Languages
หน้า: 1 [2] 3   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Ox. Sensors, Filter Gasoline and others for Pajero v6 6B31  (อ่าน 17919 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #15 เมื่อ: มกราคม 30, 2015, 06:47:24 pm »

อีกไม่นาน ป๋าคงมีกระทู้ สายพาน timing belt แน่ๆ เลยนะผมว่า 555+

แต่ผมอาจจะลักไก่  เปลี่ยนเฉพาะสายพานกับสิ่งจำเป็นแค่ 2-3 อย่าง  เด๋วดูหน้างานตอนนั้นที่ แสนกว่าดูครับ   และถ้าราคาแก็สตอนนั้นเกินกว่าการใช่น้ำมันดีเซลละก็  เราคงหมดสนุกกันละครับ  เพราะผมอาจจะไป อะไร x x นี่แหละ  kiki kiki  ไปเรียนรู้เรื่องแต่งกล่อง ดันราง  ให้น้ำร้อนมันