ครับ
1.ทางช่างได้ทำการย้ำน๊อตทุกตัวให้ใหม่พร้อม ตรวจสอบรอยกระกบตามซีน และ ขอบประเก็นต่าง และ เอาไปขับทดสอบพบว่าไม่มีการรั่วซึมแล้ว หัวหน้าช่างแอบบ่นว่าต้องมาตามเก็บงานคนอื่นเบื่อจัง หุหุ (แต่ยังไม่แน่ เพราะตอนที่มันซึมตอนนั้น นั้งมา 5 คน + สัมภาระ)เหยียบขึ้นเขา น้ำหนาว-หล่มสัก แบบ เข็มรอบเครื่องแตะ red line)

2.คำแนะนำที่ pa JAJA-RY ให้ทำการติดเครื่องแล้วลองดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก แล้วดูว่ามี ละออง น้ำมัน หรือ ควัน อะไรออกมามั้ย  สรุปว่าไม่มีนะครับ (โล่ง เครื่องมันยังไมหลวม)

3.เรื่องที่เครื่องยนต์มีเสียงตอนออกตัวที่ Gear 1 รอบ 1500 rpm ความเร็วที่ 20 kmph ที่มีเสียงดังแปลกกว่าชาวบ้านชาวช่อง เหมือนรถเครื่องเข็ก นั้นทางช่างได้ทำการ Render เครื่อง (เขียนอย่างนี้เปล่าหว่า) ให้ใหม่ทั้งหมด เท่าที่คุณพ่อฟังมา เสียงดังกล่าวได้หายไปแล้ว

4.ผมได้ส่ง E-Mail ข้อเรียกร้องให้ทาง MMTH ทำการสอบสวนหาสาเหตุที่รถของผมมีปัญหาหลังจากที่เข้าทำการเช็คระยะที่ศูนย์บริการ ว่าเกิดจากความผิดพลาดของศูนย์ หรือ เป็นความผิดพลาดจากโรงงานผลิต โดยให้ทำหนังแจ้งเป็นทางการ (ถ้าสามารถสรุปได้แล้วจะมาอัพเดตอีกทีครับ)

หวังว่ามันจะหายเป็นปกติ ซะทีนะ ป่วยมานานแล้ว

ขอขอบคุณเพื่่อน พี่ๆ ทุกท่านที่ให้คำเสนอแนะ ที่ดี และ คอยแนะนำมาตลอดครับ
ขอขอบคุณ Call Center MMTH ที่ตามเรื่องให้ และ ไม่รำคาญคนขี้บ่นอย่างผมซะก่อน
ขอขอบคุณทุกๆฝ่ายที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาในครั้งนี้
ขอบคุณบ้านหลังนี้ที่ให้ความอบอุ่นเสมอมา   ซึ้งๆๆๆๆ :'(


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Mr. KUA ที่ เมษายน 25, 2013, 03:47:39 pm
   ส่วนตัว...ผมขอเป็นกำลังใจกับ ท่านเจ้าของรถ PJS  ทุกท่าน ทุกรุ่นครับ...เพราะผมก็เป็นสมาชิกเช่นกัน


ขอให้ จขกท. ผ่านพ้นวันอันโหดร้ายไปได้ด้วยดีในที่สุดครับ...ทำบุญเยอะ ๆ บ่อย ๆ หน่อยนะครับ...ป๋า  สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: บังซุบรถยก ที่ เมษายน 25, 2013, 07:07:14 pm
 ตกใจ ตกใจ ตกใจ ตกใจหมด ตกใจหมด ตกใจหมด


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: AekOverfill ที่ เมษายน 25, 2013, 09:14:29 pm
ดีใจด้วยป๋าหายละ eie ผมสงสัยข้อ3อะ
3.เรื่องที่เครื่องยนต์มีเสียงตอนออกตัวที่ Gear 1 รอบ 1500 rpm ความเร็วที่ 20 kmph ที่มีเสียงดังแปลกกว่าชาวบ้านชาวช่อง เหมือนรถเครื่องเข็ก
  นั้นทางช่างได้ทำการ Render เครื่อง (เขียนอย่างนี้เปล่าหว่า) ให้ใหม่ทั้งหมด เท่าที่คุณพ่อฟังมา เสียงดังกล่าวได้หายไปแล้ว
  Render เครื่อง คือทำอย่างไรกับเครื่องอะป๋า จะได้ไปบอกทาง 0 ให้จัดให้บ้าง ของผมก็เป็นอะป๋า ตอนรอบ1500 แต่ไม่ใช่ Gear 1 crying


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: JAJA-RY ที่ เมษายน 25, 2013, 09:43:17 pm
ดีใจด้วยป๋าหายละ eie ผมสงสัยข้อ3อะ
3.เรื่องที่เครื่องยนต์มีเสียงตอนออกตัวที่ Gear 1 รอบ 1500 rpm ความเร็วที่ 20 kmph ที่มีเสียงดังแปลกกว่าชาวบ้านชาวช่อง เหมือนรถเครื่องเข็ก
  นั้นทางช่างได้ทำการ Render เครื่อง (เขียนอย่างนี้เปล่าหว่า) ให้ใหม่ทั้งหมด เท่าที่คุณพ่อฟังมา เสียงดังกล่าวได้หายไปแล้ว
  Render เครื่อง คือทำอย่างไรกับเครื่องอะป๋า จะได้ไปบอกทาง 0 ให้จัดให้บ้าง ของผมก็เป็นอะป๋า ตอนรอบ1500 แต่ไม่ใช่ Gear 1 crying
น่า จะเป็นการ learning ครับป๋า ทำให้ระบบต่างๆกลับมาเป็นค่าเริ่มต้น เช็คระบบต่างๆไปในตัว ถ้ารถมีการถอดรื้อ sensor หรือมีการเปลี่ยนอุปกรณ์พวก sensor,pump,SCV หัวฉีด อะไรพวกนี้ต้องทำการ learning ก่อนที่จะเอาออกมาใช้งานครับเพื่อเป็นการยืนยันว่าระบบต่างพร้อมใช้งานเพราะบางครั้งมี learning ไม่ผ่านเพราะรถมีปัญหาบางอย่างอยู่ต้องทำการแก้ไขก่อนแต่ก็ยังใช้งานได้แต่ไม่สมบูรณ์ ไปที่ศูนย์บอกเค้าเลินนิ่งให้ครับเค้าน่าจะรู้ถ้าไม่รู้ก็แย่มากละศูนย์นั้น


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 25, 2013, 11:19:43 pm
ดีใจด้วยป๋าหายละ eie ผมสงสัยข้อ3อะ
3.เรื่องที่เครื่องยนต์มีเสียงตอนออกตัวที่ Gear 1 รอบ 1500 rpm ความเร็วที่ 20 kmph ที่มีเสียงดังแปลกกว่าชาวบ้านชาวช่อง เหมือนรถเครื่องเข็ก
  นั้นทางช่างได้ทำการ Render เครื่อง (เขียนอย่างนี้เปล่าหว่า) ให้ใหม่ทั้งหมด เท่าที่คุณพ่อฟังมา เสียงดังกล่าวได้หายไปแล้ว
  Render เครื่อง คือทำอย่างไรกับเครื่องอะป๋า จะได้ไปบอกทาง 0 ให้จัดให้บ้าง ของผมก็เป็นอะป๋า ตอนรอบ1500 แต่ไม่ใช่ Gear 1 crying
น่า จะเป็นการ learning ครับป๋า ทำให้ระบบต่างๆกลับมาเป็นค่าเริ่มต้น เช็คระบบต่างๆไปในตัว ถ้ารถมีการถอดรื้อ sensor หรือมีการเปลี่ยนอุปกรณ์พวก sensor,pump,SCV หัวฉีด อะไรพวกนี้ต้องทำการ learning ก่อนที่จะเอาออกมาใช้งานครับเพื่อเป็นการยืนยันว่าระบบต่างพร้อมใช้งานเพราะบางครั้งมี learning ไม่ผ่านเพราะรถมีปัญหาบางอย่างอยู่ต้องทำการแก้ไขก่อนแต่ก็ยังใช้งานได้แต่ไม่สมบูรณ์ ไปที่ศูนย์บอกเค้าเลินนิ่งให้ครับเค้าน่าจะรู้ถ้าไม่รู้ก็แย่มากละศูนย์นั้น

ขอบคุณป๋า JAJA-RY มากครับที่มาแก้เขินให้  ooo ก็น่าจะเป็นการ learning อย่างที่ ป๋าว่าล่ะครับตอบแรกที่ฟังช่างอธิบายทางโทรศัพท์ ก็ยังงว่า มันเหมือน render ภาพถ่ายรึเปล่า  หุหุ


 ทนไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้พ่อผมโทรมาบอกว่าพอขับรถจากศูนย์ก็เอารถไปล้างทำความสะอาดคราบน้ำมันที่เครื่องจนเอี่ยมแล้ว  O0  แต่กลับมาถึงบ้านเปิดฝากระโป่งดูน้ำมันเครื่อง มันซึมออกมาอีกแล้วครับ  ฮือๆๆๆๆ  ^-^ ^-^ ไหนศูนย์บอกว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วไง  crying


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ เมษายน 25, 2013, 11:24:13 pm
   ส่วนตัว...ผมขอเป็นกำลังใจกับ ท่านเจ้าของรถ PJS  ทุกท่าน ทุกรุ่นครับ...เพราะผมก็เป็นสมาชิกเช่นกัน


ขอให้ จขกท. ผ่านพ้นวันอันโหดร้ายไปได้ด้วยดีในที่สุดครับ...ทำบุญเยอะ ๆ บ่อย ๆ หน่อยนะครับ...ป๋า  สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ

สรุปอาการยังไม่หายจ้า ไปรับรถล้างเครื่องจนเอี่ยม พอขับกลับมาถึงบ้านก็อาการเดิมอีก คือ มีคราบน้ำมันเกาะตามเครื่องยนต์ อีกแล้วจ้า


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: attenza ที่ เมษายน 26, 2013, 11:37:24 am
เป็นกำลังใจให้ครับป๋า เป็นไปได้ไหมถ้าเราขับรถไปร้องเรียนที่สำนักงานใหญ่เลยอะครับ  สาธุ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: อิษฏ์_สุบิน ปาศาลายา ฮาเฮ.. ที่ เมษายน 26, 2013, 12:58:05 pm
มาเป็นกำลังใจอีกคน  ครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Suriya(PaC) ที่ เมษายน 27, 2013, 02:59:32 pm
ผมว่าต้องลงเครื่องใหม่ เหมือนป๋าเอก(ake_mini) หรือ ป๋า gee ลองปรึกษากันดูนะครับ
ศูนย์คงซ่อมให้ไม่เหมือนเดิมแน่ๆ เพราะช่างศูนย์ให้ใส่ Photo sensor ยังใส่ไม่เป็นเลย

สมมุติว่าได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ ก็ฝากดูหมายเลขเครื่องด้วยนะครับ อยากให้ตรงกับในเล่ม MMTH เคยทำให้ป๋าเอก

ดูตัวอย่างกระทู้ของป๋าเอก
หลังจากรับรถเพียง 5วัน กับปาขาว MY 12
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=3715.msg132837#msg132837

ดูตัวอย่างกระทู้ของป๋า GEE
ช่วยด้วย.....น้องปาเครื่องร้อนครับ
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=6030.msg195775#msg195775


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: tee_noi ที่ เมษายน 27, 2013, 04:31:14 pm

แจ๊คพอต มาแตกที่ป๋าพอดีคับ  crying crying crying

แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้อีกหนึ่งเสียงนะคับ   O0 O0 O0


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: excellent ที่ เมษายน 27, 2013, 04:47:37 pm
เป็นกำลังใจให้ครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: AekOverfill ที่ เมษายน 27, 2013, 07:33:15 pm
ดีใจด้วยป๋าหายละ eie ผมสงสัยข้อ3อะ
3.เรื่องที่เครื่องยนต์มีเสียงตอนออกตัวที่ Gear 1 รอบ 1500 rpm ความเร็วที่ 20 kmph ที่มีเสียงดังแปลกกว่าชาวบ้านชาวช่อง เหมือนรถเครื่องเข็ก
  นั้นทางช่างได้ทำการ Render เครื่อง (เขียนอย่างนี้เปล่าหว่า) ให้ใหม่ทั้งหมด เท่าที่คุณพ่อฟังมา เสียงดังกล่าวได้หายไปแล้ว
  Render เครื่อง คือทำอย่างไรกับเครื่องอะป๋า จะได้ไปบอกทาง 0 ให้จัดให้บ้าง ของผมก็เป็นอะป๋า ตอนรอบ1500 แต่ไม่ใช่ Gear 1 crying
น่า จะเป็นการ learning ครับป๋า ทำให้ระบบต่างๆกลับมาเป็นค่าเริ่มต้น เช็คระบบต่างๆไปในตัว ถ้ารถมีการถอดรื้อ sensor หรือมีการเปลี่ยนอุปกรณ์พวก sensor,pump,SCV หัวฉีด อะไรพวกนี้ต้องทำการ learning ก่อนที่จะเอาออกมาใช้งานครับเพื่อเป็นการยืนยันว่าระบบต่างพร้อมใช้งานเพราะบางครั้งมี learning ไม่ผ่านเพราะรถมีปัญหาบางอย่างอยู่ต้องทำการแก้ไขก่อนแต่ก็ยังใช้งานได้แต่ไม่สมบูรณ์ ไปที่ศูนย์บอกเค้าเลินนิ่งให้ครับเค้าน่าจะรู้ถ้าไม่รู้ก็แย่มากละศูนย์นั้น
ขอบคุณมากครับป๋า เดี๋ยวเช็ค 10000 โล จะให้เค้า learning ดู(เผื่อจะหาย) smile..


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: AekOverfill ที่ เมษายน 27, 2013, 07:38:30 pm
ดีใจด้วยป๋าหายละ eie ผมสงสัยข้อ3อะ
3.เรื่องที่เครื่องยนต์มีเสียงตอนออกตัวที่ Gear 1 รอบ 1500 rpm ความเร็วที่ 20 kmph ที่มีเสียงดังแปลกกว่าชาวบ้านชาวช่อง เหมือนรถเครื่องเข็ก
  นั้นทางช่างได้ทำการ Render เครื่อง (เขียนอย่างนี้เปล่าหว่า) ให้ใหม่ทั้งหมด เท่าที่คุณพ่อฟังมา เสียงดังกล่าวได้หายไปแล้ว
  Render เครื่อง คือทำอย่างไรกับเครื่องอะป๋า จะได้ไปบอกทาง 0 ให้จัดให้บ้าง ของผมก็เป็นอะป๋า ตอนรอบ1500 แต่ไม่ใช่ Gear 1 crying
น่า จะเป็นการ learning ครับป๋า ทำให้ระบบต่างๆกลับมาเป็นค่าเริ่มต้น เช็คระบบต่างๆไปในตัว ถ้ารถมีการถอดรื้อ sensor หรือมีการเปลี่ยนอุปกรณ์พวก sensor,pump,SCV หัวฉีด อะไรพวกนี้ต้องทำการ learning ก่อนที่จะเอาออกมาใช้งานครับเพื่อเป็นการยืนยันว่าระบบต่างพร้อมใช้งานเพราะบางครั้งมี learning ไม่ผ่านเพราะรถมีปัญหาบางอย่างอยู่ต้องทำการแก้ไขก่อนแต่ก็ยังใช้งานได้แต่ไม่สมบูรณ์ ไปที่ศูนย์บอกเค้าเลินนิ่งให้ครับเค้าน่าจะรู้ถ้าไม่รู้ก็แย่มากละศูนย์นั้น

ขอบคุณป๋า JAJA-RY มากครับที่มาแก้เขินให้  ooo ก็น่าจะเป็นการ learning อย่างที่ ป๋าว่าล่ะครับตอบแรกที่ฟังช่างอธิบายทางโทรศัพท์ ก็ยังงว่า มันเหมือน render ภาพถ่ายรึเปล่า  หุหุ


 ทนไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้พ่อผมโทรมาบอกว่าพอขับรถจากศูนย์ก็เอารถไปล้างทำความสะอาดคราบน้ำมันที่เครื่องจนเอี่ยมแล้ว  O0  แต่กลับมาถึงบ้านเปิดฝากระโป่งดูน้ำมันเครื่อง มันซึมออกมาอีกแล้วครับ  ฮือๆๆๆๆ  ^-^ ^-^ ไหนศูนย์บอกว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วไง  crying
ไม่เป็นไรป๋า อยู่ที่นี่เราช่วยๆกันไป smile..
ปล.เป็นกำลังใจให้ครับ heart


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ พฤษภาคม 02, 2013, 01:33:41 pm
ไม่ค่อยได้เข้ามา เพิ่งเห็น อ่านแล้วเหนื่อยจริง ๆ (มันยาววววว) ล้อเล่นครับป๋า   ผมก็เจอแล้วเปลี่ยนเครื่องไปแล้วที่ 0 พิดโลกนี้แหละครับ  แต่ไม่ได้อารมณ์เหมือนป๋าเพราะไม่ได้ไปเจอที่กระเข็บชายแดนเหมือนป่า

ตอนนี้เข้าทำอะไรให้บ้างแล้วครับ  ขอผมอาการยังไม่สรุปไม่ได้ แต่ลื้อเครื่องรถสุดที่รักผมขาดนี้ก็ยอมไม่ได้แล้ว
สู่ ๆ ครับป๋าขอให้หายไว ๆ

น้ำดัน
http://youtu.be/B4-WH8Sq120
ติดเครื่องเดินเบา
http://youtu.be/IbgtDxFyYQI

http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=6030.90
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=9679.0
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=11012.0


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: amornpan ที่ พฤษภาคม 06, 2013, 08:41:46 am
เพชรพระะอุม่เวอร์ชั่นปาเจโร่สปอร์ต


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 12:23:37 pm
วันนี้ว่างแวะมาอัพเดตอาการน้องปาน้ำมันเครื่องซึมตามที่เคยโพสไปก่อนหน้านี้ครับ

1.หลังจากที่ทำการแจ้งทาง Call Center MMTH เรื่องเอารถเข้าไปเครมเรื่องน้ำดันความร้อนขึ้น แล้วไปของแถมเป็นอาการใหม่คือมีน้ำมันเครื่องซึมออกมาใต้ ปั้ม สูญญากาศ แล้ว ทำการเข้าไปเครมอีกรอบที่ศูนย์ พิษณุโลกเมื่อวันที่ 23/4/2556 และรับรถออกมาใช้งานเมื่อวันที่ 25/4/2556 แล้วอาการยังไม่หาย

2.ในวันที่ 30/4/2556 น้องชายกับคุณแม่ได้เดินทางมากรุงเทพด้วยน้องปาตัวแสปคันดังกล่าว แต่เมื่อเดินทางมาถึงแถวๆสิงห์บุรีน้องก็โทรมาถามว่าทำไมเสียงเครื่องรถมันถึงได้ดังอย่างกับเรือเลยล่ะ  เลยให้น้องจอดพักรถที่ปั้มน้ำมันแล้วทำการตรวจสอบเครื่องยนต์ก็พบว่าที่ ปั้ม สูญญากาศ มันมีน้ำมันรั่วออกมา  ตอนที่คุยโทรศัพท์กันผมก็เข้าในว่ามันคงเป็นอาการเดิมล่ะมั้นที่มีน้ำมันเครื่องซึมออกมา แต่พอน้องมันถ่ายรู)ส่งมาให้ดูก็เลยรู้ว่าะ เฮ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันไม่ใช่น้ำมันเครื่องซึมแล้วๆๆๆๆจ้า นี่มันน้ำมันเครื่องรั่วเหมือน รถไส้แตกเลย อ๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไหนศูนย์พิษณุโลก กับ Call Center MMTH ยืนยันหนักหนาว่ามันเสร็จแล้วหายแล้วไงล่ะ โดน MMTH หลอกเอาอีกแล้วๆๆๆๆๆ

เมื่อเปิดฝากระโปงรถขึ้นก็จะพบกับปั้ม สูญญากาศ ที่มีน้ำมันเครื่องไหลออกมาเลย ย้ำ ว่าก่อนเอาเข้าไปซ่อมมันแค่ซึมนะแต่นี่มันรั่วออกมาเลย แสดงว่าช่างศูนย์นอกจากจะไม่ช่วยอะไรเราแล้วยังสร้างปัญหาให้เราเพิ่มมากขึ้นอีกใช่มั้ยเนี้ย

(http://image.ohozaa.com/i/980/RmCg1Y.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHLSasQs0VgqO8)
(http://image.ohozaa.com/i/ed7/7ffkme.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHMA7PpnozA1yN)
น้ำมันเครื่องไหลออกมาเห็นๆเลยครับ

(http://image.ohozaa.com/i/742/SV51KY.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHMe997OF9AvNh)
เอานิ้วไปลูปดูก็เห็นว่าเป็นน้ำมันเครื่องไหลออกมาให้เห็นเลยทีเดียว

(http://image.ohozaa.com/i/6c8/RrIlpf.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHMA7Ppwy3HqEo)
พอก้มลงไปดูใต้ปั้ม สูญญากาศ ก็จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์อาบไปด้วยน้ำมันเครื่องเต็มไปหมด

สรุป.ซื้อรถมิตซูบิชิมาใช้ก็อย่าไว้ใจโรงงาน อย่างวางใจศูนย์ แล้วทุกอย่างจะดีเอง (มั้ง)


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 12:44:11 pm
แต่ทะว่าในความโชคร้ายนั้นก็มีความโชคดีปะปนอยู่ด้วยเพราะปั้มที่น้องชายเอารถเข้าไปจอดเพื่อตรวจเช็คนั้นอยู่ข้างๆกับศูนย์ Mitsu สิงห์บุรีพอดี เลยสั่งการให้พลขับ มุ่งหน้าเข้าไปทันที  แต่ ก็อีกล่ะครับ ขณะนั้นเป็นเวลา 17.10 น. ศูนย์บริการปิดทำการแล้วจ้า ตกใจหมด

(http://image.ohozaa.com/i/eec/wAvgXY.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHP3YBoyaHkOq2)

แต่ก็ไม่สนใจล่ะยังเห็นช่างทำงาน OT กันอยู่ในศูนย์กันตั้งหลายคน คนกำลังตกที่นั้งลำบาก เข้ามาขอความช่วยเหลือ ถึงจะบอกว่าตอกบัตรเลิกงานแล้ว จะไม่ช่วยมาดูให้เลยก็ให้มันรู้ไปสิว่ะะะ  O0
(http://image.ohozaa.com/i/63f/3KnXrn.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHOm1ePvy0JPXy)
(http://image.ohozaa.com/i/2b1/f3GQI3.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHO02yxSDHriuy)
(http://image.ohozaa.com/i/c69/vIDIrM.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHOm1ePjJMsChI)
พอทางช่างมาดูทีแรกก็เหมือนจะไม่ช่วยอะไร จะ ให้มาใหม่พรุ่งนี้ล่ะครับ แต่ผมได้โทรไปโวยวายกับ Call Center ไว้แล้ว แล้วก็บอกว่าจะเอารถเข้าที่ศูนย์นี้ ทาง Call Center คงจะโทรมาหักคอศูนย์ให้ช่างจึงได้ลงมือทำ
ถอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อีกแล้ว รถคันนี้มันจะโดนรื้ออีกซักกี่ครั้งกันนะ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 12:56:43 pm
รื้อปั้มสูญญากาศออกมาแล้วเละเทอะไปด้วยน้ำมันเครื่องสกปรกจริงๆๆๆๆๆๆๆ
(http://image.ohozaa.com/i/c1d/WCKyU7.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHPpXhG8lfn9W6)

แต่เมื่อช่างทำการทำความสะอาดแล้วตรวจสอบดูว่าทำไมน้ำมันเครื่องมันถึงได้รั่วก็เจอสาเหตุล่ะครับ นั้นคือ  ..................... ช่างที่ศูนย์พิษณุโลกที่รื้อเครื่อมเค้าประกอบเครื่องกลับไปโดยใส่ลูกยางโอริงไม่ครบ แล้วยางวงที่ใส่ ก็พยายามยัดเข้าไปจนมันขาด แต่ขาดก็ไม่เปลี่ยนนะครับยัดมาให้ลูกค้าใช้ทั้งๆอย่างนั้น แถม กาวทาโอริงก็ไม่ทามาให้แม้แต่น้อย ............................. นี่เหรอว่ะช่างศูนย์ โคตรจะเฮงซวยเลย

(http://image.ohozaa.com/i/760/IpNAzi.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHMW6vGZTiI3uT)
(http://image.ohozaa.com/i/f53/FkbniU.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHNi5bYHWmYt9A)

จากรูปสังเกตุที่โอริงสีส้มให้ดีครับว่าตามปกติแล้ว ในปั้มสูญญากาศ มันจะต้องมีอยู่ 2 วง ด้วยกันเป็น วงเล็ก 1 วง และ วง ใหญ่ๆ 1 วงตามในรูป

ก็เกิดคำถามแล้ว โอริงของผมมันหายไปไหน?????

ที่นี้มาดูสภาพโอริ่งที่ช่าง(ประจำศูนย์) เค้าใส่ให้มาบ้างครับ  ขาดกระจุย (ขาดแล้วทำไมไม่เปลี่ยนว่ะ สงสัยจริงๆๆๆเลย)
(http://image.ohozaa.com/i/afb/vRnKSy.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOEHNE3Sgeyu4kqt)

แต่ทางศูนย์ก็มาแจ้งให้ทราบล่ะครับว่าอะไหล่ 2 ชิ้นนี้ทางศูนย์ไม่มีเลย  crying 
แต่แม่กับน้องผมก็ยืนยันว่าต้องรีบเดินทางช่างก็เลยหายไปซักพักแล้วก็ได้โอริงมา 2 วงตามรูปด้านบน น้องผมมันก็แอบถามไปว่าไหนว่าไม่มีไปเอามาจากไหนพี่ ช่างเค้าก็สื่อ และ ใจดี เค้าตอบกลับมาว่าไปแกะมาจาก pajero คันอื่นมาให้  ตกใจหมด ไม่รูปรถของใครนะพี่น้อง เอิ่มๆๆๆๆๆ โอ๊ยมึน ศูนย์บริการเค้าทำกันแบบนี้ด้วยเหรอถิดอะไหล่รถลูกค้าเอาไปเปลี่ยนให้คันอื่นแล้วค่อย เบิกใหม่มาใส่ให้ ?????????????????????????


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: suPreme ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 01:05:57 pm
การกระทำของช่างไม่รู้จะชมหรือด่าดีนะครับป๋า (สลับของคันอื่นมาให้เรา)
ถ้าช่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำไป และทำเครื่องหมายบอกช่างคนอื่น ๆ ที่อาจมาจับต่อ
ก็จะไม่สร้างปัญหาต่อให้กับอีกคันที่ไปถอดของเค้ามา และไม่ไป charge ค่าอะไหล่ของอีกคัน

แต่สำหรับของป๋าปิด job นี้ไปได้ ดีใจด้วยครับ  :)


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 01:06:15 pm
ขออนุญาติ

รถป๋านี่ ยังไม่เสร็จสิ้นสะทีนะคับ
แนะนำว่าป๋า เข้าร่วมที่
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=16579.0 (http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=16579.0)
มิตซู ควรจะต้องรับผิดชอบ ให้อะไรดีขึ้นบ้าง


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 04:02:18 pm
การกระทำของช่างไม่รู้จะชมหรือด่าดีนะครับป๋า (สลับของคันอื่นมาให้เรา)
ถ้าช่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำไป และทำเครื่องหมายบอกช่างคนอื่น ๆ ที่อาจมาจับต่อ
ก็จะไม่สร้างปัญหาต่อให้กับอีกคันที่ไปถอดของเค้ามา และไม่ไป charge ค่าอะไหล่ของอีกคัน

แต่สำหรับของป๋าปิด job นี้ไปได้ ดีใจด้วยครับ  :)

มันจะปิดได้จริงรึเปล่าก็ไม่รู้นะครับ ว่าจะปิดๆๆ ก็ได้ปัญหาใหม่เข้ามาเรื่องๆๆ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 01:04:42 pm
เห็นแล้วเซ็งแทนเลยป๋า ขอให้หาไว ๆ ครับ  ผมใช้บริการที่ ศูนย์พิดโลกประจำด้วยดิ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: 7vsm ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 05:54:41 pm
ถ้าถอดจากเครื่องที่มีอุบัติเหตุหรือถอดจากรถเทสไดร ใน 0ก็เป็นทางเลือกของ0นะครับหรืออาจจะไปดูซีลเก่าๆที่ทิ้งไว้มาใส่ให้เลยเกิดอาการขาด  การขาดตอบไม่ได้ว่าขาดตอนไหน ตอนใส่หรือตอนถอด พิสูจน์ยากครับ  กลัวจะเป็นของมือ2 เก่าเก็บ ถ้าเบิกอะไหล่ให้ใหม่ก็จบ ของผมเคยใช้อีกคันเป็นรถเก๋งบริการของเจ้าตลาดอีกยี่ห้อนึง  สวิทช์ กระจกไฟฟ้ามันไม่ค่อยดี มันหลวม(รถป้ายแดง) ก็เอาจากtest drive ใน0     เรื่องนี้ผมว่า0  ทำได้ ถ้าจำเป็นจริงๆ หรือไม่ก็ให้ลูกค้ารออะไหล่ หาโรงแรมนอนค้าง1-2วัน
  อ่านร่ายยาวมหากาพย์ของป๋าแล้ว
 1.น้ำดัน ในระบบหล่อเย็น ไม่รู้ว่าฝาโก่งหรือประเก็นไปแล้วเลยมีอากาศเข้ามาในระบบหล่อเย็นดันที่หม้อน้ำ( น้ำดัน)
 2.ซีลน้ำมันเครื่องหรือซีลตรงกรองน้ำมันเครื่อง ไม่รู้ว่าเกลียวรูดหรือป่าวถอดๆใส่หลายรอบ
 3.เครื่องดีเซลร้อนจนน้ำดันแล้วซ่อมไม่่รู้จะกลับสู่สภาพเดิมหรือป่าว
 4.เรื่องเกียร์ออโต้ตกลงปัญหาเป็นที่ซอพแวร์จนต้องlearnเกียร์ใหม่หรือเครื่องร้อนจนระบภายในเกียร์มีปัญหา คงต้องให้ช่าง0มิตซูที่เราคิดว่าโอเคจัดการ ถ้าซ่อมไม่ได้สงสัย เปลี่ยนยกชุดทั้งเครื่องทั้งเกียร์ ใครเป็นเจาภาพคงต้องเจรจา  ส่วนต่างที่เราจะจ่ายกับส่วนที่เราจะเคลม


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 09:09:36 pm
เห็นแล้วเซ็งแทนเลยป๋า ขอให้หาไว ๆ ครับ  ผมใช้บริการที่ ศูนย์พิดโลกประจำด้วยดิ

อย่าไว้ใจเส้นทาง อย่าวางใจศูนย์มิตซูจ้า


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 09:24:13 pm
ถ้าถอดจากเครื่องที่มีอุบัติเหตุหรือถอดจากรถเทสไดร ใน 0ก็เป็นทางเลือกของ0นะครับหรืออาจจะไปดูซีลเก่าๆที่ทิ้งไว้มาใส่ให้เลยเกิดอาการขาด  การขาดตอบไม่ได้ว่าขาดตอนไหน ตอนใส่หรือตอนถอด พิสูจน์ยากครับ  กลัวจะเป็นของมือ2 เก่าเก็บ ถ้าเบิกอะไหล่ให้ใหม่ก็จบ ของผมเคยใช้อีกคันเป็นรถเก๋งบริการของเจ้าตลาดอีกยี่ห้อนึง  สวิทช์ กระจกไฟฟ้ามันไม่ค่อยดี มันหลวม(รถป้ายแดง) ก็เอาจากtest drive ใน0     เรื่องนี้ผมว่า0  ทำได้ ถ้าจำเป็นจริงๆ หรือไม่ก็ให้ลูกค้ารออะไหล่ หาโรงแรมนอนค้าง1-2วัน
  อ่านร่ายยาวมหากาพย์ของป๋าแล้ว
 1.น้ำดัน ในระบบหล่อเย็น ไม่รู้ว่าฝาโก่งหรือประเก็นไปแล้วเลยมีอากาศเข้ามาในระบบหล่อเย็นดันที่หม้อน้ำ( น้ำดัน)
 2.ซีลน้ำมันเครื่องหรือซีลตรงกรองน้ำมันเครื่อง ไม่รู้ว่าเกลียวรูดหรือป่าวถอดๆใส่หลายรอบ
 3.เครื่องดีเซลร้อนจนน้ำดันแล้วซ่อมไม่่รู้จะกลับสู่สภาพเดิมหรือป่าว
 4.เรื่องเกียร์ออโต้ตกลงปัญหาเป็นที่ซอพแวร์จนต้องlearnเกียร์ใหม่หรือเครื่องร้อนจนระบภายในเกียร์มีปัญหา คงต้องให้ช่าง0มิตซูที่เราคิดว่าโอเคจัดการ ถ้าซ่อมไม่ได้สงสัย เปลี่ยนยกชุดทั้งเครื่องทั้งเกียร์ ใครเป็นเจาภาพคงต้องเจรจา  ส่วนต่างที่เราจะจ่ายกับส่วนที่เราจะเคลม

ขอระบายความในใจดังนี้ครับ
1.ในเรื่องขออะไหล่อย่างน้อยทางศูนย์ก็ควรจะมีสำรองไว้บ้างมันแค่ยางโอริงกันซึม ไม่ได้ราคาแพงอะไรมากมาย เพราะเครื่อง Block มันก็ประจำการทั้งใน Pajerosport และ triton 2.5 VG
2.ถ้าอะไหล่ไม่มีก็รอเบิกได้ เอารถไปทิ้งไว้ศูนย์เพื่อเครมความร้อนขึ้นเป็นเดือนยังเคยมาแล้วเลย แค่นี้จิ๊บๆ และ อีกเรื่องคือเวลาซื้อรถเราซื้อรถใหม่ป้ายแดงนะครับราคาเป็นล้าน ไม่ได้ซื้อรถมือสอง ที่จะไปซื้ออะไหล่เก่าใช้แล้วเชียงกงมาใส่ให้ก็ได้
3.ไอ้เรื่องยางที่ขาดน่ะผมพอเข้าใจได้ว่าเครื่องยนต์มันทำงานตลอดเวลามันอาจจะขาดกันเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ที่ติดใจก็คือ ผมเพิ่งไปเคลมเรื่องน้ำมันซึมในตำแหน่งนี้มาได้3-4วันเอง และรถก็ไม่ได้ขับเลย และ ที่สำคัญ ไอ้ยางโอริงวงใหญ่น่ะมันขาด แต่ ไอ้วงเล็กมันหายไป.......มันหายไปไหนนะ???
4.ไอ้เรื่องน้ำดันเนี้ยมันเริ่มเป็นหลังจากเอารถไปเช็คระยะ 20,000 km ที่ศูนย์พอขับกลับบ้านมาก็ความร้อนขึ้นจนดับ แต่ศูนย์มันก็แค่เติมน้ำให้แล้วรับรถกลับ หลังจากนั้นก็เจอปัญหาน้ำดันมาตลอด เอาเข้าศูนย์ตั้งหลายครั้งแต่ช่างไม่มีปัญญาหาสาเหตุ
5.เรื่องซีลน้ำมันเครื่องที่ซึมมันก็เริมเป็นหลังจากที่ทำการเคลมเรื่องความร้อนขึ้น ที่เราหาสาเหตุเจอเอง
6.ไอ้เรื่องที่ยางโอริงขาด กับ หาย จนน้ำมันเครื่องไหลท่วมห้องเครื่องนั้นมันก็เริ่มหลังจากที่เอาไปเคลมน้ำมันเครื่องซึม (ผมคงผิดเองที่ไม่ได้บอกช่างให้เรียบร้อยว่าจะให้มันไม่ซึม หรือ ให้มันซึมเพิ่ม)
7.ไอ้เรื่องเกียรคงยังไม่พูดถึงตอนนี้ครับ เพราะอาการดีขึ้นบ้างแล้ว เลยมั้งเป้าแก้ไขปัญหาอื่นไปก่อน
8.ก็จริงอย่างที่ปาว่าล่ะครับเครื่องดีเซลร้อนจนดับเครื่องมันยังจะสมบูรณ์เหมือนเดิมเหรอ? แต่บางคันที่เป็นก็ได้เปลี่ยนเครื่อง บางคันก็ไม่ได้เปลี่ยน มาตรฐานการบริการหลังการขายมันอยู่ตรงจุดไหน?????????


***** ปล.ตอนนี้กำลังมีอารมษ์เนื่องมาจากความเครียดเรื่องรถสุดที่รักขอภัยถ้าใช้คำพูดไม่เหมาะสมครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: wian ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 09:41:36 pm


ขอระบายความในใจดังนี้ครับ
1.ในเรื่องขออะไหล่อย่างน้อยทางศูนย์ก็ควรจะมีสำรองไว้บ้างมันแค่ยางโอริงกันซึม ไม่ได้ราคาแพงอะไรมากมาย เพราะเครื่อง Block มันก็ประจำการทั้งใน Pajerosport และ triton 2.5 VG
2.ถ้าอะไหล่ไม่มีก็รอเบิกได้ เอารถไปทิ้งไว้ศูนย์เพื่อเครมความร้อนขึ้นเป็นเดือนยังเคยมาแล้วเลย แค่นี้จิ๊บๆ และ อีกเรื่องคือเวลาซื้อรถเราซื้อรถใหม่ป้ายแดงนะครับราคาเป็นล้าน ไม่ได้ซื้อรถมือสอง ที่จะไปซื้ออะไหล่เก่าใช้แล้วเชียงกงมาใส่ให้ก็ได้
3.ไอ้เรื่องยางที่ขาดน่ะผมพอเข้าใจได้ว่าเครื่องยนต์มันทำงานตลอดเวลามันอาจจะขาดกันเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ที่ติดใจก็คือ ผมเพิ่งไปเคลมเรื่องน้ำมันซึมในตำแหน่งนี้มาได้3-4วันเอง และรถก็ไม่ได้ขับเลย และ ที่สำคัญ ไอ้ยางโอริงวงใหญ่น่ะมันขาด แต่ ไอ้วงเล็กมันหายไป.......มันหายไปไหนนะ???
4.ไอ้เรื่องน้ำดันเนี้ยมันเริ่มเป็นหลังจากเอารถไปเช็คระยะ 20,000 km ที่ศูนย์พอขับกลับบ้านมาก็ความร้อนขึ้นจนดับ แต่ศูนย์มันก็แค่เติมน้ำให้แล้วรับรถกลับ หลังจากนั้นก็เจอปัญหาน้ำดันมาตลอด เอาเข้าศูนย์ตั้งหลายครั้งแต่ช่างไม่มีปัญญาหาสาเหตุ
5.เรื่องซีลน้ำมันเครื่องที่ซึมมันก็เริมเป็นหลังจากที่ทำการเคลมเรื่องความร้อนขึ้น ที่เราหาสาเหตุเจอเอง
6.ไอ้เรื่องที่ยางโอริงขาด กับ หาย จนน้ำมันเครื่องไหลท่วมห้องเครื่องนั้นมันก็เริ่มหลังจากที่เอาไปเคลมน้ำมันเครื่องซึม (ผมคงผิดเองที่ไม่ได้บอกช่างให้เรียบร้อยว่าจะให้มันไม่ซึม หรือ ให้มันซึมเพิ่ม)
7.ไอ้เรื่องเกียรคงยังไม่พูดถึงตอนนี้ครับ เพราะอาการดีขึ้นบ้างแล้ว เลยมั้งเป้าแก้ไขปัญหาอื่นไปก่อน
8.ก็จริงอย่างที่ปาว่าล่ะครับเครื่องดีเซลร้อนจนดับเครื่องมันยังจะสมบูรณ์เหมือนเดิมเหรอ? แต่บางคันที่เป็นก็ได้เปลี่ยนเครื่อง บางคันก็ไม่ได้เปลี่ยน มาตรฐานการบริการหลังการขายมันอยู่ตรงจุดไหน?????????


***** ปล.ตอนนี้กำลังมีอารมษ์เนื่องมาจากความเครียดเรื่องรถสุดที่รักขอภัยถ้าใช้คำพูดไม่เหมาะสมครับ


มาให้กำลังใจป๋าครับ   ยอดเยี่ยม good >:D >:D >:D


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 09:45:07 pm
เข้าใจในอารมณ์ป่าครับ อ่านแล้วเหนื่อยแทน   ผมว่าป่าสรุปเหตุการณ์ ของอาการ และสาเหตุทั้งทั้งหมด ให้กำทาง 0 และสำนักงานใหญ๋ ให้สรุปสาเหตุและสิ่งที่ทำไปแล้วให้ และรับประกันว่ามันจะไม่เกิดเรื่องเดิม ๆ นี้ ถ้ายังเป็นอีกให้เสนอทางออกมาให้เราพิจราณาหรือเราเสนอเลย  รถเราเดิม ๆ ไม่ได้แต่งอะไร เข้าเช็คระยะตลอดไม่น่าจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้  ปัญหามันเกิดกันได้แต่ต้องเอาใจใส่และดูแลลูกค้าให้ดีกว่านี้ เราซื้อรถป้ายแดงราคาเป็นล้าน  


สู้ ๆ ครับป๋า


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: 7vsm ที่ พฤษภาคม 10, 2013, 12:57:02 am


ขอระบายความในใจดังนี้ครับ
1.ในเรื่องขออะไหล่อย่างน้อยทางศูนย์ก็ควรจะมีสำรองไว้บ้างมันแค่ยางโอริงกันซึม ไม่ได้ราคาแพงอะไรมากมาย เพราะเครื่อง Block มันก็ประจำการทั้งใน Pajerosport และ triton 2.5 VG ตอบ ซีลต่างๆอย่างซีลฝาวาว ซีลหน้าเครื่องผมสอบถาม0ทั้ง2แห่งที่ผมคุ้นเคย บอกต้องรออะไหล่สั่ง2-3วัน
2.ถ้าอะไหล่ไม่มีก็รอเบิกได้ เอารถไปทิ้งไว้ศูนย์เพื่อเครมความร้อนขึ้นเป็นเดือนยังเคยมาแล้วเลย แค่นี้จิ๊บๆ และ อีกเรื่องคือเวลาซื้อรถเราซื้อรถใหม่ป้ายแดงนะครับราคาเป็นล้าน ไม่ได้ซื้อรถมือสอง ที่จะไปซื้ออะไหล่เก่าใช้แล้วเชียงกงมาใส่ให้ก็ได้  เห็นด้วยกับการบริการที่หลายมาตรฐานของช่าง ถึงต้องเลือก0และเลือกช่างในเมืองที่มีประสบการณ์
3.ไอ้เรื่องยางที่ขาดน่ะผมพอเข้าใจได้ว่าเครื่องยนต์มันทำงานตลอดเวลามันอาจจะขาดกันเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ที่ติดใจก็คือ ผมเพิ่งไปเคลมเรื่องน้ำมันซึมในตำแหน่งนี้มาได้3-4วันเอง และรถก็ไม่ได้ขับเลย และ ที่สำคัญ ไอ้ยางโอริงวงใหญ่น่ะมันขาด แต่ ไอ้วงเล็กมันหายไป.......มันหายไปไหนนะ???  ไม่มีหรือลืมใส่ 0ต้องมีคำตอบและรับผิดชอบ
4.ไอ้เรื่องน้ำดันเนี้ยมันเริ่มเป็นหลังจากเอารถไปเช็คระยะ 20,000 km ที่ศูนย์พอขับกลับบ้านมาก็ความร้อนขึ้นจนดับ แต่ศูนย์มันก็แค่เติมน้ำให้แล้วรับรถกลับ หลังจากนั้นก็เจอปัญหาน้ำดันมาตลอด เอาเข้าศูนย์ตั้งหลายครั้งแต่ช่างไม่มีปัญญาหาสาเหตุ น่าจะร้องเรียนไปก่อนแล้วค่อยไปเจรจากันว่ามิตซูประเทศไทยกับ0 บริการ(ซึ่งก็ไมรู้ว่าจะเลือก0ไหนเพราะหลายแห่ง)จะรับผิดชอบอย่างไร  ไปตกลงกันและบันทึกเป็นหนังสือถ้าไม่จบก็ว่าไปตามกฎหมาย จะฟ้องเองผ่านศาลแพ่งหรือผ่าน สคบ.
5.เรื่องซีลน้ำมันเครื่องที่ซึมมันก็เริมเป็นหลังจากที่ทำการเคลมเรื่องความร้อนขึ้น ที่เราหาสาเหตุเจอเอง 0บริการการต้องรับผืดชอบร่วมกับMMTH
6.ไอ้เรื่องที่ยางโอริงขาด กับ หาย จนน้ำมันเครื่องไหลท่วมห้องเครื่องนั้นมันก็เริ่มหลังจากที่เอาไปเคลมน้ำมันเครื่องซึม (ผมคงผิดเองที่ไม่ได้บอกช่างให้เรียบร้อยว่าจะให้มันไม่ซึม หรือ ให้มันซึมเพิ่ม)0 ต้องรับผิดชอบร่วมกับMMTH
7.ไอ้เรื่องเกียรคงยังไม่พูดถึงตอนนี้ครับ เพราะอาการดีขึ้นบ้างแล้ว เลยมั้งเป้าแก้ไขปัญหาอื่นไปก่อน   ไหนๆก็จะร้องเรียนแล้วทั้งเครื่องทั้งเกียร์ก็เอาให้ครบเลยจะได้เจรจากันไปพร้อมกัน
8.ก็จริงอย่างที่ปาว่าล่ะครับเครื่องดีเซลร้อนจนดับเครื่องมันยังจะสมบูรณ์เหมือนเดิมเหรอ? แต่บางคันที่เป็นก็ได้เปลี่ยนเครื่อง บางคันก็ไม่ได้เปลี่ยน มาตรฐานการบริการหลังการขายมันอยู่ตรงจุดไหน????????? ตอบ ผมเลือกเปลี่ยนเครื่องตีเลขเดิมเพราะรถมีปัญหาจาก0บริการ+ยังอยู่ในประกัน ขนาดเปลี่ยนคันมิตซูยังเคย มีป๋าๆเคลมมาแล้ว


***** ปล.ตอนนี้กำลังมีอารมษ์เนื่องมาจากความเครียดเรื่องรถสุดที่รักขอภัยถ้าใช้คำพูดไม่เหมาะสมครับ


มาให้กำลังใจป๋าครับ   ยอดเยี่ยม good >:D >:D >:D

เอาเป็นว่าน่าจะร้องเรียนไปสคบ. แล้วทาง สคบ.ก็จะส่งเรื่องต่อให้มิตซูประเทศไทยและ0บริการที่เราไปซ่อมชี้แจงถ้าไม่จบเราค่อยว่าทางคดีต่อ แต่อย่าให้หมดอายุความ1ปีเพราะร้องสคบ.อายุความไม่หยุดครับ ถ้าหลาย0ก็ร่ายมหากาพย์ตามลำดับพร้อมกับใบงานที่สำคัญๆ  ไปวันไหนแจ้งด้วยครับเผื่อแวะไปเยี่ยมเยียน


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: wian ที่ พฤษภาคม 10, 2013, 01:46:15 pm
 good good good heart heart heart >:D >:D >:D


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ มิถุนายน 02, 2013, 09:17:43 pm
มาดัพเดตความคืบหน้าครับ


ล่าสุดหลังจากที่ได้ยื่นเอกสารขอเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปให้ MMTH สำนักงานใหญ่เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 56 และ เงียบไปเกือบเดือน ล่าสุดได้รับการติดต่อกลับมาจาก Call Center ว่าจะขอน้ำรถของเราเข้าไปทำการตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่ โดยใช้เวลาประมาณ 15 วัน เรื่องนี้ผมควรตอบรับดีมั้ยครับ เพราะ ไม่รู้ว่าเค้าจะเอารถเราไปทำอะไรบ้าง ผมไม่อยากให้เค้าเอาไปตรวจสอบแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะ บอกตรงๆความเชื่อใจ และ ไว้ใจในศูนย์บริการ มันไม่มีเหลือเลยครับ  strive


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: sl ที่ มิถุนายน 03, 2013, 05:08:53 pm
ผมว่าให้เขาเอาไปตรวจสอบเถอะครับ  คงไม่มีอะไรเลวลงอีก ถ้าไม่มีอะไรก็แค่เสมอตัว
หรืออาจจะดีขึ้นถ้าเขาเจอปัญหาแล้วแก้ไขให้  หรือยอมเปลี่ยนเครื่องให้ถ้ามันจำเป็นจริงๆ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ มิถุนายน 03, 2013, 08:33:59 pm
มาตามข่าว และเป็นกำลังใจให้ครับป๋า  ก็โยกโย้ตามสูตร ประวัติก็ดูได้ว่าซ่อมอะไรไปแล้วบ้าง ถ้าอยากเอาไปศึกษาก็เปลี่ยนเครื่องให้เขาซะแล้วจะเอาไปทำอะไรก็ไป  ถ้าต่อรองแล้วไม่ย่อม ก็ให้ทำหนังสือสัญญาถ้ากลับมามีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องอีกก็ต้องเปลี่ยนเท่านั้น และชี้แจงพร้อมหลักฐานว่าทำอะไรไปบ้าง

สู่ ๆ ครับป๋า


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: J.sarawut ที่ มิถุนายน 06, 2013, 03:24:51 pm
เป็นกำลังใจครับ good ผมอ่านตั้งแต่เมื่อคืนครับ อ่านทุกตอนและทุกความเห็นครับ smile.. วางไม่ลงจริงๆเลยขอเข้ามาเป็นกำลังใจอีกเสียงครับ ป๋าช่างอดทนดีแท้ครับ ให้ผ่านให้ได้นะครับ ยอดเยี่ยม เป็นความรู้และแนวทางกับเพื่อนๆท่านอื่นในการจัดการและแก้ไขปัญหาทั้งเฉพาะหน้าและบทสรุปครับ สาธุ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: LEKJALEK ที่ มิถุนายน 07, 2013, 09:54:20 pm
อ่านไปด้วยใจระทึก ลุ้นแทนจริงๆครับ ไม่รู้ถ้าเกิดกะตัวเองจะเป็นยังไงบ้าง


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: CHINDANAI ที่ มิถุนายน 08, 2013, 02:33:52 am
สุดยอดอ่ะครับเป็นกำลังใจให้ครับ ป๋าต่อสู้อดทนสุดๆจริงๆ ขอให้ ได้เครื่องใหม่ครับ ถ้าเป็นผมคงไม่อยากให้รื้ออีกแล้ว มันคงจะเละกว่ารถมือสองซะอีก
ผมใช้รถ มิตซูมา 2 คันแล้วครับด้วยใจรัก ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เลย จนตอนนี้ใช้น้องปา ด้วยความไว้ใจจากที่เคยใช้มิตซู
ถ้าคันแรก ที่ซื้อเป็นอย่างป๋า ทุกวันนี้คงไม่ขับน้องปาแล้วหล่ะ น่าเห็นใจป๋ามากๆครับ ยิ่งเป็นรถในฝันด้วยแล้ว พูดไม่ออก เป็นผมคงอายเหมือนกัน
ผมอ่าน อยุ่เกือบ 2 ชั่วโมงป๋าเขียนได้ดีมาก เข้าใจอารมณ์ป๋านะ แต่เขียนได้สนุกอ่านไม่เบื่อจริงอ่านรวดเดียวจบ 
 สรุปคือ รถไม่มีปัญหาตั้งแต่แรก อาจเป็นเพราะศูนย์ที่ผิดพลาด จึงเกิดเรื่องยาวเลย
คันเก่าเคยเจอปัญหานะแต่ไม่เยอะ ทางศูนย์แก้ครั้งแรกไม่หาย บอกว่าปกตินี่แหละ หลังจากนั้น ผมโทรเข้าสำนักงานใหญ่ทันที ต่อ ฝ่ายเทคนิค
อธิบายให้เค้าฟัง แค่นั้นได้คำตอบเลย หลังจากนั้นไม่นาน ศูนย์โดนเลยครับ รีบเอากลับไปทำใหม่ทันที จบเลย
ต้องให้สำนักงานใหญ่สั่ง
 1 ถ้าช่างศูนย์ ไม่รู้ ก็น่าจะโทรไปถามทางสำนักงานใหญ่ก็ได้ ชอบเดาๆอยู่เรื่อย ต้องรอให้ลูกค้าถามเองทำไม
2 มาตรฐานของศูนย์บริการไม่เหมือนกัน ที่ดีๆก็มีแต่น้อย ทางมิตซูต้องมาคอยตรวจสอบ(ขาดการเอาใจใส่)
 สรุป ขอให้ป๋า ได้เครื่องยนต์ใหม่ ครับ ได้คนใหม่ทั้งคันยิ่งดี ยอดเยี่ยม


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ มิถุนายน 10, 2013, 03:29:15 pm
ขอขอบคุณ เพื่อนๆ-พี่ๆ สมาชิกปา ทุกท่าน ที่มาให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา และ คำแนะนำ ทุกๆ comment จากหัวใจ เลยครับ หลังจากนี้ผมก็จะสู้ๆต่อไป เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบที่พึงได้รับจากทาง MMTH ต่อไปครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ มิถุนายน 10, 2013, 04:05:36 pm
มาดัพเดตความคืบหน้าครับ


ล่าสุดหลังจากที่ได้ยื่นเอกสารขอเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปให้ MMTH สำนักงานใหญ่เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 56 และ เงียบไปเกือบเดือน ล่าสุดได้รับการติดต่อกลับมาจาก Call Center ว่าจะขอน้ำรถของเราเข้าไปทำการตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่ โดยใช้เวลาประมาณ 15 วัน เรื่องนี้ผมควรตอบรับดีมั้ยครับ เพราะ ไม่รู้ว่าเค้าจะเอารถเราไปทำอะไรบ้าง ผมไม่อยากให้เค้าเอาไปตรวจสอบแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะ บอกตรงๆความเชื่อใจ และ ไว้ใจในศูนย์บริการ มันไม่มีเหลือเลยครับ  strive


มาอัพเดตความคืบหน้าครับ  despise
              หลังจากที่ได้ทำการส่ง เอกสารขอเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปให้ MMTH สำนักงานใหญ่เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 56 และ เงียบไปจนต้องโทรไปตามอยู่หลายครั้งหลายหนนั้น ทาง Call Center ก็ให้คำตอบว่าไม่เกินสิ้นเดือนจะให้คำตอบว่าจะมีวิธีการอย่างไรกับรถคันนี้ grimace และ ในวันที่ 31 พ.ค.2556 ทาง Call Center ก็ติดต่อกลับมาตรงตามเวลานัดเพื่อแจ้งว่าจะขอตรวจสอบรถตามที่ได้มีการอัพเดตความคืบหน้าไปแล้วนั้น นับจากวันที่ได้รับการแจ้งดังกล่าวจนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา 10 วัน แล้วก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจาก Call Center เพื่อประสานงานใดๆ อีกเลย (สรุปว่าที่โทรมาบอกตอนสิ้นเดือนเป็นการซื้อเวลา เฉยๆใช้มั้ยเนี้ย?ๆๆๆๆๆๆ  scared) จนวันนี้ทนไม่ไหวๆๆๆ แล้วครับ ร้อนใจมากๆๆ เลยโทรไปติดตามเรื่องกับเจ้าหน้าที่ประสานงาน O0 แต่ไม่สามารถ มารับสายได้เนื่องจากติดประชุม เลยขอให้เจ้าหน้าที่ท่านอื่นช่วยรับสายแทน แต่ไม่มีใครเลย เจ้าหน้าที่ทุกท่านติดประชุมกันหมด กรรมก็เลยไปตกอยู่กับเจ้าหน้าที่ผู้รับสาย  faint เป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงครับ ผู้จาดี ไม่เหมือนคนประสานงานเลย หุหุ พอสอบถามความคืบหน้าไป ก็ไม่ได้คำตอบ เพราะเค้าไม่ใช่คนดู Case ของผม รู้เพียงแค่ทาง MMTH มี Solution ออกมาแล้ว (แต่ไม่เห็นแจ้งลูกค้าเนอะ ต้องให้โทรมาตามเองทุกที่ สงสัยจะคิดถึงต้องให้โทรไปหาบ่อยๆๆ ฮ่าๆ) ไอ้เราก็อารมษ์ไม่ปกติอยู่แล้วจากการที่รอมาหลายวันแต่ไม่ได้คำตอบ เลย บ่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นไปชุดใหญ่ จนฟังๆดูเวลาเค้าตอบกลับ ......เหมือนจะร้องไห้ แฮะ ..... crying เอิ่ม ไม่บ่นต่อก็ได้ว่ะ เดียวจะมีคนร้องไห้ให้ฟัง เดียวจะทำใจไม่ได้ หุหุ eie ............................ สรุปที่ผมรอมา 10 วันนั้นทาง MMTH มี Solution ออกมาแล้วแต่ไม่รู้ว่าเป้็นอะไร แต่ก็ไม่ยอมแจ้งลูกค้าเลย ปล่อยให้รอคอยอย่างมีความหวังให้เกิดความเครียดสะสมอยู่ได้......... จนวันนี้ทาง คุณพ่อที่เป็นเจ้าของรถตัวจริง ทนไม่ไหวครับ ส่งเอกสารร้องเรียนไป กระตุ้น ให้ MMTH มีกำลังใจกันอีกรอบ ครับ  sorry

(http://image.ohozaa.com/i/a19/yxGLJY.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wT31dBUJC4Lu5gcb)
(http://image.ohozaa.com/i/639/W1BqlZ.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wT31dBUJBZxCl3lt)

หวังว่าจะมีความคืบหน้าตอบกลับมาบ้างล่ะครับ   crying


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ มิถุนายน 11, 2013, 12:40:12 pm
ถึงเวลา ต้องจิก ต้องตามครับ

ขอให้ได้เครื่องใหม่ไว ๆ ครับป๋า


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ มิถุนายน 11, 2013, 01:10:41 pm
ขออนุญาติ

มาตามดูและให้กำลังใจ
และฝากป๋าด้วยคับ
หากติดต่อทาง Mitsu ได้อีก
เรื่องชุดพวงมาลัย ปา ทั้งหลายจะได้รับการแก้ไขอย่างไงบ้าง
ตอนนี้ อาการมันเป็นทั้ง ปา และไททัน
จะมีอาการมากหรือน้อย เท่านั้นล่ะ
จะเรียกรถทั้งหมดกลับไปแก้ไข
ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนะคับ  strive


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ มิถุนายน 12, 2013, 05:15:00 pm
ขออนุญาติ

มาตามดูและให้กำลังใจ
และฝากป๋าด้วยคับ
หากติดต่อทาง Mitsu ได้อีก
เรื่องชุดพวงมาลัย ปา ทั้งหลายจะได้รับการแก้ไขอย่างไงบ้าง
ตอนนี้ อาการมันเป็นทั้ง ปา และไททัน
จะมีอาการมากหรือน้อย เท่านั้นล่ะ
จะเรียกรถทั้งหมดกลับไปแก้ไข
ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนะคับ  strive

อัพเดตครับ  :D

1.ผมมีโอกาศได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ Call Center ที่ทำหน้าที่ประสานงาน ชื่อคุณวรพxxณครับ ผมก็สอบถามเรื่องการแก้ไขปัญหารถผมตามปกติ sadsad และ ได้แถมเรื่อง เรื่องชุดพวงมาลัย ที่มีปัญหาด้วย และ ได้คำตอบมาว่า "คุณเจ้าของรถอย่าไปเชื่อพวกที่โพสในเน็ตให้มากนักเพราะ พวกนี้มีตัวตนจริง รึเปล่าก็ไม่รู้ และ เวลาให้ช่างเทคนิคไปตรวจสอบก็ไม่พบอาการต้ามที่อ้าง ไม่รู้เป็นพวกคู่แข่งปล่อยข่าวรึเปล่า ก็ไม่รู้ ไอ้คนพวกนี้ทำผมเสียเซ๋ลไปเยอะเหมือนกัน ^-^ " พอฟังว่ามันเป็นการแถ หลบประเด็นที่ถามผมก็เลยไม่ถามต่อล่ะครับ impatient

2.ทาง MMTH นัดให้ผมนำรถเข้าไปทำการตรวจสอบปัญหาที่สำนักงานใหญ่ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของ MMTH เองไม่ใช่ช่างปัญญาอ่อนตามศูนย์บริการนะครับ เป็นผู้มารับรถ และ ทำการสอบถามอาการจากเจ้าของรถเอง (*สังเกตุว่าคราวนี้ MMTH ไม่ดำเนินการผ่าน ศูนย์แล้ว...) นำรถอีกคันมาแลก ให้ผมใช้ระหว่างการตรวจสอบ โดยมีการนัดหมายกันในวันจันทร์ที่ 24/6/2556 เวลา 11.00 น. ที่โชวรูมมิตซูบิชิ สิทธิผล พระราม 3 (ยังม่รุจะเอาไงดีกลัวรถจะโดนรื้อเป็นเศษเหล็กอีกรอบ ***คราวก่อนที่รื้อใส่อุปกรณ์กลับไม่ครบ และ ไม่สมบูรณ์มาแล้วด้วย"  oop

3.ถ้าสมาชิกปาท่านใดอยากผู้คุย หรือ สอบถามปัญหารถสุดที่รักของท่าน กับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคตัวเป็นๆ ก็เรียนเชิญนะครับ ในวันและ เวลาดังกล่าว หรือ จะมาช่วยผมกดดันทาง MMTH ก็ได้นะครับอย่างน้อยเวลาถูกกดดันความชุ่ยในการทำงานมันจะได้ลดลงบ้าง  eie


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: CHINDANAI ที่ มิถุนายน 12, 2013, 07:43:17 pm
ถ้าทางฝ่ายเทคนิคมาดูแลด้วยตัวเองจริงๆน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมนะครับ อย่างน้อยอะไรสึกหรอเสียหายไปเนื่องจาก ความร้อนขึ้น ที่ป๋าเจอมา ชิ้นส่วนน่าจะถูกตรวจสอบอย่างดี
ถ้าเสียหายจริงๆ เค้าต้องเปลี่ยนให้ป๋าแน่ๆ อย่างน้อยก็คืนสภาพจากโรงงาน คงไม่กล้า ที่จะให้ศูนย์บริการตัดสินใจเองแล้ว เพราะป๋าตามเรื่องขนาดนี้
คงกลัวกันบ้างล่ะ น้อยคนนักที่จะตามติดขนาดนี้ เต็มที่ก็ขายทิ้ง  ถ้าไม่ได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ ถึงจะซ่อมเสร็จสมบูรณ์ ป๋าอย่าลืมให้เค้าทำสัญญาขอเปลี่ยนเครื่องยนต์ ถ้าเกิดว่ามันยังมีอาการแบบเดิมๆอีก นะครับ
ขอให้จบซักทีนะครับป๋าเหนื่อยมานาน 


แปลกนะครับ ทีมงาน มิตซู อบรมนักขับไทยส่งไปแข่ง rally draka นักขับสามารถซ่อมรถได้เอง รื้อรถได้ทั้งคัน ซ่อมได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง  แต่ศูนย์ บริการทำไมช่างถึงอ่อนแท้ๆ โอ๊ยมึน


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: wian ที่ มิถุนายน 13, 2013, 12:33:34 pm
มาให้กำลังใจ  heart ครับ  ขอให้ได้รับการแก้ไขตามความต้องการของป๋าโดยเร็วครับ   >:D >:D


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: N_paNYawAt ที่ มิถุนายน 13, 2013, 12:59:35 pm
อัพเดตครับ 

1.ผมมีโอกาศได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ Call Center ที่ทำหน้าที่ประสานงาน ชื่อคุณวรพxxณครับ ผมก็สอบถามเรื่องการแก้ไขปัญหารถผมตามปกติ  และ ได้แถมเรื่อง เรื่องชุดพวงมาลัย ที่มีปัญหาด้วย และ ได้คำตอบมาว่า "คุณเจ้าของรถอย่าไปเชื่อพวกที่โพสในเน็ตให้มากนักเพราะ พวกนี้มีตัวตนจริง รึเปล่าก็ไม่รู้ และ เวลาให้ช่างเทคนิคไปตรวจสอบก็ไม่พบอาการต้ามที่อ้าง ไม่รู้เป็นพวกคู่แข่งปล่อยข่าวรึเปล่า ก็ไม่รู้ ไอ้คนพวกนี้ทำผมเสียเซ๋ลไปเยอะเหมือนกัน  " พอฟังว่ามันเป็นการแถ หลบประเด็นที่ถามผมก็เลยไม่ถามต่อล่ะครับ


-----------------------

ข้อนี้โดนใจเลยป๋า.. มันจี๊ดดดด 
 ^-^ ^-^ ตกใจหมด


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: ritranger ที่ มิถุนายน 13, 2013, 01:22:24 pm
รถผมก็เจอความร้อนขึ้น เหมือนกัน เนื่องจากปะเก็นฝาสูบฉีกขาด  เนื่องจากขับรถเร็ว(160 up ) นานๆไม่มีผ่อน เกิดเลย(ความคิดผมนะ)  เลยเช็คที่ศูนย์เคลมทุกอย่าง ตอนนี้ปกติดีครับ หรือตามกระทู้นี้เลยครับhttp://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=13395.0


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ มิถุนายน 13, 2013, 01:31:52 pm
ขออนุญาติ

อ้างถึง
1.ผมมีโอกาศได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ Call Center ที่ทำหน้าที่ประสานงาน ชื่อคุณวรพxxณครับ ผมก็สอบถามเรื่องการแก้ไขปัญหารถผมตามปกติ และ ได้แถมเรื่อง เรื่องชุดพวงมาลัย ที่มีปัญหาด้วย และ ได้คำตอบมาว่า "คุณเจ้าของรถอย่าไปเชื่อพวกที่โพสในเน็ตให้มากนักเพราะ พวกนี้มีตัวตนจริง รึเปล่าก็ไม่รู้ และ เวลาให้ช่างเทคนิคไปตรวจสอบก็ไม่พบอาการต้ามที่อ้าง ไม่รู้เป็นพวกคู่แข่งปล่อยข่าวรึเปล่า ก็ไม่รู้ ไอ้คนพวกนี้ทำผมเสียเซ๋ลไปเยอะเหมือนกัน อ๋าย!!!!! " พอฟังว่ามันเป็นการแถ หลบประเด็นที่ถามผมก็เลยไม่ถามต่อล่ะครับ

ถ้าเป็นผม จะบอกว่า "ผมเชื่อพวกเขามากกว่าเชื่อคุณอีกน่ะ"  grin


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Kaka ที่ มิถุนายน 13, 2013, 01:35:58 pm
สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: pon306 ที่ มิถุนายน 13, 2013, 02:25:28 pm
สู้ๆๆต่อจนถึงที่สุดเลยครับ ยอดเยี่ยม


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: nokpajero ที่ มิถุนายน 13, 2013, 09:42:14 pm
เป็นกำลังใจให้ครับ heart


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ มิถุนายน 14, 2013, 12:34:44 pm
น่าจะเอาตัวเป็น ๆ ไปเยี่ยม MMTH สักที ไม่แก้ไขอะไรแล้วมาพูดอย่างนี้

ขอให้จบได้ไว้ ๆครับ ป๋า


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ มิถุนายน 17, 2013, 05:21:00 pm
น่าจะเอาตัวเป็น ๆ ไปเยี่ยม MMTH สักที ไม่แก้ไขอะไรแล้วมาพูดอย่างนี้

ขอให้จบได้ไว้ ๆครับ ป๋า

มีใครสนใจไปเยี่ยม MMTH ที่ทุ่งรังสิตกับผมมั้ยเอ่ย? 


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Rin Diesel & Gasoline 4WD ที่ มิถุนายน 17, 2013, 05:35:03 pm
น่าจะเอาตัวเป็น ๆ ไปเยี่ยม MMTH สักที ไม่แก้ไขอะไรแล้วมาพูดอย่างนี้

ขอให้จบได้ไว้ ๆครับ ป๋า

มีใครสนใจไปเยี่ยม MMTH ที่ทุ่งรังสิตกับผมมั้ยเอ่ย?  
เขานัดตรวจวันที่ 24 มิย. นี้ใช่หรือเปล่าครับ เอาใจช่วยๆ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ มิถุนายน 24, 2013, 12:09:35 pm
วันนี้เป็นวันที่ทาง MMTH นัดหมายให้ฝ่ายเทคนิคมาทำการตรวจสอบรถของผม โดยนัดหมายกันที่โชวรูมสาขาพระรามสามในเวชา 11.00 น. แต่ตอนนี้ลูกค้านั้งรอมาแล้ว 1 ชั่วโมงยังไม่เห็น ศรีษะผู้นัดหมายแต่อย่างใด


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: teddyisman ที่ มิถุนายน 24, 2013, 12:34:12 pm
-รถใหม่ ก่อนออกทริปไกล ต้องลองหลายแบบก่อน ถ้ามีปัญหากลางทางหมดสนุก
-PJS เหมือนม้าพยศ ถ้ารู้ทาง และแก้ได้แล้ว ใช้งานสนุก
-เตือนความร้อน น่าจะมีไว้เป็นอย่างยิ่ง ปัญหา น้ำดัน ทำพิษได้เสมอ
-ถ้าน้ำดันระหว่างทาง ค่อยๆประคองรถ ขับช้าอย่าให้รอบเกินสองพัน แทบจะต้องจอดทุก 10-50 โล
 เติมน้ำ จะน่าเบื่อสุดๆ เวลาประคองรถข้ามเขา เพราะมันต้องเร่งเครื่อง
- เคยโดน แล้วประคองรถ พะเยา-ขอนแก่น ต้องข้ามเขางาว เขาพลึง เนินที่แยกนครไทย เขาค้อ และน้ำหนาว
  แค่เจ็ดร้อยโล ใช้เวลาเป็นวัน  จาก 7 ชั่วโมงถ้ารถปกติ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ มิถุนายน 24, 2013, 01:18:26 pm
ขออนุญาติ

วันนี้เป็นวันที่ทาง MMTH นัดหมายให้ฝ่ายเทคนิคมาทำการตรวจสอบรถของผม โดยนัดหมายกันที่โชวรูมสาขาพระรามสามในเวชา 11.00 น. แต่ตอนนี้ลูกค้านั้งรอมาแล้ว 1 ชั่วโมงยังไม่เห็น ศรีษะผู้นัดหมายแต่อย่างใด

เอาใจช่วยเน้อ  strive


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: N_paNYawAt ที่ มิถุนายน 24, 2013, 04:03:19 pm
ขออนุญาติ

วันนี้เป็นวันที่ทาง MMTH นัดหมายให้ฝ่ายเทคนิคมาทำการตรวจสอบรถของผม โดยนัดหมายกันที่โชวรูมสาขาพระรามสามในเวชา 11.00 น. แต่ตอนนี้ลูกค้านั้งรอมาแล้ว 1 ชั่วโมงยังไม่เห็น ศรีษะผู้นัดหมายแต่อย่างใด

เอาใจช่วยเน้อ  strive

ตกลงมีคนจากทาง MMTH โผล่มาประสานงานหรือยังครับ
เอาใจช่วยครับ คุยรอบนี้ จัดให้หนักเลยนะครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ มิถุนายน 25, 2013, 09:44:04 am
ขออนุญาติ

สงสัย ยังคุยกันไม่จบ ข้ามวันแระ  grin


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 01, 2013, 08:09:55 pm
แวะมาอัพเดตครับ พอดีงานเข้ายาวไปหลายวันนะครับ  :'(

สรุปแล้วตอนนี้ทาง MMTH ก็ได้นำน้องปา สุดหล่อของผมไปทำการตรวจสอบอาการแล้วครับ โดนได้นำ ปา 4x4 ปี2010 สีทองมาแลกไว้ให้ใช้ แต่ว่าในวันที่มีกรรับรถนั้นก็ไม่ได้เป็นอย่างเรียนร้อยนักนะครับ เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเยอะเลยทีเดียว ****ไม่รู้ทำไม MMTH ชอบทำอะไรให้โดนลูกค้าบ่นก็ม่ะรุ

เรื่องมันเริ่มขึ้นตั้งแต่ทาง Call Center ได้โทรแจ้งผม แล้ว โทรแจ้งคุณพ่อว่า ในวันจันทร์ที่ 24/6/13 ว่าทาง MMTH จะขอนัดไปรับรถเข้าไปทำการตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่โดยจะส่งช่างเทคนิค จากสำนักงานใหญ่มารับเองเพื่อให้ลูกค้าได้อธิบายถึงอาการของรถโดยละเอียด ซึ่งผมก็ได้โทรไปคุยกับพ่อที่บ้านที่ พิจิตร ว่าเค้าบอกเราแบบนี้ตรงกันนะ พ่อ และ แม่ผมเลยตีรถลงมาจากพิจิตร ในคืนวันอาทิตย์เพื่อต้องการมาพบช่างเทคนิคของ MMTH ด้วยตัวเองเลยทีเดียว และ วันนั้นทางครอบครัวผมก็ช่วยกันทำเอกสารถึงอาการ ผลกระทบที่เจ้าของรถได้รับจากรถคันนี้ และ รวบรวมรูปถ่าย เอกสารการนำรถเข้าตรวจซ่อมท่ได้มาจากศูนย์บริการ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อมูลใดๆๆตกหล่น  O0

เช้ามาทุกคนก็ลุกมาอาบน้ำแต่งตัวกันอย่างหล่อ และ นำรถออกมาลองขับดูว่าอาการที่เราพบมาตลอดมันยังเป็นอยู่มั้ย (แบบว่ากลัวรถมันเจอช่างแล้วมันจะทำตัวเรียบร้อย) จนแน่ใจในข้อมูล และ เอกสารที่มีในมือ จนในเวลา 9.30 ทาง Call Center ก็โทรมาเพื่อเตือนว่าวันนี้เรามีนัดกัน 11.00 น. นะครับอย่าลืมล่ะ ###### scorn ไม่มีทางลืมหลอกเตรียมข้อมูลมาพร้อมขนาดนี้

จนในเวลา 10.45 น.ผมและ เครอบครัวก็ขับเรือ ยี่ห้อ Mitsubisshi รุ่น Pajero Sport 2012 (พ่อ ก่ะ แม่ บอกว่าเครื่องมันดังเหมือนเรือ แถวบ้านเลย หุหุ) มาถึงศูนย์บริการ มิตซู สิทธิผล สาขาพระรามสาม strive
แต่ทะว่า เมื่อถึงเวลานัดก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น........

ในขณะที่ไปถึงศูนย์ เอารถไปจอด จนเข้าไปนั้งรออยู่ในห้องรับรอง แบบงงๆ เพราะเจ้าหน้าที่ทั้งศูนย์ไม่ได้สนใจครอบครัวผมเลย แต่อย่างใด ไม่มีแม้กระทั้งจะมีคนมาถามว่ามาติดต่อ อะไรรึเปล่า จนพวกเราสงสัยว่านี่เรามีตัวตนอยู่รึเปล่า??????????  despise

จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ประกอบกับความหิวที่เริ่มเพิ่มมากขึ้น จึงได้ทำการโทรไปตามที่ Call Center อีกครั้งก็ได้คำตอบว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเดินทางยังไปไม่ถึง และ กว่าจะมาถึงก็ปาเข้าไป 12.40 น. สรุปนั้งรอเล่นๆ เกือบ 2 ชั่วโมง (# ลางานช่วงเช้า เสียไปฟรีๆแบบไม่ได้อะไร  angry)

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็พบความผิดปกติที่ว่า ทำไมมีเจ้าหน้าที่มาคนเดียวเอง แล้วไหนล่ะช่างเทคนิค??????????????? ก็เลยทำการสอบถามไปว่าทำไมมาคนเดียวครับ พี่เป็นช่างเทคนิคที่เค้าส่งมาคุยกับผมรึ = คำตอบคือ "เปล่าครับผมแค่ขับรถมาแลกเฉยๆๆ"

 rage angry ^-^ anger แล้ว Call Center มันโทรนัดให้เรามาคุยกับช่างเทคนิคทำไม ด้วยความโมโหหิวเล็กน้อย เพราะรอนานข้าวไม่ได้กิน หุหุหุ เลยโทรไปหา Call Center คนเดิมอีกครั้ง พร้อมทวงถามว่าไหนคุณบอกว่าวันนี้จะมีช่างเทคนิคมารับรถด้วยไง ปลายสายก็ตอบกับมาอย่างเรียบๆว่า "ไม่มีครับ ผมไม่เคยบอกเลยนะว่าจะมีช่างเทคนิคมาด้วย ลูกค้าเข้าใจผิดรึเปล่า" พอได้ยินก็อารมษ์เดือดเลยครับ ผมได้ยินว่าเค้าบอกจริงๆว่าจะมีช่างมาคุยด้วยกัน สามคน พ่อ แม่ ลูก หกรูหู ด้วยกัน  ;) ไม่น่าพลาด

แต่ด้วยความโมโห เลยเริ่มมีการใช้คำพูดที่เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ และ เป็นการต่อว่ามากขึ้นเรื่อย จนในที่สุดทางรองผู้จัดการศูนย์ ก็ต้องออกมาคุยกับผมด้วยตัวเองเราเลยบ่นไปว่า เนี้ยทาง MMTH นัดผมให้เอารถมาเข้าศูนย์ที่นี่ และ จะมีช่างเทคนิคจากสำนักงานใหญ่มาสอบถามอาการด้วยตัวเองเลย แต่พอถึงเวลานัดกับไม่มา ผู้จัดการจะว่าไงครับ แต่คุณผู้จัดการกับบอกว่า ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าจะมีการนัดลูกค้าเอารถมาที่ศูนย์ ??????????????????????????????????????????????????????????????????????????? ตกใจหมด นี่เค้าทำงานกันยังไง สำนักงานใหญ่นัดลูกค้ามา แต่ ไม่มีการประสานงานศูนย์บริการที่หมายเลยรึ

แล้วเจ้าหน้าที่ Call Center ก็โทรมาที่เจ้าหน้าที่คนที่ขับรถมาพอดี ผมเลยขอโทรศัพท์พี่เค้ามา แล้ว เปิดลำโพงดังๆให้ได้ยินกันทั่วหน้ากัน ทางผู้จัดการศูนย์เค้าก็ถามครับว่าเรื่องมันเป็นยังไง ทำไมไม่มีคนมาคุยกับลูกค้า Call Center เค้าก็ตอบมาในโทรศัพท์ว่า ไม่มีครับ ไม่เคยบอก ลูกค้าพูดไม่รู้เรื่องเอง ??????????????????????????????????? ตกลงกลายเป็นผม พ่อ และ แม่ ผิดเองซะงั้น

หลังจากนั้นผมก็เอาโทรศัพทของแม่มาโทรกลับเข้าไปที่ Call Center อีกโดยปลอมตัวว่าเป็นช่างของ ศูนย์ชื่อประทีป (พอดีเห็นชื่อบนบอร์ดช่างพอดี) เพื่อถามว่าลูกค้าเค้าโวยวายที่ศูนย์ใหญ่แล้วพี่จะเอายังไง ปลายสายก็ตอบกลับมาว่า ลูกค้าแม่งพูดไม่รู้เรื่อง ## ผมเปิดลำโพงคุยครับ พอ พ่แม่ได้ยินก็เดือดอีก หลังจากนั้นอีกประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมงก็เป็นการที่แม่ผม ที่เป็นคุณครูเทสสั่งสอนเจ้าหน้าที่คนนั้นเป็นการใหญ่ smile..

แต่ก็ยังไม่จบเรื่องนะครับ เพราะว่าเมื่อเคลียจะจบจะทำการแลกรถกันกับพบว่าทาง MMTH เตรียมเอกสารมาให้ลูกค้าเซ็นต์ยืมรถของบริษัทไปใช้งาน แต่กับไม่มีเอกสารรับรถมาแต่อย่างได ก็เลยสอบถามไปว่าถ้าไม่มีเอกสารรับรถแบบนี้ผมจะให้เอารถผมไปได้อย่างไร คุณเป็นใครก็ไม่รู้ อยู่ๆผมจะให้เอารถไปเฉยๆคงไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่เค้าก็ตอบมาว่า เป็นเรื่องปกติครับ ทุกครั้งก็ทำแบบนี้  ตกใจหมด โอ๊ะ อย่างนั้นเลย ผมไม่รู้นะครับว่าลูกค้าคนอื่นเค้าเชื่อใจให้คุณนำรถเค้าไปง่ายๆโดยไม่มีเอกสารใดๆให้เลยแบบนี้ได้อย่างไร รถราคาเป็นล้านนะครับ จะมายืนกุญแจให้คนแปลกหน้าก็ไม่ใช่เรื่อง แล้วยิ่งตอบกลับมาว่าเป็นเรื่องปกติทุกทีก็ทำกันแบบนี้ด้วย มันยิ่งตอกย้ำความด้อยคุณภาพของการบริการหลังการขายเข้าไปอีก

หลังจากนั้นก็เป็นการโทรไปโวยวายกับ Call Center อีกรอบ............................................. คุยกันตั้งนาน ก็ไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจ

จนสุดท้ายเลยผมต้องเสนอทางออกให้โดยการให้ทางศูนย์บริการออกเอกสารรับรถให้โดยให้มีการบันทึกเข้าระบบว่ามีการรับรถลูกค้าจริง และ ให้ผู้จัดการศูนย์ลงนามเป็นพยานรับทราบ หลังจากนั้นจึงเป็นการ ตรวจสอบสภาพรถของแต่ละฝ่าย และ แลกรถกันโดยเรียบร้อย ครับ เล่นเอาเหนื่อยเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาใช้แต่รถ Toyota Isuzu Honda ถึงการบริการจะไม่ได้ดีเท่าไหร่ แต่ เมื่อเทียบกันแล้ว Brand เหล่านั้นเค้าก็ทิ้งห่าง มิตซูอยู่หลายขุมเลยทีเดียว พอลูกค้ามาเจอการบริการที่ไม่มีมาตรฐานแบบนี้เลยเกิดการรับไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดา............................................

สรุปวันนั้นเข้าไปศูนย์บริกาาร 10.45 น. กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็ปาเข้าไป บ่ายสามกว่ากันเลยทีเดียว  หลับ..



หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: BOYZ ที่ กรกฎาคม 01, 2013, 08:38:04 pm
เอาใจช่วยครับ อ่านแล้ว มหากาพ จริงๆครับ  โอ๊ยมึน


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 03, 2013, 11:53:40 am
อัพเดตครับ

เมื่อประมาณ 5 นาทีที่ผ่านมา Call Center MMTH ได้โทรมาแจ้งว่าตอนนี้ทาง Engineer ได้พร้อมที่จะให้ข้อมูลแล้ว จะขอนัดลูกค้ามาประชุมที่สำนักงานใหญ่ วันศุกร์ที่ 5 ที่จะถึงนี้ ครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: azure_abb ที่ กรกฎาคม 03, 2013, 10:45:29 pm
เอาใจช่วยครับขอให้ได้รับคำตอบที่เข้าท่าและปราถนา ครับ
แต่ผมเคยคุยกับช่างที่ศูนย์ใหญ่ ที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของรีสอร์ท กับอู่เล็กๆส่วนตัว
พี่เขาแนะนำว่าบุกสำนักงานใหญ่เลย. แผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์ มั้งครับกลัวมากกับลูกค้าร้องเรียน
มีอะไรให้บุกเลย. ผมก็รอว่ารถผมจะมีอะไรป่าวรอเล่นงานอยู่  แต่ไม่หนักใจครับผมเป็นช่าง แฮ่ๆๆๆๆ.  eie


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: CHINDANAI ที่ กรกฎาคม 04, 2013, 02:27:38 am
เอาใจช่วยนะครับ ยังงัย มาเล่าสาเหตุที่ ทาง mmth มาชี้แจง ให้ฟังจะขอบคุณมากๆครับ
รถผมเพิ่ง หมื่นโล ลองวิ่งยาวๆเป็นครั้งแรก ประมาณ 700 โล ข้ามเขาเพชรบูรณ์ ไปพิษณุโลก
ไม่กล้าเอาเข้าเช็คที่พิษณุโลกเลย กลัวเจอแบบป๋าจริงๆ shame . โอ๊ยมึน


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ กรกฎาคม 04, 2013, 11:58:40 am
ขออนุญาติ

มาติดตามตอนต่อไป despise


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 05, 2013, 03:01:20 pm
อัพเดตครับ
ในที่สุดก็ได้คุยกับ ฝ่ายเทคนิคของ MMTH อย่างเป็นเรื่องเป็นราวซักที แต่ทางฝ่ายเทคนิคก็ตอบกลับมาว่าทดสอบแล้วเครื่องรถคุณปกติ ทุกอย่าง ?????????????? ถ้าไม่ผิดแล้วทำไมเครื่องมันดังเป็นเรือเลยหว่าๆๆๆๆ คุณกัน 44.15 นาทีสุดท้ายก็สรุปผลอะไรให้ไม่ได้

พ่อผมเลยยื่นคำขาดไปเลยว่า เราซื้อรถมือ 1 มาเราไม่ต้องการรถที่เครื่องเสียตั้งแต่ป้ายแดง... เอาเครื่องใหม่มาให้เรา แล้วเอาเครื่องเน่าๆ กับ สิ่งที่คุณมอบให้เป็นการอุดปากเราคืนไป เพราะไม่มีใครอยากซื้อรถเพื่อมาซ่อมอยู่ตลอด   ทาง MMTH เลยจะขอสรุปกันเป็นการภายใน แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่ 10/7/2556 ที่จะถึงนี้  โปรดติดตามตอนต่อไป.........


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: kainui723 ที่ กรกฎาคม 05, 2013, 03:56:52 pm
ดราม่าสุดๆ เอาใจช่วยด้วยครับ strive


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: CHINDANAI ที่ กรกฎาคม 06, 2013, 12:49:08 am
  ^-^ มันจะยากอะไรแค่เปลี่ยนเครื่อง กำไร เยอะแยะ เครื่องประมาณ แสนกว่าๆ ทำไมต้องเรื่องเยอะ อย่างนี้ต้องทุบโชว์
ฟังดูแล้วผมยังโมโหแทน ชิ้นส่วนเครืองยนต์ที่ประกอบเป็นเครื่องรวมแล้วจะถึง 5 หมื่นป่าวไม่รุ(จากที่ผมผลิตชิ้นส่วนส่งให้โรงประกอบ แต่ละชิ้นแค่หลักร้อย หลักพัน) ^-^


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: suPreme ที่ กรกฎาคม 06, 2013, 06:07:06 am
อัพเดตครับ
ในที่สุดก็ได้คุยกับ ฝ่ายเทคนิคของ MMTH อย่างเป็นเรื่องเป็นราวซักที แต่ทางฝ่ายเทคนิคก็ตอบกลับมาว่าทดสอบแล้วเครื่องรถคุณปกติ ทุกอย่าง ?????????????? ถ้าไม่ผิดแล้วทำไมเครื่องมันดังเป็นเรือเลยหว่าๆๆๆๆ คุณกัน 44.15 นาทีสุดท้ายก็สรุปผลอะไรให้ไม่ได้

พ่อผมเลยยื่นคำขาดไปเลยว่า เราซื้อรถมือ 1 มาเราไม่ต้องการรถที่เครื่องเสียตั้งแต่ป้ายแดง... เอาเครื่องใหม่มาให้เรา แล้วเอาเครื่องเน่าๆ กับ สิ่งที่คุณมอบให้เป็นการอุดปากเราคืนไป เพราะไม่มีใครอยากซื้อรถเพื่อมาซ่อมอยู่ตลอด   ทาง MMTH เลยจะขอสรุปกันเป็นการภายใน แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่ 10/7/2556 ที่จะถึงนี้  โปรดติดตามตอนต่อไป.........
ไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้หลายวัน น่าเห็นใจเวลาผ่านไปจะ 3 เดือนแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไขจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ แค่อ่าน ไม่ได้เจอเองยังเหนื่อย  faint
แล้วรถแทนกับรถป๋าเสียงต่างกันเยอะไหมครับ หรือ ความรู้สึกของการขับเครื่องมันดีกว่ารถของป๋าเองไหมครับ
แต่ปัญหา over heat เพราะศูนย์เป็นต้นเหตุ ยังไงผมก็สนับสนุนการเรียกร้องให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ ถ้าฝ่ายเทคนิคบอกรถป๋าปกติ ลองให้เค้าขับขึ้นดอยสักครั้ง เมิงได้กินข้าวลิงข้างทางแล้วจะรู้สึก  strive


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 06, 2013, 08:55:36 pm
อัพเดตครับ
ในที่สุดก็ได้คุยกับ ฝ่ายเทคนิคของ MMTH อย่างเป็นเรื่องเป็นราวซักที แต่ทางฝ่ายเทคนิคก็ตอบกลับมาว่าทดสอบแล้วเครื่องรถคุณปกติ ทุกอย่าง ?????????????? ถ้าไม่ผิดแล้วทำไมเครื่องมันดังเป็นเรือเลยหว่าๆๆๆๆ คุณกัน 44.15 นาทีสุดท้ายก็สรุปผลอะไรให้ไม่ได้

พ่อผมเลยยื่นคำขาดไปเลยว่า เราซื้อรถมือ 1 มาเราไม่ต้องการรถที่เครื่องเสียตั้งแต่ป้ายแดง... เอาเครื่องใหม่มาให้เรา แล้วเอาเครื่องเน่าๆ กับ สิ่งที่คุณมอบให้เป็นการอุดปากเราคืนไป เพราะไม่มีใครอยากซื้อรถเพื่อมาซ่อมอยู่ตลอด   ทาง MMTH เลยจะขอสรุปกันเป็นการภายใน แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่ 10/7/2556 ที่จะถึงนี้  โปรดติดตามตอนต่อไป.........
ไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้หลายวัน น่าเห็นใจเวลาผ่านไปจะ 3 เดือนแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไขจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ แค่อ่าน ไม่ได้เจอเองยังเหนื่อย  faint
แล้วรถแทนกับรถป๋าเสียงต่างกันเยอะไหมครับ หรือ ความรู้สึกของการขับเครื่องมันดีกว่ารถของป๋าเองไหมครับ
แต่ปัญหา over heat เพราะศูนย์เป็นต้นเหตุ ยังไงผมก็สนับสนุนการเรียกร้องให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ ถ้าฝ่ายเทคนิคบอกรถป๋าปกติ ลองให้เค้าขับขึ้นดอยสักครั้ง เมิงได้กินข้าวลิงข้างทางแล้วจะรู้สึก  strive

รถที่ได้เอาไปใช้งานชั่วคราวนั้นเป็น 4x4 ปี 2011 ครับเสียงเรื่องยนต์เมื่อติดเครื่องเทียบกัน เบากว่ารถผมอย่างเห็นได้ชัดครับ และ ยิ่งการขับขี่ยิ่งต่างกันเพราะรถผมมันอืดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ กรกฎาคม 08, 2013, 01:12:14 pm
เหนี่อยแทนจริง ๆ ครับ  ขอผมโชคดีที่ไม่เรื่องเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวเดือนหน้าก็จะต้องเข้าเช็ค 40,000 แล้วเพิ่งขับไปได้ 37,000 แต่เครื่องใหม่ยังไม่ถึงหมื่นเลย  กลัวจริง ๆ เข้าไปแล้วจะได้ปัญหาแถมมา

เมี่อวันศุกร์มีศูนย์วิจัยการให้บริการขอมิตซูโทรมาถาม เลยจัดไป ดันมาถามว่าทำไมเราให้คะแนนต่ำจัง

เอาใจช่วยครับขอให้ได้ขอสรุปเสียที่  มันควรจะเปลี่ยนให้ตั้งนานแล้ววว


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 09, 2013, 12:20:32 am
เหนี่อยแทนจริง ๆ ครับ  ขอผมโชคดีที่ไม่เรื่องเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวเดือนหน้าก็จะต้องเข้าเช็ค 40,000 แล้วเพิ่งขับไปได้ 37,000 แต่เครื่องใหม่ยังไม่ถึงหมื่นเลย  กลัวจริง ๆ เข้าไปแล้วจะได้ปัญหาแถมมา

เมี่อวันศุกร์มีศูนย์วิจัยการให้บริการขอมิตซูโทรมาถาม เลยจัดไป ดันมาถามว่าทำไมเราให้คะแนนต่ำจัง

เอาใจช่วยครับขอให้ได้ขอสรุปเสียที่  มันควรจะเปลี่ยนให้ตั้งนานแล้ววว

ว่า

ผมขอข้อมูลรถของป๋า บ้างได้รึเปล่าครับ ว่ารถป๋าเป็นอะไรบ้าง แล้ว ทำไงถึงได้เปลี่ยนเครื่องใหม่  เอาไว้ตั้งคำถามกับ MMTH ว่ามาตรฐานของเค้าอยู่ตรงไหน ทำไมในอาการเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน บางคันทาง MMTH เปลี่ยนเครื่องให้ บางคันไม่เปลี่ยน  จุดยืนอยู่ตรงไหน ???????????


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ กรกฎาคม 09, 2013, 12:40:58 pm
ของผมเครื่องร้อน 3 ครั้ง หลังจากเช็ค 20,000 โล แต่ไม่น๊อก เพราะเห็นก่อน  ผมก็เอาเข้า 0 ให้เช็คตามขั้นตอน และเก็บข้อมูลมาเรื่อย ๆ พอครั้งที่ 3 ไม่ไหนแล้ว 0 ขอเปิดเครื่องดูหาสาเหตุ นัดเอารถมาเปลี่ยนให้ใช้ ก็เลยเอาเข้าห้องผ่าตัด ทาง MMTH จะไม่ยอมเปลี่ยนให้ จะเปลี่ยนให้เฉพาะบางส่วน  แต่ผมไม่สนใจว่าอะไรมันจะเสีย ผมรับไม่ได้ที่รถผมออกป้ายแดงดูแลดีทุกอย่าง (สียังเคลือบทำสปาให้เลย)  มาผ่าเครื่องผมเป็นชิ้น ๆ อย่างงี้ ก็เลยขอเปลี่ยนเครื่อง  และบอกว่าถ้าไม่ยอมก็ให้ทำหนังสือเป็ํนทางการมาว่าเสียเพราะอะไร และจะซ่อมอย่างไร และรับประกันอย่างไรถ้าเป็นอีกมาให้ช้ดเจน  ระหว่างที่คอยก็ไร่ตามหาความจัดเจนว่าจะเอาอย่างไงอยู่สักอาทิตย์ได้  เขาก็โทรมาแจ้งว่าทาง  MMTH ยอมเปลี่ยนให้ (ทางผู้จักการและช่างจากทาง 0 มีส่วนช่วยเยอะ เขาเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า)  และได้ป่า ๆ ในนี้คอยช่วยให้คำแนะนำและกำลังใจตลอดครับ 

ข้อมูลรถผมตามนี้ 

น้ำดัน
http://youtu.be/B4-WH8Sq120
ติดเครื่องเดินเบา
http://youtu.be/IbgtDxFyYQI

http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=6030.90
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=9679.0
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=11012.0

ขอให้จบได้ไว ๆ ครับ มีอะไร โทรมาระบายกันได้ครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 10, 2013, 09:02:37 pm
ของผมเครื่องร้อน 3 ครั้ง หลังจากเช็ค 20,000 โล แต่ไม่น๊อก เพราะเห็นก่อน  ผมก็เอาเข้า 0 ให้เช็คตามขั้นตอน และเก็บข้อมูลมาเรื่อย ๆ พอครั้งที่ 3 ไม่ไหนแล้ว 0 ขอเปิดเครื่องดูหาสาเหตุ นัดเอารถมาเปลี่ยนให้ใช้ ก็เลยเอาเข้าห้องผ่าตัด ทาง MMTH จะไม่ยอมเปลี่ยนให้ จะเปลี่ยนให้เฉพาะบางส่วน  แต่ผมไม่สนใจว่าอะไรมันจะเสีย ผมรับไม่ได้ที่รถผมออกป้ายแดงดูแลดีทุกอย่าง (สียังเคลือบทำสปาให้เลย)  มาผ่าเครื่องผมเป็นชิ้น ๆ อย่างงี้ ก็เลยขอเปลี่ยนเครื่อง  และบอกว่าถ้าไม่ยอมก็ให้ทำหนังสือเป็ํนทางการมาว่าเสียเพราะอะไร และจะซ่อมอย่างไร และรับประกันอย่างไรถ้าเป็นอีกมาให้ช้ดเจน  ระหว่างที่คอยก็ไร่ตามหาความจัดเจนว่าจะเอาอย่างไงอยู่สักอาทิตย์ได้  เขาก็โทรมาแจ้งว่าทาง  MMTH ยอมเปลี่ยนให้ (ทางผู้จักการและช่างจากทาง 0 มีส่วนช่วยเยอะ เขาเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า)  และได้ป่า ๆ ในนี้คอยช่วยให้คำแนะนำและกำลังใจตลอดครับ 

ข้อมูลรถผมตามนี้ 

น้ำดัน
http://youtu.be/B4-WH8Sq120
ติดเครื่องเดินเบา
http://youtu.be/IbgtDxFyYQI

http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=6030.90
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=9679.0
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=11012.0

ขอให้จบได้ไว ๆ ครับ มีอะไร โทรมาระบายกันได้ครับ

ขอบคุณมากครับ ผมเก็บรายละเอียดรวบรวมไว้ต่อสู้กับ Call Center จอมลื่นไหล วันนี้เค้าก็โทรมาขอเลื่อนกำหนดการชี้แจง ไปเป็นวันที่ 11/7/2556 เวลา 14.00 น. เดียวได้ผลอย่างไรจะมา แจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 11, 2013, 06:10:23 pm
อัพเดตครับ
ในที่สุดก็ได้คุยกับ ฝ่ายเทคนิคของ MMTH อย่างเป็นเรื่องเป็นราวซักที แต่ทางฝ่ายเทคนิคก็ตอบกลับมาว่าทดสอบแล้วเครื่องรถคุณปกติ ทุกอย่าง ?????????????? ถ้าไม่ผิดแล้วทำไมเครื่องมันดังเป็นเรือเลยหว่าๆๆๆๆ คุณกัน 44.15 นาทีสุดท้ายก็สรุปผลอะไรให้ไม่ได้

พ่อผมเลยยื่นคำขาดไปเลยว่า เราซื้อรถมือ 1 มาเราไม่ต้องการรถที่เครื่องเสียตั้งแต่ป้ายแดง... เอาเครื่องใหม่มาให้เรา แล้วเอาเครื่องเน่าๆ กับ สิ่งที่คุณมอบให้เป็นการอุดปากเราคืนไป เพราะไม่มีใครอยากซื้อรถเพื่อมาซ่อมอยู่ตลอด   ทาง MMTH เลยจะขอสรุปกันเป็นการภายใน แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่ 10/7/2556 ที่จะถึงนี้  โปรดติดตามตอนต่อไป.........

มาอัพเดตครับ

วันนี้ทาง Call Center MMTH ก็ได้โทรมาตามนัดที่ได้เลื่อนมาจากเมื่อวานโดยผลสรุปที่โทรมาก็เพื่อโทรมาแจ้งว่ารถผมไม่ได้เป็นอะไรซะงั้น ทดสอบแล้วเสียงเครื่องยนต์ดังมากกว่ารถ Pajero Sport คันอื่นเพียงเล็กน้อย ****** (ถ้ารถเป็นปกติมันจะดังกว่าคันอื่นได้ยังไงกันนะ**) โดย อยู่ๆๆก็จะให้ไปรับรถวันพรุ่งนี้ซะงั้น  ทั้งๆที่สิ่งที่เราขอให้ทำหนังสือมาชี้แจงอย่างเป็นทางการว่า

1.รถผมมีปัญหาความร้อนขึ้นจนเครื่องดับครั้งที่ 1 หลังจากไปทำการตรวจเช็คระยะ 20,000 km ที่พิษณุโลกได้อย่างไร  

2.เมื่อรถมีปัญหาตามข้อที่ 1 ทางศูนย์พิษณุโลกทำการแก้ไขแล้วทำไมยังเกิดเครื่องร้อนจนดับเป็นครั้งที่ 2 ที่แม่สอดอีก
  
3.เมื่อรถมีปัญหาตามข้อที่ 2 ได้นำรถเข้าไปทำการตรวจสอบที่ศูนย์ สิทธิผลสาขา พระราม 3 แต่ศุนย์บอกว่าปกติ เหตุใดรถยังไปความร้อนขึ้น เครื่องดับ ที่สังขบุรีได้อีก

4.เมื่อเกิดเหตุการณืตามข้อที่ 3 เจ้าของรถได้รับคำแนะนำวิธีตรวจสอบปัญหา คนนำไปสู่การแจ้งช่างให้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และช่างได้ทำการแก้ไข แล้วเหตุใดจึงเกิดปัญหาอื่นเพิ่มขึ้น คือ มีน้ำมันเครื่องซึม ในระหว่างเดินทางไปหนองคายได้อีก

5.เมื่อเกิดเหตุการณืตามข้อที่ 4 ทางเจ้าของรถได้เอารถไปตรวจสอบที่ศูนย์พิษณุโลก และ ศูนย์แจ้งว่าแก้ไขแล้วทำไมยังมาเกิดน้ำมันเครื่องรั่วระหว่างทางมากรุงเทพ จนต้องเข้าแก้ไขที่ศูนย์สิงบุรีอีก?

6.เมื่อทางศูนย์สิงบุรีถอดชิ้นส่วนออกมาดู พบว่ามีชิ้นส่วนบางอย่างหายไป ต้องการรู้ว่าหายไปได้อย่างไร และ ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ

7.รถของผมที่ทาง MMTH ได้มารับไปตรวจสอบจะมีการดำเนินการแก้ไขอย่างไร

***** ทุกคำถามทาง MMTH ไม่สามารถตอบได้เลย นอกจากตอบได้อย่างเดียวว่ารถคุณปกติครับ และ Call Center ยังบอกว่าไม่สามารถตอบได้เพราะผมเพิ่งจะถาม ซึ่งจำได้อย่างแม่งยำว่าที่ประชุมกันทาง โทรศัพทระหว่างผม คุณพ่อ Call Center และ ฝ่ายเทคนิค ลูกค้าได้ยื่นคำถามไว้อย่างชัดเจน และ ทาง Call Center รับปากรับเรื่อง  แต่วันนี้กับบอกว่าผมไม่เคยพูดมาก่อนเลยซะงั้น  ลื่นเป็นปลาไหลเหมือนคราว ที่แล้วเลยๆๆๆๆๆ*****

** เมื่อไม่เปลี่ยนเครื่องก็ไม่เป็นไร ครับ ผมเรียกร้องว่าถ้าทาง MMTH ไม่ทำการเปลี่ยนเครื่องให้ก็ให้ทำเอกสารรับรองมาให้เป็นทางการว่า รถที่คุณทำการแก้ไขแล้วจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นอีก และ MMTH ขอรับผิดชอบในกรณีที่ลูกค้าได้รับอันตรายจากการใช้งานรถยนต์คันนี้ โดยมีความผิดพลาดของเครื่องยนต์เป็นสาเหตุ ทุกประการ **  ก็ต้องรอคำตอบอีกว่าทาง ผู้บริหารสามารถลงนามได้มั้ยเพราะปกติแล้วไม่เคยทำ (เพราะไม่เคยคิดจะรับผิดชอบเลยน่ะสิ) เพราะงานนี้ถ้าไม่มีอะไรออกให้เป็นการรับรองไม่มีทางรับรถคืนมาใช้เด็ดขาด เพราะ ไม่รู้ว่าจะต้องเอาชีวิตไปทิ้งเพราะเครื่องดับกลางอากาศอีกเมื่อไหร่



หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: CHINDANAI ที่ กรกฎาคม 11, 2013, 06:50:05 pm
 :( :'( ;) พระเจ้า เอาไปตั้งหลายวัน ไม่รู้ว่าเอาไปขับทดลองดูมั่งป่าวเนี่ย  เอาใจช่วยครับป๋า


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ กรกฎาคม 12, 2013, 12:30:37 pm
แจ้ง สคบ. เลยครับ  มันไม่ใช้แค่ครั้ง 2-3 ครั้ง เราให้เขาทำตามขั้นตอนที่เขามีและคิดว่าดี มันยังไม่มีอะไรดีขึ้น เสียเวลา เสียความรู้สึก ต้องทำหนังสือรับรองให้จัดเจนว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกจะทำอย่างไง  1, 2,3 และเรารับได้ เราซื้อรถป้ายแดงไม่ควรต้องมาเสียเวลากับเรื่องแบบนี้โอกาสเจอมันเป็นไปได้แต่ควรรับผิดชอบให้มากกว่านี้

สู้ ๆ ครับป๋า เหนื่อยมาเยอะแล้ว 


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวเดือน ที่ กรกฎาคม 16, 2013, 12:20:05 pm
ก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้ รู้สึกเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง เราตอนนี้ก็ถือว่าลงเรือลำเดียวกันแล้ว ผมก็เพิ่งใช้ รถปี 13 4*4 มา5เดือนแล้ว สู้ต่อไปครับอยายอมมัน


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: sl ที่ กรกฎาคม 18, 2013, 03:21:38 pm
อัพเดตครับ
ในที่สุดก็ได้คุยกับ ฝ่ายเทคนิคของ MMTH อย่างเป็นเรื่องเป็นราวซักที แต่ทางฝ่ายเทคนิคก็ตอบกลับมาว่าทดสอบแล้วเครื่องรถคุณปกติ ทุกอย่าง ?????????????? ถ้าไม่ผิดแล้วทำไมเครื่องมันดังเป็นเรือเลยหว่าๆๆๆๆ คุณกัน 44.15 นาทีสุดท้ายก็สรุปผลอะไรให้ไม่ได้

พ่อผมเลยยื่นคำขาดไปเลยว่า เราซื้อรถมือ 1 มาเราไม่ต้องการรถที่เครื่องเสียตั้งแต่ป้ายแดง... เอาเครื่องใหม่มาให้เรา แล้วเอาเครื่องเน่าๆ กับ สิ่งที่คุณมอบให้เป็นการอุดปากเราคืนไป เพราะไม่มีใครอยากซื้อรถเพื่อมาซ่อมอยู่ตลอด   ทาง MMTH เลยจะขอสรุปกันเป็นการภายใน แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่ 10/7/2556 ที่จะถึงนี้  โปรดติดตามตอนต่อไป.........

มาอัพเดตครับ

วันนี้ทาง Call Center MMTH ก็ได้โทรมาตามนัดที่ได้เลื่อนมาจากเมื่อวานโดยผลสรุปที่โทรมาก็เพื่อโทรมาแจ้งว่ารถผมไม่ได้เป็นอะไรซะงั้น ทดสอบแล้วเสียงเครื่องยนต์ดังมากกว่ารถ Pajero Sport คันอื่นเพียงเล็กน้อย ****** (ถ้ารถเป็นปกติมันจะดังกว่าคันอื่นได้ยังไงกันนะ**) โดย อยู่ๆๆก็จะให้ไปรับรถวันพรุ่งนี้ซะงั้น  ทั้งๆที่สิ่งที่เราขอให้ทำหนังสือมาชี้แจงอย่างเป็นทางการว่า

1.รถผมมีปัญหาความร้อนขึ้นจนเครื่องดับครั้งที่ 1 หลังจากไปทำการตรวจเช็คระยะ 20,000 km ที่พิษณุโลกได้อย่างไร  

2.เมื่อรถมีปัญหาตามข้อที่ 1 ทางศูนย์พิษณุโลกทำการแก้ไขแล้วทำไมยังเกิดเครื่องร้อนจนดับเป็นครั้งที่ 2 ที่แม่สอดอีก
  
3.เมื่อรถมีปัญหาตามข้อที่ 2 ได้นำรถเข้าไปทำการตรวจสอบที่ศูนย์ สิทธิผลสาขา พระราม 3 แต่ศุนย์บอกว่าปกติ เหตุใดรถยังไปความร้อนขึ้น เครื่องดับ ที่สังขบุรีได้อีก

4.เมื่อเกิดเหตุการณืตามข้อที่ 3 เจ้าของรถได้รับคำแนะนำวิธีตรวจสอบปัญหา คนนำไปสู่การแจ้งช่างให้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และช่างได้ทำการแก้ไข แล้วเหตุใดจึงเกิดปัญหาอื่นเพิ่มขึ้น คือ มีน้ำมันเครื่องซึม ในระหว่างเดินทางไปหนองคายได้อีก

5.เมื่อเกิดเหตุการณืตามข้อที่ 4 ทางเจ้าของรถได้เอารถไปตรวจสอบที่ศูนย์พิษณุโลก และ ศูนย์แจ้งว่าแก้ไขแล้วทำไมยังมาเกิดน้ำมันเครื่องรั่วระหว่างทางมากรุงเทพ จนต้องเข้าแก้ไขที่ศูนย์สิงบุรีอีก?

6.เมื่อทางศูนย์สิงบุรีถอดชิ้นส่วนออกมาดู พบว่ามีชิ้นส่วนบางอย่างหายไป ต้องการรู้ว่าหายไปได้อย่างไร และ ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ

7.รถของผมที่ทาง MMTH ได้มารับไปตรวจสอบจะมีการดำเนินการแก้ไขอย่างไร

***** ทุกคำถามทาง MMTH ไม่สามารถตอบได้เลย นอกจากตอบได้อย่างเดียวว่ารถคุณปกติครับ และ Call Center ยังบอกว่าไม่สามารถตอบได้เพราะผมเพิ่งจะถาม ซึ่งจำได้อย่างแม่งยำว่าที่ประชุมกันทาง โทรศัพทระหว่างผม คุณพ่อ Call Center และ ฝ่ายเทคนิค ลูกค้าได้ยื่นคำถามไว้อย่างชัดเจน และ ทาง Call Center รับปากรับเรื่อง  แต่วันนี้กับบอกว่าผมไม่เคยพูดมาก่อนเลยซะงั้น  ลื่นเป็นปลาไหลเหมือนคราว ที่แล้วเลยๆๆๆๆๆ*****

** เมื่อไม่เปลี่ยนเครื่องก็ไม่เป็นไร ครับ ผมเรียกร้องว่าถ้าทาง MMTH ไม่ทำการเปลี่ยนเครื่องให้ก็ให้ทำเอกสารรับรองมาให้เป็นทางการว่า รถที่คุณทำการแก้ไขแล้วจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นอีก และ MMTH ขอรับผิดชอบในกรณีที่ลูกค้าได้รับอันตรายจากการใช้งานรถยนต์คันนี้ โดยมีความผิดพลาดของเครื่องยนต์เป็นสาเหตุ ทุกประการ **  ก็ต้องรอคำตอบอีกว่าทาง ผู้บริหารสามารถลงนามได้มั้ยเพราะปกติแล้วไม่เคยทำ (เพราะไม่เคยคิดจะรับผิดชอบเลยน่ะสิ) เพราะงานนี้ถ้าไม่มีอะไรออกให้เป็นการรับรองไม่มีทางรับรถคืนมาใช้เด็ดขาด เพราะ ไม่รู้ว่าจะต้องเอาชีวิตไปทิ้งเพราะเครื่องดับกลางอากาศอีกเมื่อไหร่



คำถามจากข้อสงสัย 7 ข้อของคุณเป็นเหตุเป็นผล  และเรามีสิทธิที่จะได้รับคำตอบโดยชอบธรรม  แต่MMTH ก็มีสิทธิที่จะไม่ตอบได้  เพราะเราไม่มีอำนาจทางกฏหมายไปบังคับโดยตรง  
งานอย่างนี้ต้องพึ่งตัวช่วยครับ คือ สคบ. เขามีอำนาจเรียกให้คู่กรณีชี้แจง  กรณีแบบนี้เขาเสียเปรียบเราอยู่แล้วครับ  เพราะหากเผอิญในเครสแบบนี้ไม่ว่าจะโดยผู้ค้ารายใดหรือบริษัทใด
ได้เคยถูกร้องเรียนเขามาเยอะหรือบ่อยๆในทำนองเดียวกัน  มันจะเป็นข้อพิสูนจ์ความรับผิดชอบของผู้ทำการค้าได้ดีว่ามีมาก-น้อยระดับไหน    และหากเคยมีคำตัดสินความโดยคำพิพากษา
เกี่ยวกับคดีผู้บริโภคทำนองนี้ไว้แล้วจะถือเป็นบรรทัดฐานให้การพิจารณาและตัดสินได้ไวยิ่งขึ้น    ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเมื่อเขารับเรื่องของเราเป็นคดีที่จะดำเนินการให้แล้ว  
เราจะถือว่าอยู่ในฐานะพยาน เขาจะเรียกเราไปศาลหรือไม่ก็ได้  โดยอัยการเป็นโจกท์ดำเนินคดีแทนเรา  โดยเราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยสักบาทเดียว  (ยกเว้นเสียแต่ค่าอาการแสตมป์)

ที่ผมรู้เรื่องนี้ดีเพราะผมเคยฟ้องบริษัทสรา้งบ้าน  บริษัทหนึ่ง โดยมีผู้เสียหาย มากพอสมควร  ส่วนใหญ่ยอมความและรับเงินบางส่วนไปโดยใช้เวลาตกลงกันไม่กี่เดือนเรื่องไม่ถึงศาล  
แต่ผมต้องการให้นี้มีชื่ออยู่ในแบ็คลีตของ สคบ. และไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อจึงยอมเสียเวลา7 ปีตั้งแต่ปี 49 -56 จนคดีสิ้นสุดเมื่อ ต้นเดือน ก.ค 2556 นี้แค่ศาลเดียวใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั้วโมง
ศาลตัดสินให้ผมชนะคดีโดยคู่ความไม่ยอมมาศาล   ชนะไปแบบขาดลอยได้เงินมาหลายแสนเพราะรวมดอกเบี้ย 6 ปีเขาไปบานตะไท  อัยการบอกคุณฉลาดมากไม่เสียเงินค่าจ้างสักบาท
ได้ใช้งานผมที่กินค่าจ้างรัฐวันละ 6-7 พันบาท.......(เงินที่บริษัทยอมจะให้เล็กน้อยถ้าไปฝากธนาคารดอกเบี้ยแค่ร้อยละ 2-3 บาท แต่ศาลคิดให้เราร้อยละ 7.5 ต่อปี  ดีกว่าฝากธนาคารอีก : )

ต่อไปใครมีเครสเดียวกับผมก็มีต้นแบบให้ สคบ.ทำสำนานส่งอัยการได้ไวขึ้น   อย่ากังวลเรื่องระยะเวลา  เรื่องของผมมันนานเพราะ สนง.สคบ.แต่ก่อนอยู่แถวทำเนียบรัฐบาล
เจอม๊อบเข้าไปเป็นปี ต่อมาย้ายสถานที่ไปศูนย์ราชการนนท์บุรีก็เสียเวลาจัดที่จัดทางอีก  แต่ก่อนเจ้าหน้าที่มีน้อย  เดี๋ยวนี้ที่ทำการใหญ่โตพนักงานเขามีเพิ่มขึ้นอีกบาน  
กรณีของคุณผมว่าไม่ถึงปีหรอก  MMTH โดนเรียกมาคุยเดี๋ยวก็ไกล่เกลี่ยโดยมีคนกลางที่มีอำนาจให้เขาชี้แจงได้  โดยมีการบันทึฏถ้อยคำไว้เป้นหลักฐานทุกครั้ง  
ดีกว่าไปเจรจาแบบเราไม่มีอำนาจต่อรอง   MMTH มันก็เลี่ยงไปวันๆจนเราเบื่อไปเอง  แล้วก็ยอมเท่าที่มันจะให้เรา   อย่างไรเพื่อคุณ และ สมาชิกปาเจโร่ ผมเอาใจช่วยครับเพราะผมก็ใช้ปาเจโรเช่นกัน


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ กรกฎาคม 18, 2013, 04:24:43 pm
ขออนุญาติ

เข้ามาตามดู ต่อไป  despise


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 19, 2013, 10:43:32 am
อัพเดตครับ
ในที่สุดก็ได้คุยกับ ฝ่ายเทคนิคของ MMTH อย่างเป็นเรื่องเป็นราวซักที แต่ทางฝ่ายเทคนิคก็ตอบกลับมาว่าทดสอบแล้วเครื่องรถคุณปกติ ทุกอย่าง ?????????????? ถ้าไม่ผิดแล้วทำไมเครื่องมันดังเป็นเรือเลยหว่าๆๆๆๆ คุณกัน 44.15 นาทีสุดท้ายก็สรุปผลอะไรให้ไม่ได้

พ่อผมเลยยื่นคำขาดไปเลยว่า เราซื้อรถมือ 1 มาเราไม่ต้องการรถที่เครื่องเสียตั้งแต่ป้ายแดง... เอาเครื่องใหม่มาให้เรา แล้วเอาเครื่องเน่าๆ กับ สิ่งที่คุณมอบให้เป็นการอุดปากเราคืนไป เพราะไม่มีใครอยากซื้อรถเพื่อมาซ่อมอยู่ตลอด   ทาง MMTH เลยจะขอสรุปกันเป็นการภายใน แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่ 10/7/2556 ที่จะถึงนี้  โปรดติดตามตอนต่อไป.........

มาอัพเดตครับ

วันนี้ทาง Call Center MMTH ก็ได้โทรมาตามนัดที่ได้เลื่อนมาจากเมื่อวานโดยผลสรุปที่โทรมาก็เพื่อโทรมาแจ้งว่ารถผมไม่ได้เป็นอะไรซะงั้น ทดสอบแล้วเสียงเครื่องยนต์ดังมากกว่ารถ Pajero Sport คันอื่นเพียงเล็กน้อย ****** (ถ้ารถเป็นปกติมันจะดังกว่าคันอื่นได้ยังไงกันนะ**) โดย อยู่ๆๆก็จะให้ไปรับรถวันพรุ่งนี้ซะงั้น  ทั้งๆที่สิ่งที่เราขอให้ทำหนังสือมาชี้แจงอย่างเป็นทางการว่า

1.รถผมมีปัญหาความร้อนขึ้นจนเครื่องดับครั้งที่ 1 หลังจากไปทำการตรวจเช็คระยะ 20,000 km ที่พิษณุโลกได้อย่างไร  

2.เมื่อรถมีปัญหาตามข้อที่ 1 ทางศูนย์พิษณุโลกทำการแก้ไขแล้วทำไมยังเกิดเครื่องร้อนจนดับเป็นครั้งที่ 2 ที่แม่สอดอีก
  
3.เมื่อรถมีปัญหาตามข้อที่ 2 ได้นำรถเข้าไปทำการตรวจสอบที่ศูนย์ สิทธิผลสาขา พระราม 3 แต่ศุนย์บอกว่าปกติ เหตุใดรถยังไปความร้อนขึ้น เครื่องดับ ที่สังขบุรีได้อีก

4.เมื่อเกิดเหตุการณืตามข้อที่ 3 เจ้าของรถได้รับคำแนะนำวิธีตรวจสอบปัญหา คนนำไปสู่การแจ้งช่างให้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และช่างได้ทำการแก้ไข แล้วเหตุใดจึงเกิดปัญหาอื่นเพิ่มขึ้น คือ มีน้ำมันเครื่องซึม ในระหว่างเดินทางไปหนองคายได้อีก

5.เมื่อเกิดเหตุการณืตามข้อที่ 4 ทางเจ้าของรถได้เอารถไปตรวจสอบที่ศูนย์พิษณุโลก และ ศูนย์แจ้งว่าแก้ไขแล้วทำไมยังมาเกิดน้ำมันเครื่องรั่วระหว่างทางมากรุงเทพ จนต้องเข้าแก้ไขที่ศูนย์สิงบุรีอีก?

6.เมื่อทางศูนย์สิงบุรีถอดชิ้นส่วนออกมาดู พบว่ามีชิ้นส่วนบางอย่างหายไป ต้องการรู้ว่าหายไปได้อย่างไร และ ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ

7.รถของผมที่ทาง MMTH ได้มารับไปตรวจสอบจะมีการดำเนินการแก้ไขอย่างไร

***** ทุกคำถามทาง MMTH ไม่สามารถตอบได้เลย นอกจากตอบได้อย่างเดียวว่ารถคุณปกติครับ และ Call Center ยังบอกว่าไม่สามารถตอบได้เพราะผมเพิ่งจะถาม ซึ่งจำได้อย่างแม่งยำว่าที่ประชุมกันทาง โทรศัพทระหว่างผม คุณพ่อ Call Center และ ฝ่ายเทคนิค ลูกค้าได้ยื่นคำถามไว้อย่างชัดเจน และ ทาง Call Center รับปากรับเรื่อง  แต่วันนี้กับบอกว่าผมไม่เคยพูดมาก่อนเลยซะงั้น  ลื่นเป็นปลาไหลเหมือนคราว ที่แล้วเลยๆๆๆๆๆ*****

** เมื่อไม่เปลี่ยนเครื่องก็ไม่เป็นไร ครับ ผมเรียกร้องว่าถ้าทาง MMTH ไม่ทำการเปลี่ยนเครื่องให้ก็ให้ทำเอกสารรับรองมาให้เป็นทางการว่า รถที่คุณทำการแก้ไขแล้วจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นอีก และ MMTH ขอรับผิดชอบในกรณีที่ลูกค้าได้รับอันตรายจากการใช้งานรถยนต์คันนี้ โดยมีความผิดพลาดของเครื่องยนต์เป็นสาเหตุ ทุกประการ **  ก็ต้องรอคำตอบอีกว่าทาง ผู้บริหารสามารถลงนามได้มั้ยเพราะปกติแล้วไม่เคยทำ (เพราะไม่เคยคิดจะรับผิดชอบเลยน่ะสิ) เพราะงานนี้ถ้าไม่มีอะไรออกให้เป็นการรับรองไม่มีทางรับรถคืนมาใช้เด็ดขาด เพราะ ไม่รู้ว่าจะต้องเอาชีวิตไปทิ้งเพราะเครื่องดับกลางอากาศอีกเมื่อไหร่



คำถามจากข้อสงสัย 7 ข้อของคุณเป็นเหตุเป็นผล  และเรามีสิทธิที่จะได้รับคำตอบโดยชอบธรรม  แต่MMTH ก็มีสิทธิที่จะไม่ตอบได้  เพราะเราไม่มีอำนาจทางกฏหมายไปบังคับโดยตรง  
งานอย่างนี้ต้องพึ่งตัวช่วยครับ คือ สคบ. เขามีอำนาจเรียกให้คู่กรณีชี้แจง  กรณีแบบนี้เขาเสียเปรียบเราอยู่แล้วครับ  เพราะหากเผอิญในเครสแบบนี้ไม่ว่าจะโดยผู้ค้ารายใดหรือบริษัทใด
ได้เคยถูกร้องเรียนเขามาเยอะหรือบ่อยๆในทำนองเดียวกัน  มันจะเป็นข้อพิสูนจ์ความรับผิดชอบของผู้ทำการค้าได้ดีว่ามีมาก-น้อยระดับไหน    และหากเคยมีคำตัดสินความโดยคำพิพากษา
เกี่ยวกับคดีผู้บริโภคทำนองนี้ไว้แล้วจะถือเป็นบรรทัดฐานให้การพิจารณาและตัดสินได้ไวยิ่งขึ้น    ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเมื่อเขารับเรื่องของเราเป็นคดีที่จะดำเนินการให้แล้ว  
เราจะถือว่าอยู่ในฐานะพยาน เขาจะเรียกเราไปศาลหรือไม่ก็ได้  โดยอัยการเป็นโจกท์ดำเนินคดีแทนเรา  โดยเราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยสักบาทเดียว  (ยกเว้นเสียแต่ค่าอาการแสตมป์)

ที่ผมรู้เรื่องนี้ดีเพราะผมเคยฟ้องบริษัทสรา้งบ้าน  บริษัทหนึ่ง โดยมีผู้เสียหาย มากพอสมควร  ส่วนใหญ่ยอมความและรับเงินบางส่วนไปโดยใช้เวลาตกลงกันไม่กี่เดือนเรื่องไม่ถึงศาล  
แต่ผมต้องการให้นี้มีชื่ออยู่ในแบ็คลีตของ สคบ. และไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อจึงยอมเสียเวลา7 ปีตั้งแต่ปี 49 -56 จนคดีสิ้นสุดเมื่อ ต้นเดือน ก.ค 2556 นี้แค่ศาลเดียวใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั้วโมง
ศาลตัดสินให้ผมชนะคดีโดยคู่ความไม่ยอมมาศาล   ชนะไปแบบขาดลอยได้เงินมาหลายแสนเพราะรวมดอกเบี้ย 6 ปีเขาไปบานตะไท  อัยการบอกคุณฉลาดมากไม่เสียเงินค่าจ้างสักบาท
ได้ใช้งานผมที่กินค่าจ้างรัฐวันละ 6-7 พันบาท.......(เงินที่บริษัทยอมจะให้เล็กน้อยถ้าไปฝากธนาคารดอกเบี้ยแค่ร้อยละ 2-3 บาท แต่ศาลคิดให้เราร้อยละ 7.5 ต่อปี  ดีกว่าฝากธนาคารอีก : )

ต่อไปใครมีเครสเดียวกับผมก็มีต้นแบบให้ สคบ.ทำสำนานส่งอัยการได้ไวขึ้น   อย่ากังวลเรื่องระยะเวลา  เรื่องของผมมันนานเพราะ สนง.สคบ.แต่ก่อนอยู่แถวทำเนียบรัฐบาล
เจอม๊อบเข้าไปเป็นปี ต่อมาย้ายสถานที่ไปศูนย์ราชการนนท์บุรีก็เสียเวลาจัดที่จัดทางอีก  แต่ก่อนเจ้าหน้าที่มีน้อย  เดี๋ยวนี้ที่ทำการใหญ่โตพนักงานเขามีเพิ่มขึ้นอีกบาน  
กรณีของคุณผมว่าไม่ถึงปีหรอก  MMTH โดนเรียกมาคุยเดี๋ยวก็ไกล่เกลี่ยโดยมีคนกลางที่มีอำนาจให้เขาชี้แจงได้  โดยมีการบันทึฏถ้อยคำไว้เป้นหลักฐานทุกครั้ง  
ดีกว่าไปเจรจาแบบเราไม่มีอำนาจต่อรอง   MMTH มันก็เลี่ยงไปวันๆจนเราเบื่อไปเอง  แล้วก็ยอมเท่าที่มันจะให้เรา   อย่างไรเพื่อคุณ และ สมาชิกปาเจโร่ ผมเอาใจช่วยครับเพราะผมก็ใช้ปาเจโรเช่นกัน

นับเป็นแนวทาง และ คำแนะนำ ที่มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งครับ ขออนุญาตเอาเป็นเยี่ยงอย่างครับ  ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: nadta ที่ กรกฎาคม 23, 2013, 02:39:23 pm
รวบรวมเอกสาร ที่ได้รับจากศูนย์บริการ  หลังจากที่เราแจ้งอาการป่วยและนำรถเข้าซ่อมบำรุง ตั้งแต่ครั้งแรก  (ถ้ายังเก็บไว้นะ)
แล้วก็นำไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ของ  สคบ. ได้เลยค่ะ

ซึ่ง ปัจจุบันนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ของ สคบ. ประจำอยู่ทุกๆ ที่ทำการของเทศบาลท้องถิ่นค่ะ

.....เห็นใจ และ เอาใจช่วยนะคะ  ยอดเยี่ยม 


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: aueee ที่ กรกฎาคม 24, 2013, 05:08:02 pm
ขอถามเจ้าของกระทู้ครับ ได้เปลี่ยนเครื่องมั้ยครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 29, 2013, 05:55:42 pm
ขอถามเจ้าของกระทู้ครับ ได้เปลี่ยนเครื่องมั้ยครับ

มาอัพเดตครับ จนถึงตอนนี้รถผมยังไม่ได้รับการเปลี่ยนเครื่องนะครับ รายละเอียดกำดำเนินการที่ผ่านมา กำลังทำการรวบรวมครับ เดียวจะเอามาอัพเดตชุดใหญ่ๆอีกทีครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ กรกฎาคม 30, 2013, 09:02:11 am
ขออนุญาติ

ตอนนี้ยังใช้รถบริษัทอยู่หรอคับ  sorry


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 30, 2013, 11:16:47 am
ขออนุญาติ

ตอนนี้ยังใช้รถบริษัทอยู่หรอคับ  sorry

ถูกต้องครับ ตอนนี้ผมยังใช้รถที่ทาง MMTH ใช้มาใช้งาน ระหว่างนำรถไปตรวจสอบครับ ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมนั้นผมกำลังรวบรวม มาจากทางบ้านที่ได้พูดคุยกับทาง Call Center และข้อมูลที่ผมมีเพื่อสรุปการดำเนินงานอยู่ครับ เดียวจะมาอัพเดตให้ทราบอีกครั้ง ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และ เป็นกำลังใจให้ต่อสู้ครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ สิงหาคม 28, 2013, 05:01:54 pm
ขออนุญาติ

มาตามทวงรายงานความคืบหน้าคับ
 grin


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ สิงหาคม 30, 2013, 01:05:01 pm
มาตามด้วยครับ ยังไม่ยอมเปลี่ยนให้อีก เหนื่อยแทนเลยครับ สู่ ๆ คับป๋า 


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ กันยายน 16, 2013, 04:24:13 pm
ขออนุญาติ

มันไม่มีความคืบหน้า
เลยหรอคับเนี่ย
 scared


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ กันยายน 16, 2013, 09:18:36 pm
นั่นซิครับ เป็นอย่างไงบ้าง จบหรือยัง จบแบบไหน


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กันยายน 27, 2013, 11:51:05 am
นั่นซิครับ เป็นอย่างไงบ้าง จบหรือยัง จบแบบไหน


ผมขออัพเดตดังนี้ครับ สาเหตุที่ผมไมไม่ได้มาอัพเดตเป็นเวลานานนั้นเพราะทางครอบครัวตัดสินใจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในความเสี่่ยงอันตรายตลอดเวลาที่ใช้งานรถคันดังกล่าว อันเนื่องมาจากความบกพร่องของผลิตภัณฑ์ และ ความประมาทในการบำรุงรักษาของช่างศูนย์บริการ จนทำให้เจ้าของรถตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายครับ และ กลัวว่าถ้าเอาความคืบหน้ามาแจ้งตลอดเหมือนเช่นเดิมอาจจะทำให้มีผลทางคดีจึงเก็บไว้อัพเดตทีเดียวครับ ซึ่งเวลานั้นได้มาถึงแล้ว....... 


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: suPreme ที่ กันยายน 27, 2013, 11:55:10 am
รอฟังข้อมูลต่อ เพื่อเป็นบรรทัดฐานแก่เพื่อนสมาชิกผู้ใช้มิตซูบิชิทุกท่านครับ  สาธุ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: sl ที่ กันยายน 27, 2013, 01:44:19 pm
ดีครับคำตัดสินมันจะเป็นบรรทัดฐานในกรณีแบบนี้ต่อไป   
แต่ผมว่าบริษัทมันจะกลัวเป็นบรรทัดฐานเลยต้องขอประนีประมอมยอมความก่อนศาลจะตัดสิน


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กันยายน 27, 2013, 03:28:06 pm
ดีครับคำตัดสินมันจะเป็นบรรทัดฐานในกรณีแบบนี้ต่อไป  
แต่ผมว่าบริษัทมันจะกลัวเป็นบรรทัดฐานเลยต้องขอประนีประมอมยอมความก่อนศาลจะตัดสิน

เค้าพยายามจะเจราจาอยู่เหมือนกันครับ และ ก็ได้ส่งเอกสารขอมอบสิทธิ์พิเศษมาให้ โดยระบุว่าห้าเปิดเผยไม่เช่นนั้นถือเป็นการโมฆะ แต่เนื่องจากทางครอบครัวผมไม่รับข้อตกลงนั้นอยู่แล้วเพราะเห็นว่ามันไม่คุ้มเลยกับสิ่งที่ได้รับมาเลยปฏิเสธไปเป็นอันว่าไหนๆก็ไม่รับแล้วเลยเปิดเผยได้ล่ะมั้ง เฮ้อๆๆ

(http://image.ohozaa.com/i/237/dJX6lA.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/x73hC2mpbxPufZ5R)

ขยายเวลารับประกันเพิ่มให้ตั้ง 1 ปีแน่ะ จากเดิม 5 เป็น 6 ปี ขยายระยะทางให้จาก 150,000 km เป็น 170,000 km กับเช็กระยะฟรีตั้ง 6 ครั้ง โคตรเยอะอ่ะ (ประชด) มันคุ้มกับชีวิตที่ต้องเสี่ยง กับเวลาที่เสียไปมั้ยล่ะครับ MMTH ช่วยเอาหัวสมองคิดหน่อย แต่ถ้าคนที่ทำงานอยู่คิดไม่ได้ แน่ะนะว่าให้จ้างคนที่เค้าคิดเป็นไปทำงานด้วยนะครับ เพื่อว่าการทำงานของคุณจะดีขึ้น


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กันยายน 27, 2013, 04:18:18 pm
ไหนๆก็มาอัพเดตแล้วก็จัดเต็มกันไปเลยครับแต่ต้องย้อนเวลาไปจนถึงวันที่ส่งมอบรถให้ทาง MMTH นำไปตรวจสอบแบบวุ่ยวายนิดหน่อย และ หลังจากนั้น 1 เดือนทาง MMTH ได้ส่งเอกสารผลการตรวจสอบรถไปหาคุณพ่อที่บ้านเมื่อทางบ้านได้อ่านแล้วก็มึนตึบ เพราะมันแทบจะคนล่ะเรื่องกับที่ได้ตกลงกันไว้เลย *****หมายเหตุผมได้ Copy ข้อความ และ รูปภาพต่อไปนี้มาจาก E-Mail ที่ส่งไปหาทาง MMTH นะครับเพราะโทรคุยกันไม่รู็สรุปใครมันพูดไม่รู้เรื่องกันแน่เลยต้องเก็บ E-Mail ไว้เป็นหลักฐาน ข้อความอาจจะแปลกๆไปบ้างนะครับ และ รูปของเอกสารจะไม่ค่อยชัดครับเพราะทางบ้านถ่ายรูปส่งมาให้ผมอีกที พยายามทำให้พออ่านได้ที่สุดแล้วนะครับ

*****************************************
                เมื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันเครื่องรั่วไปแล้วที่ศูนย์สิงห์บุรี ก็ยังไม่พบปัญหาน้ำมันเครื่องรั่วอีกแต่อย่างอย่างใด แต่ พบปัญหาเครื่องยนต์มาเสียงการทำงานที่ผิดปกติตาม ข้อ 1 จึงได้มีการประสานงานไปยัง Call Center อีกหลายครั้งแต่ก็พบความผิดหวังเพราะเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล Case นี้ไม่ได้ให้การช่วยเหลืออย่างที่ควรจะเป็น ในการติดต่อประสานงานในแต่ละครั้งนั้นทางเจ้าของรถต้องพบกับความทุกใจมากขึ้นเป็นทวีคูณจากการทำงานที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ตามงานให้ และ ไม่เคยจำคำพูดที่ได้รับปาก ว่าจะดำเนินการให้แต่อย่างใด ซึ่งได้ถูกต่อว่าจากคุณแม่อย่างรุนแรงมาแล้ว เพราะ ถูก Call Center ล่วงเกินลูกค้า โดยกล่าวว่า ลูกค้าเป็นคนที่พูดไม่รู้เรื่อง  แต่หลังจากนั้นการประสานงานก็ยังไม่มีการพัฒนาให้ดีขึ้น จนทำให้ลูกค้า และ ครอบครัวมี ทัศนคติที่ไม่ดีต่อ MMTH อย่างร้ายแรงถึงขั้นที่ประกาศว่า รถคันนี้จะเป็นรถที่จะซื้อ Mitsubishi เป็นคันแรก และ คันสุดท้าย และ จะไม่แนะนำญาติ หรือ คนรู้จักตลอดจนผู้คนที่สนใจถามข้อมูลของรถรุ่นนี้ให้ซื้อไปใช้งาน โดยยกปัญหาที่พบมาด้วยตนเองเป็นกรณีศึกษา
                               
                               
                หลังจากการ้องเรียนถึงปัญหาที่พบทาง MMTH ได้มาทำการรับรถเพื่อไปทำการตรวจสอบปัญหาที่สำนักงานใหญ่เป็นเวลาเกือบ 1 เดือน โดยผลสรุปที่ได้คือทาง Call Center ได้โทรศัพท์กลับมาแจ้งให้ทราบว่ารถที่รับไปไม่พบความผิดปกติ แ เครื่องยนต์มีเสียงดังกว่ารถรุ่นเดียวกันเล็กน้อย ซึ่งทางลูกค้าเองไม่สามารถรับกับคำตอบในลักษณะนี้ได้ เพราะถ้าไม่มีมีความผิดปกติ เครื่องยนต์จะมีเสียงดังกว่ารถรุ่นเดียวกันได้อย่างไร จึงได้มีการพูดคุยกับ Call Center อีกหลายครั้ง อีกทั้งยังได้ยื่นหนังสือขอให้ทำการเปลี่ยนเครื่องยนต์เพราะไม่สามารถทนใช้เครื่องที่มีปัญหาแบบนี้ได้อีกต่อไป แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินงานให้แต่อย่างใด อีกทั้งตลอดการประสานงานเจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่องมีลักษณะการทำงานที่ไม่มีแบบแผนมาตรฐาน ไม่มีการออกเอกสารใดให้ลูกค้าเป็นหลักฐานทำงานแบบเอาความดีเข้าตัวเอาความชั่วให้คนอื่น ไม่รับข้อเสนอลูกค้าไปเสนอผู้ใหญ่พิจารณาแต่อย่างไร มีแต่ปฏิเสธทิ้งเสียตั้งแต่คุยกัน และ เมื่อลูกค้าตั้งคำถามถึงสาเหตุที่รถมีปัญหา หรือ สอบถามความรับผิดชอบ ก็มักจะปฏิเสธเสียดื้อทำให้ความรู้สึกต่อลูกค้ายิ่งแย่เข้าไปอีก จนสุดท้ายเมื่อทาง MMTH ยืนยันว่ายังไงก็จะไม่เปลี่ยนเครื่องยนต์ให้ และ จะให้ลูกค้ามารับรถกลับอย่างเดียว จึงได้ขอให้ทาง MMTH ทำหนังสือชี้แจงรับรองว่ารถที่รับไปตรวจสอบไม่มีความผิดปกติจริง แต่ในครั้งแรกเจ้าหน้าที่ประสานงานก็ปฏิเสธที่จะดำเนินการให้ จนลูกค้ายืนยันว่าถ้าไม่ทำหนังสือชี้แจงส่งมาก่อนก็ไม่ต้องมาคุยกันเรื่องรับมอบรถ ถึงดำเนินการให้ โดยมีรายละเอียดตามเอกสารด้านล่าง

(http://image.ohozaa.com/i/f20/md137b.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/x73AgKZKsbC9r3QC)
(http://image.ohozaa.com/i/g27/wyVjsa.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/x73AgKZKsfjVrfWI)

                เอกสารที่ทาง MMTH ส่งมาให้นั้นเป็นเอกสารคนล่ะเรื่องกับที่ทางลูกค้าได้ยื่นข้อเสนอ และทาง Call Center ได้รับปากว่าจะดำเนินการให้ โดยลูกค้าได้ขอคำตอบจาก MMTH ไว้จำนวน 6 ข้อด้วยกันคือ
                1.รถที่ซื้อใหม่ป้ายแดง และ ใช้งานเป็นปกติมาตลอด 20,000 km โดยไม่มีปัญหา มีปัญหาความร้อนขึ้นหลังเข้ารับการเช็คระยะจากศูนย์บริการ และ เดินทางได้เพียงร้อยกว่า กิโลเมตรได้อย่างไร?
                2.เมื่อให้ประกันลากรถกลับไปให้ทำการตรวจสอบ และ ศูนย์บริการพิษณุโลกยืนยันว่ารถปกติทุกอย่าง แล้วทำไมรถผมถึงได้ความร้อนขึ้นระหว่าเดินทางไป อ.แม่สอด จ.ตาก จนเกือบเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเพราะเครื่องยนต์ดับระหว่างทางบนภูเขาได้อย่างไร
                3.เมื่อให้ประกันลากรถกลับไปให้ทำการตรวจสอบที่ศูนย์บริการสิทธิผลพระราม3 ศูนย์บริการยืนยันว่ารถปกติทุกอย่าง แล้วทำไมรถผมถึงได้ความร้อนขึ้นระหว่าเดินทางไป อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จนเกือบเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเพราะเครื่องยนต์ดับระหว่างทางบนภูเขาได้อย่างไร
                4.เมื่อเจ้าของรถค้นพบสาเหตุด้วยการศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเองจนทางของศูนย์บริการสิทธิผลพระราม3 ทำการแก้ไขปัญหาความร้อนได้รถของผมมีปัญหาน้ำมันเครื่องรั่วอีกได้อย่างไร
                5.เมื่อรถมีปัญหาน้ำมันเครื่องรั่ว ได้นำเข้าทำการแก้ไขที่ศูนย์บริการพิษณุโลก และ ศูนย์บริการพิษณุโลก ตลอดจน Call Center ยืนยันว่ารถปกติทุกอย่างทำไมรถผมถึงเกิดอาการที่มีความรุนแรงมากกว่าเดิม อีกทั้ง มีชิ้นส่วนบางชิ้น เสียหาย และบางชิ้นสูญหายไปตามที่ได้กล่าวมาด้านบน ตามที่ศูนย์บริการสิงห์บุรีตรวจสอบพบ
                6.จากปัญหาที่เกิดขึ้นมาทำให้มีความเสี่ยงอันตรายร้ายแรงจากความมักง่ายในการซ่อมบำรุงรถของลูกค้าตามที่ได้กล่าวมาก ถ้าเกิดการสูญเสียชีวิต และ ทรัพย์สินขึ้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
 
 
 
               
                จากเอกสารดังกล่าวเจ้าของรถไม่ได้ติดใจอะไรในข้อที่ 1-4 เพราะได้รับการแก้ไขไปเรียบร้อยด้วยความอุตสาหะ ของเจ้าของรถเองในการตามเรื่อง หาข้อมูล และ การประสานงานที่ไม่ประทับใจ ในการบริการหลังการขายขาก MMTH เลยแม้แต่น้อยตามที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ และ ในข้อที่ 5 ตามเอกสาร ที่ทางฝ่ายเทคนิคได้ทำการทดสอบวัดเสียงของเครื่องยนต์โดยการวัดความดังเป็น dB ตามรอบเครื่องยนต์ โดยที่รถจอดอยู่กับที่ ทั้งๆที่ในการประชุมกันทางโทรศัพท์ ระหว่าง Call Center และ ครอบครัวเจ้าของรถ ก็ได้อธิบายปัญหาว่าเสียงที่พบว่าเครื่องยนต์ผิดปกตินั้นเป็นเสียงที่เหมือนโลหะกระทบกัน และ จะดังให้ได้ยินชัดเมื่อรถออกตัวจากจุดหยุดนิ่งด้วยความเร็วต่ำประมาณ 20km/h และ รอบเครื่องยนต์ประมาณที่ 1,500 phr หรือ  เมื่อเร่งเครื่องขึ้นพื้นที่ลาดชันจะได้ยินเสียงเข้ามาในห้องโดยสารในทันที แต่คาดว่าคงเป็นเพราะลูกค้าทั้ง 4 คนที่อธิบายปัญหาพูดไม่รู้เรื่อง เช่นเดิม ตามที่ Call Center เคยต่อว่ามาก็เป็นได้?
 
               
 
                หลังจากนั้นทาง MMTH ได้นำรถมาส่งมอบ โดยทำการแลกเปลี่ยนรถกันที่ศูนย์บริการสิทธิผลพระราม 3 โดยในวันดังกล่าวก็ปัญหาในการประสานงาน ระหว่างลูกค้ากับ Call Center ตามปกติตามที่ลูกค้าสอบถาม และ เสนอขอความรับผิดชอบจาก MMTH เพิ่มเติม แต่กลับได้รับการปฏิเสธจาก Call Center ทันที โดยไม่การนำไปพิจารณาแต่ประการใดลูกค้าได้ปรึกษากันในครอบครัวโดยพิจารณาว่าปัญหาที่ได้รับมาทั้งหมดมากมายหลายอย่างน่าจะมีสาเหตุมาจากเจ้าหน้าที่ท่านนั้น ไม่ได้เป็นเพราะทาง MMTH มีปัญหาแต่ประการได้ และ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่จะตามมา จามที่ได้เตรียมการที่ได้เตรียมการไว้เช่น การแจ้งความดำเนินคดี เรื่องความประมาท จนทำให้เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต การเรียกร้องค่าเสียหาย การประประมาณ และ ประจารผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ อันเริ่มต้นมาจากการประสานงานกับ Call Center ตามที่ได้กล่าวมาแล้วซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้ใดเลย จึงได้ยื่นข้อเสนอขอให้ทำการเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานให้ ตามที่เคยร้องขอไปหลายครั้งแต่ได้รับการปฏิเสธมาโดยตลอด







หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กันยายน 27, 2013, 04:21:21 pm
สรุปแล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมากลายเป็นเจ้าหน้าที่ท่านอื่นโทรมาคุยกับผมแทน สงสัยคนเก่าโดนเด้งไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ  O0


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กันยายน 27, 2013, 04:43:49 pm
ในที่สุดวันส่งมอบรถคืนก็มาถึง โดยนัดหมายแลกรถกันที่ โชวรูมพระราม 3 เช่นเดิม เวลาประมาณ 15.00 น. แต่ก็ได้นั้งรอตามระเบียบจนถึงเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่จาก MMTH ท่านเดียวกับที่มารับรถก็โทรมาแจ้งว่ามาถึงแล้ว (ไม่น่าลางานครึ่งวันไปรอมันเลยเฮ้อๆๆ)โดยผมก็ได้ทำการทดสอบขับรถแต่เนื่องจากสภาพการจราจรของถนนพระราม 3 ช่วงเย็นติดขัดมากๆๆ เลยไม่ได้ Test อะไรมากมายอีกทั้งกว่าจะเครียลเรื่องเอกสารเสร็จก็เริ่มมืดแล้วเลยไม่ได้ตรวจสอบอะไรอีก เลยขับรถกลับบ้านทั้งอย่างนั้นพอ แต่พอขับไปได้ซักระยะนึงก็สังเกตุเห็นว่าหลักกิโลรถเราตอนที่ MMTH มารับไปมันเพิ่งจะ 40,100 km และทาง MMTH แจ้งว่า Test รถเราแค่ 4 ร้อยกว่ากอโลเมตร ตามที่ระบุในเอกสารก่อนหน้านี้ แต่ไมล์รถกลับกลายเป็น 41,200 km มันมาจากไหนอีกพันกว่าโลหว่า เลยลองหยิบสมุดคู่มือประจำรถขึ้นมาดูก็เลยรู้เรื่องน่าบ่นอีกเรื่องก็คือ ทาง MMTH ก็เห็นอยู่ว่ารถที่รับไปมันถึงเวลาจะต้องเช็คระยะ 40,000 แล้ว และเค้าก็ Test และ เอาไปใช้งานกันเป็นพัน km อยู่ที่สำนักงานใหญ่เป็นเดือน ทามมายไม่เช็คระยะมาให้ว้าๆๆๆๆๆๆ รถคันนี้มันก็ได้สิทธิ์เช็คฟรีอยู่แล้วนิ ปวดหัว  ทนไม่ได้

วันรุ่งขึ้นเลยโทรไปนัดหมายศูนย์บริการพระราม 3 ที่เดิมว่าจะเอารถเข้าไปเช็คระยะ 40,000 km โดยได้นำรถเข้าไปตอน 13.00 น. เสียงานไปอีกครึ่งวัน เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่มารับรถเค้าก็บอกว่า "รถพี่ไม่สามารถใช้คูบองค่าแรงพรีได้ครับเพราะเลขไมล์มันเกิน 41,000 กิโลไปแล้ว (เพิ่งรู้ว่าคูปอง ค่าแรงฟรีใช้เกินระยะได้ไม่เกิน 1000 กิโล)" เฮ็อๆๆๆๆๆ งานเข้า สรุปต้องโทรไปบ่นเจ้าหน้าที่ประสานงานเยอะเลยว่าทำไมเอารถไปตั้งนานไม่เช็คระยะให้ แถมขับรถผมจนเกินระยะใช้คูปองอีก

สุดท้ายเค้าก็เครียลกันให้แต่เสียเวลาไปเป็นชั่วโมงแน่ะ

ยังไม่จบครับพอเครีบลเรื่องคูปองค่าแรงเสร็จทางเจ้าหน้าที่รับรถคนเดิมกับ ที่มาทำเรื่องรับรถเมื่อครั้งส่งรถไปตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่มาตรวจสภาพร่องรอยของตัวรถ แล้วเค้าก็กวักมือเรียกไปที่รถ ผมก็คิดในใจว่าคราวนี้อะไรอีกว่ะ เจ้าหน้าที่เค้าชี้ให้ดูว่า รถผมได้รอยมาเพิ่มเพียบเลย เฮ้อๆๆ ดูจากเอกสารรับรถ เทียบกันระหว่างก่อนที่ MMTH มารับรถไปกับ หลังจากที่ผมรับรถคืนมาได้ตั้ง 1 วันแน่ะ จริงๆ แล้วเพิ่มได้รับมา 20 ชั่วโมงเองน้า

(http://image.ohozaa.com/i/a4e/i5cpog.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/x73AgKZKs9SVBtcx)
ด้านซ้ายเป็นเอกสารรับรถตอนที่ MMTH รับไปสำนักงานใหญ่ครับ  ด้านขวาเป็นเอกสารรับรถหลังจากได้รถคืนมา 20 ชั่วโมง

รอยมาจากไหนกันน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หลังจากนั้นก็เป็นงานการโวยวายครับ แต่ก็ตามคาด MMTH ไม่รู้เรื่อง ไม่รับผิดชอบครับ ผมก็ไม่ว่าอะไรเรียกประกันมาทำเรื่องเครมตรงนั้น โดยเอาหลักฐานทั้งหมดให้ประกันไป ทางเจ้าหน้าที่ก็ออกเอกสารเครมมาให้ โดยระบุว่าผมเป็นฝ่ายถูก อ้าวแล้วแบบนี้ฝ่ายที่ผิดที่ประกันจะไปเรียกร้องค่าเสียหายคือใครหว่า????????? ตัวใครตัวมันนะครับเฮ้อๆ
 


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กันยายน 27, 2013, 04:59:57 pm
คราวนี้เป็นเรื่องราวล่าสุดเลยครับ เพิ่งจะเกิดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี่เอง คือ เมื่อวันที่ 6-7 กันยายน 56 ที่ผ่านมาผมได้ขับรถคันนี้ไปเที่ยวล่องแพกับเพื่อนๆ ที่เขื่อนศรีนครินทร์ (เมืองกาญอีกแล้ว) ตอนขับไปมันก็ปกติดีครับรถแรง แซงมัน ขับสนุกตามแบบ PJS แต่พอไปถึงจุดลงแพผม และ เพื่อนก็นำรถไปจอดเรียงกันที่ลานจอดรถตามปกติเป็นเวลา 1 คืน และ เมื่อถึงเวลากลับเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้น คือ รถมันอืดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ วิ่งไม่ออก เร่งขึ้นเขาแทบไม่ไหว ต้องเหียบจนวัดรอบแตะ red line เกียรมันถึงจะเปลี่ยนเป็นเกียรติ์ที่ต่ำลง ผมเลยขับมาด้วยโหมด +- มาแบบอืดๆ ซึ่งมันกินน้ำมันมากๆๆๆ มาจนถึงกรุงเทพ และ ได้นำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์ไทยานยนต์ปากซอยสุขุวิท 87 โดยได้อธิบายอาการ และ ประวัติของคนไข้ให้เจ้าหน้าที่ฟังอย่างละเอียด และ ช่างได้ใช้เวลาในการจรวจสอบมากกว่า 5 ชั่วโมงจน สามารถสรุปอาการได้ว่า เกิดจากระบบ EGR อุดตัน และ สมองเกียรทำงานผิดปกติ เป็นสาเหตุของการที่เกียรมันเอ๋อบนเขาอ่ะเปล่าไม่รู้ โดยช่างได้อธิบายเพิ่มเติมว่า EGR มันไม่ได้ตันไปเลยเสียทีเดียว ไฟเครื่องเลยไม่โชว เวลาเอา Computer ไปตรวจสอบจะไม่เจอ ต้องเป็นช่างที่มีประสบการณ์ ถึงจะไล่ปัญหาเจอ **************************************(แสดงว่าช่างของ MMTH สำนักงานใหญ่ที่ใช้คอมพิวเตอร์ตรวจอย่างเดียว แล้วบอกว่ารถปกติ มันก็ช่างไก่อ่อนอ่ะดิ เฮ็อๆๆ)****************** ที่ศูนย์บริการเลยทำการแก้ไขโดยล้างระบบ EGR ให้แต่ Software ของสมองเกียรยังไม่สามารถแก้ไขได้เนื่องจากช่างพยายามลงโปรแกรมให้ใหม่แต่ลงไม่สำเร็จ เลยต้องนัดหมายวันเวลากันใหม่โดยจะเข้าไปแก้ไขในวันเสาร์ที่ 28/9/2556 ที่จะถึงนี้ครับ หลังจากนั้นเสียงรถผมที่ดัง ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันก็เงียบไปจนแทบจะไม่ได้ยินเลยทีเดียว สรุปแล้วสาเหตุมันอยู่ที่ตรงนี้เองใช่ป่ะเนี้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ไม่รุทำไมฝ่ายเทคนิค MMTH สำนักงานใหญ่หาไม่เจอก็ม่ะรุ แต่รถก็ยังมีอาการอืดๆๆๆ อยู่ช่วงการออกตัวเนื่องจากเกียรมันยังไม่หายดีครับ แต่พอรอบความเร็วสูง ความมันก็กลับมาครับ

***หมายเหตุ***เมื่อได้เข้ามาหาข้อมูลในบอร์ดก็พอว่าเป็น Case ที่มีความคล้ายกับ Pa น้าวุฒิ-บางแค เลยครับ www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=5305.0
แต่ต่างกันที่ Pa คันนั้นวิ่งไป 60,000 km ถึงเป็นแต่รถผมเป็นที่ 42,000 km เท่านั้น ******************* ทามม่ายกันน้า   crying


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: JAJA-RY ที่ กันยายน 27, 2013, 06:13:52 pm
คราวนี้เป็นเรื่องราวล่าสุดเลยครับ เพิ่งจะเกิดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี่เอง คือ เมื่อวันที่ 6-7 กันยายน 56 ที่ผ่านมาผมได้ขับรถคันนี้ไปเที่ยวล่องแพกับเพื่อนๆ ที่เขื่อนศรีนครินทร์ (เมืองกาญอีกแล้ว) ตอนขับไปมันก็ปกติดีครับรถแรง แซงมัน ขับสนุกตามแบบ PJS แต่พอไปถึงจุดลงแพผม และ เพื่อนก็นำรถไปจอดเรียงกันที่ลานจอดรถตามปกติเป็นเวลา 1 คืน และ เมื่อถึงเวลากลับเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้น คือ รถมันอืดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ วิ่งไม่ออก เร่งขึ้นเขาแทบไม่ไหว ต้องเหียบจนวัดรอบแตะ red line เกียรมันถึงจะเปลี่ยนเป็นเกียรติ์ที่ต่ำลง ผมเลยขับมาด้วยโหมด +- มาแบบอืดๆ ซึ่งมันกินน้ำมันมากๆๆๆ มาจนถึงกรุงเทพ และ ได้นำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์ไทยานยนต์ปากซอยสุขุวิท 87 โดยได้อธิบายอาการ และ ประวัติของคนไข้ให้เจ้าหน้าที่ฟังอย่างละเอียด และ ช่างได้ใช้เวลาในการจรวจสอบมากกว่า 5 ชั่วโมงจน สามารถสรุปอาการได้ว่า เกิดจากระบบ EGR อุดตัน และ สมองเกียรทำงานผิดปกติ เป็นสาเหตุของการที่เกียรมันเอ๋อบนเขาอ่ะเปล่าไม่รู้ โดยช่างได้อธิบายเพิ่มเติมว่า EGR มันไม่ได้ตันไปเลยเสียทีเดียว ไฟเครื่องเลยไม่โชว เวลาเอา Computer ไปตรวจสอบจะไม่เจอ ต้องเป็นช่างที่มีประสบการณ์ ถึงจะไล่ปัญหาเจอ **************************************(แสดงว่าช่างของ MMTH สำนักงานใหญ่ที่ใช้คอมพิวเตอร์ตรวจอย่างเดียว แล้วบอกว่ารถปกติ มันก็ช่างไก่อ่อนอ่ะดิ เฮ็อๆๆ)****************** ที่ศูนย์บริการเลยทำการแก้ไขโดยล้างระบบ EGR ให้แต่ Software ของสมองเกียรยังไม่สามารถแก้ไขได้เนื่องจากช่างพยายามลงโปรแกรมให้ใหม่แต่ลงไม่สำเร็จ เลยต้องนัดหมายวันเวลากันใหม่โดยจะเข้าไปแก้ไขในวันเสาร์ที่ 28/9/2556 ที่จะถึงนี้ครับ หลังจากนั้นเสียงรถผมที่ดัง ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันก็เงียบไปจนแทบจะไม่ได้ยินเลยทีเดียว สรุปแล้วสาเหตุมันอยู่ที่ตรงนี้เองใช่ป่ะเนี้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ไม่รุทำไมฝ่ายเทคนิค MMTH สำนักงานใหญ่หาไม่เจอก็ม่ะรุ แต่รถก็ยังมีอาการอืดๆๆๆ อยู่ช่วงการออกตัวเนื่องจากเกียรมันยังไม่หายดีครับ แต่พอรอบความเร็วสูง ความมันก็กลับมาครับ

***หมายเหตุ***เมื่อได้เข้ามาหาข้อมูลในบอร์ดก็พอว่าเป็น Case ที่มีความคล้ายกับ Pa น้าวุฒิ-บางแค เลยครับ www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=5305.0
แต่ต่างกันที่ Pa คันนั้นวิ่งไป 60,000 km ถึงเป็นแต่รถผมเป็นที่ 42,000 km เท่านั้น ******************* ทามม่ายกันน้า   crying
น่าจะคนละปัญหากับอาการอุดตันที่ท่อลมของ Map sensor ที่น้าวุฒิโพสท์ไว้นะครับ เพราะคันนั้นเป็นรุ่น 140HP จุดแท็ปท่อลม Map sensor จะฝั่งตรงท่อร่วมไอดีเมื่อ เขม่าจาก EGR ผสมกับไอน้ำมันที่มาจากฝาวาล์วมันจะอุดตันตรงนี้ได้ แต่รถป๋าเท่าที่ผมติดตามอ่านมาน่าจะเป็นรุ่น 178HP VG turbo(ถ้าผิดก็ขออภัย) ซึ่งจุดแท็ปวัดค่า manifold absolute pressure จะถูกย้ายมาหลังปีกผีเสื้อซึ่งเขม่าจาก EGR+ไอน้ำมัน จะมาอุดตันไม่ได้ ดูการวิเคราะห์ปัญหาของช่างมิตซูแล้วเหนื่อยใจ ผมวิ่งแค่ 28000 โล ก็ไม่เอาเข้าแล้วศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องข้างนอกดูแลตามสภาพ รักษาตามอาการเอา นอกจากวันในอยากจะไป check สมองถึงเข้าไปให้ศูนย์ เลินนิ่งโปรแกรมให้ อาการที่ป๋าบอกว่าอืดถ้ามันมากจนแทบจะไม่มีแรงเลยลองดูสาย vacuum ของกระป๋อง VG นะครับอาจหลุดหรือแตก เพราะถ้าหลุดจะทำให้ turbo คายไอเสียทิ้งไม่เอามาปั่นใบ boost ไม่ขึ้นรถไม่มีแรง แต่อาการที่บอกมาเป็นได้หลายสาเหตุมากครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กันยายน 27, 2013, 06:32:40 pm
คราวนี้เป็นเรื่องราวล่าสุดเลยครับ เพิ่งจะเกิดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี่เอง คือ เมื่อวันที่ 6-7 กันยายน 56 ที่ผ่านมาผมได้ขับรถคันนี้ไปเที่ยวล่องแพกับเพื่อนๆ ที่เขื่อนศรีนครินทร์ (เมืองกาญอีกแล้ว) ตอนขับไปมันก็ปกติดีครับรถแรง แซงมัน ขับสนุกตามแบบ PJS แต่พอไปถึงจุดลงแพผม และ เพื่อนก็นำรถไปจอดเรียงกันที่ลานจอดรถตามปกติเป็นเวลา 1 คืน และ เมื่อถึงเวลากลับเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้น คือ รถมันอืดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ วิ่งไม่ออก เร่งขึ้นเขาแทบไม่ไหว ต้องเหียบจนวัดรอบแตะ red line เกียรมันถึงจะเปลี่ยนเป็นเกียรติ์ที่ต่ำลง ผมเลยขับมาด้วยโหมด +- มาแบบอืดๆ ซึ่งมันกินน้ำมันมากๆๆๆ มาจนถึงกรุงเทพ และ ได้นำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์ไทยานยนต์ปากซอยสุขุวิท 87 โดยได้อธิบายอาการ และ ประวัติของคนไข้ให้เจ้าหน้าที่ฟังอย่างละเอียด และ ช่างได้ใช้เวลาในการจรวจสอบมากกว่า 5 ชั่วโมงจน สามารถสรุปอาการได้ว่า เกิดจากระบบ EGR อุดตัน และ สมองเกียรทำงานผิดปกติ เป็นสาเหตุของการที่เกียรมันเอ๋อบนเขาอ่ะเปล่าไม่รู้ โดยช่างได้อธิบายเพิ่มเติมว่า EGR มันไม่ได้ตันไปเลยเสียทีเดียว ไฟเครื่องเลยไม่โชว เวลาเอา Computer ไปตรวจสอบจะไม่เจอ ต้องเป็นช่างที่มีประสบการณ์ ถึงจะไล่ปัญหาเจอ **************************************(แสดงว่าช่างของ MMTH สำนักงานใหญ่ที่ใช้คอมพิวเตอร์ตรวจอย่างเดียว แล้วบอกว่ารถปกติ มันก็ช่างไก่อ่อนอ่ะดิ เฮ็อๆๆ)****************** ที่ศูนย์บริการเลยทำการแก้ไขโดยล้างระบบ EGR ให้แต่ Software ของสมองเกียรยังไม่สามารถแก้ไขได้เนื่องจากช่างพยายามลงโปรแกรมให้ใหม่แต่ลงไม่สำเร็จ เลยต้องนัดหมายวันเวลากันใหม่โดยจะเข้าไปแก้ไขในวันเสาร์ที่ 28/9/2556 ที่จะถึงนี้ครับ หลังจากนั้นเสียงรถผมที่ดัง ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันก็เงียบไปจนแทบจะไม่ได้ยินเลยทีเดียว สรุปแล้วสาเหตุมันอยู่ที่ตรงนี้เองใช่ป่ะเนี้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ไม่รุทำไมฝ่ายเทคนิค MMTH สำนักงานใหญ่หาไม่เจอก็ม่ะรุ แต่รถก็ยังมีอาการอืดๆๆๆ อยู่ช่วงการออกตัวเนื่องจากเกียรมันยังไม่หายดีครับ แต่พอรอบความเร็วสูง ความมันก็กลับมาครับ

***หมายเหตุ***เมื่อได้เข้ามาหาข้อมูลในบอร์ดก็พอว่าเป็น Case ที่มีความคล้ายกับ Pa น้าวุฒิ-บางแค เลยครับ www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=5305.0
แต่ต่างกันที่ Pa คันนั้นวิ่งไป 60,000 km ถึงเป็นแต่รถผมเป็นที่ 42,000 km เท่านั้น ******************* ทามม่ายกันน้า   crying
น่าจะคนละปัญหากับอาการอุดตันที่ท่อลมของ Map sensor ที่น้าวุฒิโพสท์ไว้นะครับ เพราะคันนั้นเป็นรุ่น 140HP จุดแท็ปท่อลม Map sensor จะฝั่งตรงท่อร่วมไอดีเมื่อ เขม่าจาก EGR ผสมกับไอน้ำมันที่มาจากฝาวาล์วมันจะอุดตันตรงนี้ได้ แต่รถป๋าเท่าที่ผมติดตามอ่านมาน่าจะเป็นรุ่น 178HP VG turbo(ถ้าผิดก็ขออภัย) ซึ่งจุดแท็ปวัดค่า manifold absolute pressure จะถูกย้ายมาหลังปีกผีเสื้อซึ่งเขม่าจาก EGR+ไอน้ำมัน จะมาอุดตันไม่ได้ ดูการวิเคราะห์ปัญหาของช่างมิตซูแล้วเหนื่อยใจ ผมวิ่งแค่ 28000 โล ก็ไม่เอาเข้าแล้วศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องข้างนอกดูแลตามสภาพ รักษาตามอาการเอา นอกจากวันในอยากจะไป check สมองถึงเข้าไปให้ศูนย์ เลินนิ่งโปรแกรมให้ อาการที่ป๋าบอกว่าอืดถ้ามันมากจนแทบจะไม่มีแรงเลยลองดูสาย vacuum ของกระป๋อง VG นะครับอาจหลุดหรือแตก เพราะถ้าหลุดจะทำให้ turbo คายไอเสียทิ้งไม่เอามาปั่นใบ boost ไม่ขึ้นรถไม่มีแรง แต่อาการที่บอกมาเป็นได้หลายสาเหตุมากครับ

แสดงว่างานนี้ผมได้ศึกษาอาการผิดปกติของ PJS เพิ่มขึ้นอีก 1 อาการแล้วสิครับเนี้ย    รถผมเป็น 178HP VG turbo ถูกต้องแล้วครับ ถ้าเป็นไปได้อยากได้รูปขั้นตอนการตรวจสอบเบื้องต้นครับ จะได้ลองตรวจสอบดูเองก่อน แบบว่าไม่ไว้ใจศูนย์น่ะครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: JAJA-RY ที่ กันยายน 27, 2013, 09:38:37 pm
ถ้าไฟเครื่องยังไม่โชว์ก็วิเคราะห์ยากนิดนึงครับป๋าแต่เบื่องต้นตรวจสอบสาย vacuum ตามกรถะทู้นี้ครับว่ามีหลุดมีรั่วมีแตกบ้างมั้ย http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=12197.30
-กรองอากาศรถเปลี่ยนหรือเป่าบ้างหรือยัง
-กรองโซล่ามีสิ่งสกปรกจากการเติมน้ำมันที่มีน้ำผสมหรือหรือสนิมจากถังกักเก็บน้ำมันของปั้มเก่าๆลองถอดกรองโซล่ามาคว่ำดูได้ครับเพราะถ้ากรองตันน้ำมันวิ่งเข้าระบบไม่พอแค่แรงจะปีนเนินลูกระนาดในซอยแถวบ้านยังไม่ไหวเลย
-SCV ตัวกำหนดน้ำมันเข้า pump commonrail ตัวนี้ต้องใช้เครื่องมือพวก smart gauge หรือ MUTIII อ่านค่า CRP(commonrail pressure) ดูตัวเลขนะครับว่านิ่งหรือไม่ปกติจะอยู่ที่ 29-30 MPa สำหรับ VG (ตอนเครื่องร้อนแล้วนะ) ถ้ามันมีอาการสวิงขึ้นลงในย่านที่กว้างมันจะบ่งบอกถึงอาการติดขัดของ SCV ติดหนักเมื่อเราขับเร่งรอบสูงๆหน่อยจะเกิดอาการรถสดุดวูบๆวาบ
-ประเด็นในเรื่องเกียร์ก็มีส่วนนะครับหากเกินความผิดปกติจริงนั่นคือความเร็ว รอบเครื่อง เกียร์ทำงานไม่สัมพันธ์กัน ลองใช้เกียร์ + - ดู ถ้าอัตราเร่งติดตามเท้าน่าจะต้องดูโปรแกรมที่เกียร์ใหม่
-ย้อนกลับไปดูอาการตอนเกิดเหตุป๋าบอกว่ารถเกียร์ไม่ยอมเปลี่ยนกดคันเร่งจนรอบไปถึง red line ถ้าเอาจุดนี้มาวิเคราะห์จะแตกได้สองประเด็นนั่นคือ
1.ระบบการทำงานของเกียร์มีปัญหาต้องลองลงโปรแกรมและเลินนิ่งระบบเกียร์ใหม่
2.เกิดจากระบบน้ำมันเพราะ ecu gear จะเอาสัญญาณ CRP (common rail pressure) มาประมวลผลว่าจะให้เปลี่ยนเกียร์ได้หรือไม่ ในส่วนนี้ผมขอแชร์ประสบการ์แล้วกันนะครับ ผมใช้กล่องดันรางซึ่งทำเองจูนเองเมื่อเราปรับกล่องดันรางให้มันหลอกค่า CRP เยอะคือค่าที่ส่งให้ ECU น้อยมันจะส่งผลทำให้การเปลี่ยนเกียร์ต้องลากรอบสูงเพราะฉนั้นกล่องดันรางสำหรับ gear auto จะจูนได้ไม่มากนักเมื่อเทียบกับรถเกียร์ธรรมดา ฉนั้นอาการที่เกิดกับรถป๋าจึงบางอย่างที่มันตรงกับจุดนี้ คือการสร้างแรงดันของปั้มตอนนั้นทำได้น้อยจนค่าที่ gear ได้รับยังต่ำจนไม่ยอมให้เปลี่ยน สิ่งที่จะทำให้ก็มีตั้งแต่กรองโซล่า SCV ปั้มคอมมอนเรล การรั่วของระบบคอมมอนเรล ครับ ต้องไล่ดู  :D


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: pon306 ที่ กันยายน 27, 2013, 10:10:24 pm
ได้ความรู้เยอะเลยคับ สาธุ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กันยายน 27, 2013, 10:15:06 pm
ถ้าไฟเครื่องยังไม่โชว์ก็วิเคราะห์ยากนิดนึงครับป๋าแต่เบื่องต้นตรวจสอบสาย vacuum ตามกรถะทู้นี้ครับว่ามีหลุดมีรั่วมีแตกบ้างมั้ย http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=12197.30
-กรองอากาศรถเปลี่ยนหรือเป่าบ้างหรือยัง
-กรองโซล่ามีสิ่งสกปรกจากการเติมน้ำมันที่มีน้ำผสมหรือหรือสนิมจากถังกักเก็บน้ำมันของปั้มเก่าๆลองถอดกรองโซล่ามาคว่ำดูได้ครับเพราะถ้ากรองตันน้ำมันวิ่งเข้าระบบไม่พอแค่แรงจะปีนเนินลูกระนาดในซอยแถวบ้านยังไม่ไหวเลย
-SCV ตัวกำหนดน้ำมันเข้า pump commonrail ตัวนี้ต้องใช้เครื่องมือพวก smart gauge หรือ MUTIII อ่านค่า CRP(commonrail pressure) ดูตัวเลขนะครับว่านิ่งหรือไม่ปกติจะอยู่ที่ 29-30 MPa สำหรับ VG (ตอนเครื่องร้อนแล้วนะ) ถ้ามันมีอาการสวิงขึ้นลงในย่านที่กว้างมันจะบ่งบอกถึงอาการติดขัดของ SCV ติดหนักเมื่อเราขับเร่งรอบสูงๆหน่อยจะเกิดอาการรถสดุดวูบๆวาบ
-ประเด็นในเรื่องเกียร์ก็มีส่วนนะครับหากเกินความผิดปกติจริงนั่นคือความเร็ว รอบเครื่อง เกียร์ทำงานไม่สัมพันธ์กัน ลองใช้เกียร์ + - ดู ถ้าอัตราเร่งติดตามเท้าน่าจะต้องดูโปรแกรมที่เกียร์ใหม่
-ย้อนกลับไปดูอาการตอนเกิดเหตุป๋าบอกว่ารถเกียร์ไม่ยอมเปลี่ยนกดคันเร่งจนรอบไปถึง red line ถ้าเอาจุดนี้มาวิเคราะห์จะแตกได้สองประเด็นนั่นคือ
1.ระบบการทำงานของเกียร์มีปัญหาต้องลองลงโปรแกรมและเลินนิ่งระบบเกียร์ใหม่
2.เกิดจากระบบน้ำมันเพราะ ecu gear จะเอาสัญญาณ CRP (common rail pressure) มาประมวลผลว่าจะให้เปลี่ยนเกียร์ได้หรือไม่ ในส่วนนี้ผมขอแชร์ประสบการ์แล้วกันนะครับ ผมใช้กล่องดันรางซึ่งทำเองจูนเองเมื่อเราปรับกล่องดันรางให้มันหลอกค่า CRP เยอะคือค่าที่ส่งให้ ECU น้อยมันจะส่งผลทำให้การเปลี่ยนเกียร์ต้องลากรอบสูงเพราะฉนั้นกล่องดันรางสำหรับ gear auto จะจูนได้ไม่มากนักเมื่อเทียบกับรถเกียร์ธรรมดา ฉนั้นอาการที่เกิดกับรถป๋าจึงบางอย่างที่มันตรงกับจุดนี้ คือการสร้างแรงดันของปั้มตอนนั้นทำได้น้อยจนค่าที่ gear ได้รับยังต่ำจนไม่ยอมให้เปลี่ยน สิ่งที่จะทำให้ก็มีตั้งแต่กรองโซล่า SCV ปั้มคอมมอนเรล การรั่วของระบบคอมมอนเรล ครับ ต้องไล่ดู  :D

ขอขอบพระคุณ Pa เป็นอย่างสูงงงงงงงงงงมากๆๆๆคราบ  เดียวผมลองไปเช็คดูครับผมมีประเด็น อยู่กับ รูปที่ 1 ที่ Pa ว่าพอดี
(http://image.ohozaa.com/i/5ee/n6l0Uj.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/x75ydrBiic9C49DB)
จุดที่ 1 ที่ Pa บอกว่าน่าสงสัย
(http://image.ohozaa.com/i/ac3/gi76hV.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/x75ybjJcALszl8ob)
(http://image.ohozaa.com/i/f00/CEnRAm.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/x75ycnFfrtQKkZib)
จุดที่ผมเคยมีประเด็นอยู่กับทาง MMTH ก่อนหน้านี้


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: JAJA-RY ที่ กันยายน 27, 2013, 10:52:57 pm
ในภาพคือแวคคัมปั้มครับ ท่อลมจากตัวนี้จะเป็นตัวไปควบคุมการเปิด ปิดไอเสียเข้าโข่งหลัง ถ้าท่อนี้ค่า vacuum ต่ำในกรณีท่อหลุด แตก หรือรั่ว จะส่งผลให้ turbo ทำแรงดันอาการทางฝั่งไอดีได้น้อยครับมีผลเรื่องความแรงแน่นอน ส่วนตัวปั้มที่ป๋าเคยมีปัญหาหากมันสร้างแวคคัมได้น้อยไม่เพียงพอต่อการทำให้ครีบโข่งหลังรับลมแบบเต็มๆได้ก็มีส่วนได้เหมือนกันครับที่ความแรงจะหายไป ถ้ามี smart gauge อยากให้ลองอ่านค่า TBP(turbo boost pressure) ดูครับว่ามันยังสร้างแรงดันอากาศที่ท่อร่วมไอดีได้สูงถึง 18-20 psi หรือไม่


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กันยายน 28, 2013, 04:07:55 pm
ในภาพคือแวคคัมปั้มครับ ท่อลมจากตัวนี้จะเป็นตัวไปควบคุมการเปิด ปิดไอเสียเข้าโข่งหลัง ถ้าท่อนี้ค่า vacuum ต่ำในกรณีท่อหลุด แตก หรือรั่ว จะส่งผลให้ turbo ทำแรงดันอาการทางฝั่งไอดีได้น้อยครับมีผลเรื่องความแรงแน่นอน ส่วนตัวปั้มที่ป๋าเคยมีปัญหาหากมันสร้างแวคคัมได้น้อยไม่เพียงพอต่อการทำให้ครีบโข่งหลังรับลมแบบเต็มๆได้ก็มีส่วนได้เหมือนกันครับที่ความแรงจะหายไป ถ้ามี smart gauge อยากให้ลองอ่านค่า TBP(turbo boost pressure) ดูครับว่ามันยังสร้างแรงดันอากาศที่ท่อร่วมไอดีได้สูงถึง 18-20 psi หรือไม่

ขอบคุณครับเดียวลองตรวจสอบดูครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ กันยายน 28, 2013, 04:59:20 pm
ขออนุญาติ

มหากาพย์จริงๆ
 sorry


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ กันยายน 30, 2013, 10:35:19 pm
เขายังไม่ยอมเปลี่่ยนเครื่องให้ป๋าอีกเหรอครับ  มาตราฐานอยู่ตรงไหน ผมก็ 0 พิดโลก แต่ได้เปลี่ยน
สู่ ๆ ครับป๋า


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ ตุลาคม 15, 2013, 11:38:33 am
เขายังไม่ยอมเปลี่่ยนเครื่องให้ป๋าอีกเหรอครับ  มาตราฐานอยู่ตรงไหน ผมก็ 0 พิดโลก แต่ได้เปลี่ยน
สู่ ๆ ครับป๋า

จากปัญหาความร้อนที่เกิดขึ้นจนรถดับไปถึง 3 ครั้ง MMTH นำรถไปตรวจสอบความผิดปกติอยู่เป็นเวลา 1 เดือนนอกจากจะไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องให้ ยังแจ้งกลับมาว่ารถของผมปกติทุกอย่าง และ หลังจากนั้นรถผมก็มีอาการตามมาอีกคือ 1.อืดๆๆๆๆๆๆๆ เร่งไม่ขึ้น 2.ควันดำขโมงเหมือนรถเมล์เลย 3.กินน้ำมันโฮกๆ 4.เกียร์ออโต้มันต้องลากรอบขึ้นไปถึง 4000 รอบ (redline)ก่อนถึงจะยอมเปลี่ยน และ ไม่รู้ว่าจะเจอปัญหาอะไรตามมาอีก


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: BigFather ที่ ตุลาคม 15, 2013, 02:23:16 pm
เขายังไม่ยอมเปลี่่ยนเครื่องให้ป๋าอีกเหรอครับ  มาตราฐานอยู่ตรงไหน ผมก็ 0 พิดโลก แต่ได้เปลี่ยน
สู่ ๆ ครับป๋า

จากปัญหาความร้อนที่เกิดขึ้นจนรถดับไปถึง 3 ครั้ง MMTH นำรถไปตรวจสอบความผิดปกติอยู่เป็นเวลา 1 เดือนนอกจากจะไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องให้ ยังแจ้งกลับมาว่ารถของผมปกติทุกอย่าง และ หลังจากนั้นรถผมก็มีอาการตามมาอีกคือ 1.อืดๆๆๆๆๆๆๆ เร่งไม่ขึ้น 2.ควันดำขโมงเหมือนรถเมล์เลย 3.กินน้ำมันโฮกๆ 4.เกียร์ออโต้มันต้องลากรอบขึ้นไปถึง 4000 รอบ (redline)ก่อนถึงจะยอมเปลี่ยน และ ไม่รู้ว่าจะเจอปัญหาอะไรตามมาอีก

อาการนี้เคยประสบพบเห็นกับรถ สมช ท่านนึงตอนออกทริปกันครับ สาเหตุที่พบคือสาย vacuum ของกระป๋อง VG หลุดตามที่ป๋า JAJA-RY ว่าไว้ครับ ควันโขมงเป็นรถขายไก่ย่างเลย เร่งไม่ขึ้นทั้งๆที่กินจุ
มันอยู่ใต้ VG ครับ ต้องรอให้เครื่องเย็นลงแล้วสอดมือเข้าไปคลำดู (ยืนมองข้างบนต้องเอียง..คะแคง หัวโขกฝากระโปรงเจ็บอีก) ว่าจะ DIY หาเข็มขัดมารัดซะ แต่มันเล็กกว่านิ้วก้อยผมซะอีก ยังหาวิธีป้องกันมันหลุดอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ ตุลาคม 18, 2013, 03:12:04 pm
อัพเดตครับ
               คุณพ่อผมได้นำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนยบริการพิจิตรโดยช่างได้ตรวจสอบ และ ทดลองขับโดยพบความผิดปกติดังนี้
               1.เครื่องอืดเร่งความเร็วไม่ได้
               2.ควันดำมาก
               3.กินน้ำมัน โฮกๆ
               4.เกียร์ไม่ยอมเปลี่ยน ขณะเร่งความเร็ว
               5.เครื่องยนต์เดินสะดุด
               6.ระบบเทอร์โบ ไม่มีอาการตอบสนอง
               7.Air Flow Sensor ไม่ทำงาน

               ช่างที่ตรวจสอบถึงกับ งง ว่าทำไมมันเสียได้เยอะขนาดนี้ รวมกับที่เคยเสียๆๆมามันจะครบทั้งคันอยู่แล้วนะเนี้ย ช่างเลยติดต่อไปที่ MMTH ว่าจะให้เอาไง เพราะ รถคันนี้ผ่านการตรวจสอบโดยฝ่ายเทคนิค MMTH มาแล้ว แต่กับหาอาการ และ สาเหตุไม่เจอ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: suPreme ที่ ตุลาคม 18, 2013, 05:57:28 pm
อัพเดตครับ
               คุณพ่อผมได้นำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนยบริการพิจิตรโดยช่างได้ตรวจสอบ และ ทดลองขับโดยพบความผิดปกติดังนี้
               1.เครื่องอืดเร่งความเร็วไม่ได้
               2.ควันดำมาก
               3.กินน้ำมัน โฮกๆ
               4.เกียร์ไม่ยอมเปลี่ยน ขณะเร่งความเร็ว
               5.เครื่องยนต์เดินสะดุด
               6.ระบบเทอร์โบ ไม่มีอาการตอบสนอง
               7.Air Flow Sensor ไม่ทำงาน

               ช่างที่ตรวจสอบถึงกับ งง ว่าทำไมมันเสียได้เยอะขนาดนี้ รวมกับที่เคยเสียๆๆมามันจะครบทั้งคันอยู่แล้วนะเนี้ย ช่างเลยติดต่อไปที่ MMTH ว่าจะให้เอาไง เพราะ รถคันนี้ผ่านการตรวจสอบโดยฝ่ายเทคนิค MMTH มาแล้ว แต่กับหาอาการ และ สาเหตุไม่เจอ


 ตกใจ ตกใจ ตกใจ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Jon-Snow ที่ ตุลาคม 18, 2013, 08:41:40 pm
ติดตามอ่านมานาน.....ฟ้อง สคบ. เถอะครับเผื่ออะไรมันจะง่ายขึ้น

เพื่อนผมรับราชการอยู่ฝ่ายกฎหมายของ สคบ. ถ้าป๋าไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร

PM มานะครับ เดี๋ยวผมประสานงานให้ครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ ตุลาคม 19, 2013, 10:02:58 pm
ฟ้องเถอะครับเสียเวลา เสียความรู้สึกมานานไปแล้ว


สู่ ๆครับ ขอให้ได้เปลี่ยนเครื่องไว ๆ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ ตุลาคม 23, 2013, 12:37:27 am
ติดตามอ่านมานาน.....ฟ้อง สคบ. เถอะครับเผื่ออะไรมันจะง่ายขึ้น

เพื่อนผมรับราชการอยู่ฝ่ายกฎหมายของ สคบ. ถ้าป๋าไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร

PM มานะครับ เดี๋ยวผมประสานงานให้ครับ

ฟ้องไปแล้วครับ สคบ. ขอข้อมูลเพิ่มเติมไป แต่แล้วทุกอย่างก็เงียบ...............................


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ ตุลาคม 23, 2013, 12:38:21 am
ฟ้องเถอะครับเสียเวลา เสียความรู้สึกมานานไปแล้ว


สู่ ๆครับ ขอให้ได้เปลี่ยนเครื่องไว ๆ

ตอนนี้มองไปที่เปลี่ยนรถแล้วครับ เพราะความเสียหายมันลามไปอุปกรณือื่นจนจะครบทั้งเครื่องยนต์แล้ว


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ ตุลาคม 24, 2013, 12:37:25 pm
เงียบก็ต้องตาม ต้องจิกครับ พวกนี้ทำงานกันแบบนี้แหละ ผลประโยนช์ไม่ต้องเกรงใจ จัดไปครับ

สู่ ๆ ครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤศจิกายน 04, 2013, 11:26:21 am
อัพเดตครับ

ตอนนี้ สคบ. ส่งหนังสือเชิญให้ไปเจรจาไกล่เกลี่ย ในวันพรุ่งนี้ (5/11/2556) เจอกันหน่อย MMTH

 (http://image.ohozaa.com/i/6b5/P6zdq5.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/xbUKqCm0UUOYKqtW)


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ พฤศจิกายน 04, 2013, 12:40:33 pm
ขอให้จบสวย ๆ ครับป๋า   สู่ ๆ ครับ 


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: suPreme ที่ พฤศจิกายน 04, 2013, 01:06:24 pm
เอาใจช่วยด้วยอีกแรงครับ  O0


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤศจิกายน 06, 2013, 01:33:30 pm
อัพเดตความคืบหน้า หลังจากที่ไปสู้รบ กับ MMTH ที่ สคบ. มาครับ

(http://image.ohozaa.com/i/c08/NF0h3n.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/xcb5VQaINqSFirKM)

(http://image.ohozaa.com/i/221/oSL04l.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/xcb5Wy85mFiMde89)

(http://image.ohozaa.com/i/c87/ECiUPS.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/xcb5Wc9p5eAhBiu3)

เอกสารด้านบนเป็นการบันทึกการเจรจา กับ สี่ฝ่ายระหว่าง ฝั่ง MMTH ที่มี ตัวแทนที่ได้รับอำนาจจาก MMTH ตัวแทนจากบริษัทสิทธิผลเซล์ ผู้ร้องทุก คือ ผม และ ครอบครัว และ เจ้าหน้าที่ สคบ. เป็นผู้ประสานงาน
จากการผู้คุยกันด้วยเหตุผล และ ทางผมได้มีการนำข้อมูลเชิงเทคนิคที่ได้หาไว้จากพี่ภายในบอร์ด และ หาความรู้เพิ่มเติมจาก Internet ไปหักล้างข้อมูลที่ MMTH เอาผล Report ผลการทดสอบมาอ้างว่าได้ตรวจสอบรถผมว่าปกติทุกอย่างไปให้ดู เช่น เอกสารจากศูนย์บริการที่ผมเอารถไปตรวจสอบความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นล่าสุด หลังจาก MMTH ได้รับรถไปตรวจสอบแบบละเอียด (ละเอียดแล้วเหรอ) แต่หลังจากส่งมอบรถคืนให้ลูกค้าแล้วกลับมีควมเสียหายส่วนอื่นเพิ่มขึ้นมาอีก โดยเอาข้อมูลเชิงเทคนิคมาแจงให้ฟังโดยละเอียด จนช่างเทคนิคของ MMTH ที่มาร่วมชี้แจงด้วย เงิบไปเลยเหมือนกัน ซึ่งพอจะมีรายละเอียดดังนี้ (จำได้ไม่หมดนะครับเพราะเถียงกันนานมาก)


1.ทางศูนย์บริการไทยยานยนต์ สุขุมวิท 87 ได้ตรวจสอบพบว่าอาการรถวิ่งไม่ออก กินน้ำมัน เครื่องสะดุด เกรียไม่ยอมเปลี่ยน และ มีควันดำนั้น มีสาเหตุ มาจาก
    1.1 EGR ตันซึ่งทางศูนย์ได้ล้างทำความสะอาดให้
    1.2 Software ในสมองเกียร์ผิดปกติ ศูนย์ได้ลงโปรแกรมให้ใหม่

2.หลังจากศูนย์ไทยยานยนต์ ได้ทำการแก้ไขให้เบื้อนต้น อาการที่เป็นก็ไม่หายไป จึงได้นำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการจังหวัดพิจิตร ได้พบสาเหตุเพิ่มเติมคือ
    2.1 Turbo ไม่ทำงาน
    2.2 Air flow sensor ทำงานผิดปกติ
    2.3 Software ในสมองเกียร์ผิดปกติ
    2.4 ฯลฯ

หลังจากยื่นเรื่องร้องเรียนมายัง สคบ. และ ถูกเชิญมาให้ถ้อยคำ โดยชี้แจงความผิดปกติให้ สคบ. เห็นว่าผมของผมมีความผิดปกติอย่างมากมาย และ ได้เข้ารับการแก้ไขปัญหาโดยศูนย์บริการมาตรฐาน มาแล้วหลายครั้ง โดยสามารถสรุปความผิดปกติที่พบได้ดังนี้  ตกใจ

1.Rack พวงมาลัยหัก ทำให้ไม่สามารถทำการบังคับเลี้ยวตัวรถได้อย่างที่ควรจะเป็น แก้ไขแล้วโดย ศูนย์บริการพิษณุโลก
2.ความร้อนขึ้นสูงจนเครื่องดับ
    2.1 ความร้อนขึ้นครั้งที่ 1 หลังนำรถเข้าเช็คระยะ 20,000 Km เมื่อ ตุลาคม 2555 และ ขับได้ประมาณ 100 km แก้ไขโดยศูนย์พิษณุโลก แจ้งลูกค้าว่ารถปกติ
    2.2 ความร้อนขึ้นครั้งที่ 2 แก้ไขโดยศูนย์บริการสิทธิผลพระราม 3 แจ้งลูกค้าว่ารถปกติ ธันวาคม 2555
    2.2 ความร้อนขึ้นครั้งที่ 3 ลูกค้าค้นคว้าข้อมูลจาก Internet จนค้นพบสาเหตุ และ วิธีแก้ไข จึงนำหลักฐานให้ศูนย์บริการดู และ แก้ไขโดยศูนย์บริการสิทธิผลพระราม 3     มกราคม 2556
3. Vacuum pumps มีน้ำมันเครื่องซึมออกมา และ เครื่องยนต์มีเสียงการทำงานดังผิดปกติ แก้ไขโดยศูนย์บริการพิษณุโลก เมษายน 2556
4. Vacuum pumps มีน้ำมันเครื่องรั่วออกมาเยอะมาก หลังจากที่รถมีอาการปกติ คือ เครื่องยนต์ไม่มีกำลังในขณะเดินทางจึงนำรถเข้าตรวจสอบ และ แก้ไขที่ศูนย์บริการสิงห์บุรี พฤษภาคม 2556
5. MMTH นำรถไฟทำการตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่ 24 มิถุนายน 2556 – 29 กรกฎาคม 2556  แจ้งลูกค้าว่ารถเป็นปกติ
6. กันยายน 2556 รถมีอาการผิดปกติเครื่องยนต์ไม่มีกำลังไม่สามารถเร่งเครื่องยนต์ให้มีความเร็วสูงขึ้นได้ ควันดำมาก กินน้ำมัน ระบบเกียร์ ทำการผิดปกติ นำรถเข้าตรวจสอบแก้ไข ศูนย์บริการไทยยานยนต์ สุขุมวิท 87
    6.1 EGR ตัน ศูนย์บริการทำความสะอาดให้
    6.2 Software สมองเกียร์ผิดปกติ
7.ตุลาคม 2556 รถมีอาการผิดปกติเครื่องยนต์ไม่มีกำลังไม่สามารถเร่งเครื่องยนต์ให้มีความเร็วสูงขึ้นได้ ควันดำมาก กินน้ำมัน ระบบเกียร์ ทำการผิดปกติ เครื่องยนต์เดินสะดุด นำรถเข้าตรวจสอบแก้ไข ศูนย์บริการพิจิตรโดยทางช่างได้พบปัญหาเพิ่มเติม หลายจุด ตัวอย่างเช่น ระบบเทอร์โบ ไม่มีอาการตอบสนอง Air Flow Sensor เสีย


 sorry ทางผมได้พยายามอธิบายว่าอาการเสียหายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ข้อที่ 3. เป็นต้นมานั้น เป็นสืบเนื่องมาจากความเสียหายของอาการน้ำแห้งความร้อนขึ้นจนเครื่องยนต์ดับ ไปถึงสามครั้งในข้อที่ 2.1-2.3 หรือ เปล่า จนทำให้เกิดผลกระทบตามมา ไม่ว่าจะเป็นผลจากที่ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทำงานในความร้อนสูง โดยไม่มีการระบายความร้อน เพราะ น้ำในหม้อน้ำได้แห้งไปแล้ว ซึ่งมาแสดงอาการในภายหลัง ใช่ หรือ ไม่ ซึ่งทาง สคบ. ได้ให้น้ำหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ทาง MMTH ก็ไม่ยอมรับท่าเดียว เหมือนทั้งทีม ตั้งธงมาแล้วว่าวันนี้อย่างไรก็ไม่ยอมอะไรทั้งสิ้น หลังจากผ่านการถกเถียงกันเป็นเวลานาน สุดท้าย ทาง สคบ. ได้สรุปผลออกมาว่า จะให้ทาง MMTH ตรวจสอบความผิดปกติอีกครั้ง ถ้ายังเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาอีก ทาง MMTH ไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรอีกแล้วทาง สคบ. จะใช้อำนาจที่มีสั่งให้ MMTH ดำเนินการในทางที่ลูกค้าเรียกร้องได้ หรือ ถ้าลูกค้าไม่พอใจในผลการเจรจา ก็สามารถยืนฟ้องร้องต่อศาลได้เลย โดยทาง สคบ. จะดำเนินการให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย


********* จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ได้พบเจอกับตัวเอง ทำให้เกิดกรณีศึกษาขึ้นมาว่าถ้ารถของเพื่อน Pa เกิดปัญหาอะไรขึ้นเราไม่ควรเชื่อใจ และ ไว้ใจให้ศุนย์บริการได้ทำการตรวจสอบ และ แก้ไข เองแต่เพียงฝ่ายเดียว เราควรร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะ ว่าเมื่อเกิดเรื่องบานปลายขึ้นมาทางผู้ผลิตรถจะได้ไม่มีข้ออ้างอะไรในการปฎิเสธความรับผิดชอบ อีก ยกตัวอย่าง กรณีของผม ถ้าผมยื่นเรื่องร้องเรียน สคบ. ไปตั้งแต่ความร้อนขึ้น ครั้งแรก แล้ว ศูนย์ แก้ไม่หาย ทางสคบ. คงยื่นเรื่องให้ ศาลตัดสินเปลี่ยน เครื่องยนต์ และ ระบบขับเคลื่อน หรือ เปลี่ยนรถให้ไปแล้ว โดยทาง MMTH ไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธแต่อย่างใด *********

ส่วนรถผมนั้นคงต้องก้มหน้ารับกรรมที่ซื้อรถเค้ามาแล้ว โดยการยอมให้ MMTH แก้ไขต่อไป แต่ถ้าไม่หาย หรือ มีการการอื่นเพิ่มขึ้นมาอีก ก็ไปเจอกันใน ศาลอย่างเดียว แล้ว ล่ะครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: apichai.j ที่ พฤศจิกายน 06, 2013, 04:25:05 pm
อัพเดตความคืบหน้า หลังจากที่ไปสู้รบ กับ MMTH ที่ สคบ. มาครับ

(http://image.ohozaa.com/i/c08/NF0h3n.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/xcb5VQaINqSFirKM)

(http://image.ohozaa.com/i/221/oSL04l.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/xcb5Wy85mFiMde89)

(http://image.ohozaa.com/i/c87/ECiUPS.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/xcb5Wc9p5eAhBiu3)

เอกสารด้านบนเป็นการบันทึกการเจรจา กับ สี่ฝ่ายระหว่าง ฝั่ง MMTH ที่มี ตัวแทนที่ได้รับอำนาจจาก MMTH ตัวแทนจากบริษัทสิทธิผลเซล์ ผู้ร้องทุก คือ ผม และ ครอบครัว และ เจ้าหน้าที่ สคบ. เป็นผู้ประสานงาน
จากการผู้คุยกันด้วยเหตุผล และ ทางผมได้มีการนำข้อมูลเชิงเทคนิคที่ได้หาไว้จากพี่ภายในบอร์ด และ หาความรู้เพิ่มเติมจาก Internet ไปหักล้างข้อมูลที่ MMTH เอาผล Report ผลการทดสอบมาอ้างว่าได้ตรวจสอบรถผมว่าปกติทุกอย่างไปให้ดู เช่น เอกสารจากศูนย์บริการที่ผมเอารถไปตรวจสอบความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นล่าสุด หลังจาก MMTH ได้รับรถไปตรวจสอบแบบละเอียด (ละเอียดแล้วเหรอ) แต่หลังจากส่งมอบรถคืนให้ลูกค้าแล้วกลับมีควมเสียหายส่วนอื่นเพิ่มขึ้นมาอีก โดยเอาข้อมูลเชิงเทคนิคมาแจงให้ฟังโดยละเอียด จนช่างเทคนิคของ MMTH ที่มาร่วมชี้แจงด้วย เงิบไปเลยเหมือนกัน ซึ่งพอจะมีรายละเอียดดังนี้ (จำได้ไม่หมดนะครับเพราะเถียงกันนานมาก)


1.ทางศูนย์บริการไทยยานยนต์ สุขุมวิท 87 ได้ตรวจสอบพบว่าอาการรถวิ่งไม่ออก กินน้ำมัน เครื่องสะดุด เกรียไม่ยอมเปลี่ยน และ มีควันดำนั้น มีสาเหตุ มาจาก
    1.1 EGR ตันซึ่งทางศูนย์ได้ล้างทำความสะอาดให้
    1.2 Software ในสมองเกียร์ผิดปกติ ศูนย์ได้ลงโปรแกรมให้ใหม่

2.หลังจากศูนย์ไทยยานยนต์ ได้ทำการแก้ไขให้เบื้อนต้น อาการที่เป็นก็ไม่หายไป จึงได้นำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการจังหวัดพิจิตร ได้พบสาเหตุเพิ่มเติมคือ
    2.1 Turbo ไม่ทำงาน
    2.2 Air flow sensor ทำงานผิดปกติ
    2.3 Software ในสมองเกียร์ผิดปกติ
    2.4 ฯลฯ

หลังจากยื่นเรื่องร้องเรียนมายัง สคบ. และ ถูกเชิญมาให้ถ้อยคำ โดยชี้แจงความผิดปกติให้ สคบ. เห็นว่าผมของผมมีความผิดปกติอย่างมากมาย และ ได้เข้ารับการแก้ไขปัญหาโดยศูนย์บริการมาตรฐาน มาแล้วหลายครั้ง โดยสามารถสรุปความผิดปกติที่พบได้ดังนี้  ตกใจ

1.Rack พวงมาลัยหัก ทำให้ไม่สามารถทำการบังคับเลี้ยวตัวรถได้อย่างที่ควรจะเป็น แก้ไขแล้วโดย ศูนย์บริการพิษณุโลก
2.ความร้อนขึ้นสูงจนเครื่องดับ
    2.1 ความร้อนขึ้นครั้งที่ 1 หลังนำรถเข้าเช็คระยะ 20,000 Km เมื่อ ตุลาคม 2555 และ ขับได้ประมาณ 100 km แก้ไขโดยศูนย์พิษณุโลก แจ้งลูกค้าว่ารถปกติ
    2.2 ความร้อนขึ้นครั้งที่ 2 แก้ไขโดยศูนย์บริการสิทธิผลพระราม 3 แจ้งลูกค้าว่ารถปกติ ธันวาคม 2555
    2.2 ความร้อนขึ้นครั้งที่ 3 ลูกค้าค้นคว้าข้อมูลจาก Internet จนค้นพบสาเหตุ และ วิธีแก้ไข จึงนำหลักฐานให้ศูนย์บริการดู และ แก้ไขโดยศูนย์บริการสิทธิผลพระราม 3     มกราคม 2556
3. Vacuum pumps มีน้ำมันเครื่องซึมออกมา และ เครื่องยนต์มีเสียงการทำงานดังผิดปกติ แก้ไขโดยศูนย์บริการพิษณุโลก เมษายน 2556
4. Vacuum pumps มีน้ำมันเครื่องรั่วออกมาเยอะมาก หลังจากที่รถมีอาการปกติ คือ เครื่องยนต์ไม่มีกำลังในขณะเดินทางจึงนำรถเข้าตรวจสอบ และ แก้ไขที่ศูนย์บริการสิงห์บุรี พฤษภาคม 2556
5. MMTH นำรถไฟทำการตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่ 24 มิถุนายน 2556 – 29 กรกฎาคม 2556  แจ้งลูกค้าว่ารถเป็นปกติ
6. กันยายน 2556 รถมีอาการผิดปกติเครื่องยนต์ไม่มีกำลังไม่สามารถเร่งเครื่องยนต์ให้มีความเร็วสูงขึ้นได้ ควันดำมาก กินน้ำมัน ระบบเกียร์ ทำการผิดปกติ นำรถเข้าตรวจสอบแก้ไข ศูนย์บริการไทยยานยนต์ สุขุมวิท 87
    6.1 EGR ตัน ศูนย์บริการทำความสะอาดให้
    6.2 Software สมองเกียร์ผิดปกติ
7.ตุลาคม 2556 รถมีอาการผิดปกติเครื่องยนต์ไม่มีกำลังไม่สามารถเร่งเครื่องยนต์ให้มีความเร็วสูงขึ้นได้ ควันดำมาก กินน้ำมัน ระบบเกียร์ ทำการผิดปกติ เครื่องยนต์เดินสะดุด นำรถเข้าตรวจสอบแก้ไข ศูนย์บริการพิจิตรโดยทางช่างได้พบปัญหาเพิ่มเติม หลายจุด ตัวอย่างเช่น ระบบเทอร์โบ ไม่มีอาการตอบสนอง Air Flow Sensor เสีย


 sorry ทางผมได้พยายามอธิบายว่าอาการเสียหายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ข้อที่ 3. เป็นต้นมานั้น เป็นสืบเนื่องมาจากความเสียหายของอาการน้ำแห้งความร้อนขึ้นจนเครื่องยนต์ดับ ไปถึงสามครั้งในข้อที่ 2.1-2.3 หรือ เปล่า จนทำให้เกิดผลกระทบตามมา ไม่ว่าจะเป็นผลจากที่ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทำงานในความร้อนสูง โดยไม่มีการระบายความร้อน เพราะ น้ำในหม้อน้ำได้แห้งไปแล้ว ซึ่งมาแสดงอาการในภายหลัง ใช่ หรือ ไม่ ซึ่งทาง สคบ. ได้ให้น้ำหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ทาง MMTH ก็ไม่ยอมรับท่าเดียว เหมือนทั้งทีม ตั้งธงมาแล้วว่าวันนี้อย่างไรก็ไม่ยอมอะไรทั้งสิ้น หลังจากผ่านการถกเถียงกันเป็นเวลานาน สุดท้าย ทาง สคบ. ได้สรุปผลออกมาว่า จะให้ทาง MMTH ตรวจสอบความผิดปกติอีกครั้ง ถ้ายังเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาอีก ทาง MMTH ไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรอีกแล้วทาง สคบ. จะใช้อำนาจที่มีสั่งให้ MMTH ดำเนินการในทางที่ลูกค้าเรียกร้องได้ หรือ ถ้าลูกค้าไม่พอใจในผลการเจรจา ก็สามารถยืนฟ้องร้องต่อศาลได้เลย โดยทาง สคบ. จะดำเนินการให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย


********* จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ได้พบเจอกับตัวเอง ทำให้เกิดกรณีศึกษาขึ้นมาว่าถ้ารถของเพื่อน Pa เกิดปัญหาอะไรขึ้นเราไม่ควรเชื่อใจ และ ไว้ใจให้ศุนย์บริการได้ทำการตรวจสอบ และ แก้ไข เองแต่เพียงฝ่ายเดียว เราควรร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะ ว่าเมื่อเกิดเรื่องบานปลายขึ้นมาทางผู้ผลิตรถจะได้ไม่มีข้ออ้างอะไรในการปฎิเสธความรับผิดชอบ อีก ยกตัวอย่าง กรณีของผม ถ้าผมยื่นเรื่องร้องเรียน สคบ. ไปตั้งแต่ความร้อนขึ้น ครั้งแรก แล้ว ศูนย์ แก้ไม่หาย ทางสคบ. คงยื่นเรื่องให้ ศาลตัดสินเปลี่ยน เครื่องยนต์ และ ระบบขับเคลื่อน หรือ เปลี่ยนรถให้ไปแล้ว โดยทาง MMTH ไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธแต่อย่างใด *********

ส่วนรถผมนั้นคงต้องก้มหน้ารับกรรมที่ซื้อรถเค้ามาแล้ว โดยการยอมให้ MMTH แก้ไขต่อไป แต่ถ้าไม่หาย หรือ มีการการอื่นเพิ่มขึ้นมาอีก ก็ไปเจอกันใน ศาลอย่างเดียว แล้ว ล่ะครับ



 like สุดยอดครับป๋า ผมขอยกนิ้วให้ครับเรื่องความอดทนของป๋า ....... ขอให้สมหวังได้รถคันใหม่นะครับ .... ตัวผมเองเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับปัญหาเช่นกัน เเต่ก็ผ่านพ้นมาได้ครับ ..... ขอเป็นกำลังใจให้ครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: check ที่ พฤศจิกายน 06, 2013, 06:19:14 pm
เป็นกำลังใจให้ป๋าครับ เห็นความอดทนจนมาถึง สคบ. ไม่น่าเชื่อว่า MMTH จะนิ่งเฉยกับปัญหาทั้งหลาย เมื่อไรจะหมด ผมเองรอลุ้นว่าจะเจออะไรบ้าง MY 13 แต่ที่เจอแล้วคือเพลาหอน ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาเข้าไปเคลมดีหรือเปล่าเพราะรถยังไม่ถึงสองเดือนไม่อยากถอดยอมทนฟังไปก่อนเห็นป๋าหลายท่านว่าแก้ไม่หาย


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: suPreme ที่ พฤศจิกายน 08, 2013, 06:59:07 am

 sorry ทางผมได้พยายามอธิบายว่าอาการเสียหายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ข้อที่ 3. เป็นต้นมานั้น เป็นสืบเนื่องมาจากความเสียหายของอาการน้ำแห้งความร้อนขึ้นจนเครื่องยนต์ดับ ไปถึงสามครั้งในข้อที่ 2.1-2.3 หรือ เปล่า จนทำให้เกิดผลกระทบตามมา ไม่ว่าจะเป็นผลจากที่ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทำงานในความร้อนสูง โดยไม่มีการระบายความร้อน เพราะ น้ำในหม้อน้ำได้แห้งไปแล้ว ซึ่งมาแสดงอาการในภายหลัง ใช่ หรือ ไม่ ซึ่งทาง สคบ. ได้ให้น้ำหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ทาง MMTH ก็ไม่ยอมรับท่าเดียว เหมือนทั้งทีม ตั้งธงมาแล้วว่าวันนี้อย่างไรก็ไม่ยอมอะไรทั้งสิ้น หลังจากผ่านการถกเถียงกันเป็นเวลานาน สุดท้าย ทาง สคบ. ได้สรุปผลออกมาว่า จะให้ทาง MMTH ตรวจสอบความผิดปกติอีกครั้ง ถ้ายังเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาอีก ทาง MMTH ไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรอีกแล้วทาง สคบ. จะใช้อำนาจที่มีสั่งให้ MMTH ดำเนินการในทางที่ลูกค้าเรียกร้องได้ หรือ ถ้าลูกค้าไม่พอใจในผลการเจรจา ก็สามารถยืนฟ้องร้องต่อศาลได้เลย โดยทาง สคบ. จะดำเนินการให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย


********* จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ได้พบเจอกับตัวเอง ทำให้เกิดกรณีศึกษาขึ้นมาว่าถ้ารถของเพื่อน Pa เกิดปัญหาอะไรขึ้นเราไม่ควรเชื่อใจ และ ไว้ใจให้ศุนย์บริการได้ทำการตรวจสอบ และ แก้ไข เองแต่เพียงฝ่ายเดียว เราควรร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะ ว่าเมื่อเกิดเรื่องบานปลายขึ้นมาทางผู้ผลิตรถจะได้ไม่มีข้ออ้างอะไรในการปฎิเสธความรับผิดชอบ อีก ยกตัวอย่าง กรณีของผม ถ้าผมยื่นเรื่องร้องเรียน สคบ. ไปตั้งแต่ความร้อนขึ้น ครั้งแรก แล้ว ศูนย์ แก้ไม่หาย ทางสคบ. คงยื่นเรื่องให้ ศาลตัดสินเปลี่ยน เครื่องยนต์ และ ระบบขับเคลื่อน หรือ เปลี่ยนรถให้ไปแล้ว โดยทาง MMTH ไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธแต่อย่างใด *********

ส่วนรถผมนั้นคงต้องก้มหน้ารับกรรมที่ซื้อรถเค้ามาแล้ว โดยการยอมให้ MMTH แก้ไขต่อไป แต่ถ้าไม่หาย หรือ มีการการอื่นเพิ่มขึ้นมาอีก ก็ไปเจอกันใน ศาลอย่างเดียว แล้ว ล่ะครับ

อ่านจาก 2 วรรคนี้ สคบ.ก็เข้าข้างเราแล้ว อุ่นใจไประดับหนึ่ง แต่ทำไม คนที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ไม่ยอมแต่โดยดี หรือว่ากลัวว่าถ้าง่ายไปนี่จะเป็นบรรทัดฐานในอนาคตรึ?
ขอบคุณป๋า timman_1987 ที่ต่อสู้และแบ่งบันข้อมูกับเพื่อนสมาชิก ผมเองมีความเชื่อว่า MMTH จะกลับไปคิดใหม่ทำใหม่ใส่ใจลูกค้าบ้างนะ สา-ธุ สาธุ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: pon306 ที่ พฤศจิกายน 08, 2013, 08:02:27 am
เป็นกำลังใจให้อีกเสี ooo


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ พฤศจิกายน 08, 2013, 01:28:02 pm
เป็นกำลังให้สู่ต่อไปครับป๋า  เห็นของป๋าแล้วผมถือว่าโชคดี เครื่องร้อน 3 ครั้ง ให้เปิดเครื่องตรวจสอบ แต่ไม่ให้ซ่อม ขอเปลี่ยนใหม่ก็ยอมโดยไม่โยกโย้เท่าไหร่ แต่ทำไมขอป๋าถึงดื้อขนาดนี้

สู่ต่อไปครับป๋า 


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤศจิกายน 08, 2013, 07:34:04 pm
เป็นกำลังให้สู่ต่อไปครับป๋า  เห็นของป๋าแล้วผมถือว่าโชคดี เครื่องร้อน 3 ครั้ง ให้เปิดเครื่องตรวจสอบ แต่ไม่ให้ซ่อม ขอเปลี่ยนใหม่ก็ยอมโดยไม่โยกโย้เท่าไหร่ แต่ทำไมขอป๋าถึงดื้อขนาดนี้

สู่ต่อไปครับป๋า 

เค้าเห็นผมเป็นเด็กอายุแค่ 26 ปี ล่ะมั้งครับ อาจจะมองว่าไม่มีพิษสงอะไร น่าจะจบได้ง่ายๆ รึเปล่า?


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤศจิกายน 08, 2013, 07:40:29 pm

 sorry ทางผมได้พยายามอธิบายว่าอาการเสียหายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ข้อที่ 3. เป็นต้นมานั้น เป็นสืบเนื่องมาจากความเสียหายของอาการน้ำแห้งความร้อนขึ้นจนเครื่องยนต์ดับ ไปถึงสามครั้งในข้อที่ 2.1-2.3 หรือ เปล่า จนทำให้เกิดผลกระทบตามมา ไม่ว่าจะเป็นผลจากที่ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทำงานในความร้อนสูง โดยไม่มีการระบายความร้อน เพราะ น้ำในหม้อน้ำได้แห้งไปแล้ว ซึ่งมาแสดงอาการในภายหลัง ใช่ หรือ ไม่ ซึ่งทาง สคบ. ได้ให้น้ำหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ทาง MMTH ก็ไม่ยอมรับท่าเดียว เหมือนทั้งทีม ตั้งธงมาแล้วว่าวันนี้อย่างไรก็ไม่ยอมอะไรทั้งสิ้น หลังจากผ่านการถกเถียงกันเป็นเวลานาน สุดท้าย ทาง สคบ. ได้สรุปผลออกมาว่า จะให้ทาง MMTH ตรวจสอบความผิดปกติอีกครั้ง ถ้ายังเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาอีก ทาง MMTH ไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรอีกแล้วทาง สคบ. จะใช้อำนาจที่มีสั่งให้ MMTH ดำเนินการในทางที่ลูกค้าเรียกร้องได้ หรือ ถ้าลูกค้าไม่พอใจในผลการเจรจา ก็สามารถยืนฟ้องร้องต่อศาลได้เลย โดยทาง สคบ. จะดำเนินการให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย


********* จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ได้พบเจอกับตัวเอง ทำให้เกิดกรณีศึกษาขึ้นมาว่าถ้ารถของเพื่อน Pa เกิดปัญหาอะไรขึ้นเราไม่ควรเชื่อใจ และ ไว้ใจให้ศุนย์บริการได้ทำการตรวจสอบ และ แก้ไข เองแต่เพียงฝ่ายเดียว เราควรร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะ ว่าเมื่อเกิดเรื่องบานปลายขึ้นมาทางผู้ผลิตรถจะได้ไม่มีข้ออ้างอะไรในการปฎิเสธความรับผิดชอบ อีก ยกตัวอย่าง กรณีของผม ถ้าผมยื่นเรื่องร้องเรียน สคบ. ไปตั้งแต่ความร้อนขึ้น ครั้งแรก แล้ว ศูนย์ แก้ไม่หาย ทางสคบ. คงยื่นเรื่องให้ ศาลตัดสินเปลี่ยน เครื่องยนต์ และ ระบบขับเคลื่อน หรือ เปลี่ยนรถให้ไปแล้ว โดยทาง MMTH ไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธแต่อย่างใด *********

ส่วนรถผมนั้นคงต้องก้มหน้ารับกรรมที่ซื้อรถเค้ามาแล้ว โดยการยอมให้ MMTH แก้ไขต่อไป แต่ถ้าไม่หาย หรือ มีการการอื่นเพิ่มขึ้นมาอีก ก็ไปเจอกันใน ศาลอย่างเดียว แล้ว ล่ะครับ

อ่านจาก 2 วรรคนี้ สคบ.ก็เข้าข้างเราแล้ว อุ่นใจไประดับหนึ่ง แต่ทำไม คนที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ไม่ยอมแต่โดยดี หรือว่ากลัวว่าถ้าง่ายไปนี่จะเป็นบรรทัดฐานในอนาคตรึ?
ขอบคุณป๋า timman_1987 ที่ต่อสู้และแบ่งบันข้อมูกับเพื่อนสมาชิก ผมเองมีความเชื่อว่า MMTH จะกลับไปคิดใหม่ทำใหม่ใส่ใจลูกค้าบ้างนะ สา-ธุ สาธุ

ตอนนี้ผมพยายามจะรวบรวมข้อมูลมาให้ได้มากที่สุดครับ เพื่อว่าสุดท้ายแล้วต้องไปต่อสู้กับ MMTH ในศาลแพ่ง เพื่อเรียกร้องสิทธิของผู้บริโภค ถ้ามีความคืบหน้า หรือ มีบทสรุปอย่างไร จะได้เอามาแบ่งปันกันเพื่อสมาชิก เพื่อใช้เป็นมาตรฐาน ในการทวงสิทธิ์ของพวกเราครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: sl ที่ พฤศจิกายน 09, 2013, 10:46:38 am
เป็นกำลังใจ และเฝ้ารอผลสำเร็จครับ  ขอให้โชคดีเป็นของพวกเรา ผู้บริโภค  ผมเคยต่อสู่ลักษณะนี้มาแล้วโดยใช้เวลา 6 ปีก็ยอม  สุดท้ายก็ชนะครับ
ยิ่งเวลาขึ้นศาลผู้บริโภคนี้ใช้เวลาไม่นานครับเพราะเป็นศาลเฉพาะ คดีมีน้อยจะไปได้เร็วขึ้น

ผมมีข้อสังเกตุแบบนี้ครับเรื่องอาการของรถ  
เรื่องเกียร์ไม่ยอมเปลี่ยน  เร่งจนเสียงดังรอบขึ้นสูงไม่ยอมเปลี่ยน  ผมใช้วิธีถอดขั่วแบตฯอาการก็หาย
อีกไม่นานบางที่มันก็เป็นอีก   ตอนแรกผมคิดว่าเป็นที่รถผมติดแก๊ส   แต่ได้อ่านๆมาหลายกระทู้พบว่า
แม้แต่รถที่เป็นเครื่องดีเซลก็มีอาการเกี่ยวกับเกียร์เช่นกัน    ผมว่าระเกียร์รุ่นนี้น่าจะมีปัญหา  ไม่ทราบว่าท่านอื่นๆเจอกันบ้างหรือไม่


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ ธันวาคม 12, 2013, 10:03:12 am
อัพเดตความคืบหน้าครับ

          ตามที่ทางเจ้าของรถได้ทำการร้องเรียนเรื่องความผิดปกติของรถ ไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และ ได้เข้าไปทำการเจรจากับทาง MMTH เมื่อวันที่ 5/11/2013 โดยได้ข้อสรุปว่าหัวเด็ดตีนขาด MMTH ก็จะไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องให้ แต่จะขอทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบได้ (เพราะเค้าตรวจสอบไปหลายรอบแล้ว) และ ในวันที่ 6/11/2013  ทางเจ้าของรถได้นำเราเข้าตรวจสอบตามนัดหมายที่ศูนย์บริการจังหวัดพิจิตร และ ต้องนำรถเข้าไปอีกหลายครั้งตามที่ทาง MMTH ต้องการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม (ทำเพื่อ? ทำไมไม่ทำที่เดียวให้ครบก็ไม่รู้จริงๆ) และ ทางศูนย์บริการได้แจ้งกับเจ้าของรถว่าทำการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว และ ได้ส่งข้อมูลให้ MMTH ไปหมดแล้ว  แต่ว่า ***** ทางศูนย์บริการแจ้งว่าทาง MMTH ให้ปกปิดข้อมูลเป็นความลับ ห้ามเปิดเผย เมื่อมีการสอบถามไปยัง MMTH ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ โดยอ้างว่าทาง MMTH จะเป็นผู้ทำหนังสือชื้แจงไปยัง สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเอง แต่จนบัดนี้ ผ่านไปนานกว่า 30 วันยังไม่มีการติดต่อใดๆ มาจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งผมได้ทำการทวงถามไป 2 ครั้งแล้ว ก็ยังไม่ได้คำตอบแต่อย่างใด


ปล.ในช่วงนี้ที่ทาง ศูนย์บริการนำรถไปทดสอบ มีใบสั่งส่งมาเรียกเก็บค่าปรับข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กำหนดด้วยครับ ได้เสียตังเป็นของแถมเลยงานนนี้  ext


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Konzilla ที่ ธันวาคม 19, 2013, 11:16:31 pm
อัพเดตความคืบหน้าครับ

          ตามที่ทางเจ้าของรถได้ทำการร้องเรียนเรื่องความผิดปกติของรถ ไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และ ได้เข้าไปทำการเจรจากับทาง MMTH เมื่อวันที่ 5/11/2013 โดยได้ข้อสรุปว่าหัวเด็ดตีนขาด MMTH ก็จะไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องให้ แต่จะขอทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบได้ (เพราะเค้าตรวจสอบไปหลายรอบแล้ว) และ ในวันที่ 6/11/2013  ทางเจ้าของรถได้นำเราเข้าตรวจสอบตามนัดหมายที่ศูนย์บริการจังหวัดพิจิตร และ ต้องนำรถเข้าไปอีกหลายครั้งตามที่ทาง MMTH ต้องการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม (ทำเพื่อ? ทำไมไม่ทำที่เดียวให้ครบก็ไม่รู้จริงๆ) และ ทางศูนย์บริการได้แจ้งกับเจ้าของรถว่าทำการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว และ ได้ส่งข้อมูลให้ MMTH ไปหมดแล้ว  แต่ว่า ***** ทางศูนย์บริการแจ้งว่าทาง MMTH ให้ปกปิดข้อมูลเป็นความลับ ห้ามเปิดเผย เมื่อมีการสอบถามไปยัง MMTH ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ โดยอ้างว่าทาง MMTH จะเป็นผู้ทำหนังสือชื้แจงไปยัง สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเอง แต่จนบัดนี้ ผ่านไปนานกว่า 30 วันยังไม่มีการติดต่อใดๆ มาจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งผมได้ทำการทวงถามไป 2 ครั้งแล้ว ก็ยังไม่ได้คำตอบแต่อย่างใด


ปล.ในช่วงนี้ที่ทาง ศูนย์บริการนำรถไปทดสอบ มีใบสั่งส่งมาเรียกเก็บค่าปรับข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กำหนดด้วยครับ ได้เสียตังเป็นของแถมเลยงานนนี้  ext

เอาใจช่วยนะครับ อย่าไปยอมครับถ้านัดประท้วงกันเรื่องนี้ผมไปด้วยครับเห็นใจมากๆครับ ติดตามมาตั้งแต่ตอนแรก ๆ แล้ว ผลคืบหน้าอย่างไร
แจ้งกันให้ทราบด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ มกราคม 02, 2014, 03:30:19 pm
อัพเดตความคืบหน้าครับ

          ตามที่ทางเจ้าของรถได้ทำการร้องเรียนเรื่องความผิดปกติของรถ ไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และ ได้เข้าไปทำการเจรจากับทาง MMTH เมื่อวันที่ 5/11/2013 โดยได้ข้อสรุปว่าหัวเด็ดตีนขาด MMTH ก็จะไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องให้ แต่จะขอทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบได้ (เพราะเค้าตรวจสอบไปหลายรอบแล้ว) และ ในวันที่ 6/11/2013  ทางเจ้าของรถได้นำเราเข้าตรวจสอบตามนัดหมายที่ศูนย์บริการจังหวัดพิจิตร และ ต้องนำรถเข้าไปอีกหลายครั้งตามที่ทาง MMTH ต้องการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม (ทำเพื่อ? ทำไมไม่ทำที่เดียวให้ครบก็ไม่รู้จริงๆ) และ ทางศูนย์บริการได้แจ้งกับเจ้าของรถว่าทำการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว และ ได้ส่งข้อมูลให้ MMTH ไปหมดแล้ว  แต่ว่า ***** ทางศูนย์บริการแจ้งว่าทาง MMTH ให้ปกปิดข้อมูลเป็นความลับ ห้ามเปิดเผย เมื่อมีการสอบถามไปยัง MMTH ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ โดยอ้างว่าทาง MMTH จะเป็นผู้ทำหนังสือชื้แจงไปยัง สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเอง แต่จนบัดนี้ ผ่านไปนานกว่า 30 วันยังไม่มีการติดต่อใดๆ มาจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งผมได้ทำการทวงถามไป 2 ครั้งแล้ว ก็ยังไม่ได้คำตอบแต่อย่างใด


ปล.ในช่วงนี้ที่ทาง ศูนย์บริการนำรถไปทดสอบ มีใบสั่งส่งมาเรียกเก็บค่าปรับข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กำหนดด้วยครับ ได้เสียตังเป็นของแถมเลยงานนนี้  ext

เอาใจช่วยนะครับ อย่าไปยอมครับถ้านัดประท้วงกันเรื่องนี้ผมไปด้วยครับเห็นใจมากๆครับ ติดตามมาตั้งแต่ตอนแรก ๆ แล้ว ผลคืบหน้าอย่างไร
แจ้งกันให้ทราบด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: ANGEL(ปา-สาทหิน) ที่ มกราคม 03, 2014, 01:51:38 pm
นานจะได้เข้ามาชมที สมาชิกรุ่นแรก ๆ เลขสมาชิกสองตัว ครับ  ของผมก็มีปัญหาครับ เอารถไปเช็ค 80000 กม. เปลี่ยนถ่ายของเหลวทุกอย่าง โดยมีช่าง0 กับน้องนักศึกษาฝึกงานทำให้  วิ่งๆไปเกจ์ความร้อนขึ้นผิดปกติ  แต่มันมืดเสียก่อนเลยไม่ได้เปิดดู จนวิ่งไปอีกสองสามวันลองสังเกตอาการยังเหมือนเดิม เปิดฝากระโปรงพบว่าน้ำในหม้อน้ำเกือบแห้ง  ยังไม่แห้งส่ะทีเดียว แต่หม้อพักแห้งส่ะนิด  วิ่งไป 0 ที่โคราช ต้องเอ๋ยชื่อน่ะ 0 นี้ ดันทำดีมาก ณัฐดนัยโคราช  ให้ช่างตรวจสอบ ดำเนินการให้พบว่า ไล่ลมตอนเปลี่ยนน้ำหม้อน้ำไม่ดี  ได้รับคำขอโทษว่า ขอโทษด้วยครับเด็กฝึกงานทำไม่ดี  ดีน่ะที่ไม่ได้เดินทางไกลไปไหน จะต้องจอดเติมน้ำเป็นพักๆ ใครเห็นคงนึกว่ารถรุ่นดีกินน้ำแทนน้ำมันเป็นแทน 100 โล จอดเติมน้ำที 5555


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: ต้อง_หมอยา ที่ มกราคม 04, 2014, 07:19:32 am
น่ากังวลเกี่ยวกับคุณภาพและมาตราฐานของช่างศูนย์จังเลย ทนไม่ได้


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: suPreme ที่ มกราคม 04, 2014, 08:58:59 am
น่ากังวลเกี่ยวกับคุณภาพและมาตราฐานของช่างศูนย์จังเลย ทนไม่ได้

จริงๆแล้วปัญหาทุกอย่างเกิดจากคนทั้งนั้น บางทีช่างฝึกหัดเพียงคนเดียว ก็นำปัญหามาให้บริษัทใหญ่ๆ ได้เสมอ (หัวหน้าช่างรับไปเต็มๆ อยู่ที่ว่าจะบ่ายเบี่ยงกันยังไง  ^-^)


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: ต้อง_หมอยา ที่ มกราคม 04, 2014, 06:05:28 pm
ครับป๋า ผมว่าทุกอาชีพต้องเร่งพัฒนาเรื่องคุณภาพและมาตราฐานกันทั้งนั้น
หัวหน้างานที่รับผิดชอบจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้  ทนไม่ได้


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ มกราคม 07, 2014, 12:42:42 pm
สู้มาขนาดนี้แล้วอย่าไปยอมครับ   ผมถือว่าโชคดีจริง ๆ  ที่ยอมเปลี่ยนให้แต่โดยดี


สู้ ๆ ครับป๋า


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ กรกฎาคม 28, 2014, 01:19:45 pm
ผมแวะมาสรุปเรื่องราวให้ พ่อ แม่ พี่ น้อง ได้ฟังกันนะครับ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่รถผมความร้อนขึ้น แต่ช่างศุนย์ไม่มีปัญญา หาสาเหตุ จนต้องศึกษาหาวิธีด้วยตัวเอง และ เมื่อ ซ่อมเสร็จ ก็มีปัญหา ยาวๆๆๆๆๆ มาตลอด เอารถเข้าศุนย์ เป็นสิบๆ ครั้ง เอามาตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่ก็แล้ว แก้ไม่หาย ร้องเรียน สคบ. ก็ไม่มีการช่วยเหลืออะไรมากไปกว่าเรียกมาเจรจา ตามที่มีการอัพเดตกันในกระทู้นี้ นะครับ สรุปสุดท้าย ผมได้เอารถไปให้อู่ซ่อมรถแห่งนึง ที่ตั้งอยู่หน้าศูนย์ มิตซูบิชิ แห่งนึง หลังจากที่เล่าอาการของรถ และ เรืื่องราวที่ได้เจอมาให้ช่างฟัง เค้าก็เอารถไปทดลองขับ ซักพัก ช่างก็มาตรวจสอบหาสาเหตุ และ แก้ไข ซักพัก หลังจากนั้นก็เอารถไปทดลองขับอีก หลังจากนั้นช่างก็เอารถมา คืน และ บอกว่า เสร็จแล้วครับ !!!!!!!  ตกใจหมด เร็วไปมั้ย ตั้งแต่เอารถมาเข้าอู่พึ่งจะผ่านไป 3 ชั่วโมงเอง พอผมไปลองขับ ก็พบว่า ผมได้รถคันเดิมของผมกลับคืนมาแล้ว อาการอืดที่เป็นไม่มีให้เห็น ขับดีเหมือนตอนได้รถมาใหม่ๆ ก่อนเอาไปเน่าในมือศูนย์ ............. ผมก็เลยจอดรถลงมาคุยกับช่างว่ามันเป็นอะไรครับ คำตอบที่ได้ คือ :::: สาย Turbo มันหลุดครับ  ตกใจ ไอ้เราก็คิด เอิ่ม แค่นั้นเองเหรอ แล้วทำไมศูนย์บริการ ตลอดจน ช่างระดับเทพ ช่างครู ที่ MMTH สำนักงานใหญ่มันหาไม่เจอล่ะ คุณช่างอู่เลย ขอคุยนิดนึงว่า

การซ่อมรถพื้นฐานต้องอาศัย ประสาททั้ง 5 เป็นเครื่องมือสำคัญในการใช้ตรวจสอบครับ   

1.ดูด้วยตา เราทำได้ง่ายๆ โดยเดินรอบรถยนต์ของเราดูความผิดปกติทั้งหมด เช่น ยางอ่อน ยางรั่ว ดูพื้นถนนที่จอดรถ ดูคราบน้ำมัน คราบน้ำหล่อเย็น ฯลฯ

2. ฟังด้วยหู ฟังเสียงผิดปกติของเครื่องยนต์ เสียงเบรก เสียงความผิดปกติของเกียร์ แม้กระทั่งกดแตร์ ก็ยังรู้ว่ารถเราผิดปกติอะไร

3. ด้วยมือ และเท้า ใช้ในการสัมผัสสิ่งต่างๆในรถยนต์ พวงมาลัยสั่นไหม ระบบเกียร์เข้ายากหรือป่าว แป้นเหยียบเบรก พอเราเหยียบแล้วเป็นยังไง

4. ดมด้วยจมูก ได้แก่ ดมกลิ่นต่างๆ กลิ่นสายไฟไหม้ กลิ่นผ้าเบรก กลิ่นคลัตช์ กลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิง

5. ความรู้สึกที่ส่งผ่านเอว ก็คือ ความสะเทือนของรถยนต์ ความเอียง การเข้าโค้ง การแซง

การซ่อมบำรุง หรือ แก้ไขปัญหารถซักคัน มัน ใช้ computer เป็นตัวตรวจสอบอย่างเดียวไม่ได้ แต่ ด้วยการใช้ประสาททั้ง 5 ของตัวเรา ง่ายใช้เวลาไม่มาก อีกทั้งสังเกตุอาการของรถยนต์ของเรา จะทำให้การขับรถยนต์สะดวกและปลอดภัยอย่างคาดไม่ถึงเลยที่เดียวครับ

ส่วนพวกช่าง ศูนย์น่ะเหรอถ้า computer ไม่แสดงอะไรว่าผิดปกติเค้าก็ไม่ดูอะไรให้คุณต่อหรอกครับ ............


หลังจากนั้นผมก็ลองของเลยครับ ผมถามช่างว่า สายตรงไหนที่หลุดครับ ช่างก็ชี้ให้ดูว่าตรงไหน แถม บอกอีกว่ามันมีโอกาศจะหลุดได้ถ้าไม่ยึดให้ดี ตอนแรกช่างจะเอาเข็มขัดมารัดให้ ผมก็บอกว่าอย่าพึ่งให้ดึงออกก่อน หลังจากนั้นผมก็ขับรถไปเข้าศูนย์บริการที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับอู่ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่รับรถว่า คันนี้อาการเดิม คนรับรถก็แอบทำหน้าเบื่อนิดนึง ว่าไอ้คันนี้อีกแล้ว หรือ นี่ หลังจากนั้นช่างก็ทำการตรวจสอบตามปกติ *ผมดึงสาย Turbo ออกนะครับ** แล้วก็เอารถมาคืน แถมบอกว่า รถคุณปกติทุกอย่างครับ ผมก็เชิงนิดนึง ถามเค้าไปว่ามันปกติจริงเหรอ ผมขับมาอืดจะตาย เร่งไม่ออก แซงมอไซค์ยังเสียวๆว่าจะแซงไม่พ้น ก็เลยไปเรียกหัวหน้าช่าง กับผู้จัดการศูนย์มาคุย ถามเค้าว่าเมื่อไหร่ทาง MMTH เค้าจะติดต่อมาหลังจากที่รวบรวมข้อมูลจากการตรวจสอบรถผมไปหมดแล้ว  เมื่อไหร่ทางศูนย์จะทำการแก้ไขปัญหาให้ แต่ก็มีแต่ความเงียบ เลยชวนเค้านั้งรถไปด้วยกัน เพื่อบรรยายอาการ และ ให้ทางช่างได้ทดลองขับดู หลังจากกลับมาจากการลองขับรถ ทีมช่างที่ไปลองขับมาด้วยกัน เค้าก็ยืนยันว่ารถเราปกติดี

ที่นี้แหละเข้าทาง ผมเลยเปิดฝากระโปรงหน้ารถ แล้ว พาทุกคนไปดู แล้ว ชี้ว่าไอ้สายที่หลุดอยู่นี่มันอะไรครับ แล้วก็ต่อกลับคืนให้เป็นปกติ แล้วก็ให้ทีมช่างเค้าไปลิงขับกันดูอีกที พอขับรถกลับเข้ามาจอดที่ศูนย์ ลงจากรถลงมาหน้าเสียกันทุกคน ผมก็ไม่พูดอะไร เดินขึ้นรถสตาร์เครื่อง หันไปมองแบบเย้ยๆ แล้วเหยียบจมคันเร่ง ขับรถออกจากศูนย์ไป หลังจากนั้นไม่นานได้มีหนังสือ ส่งจาก MMTH มาที่บ้านโดยมีรายละเอียดว่า ผมการตรวจสอบรถของท่านเป็นปกติ ทาง MMTH ไม่สามารถทำตามคำเรียกร้องให้เปลี่ยนเครื่องได้  คนในบ้านอ่านจดหมาย ก็ หัวเราะในใจ หึหึหึ ไอ้พวกนี้ อ่อนเหมือนกันหมด ไม่มีปัญญาจะหาว่ารถลูกค้าผิดปกติยังไง ก็เลยสรุปว่า รถไม่ผิดปกติซะอย่างนั้น ทั้งๆที่ทางสำนักงานใหญ่เอารถคันนี้ไปตรวจสอบสาย Turbo มันก็หลุดอยู่แน่นอน เพราะรถก็อืดวิ่งไม่ออก หึหึหึหึหึ ขอยืนไว้อาลัย MMTH 1 นาที และ ที่แน่ๆๆ คือ MMTH กับ ครอบครัวผม ก็อย่าได้มาคบหากันอีกเลย


หลังจากนั้นทางผม และ ทางบ้านก็ใช้รถดันดังกล่าวได้อย่างเป็นปกติ และ มีความสุขมาจนถึงทุกวันนี้ ใช้ขับเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ ตามจุดประสงค์ที่ซื้อรถดีๆๆรุ่นนี้มา ล่าสุดขับจากพิจิตร ไป-กลับ กระบี่ , พิจิตร ไป-กลับ สุรินทร์ , พิจิตร ไปกลับ เชียงใหม่ และ พิจิตร ไปกลับ กรุงเทพ เป็นประจำก็ไม่พบความผิดปกติ แต่อย่างใดครับ 

จึงสรุปได้ว่า ขับ MItsubishi อย่าไว้ใจเส้นทาง อย่าวางใจศูนย์บริการ   สวัสดีครับ


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: danupan ที่ กรกฎาคม 28, 2014, 06:00:51 pm
ช่าง 0 ก็รู้ๆ อยู่ ประสบการณ์น้อย ที่เก่งๆ ก็หนีไปเหิดอู่หมดแล้ว

รถผมมีเสียงตรงเบล เอาเข้า 0 ก็ไม่หาย ยังดังเหมือนเดิม มีหน้ามาบอกว่า ครั้งนี้ไม่คิดเงิน รถผมวิ่งได้ หมึ่นกว่าโล พอขึ้นรถ ไฟน้ำมันขึ้น  >:( ทั้งที่ก่อนเข้า ลดจากครึ่งถังมานิดเดียว


นึกในใจ นี้ตรูเอาค่าน้ำมันมาทิ้งแท้ๆ เสียเวลามานั่ง เกือบ 4 ชั่วโมง


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: suPreme ที่ กรกฎาคม 29, 2014, 06:51:07 am

ขอยืนไว้อาลัย MMTH 1 นาที

ข้อความนี้มันโดนครับป๋า

ขอบคุณที่ช่วยมาเล่าสรุปปัญหาให้รับฟังกัน ได้ทั้งความรู้และข้อเตือนใจเมื่อต้องพึ่งพาทีมช่าง 0
(แต่ตอนนี้ 0 ที่ป๋าเข้าไปแล้วทำให้เขาหน้าเสีย อาจจะได้รับรางวัล 0 บริการยอดเยี่ยมแห่งปีไปแล้วนะครับ เพราะเขาสามารถเคลียร์ปัญหาของมิตซูบิชิมอเตอร์แห่งประเทศไทยได้สำเร็จ  kiki)


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: thara ที่ กรกฎาคม 29, 2014, 09:14:57 am
ขออนุญาติ

อะไรก็เกิดขึ้นได้กับมิตซู
2.4 เข้าเกียร์ดังกึกกัก มันก็ยังแก้ไขไม่ได้
แถมบอกเป็นเหมือนกันหมด
ถ้ามันรับซื้อคืน ผมขายคืนไปแล้วล่ะ  ทนไม่ได้


หัวข้อ: Re: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร
เริ่มหัวข้อโดย: timman_1987 ที่ พฤษภาคม 22, 2015, 12:07:29 am
ไม่ได้แวะมาบ้านหลังนี้นาน แต่คิดถึง ปาๆ ที่คอยเป็นกำลังใจให้กันมาโดยตลอดครับ บ้านหลังนี้ไม่เคยทิ้งกันเลยจริงๆ เรื่องรถของผมนั้น หลังจากที่เอาเข้าซ่อมที่ อู่ ที่ผมเคยเขียนไว้ และ เลิกเชื่อใจศูนย์ บริการนั้น จนทุกวันนี้ รถผมไม่เคยมีปัญหา ไม่เคย งอแง อีกเลยครับ หล่อ แรง พาผมและครอบครัวเที่ยวทั่วไทยกันเลยทีเดียวครับ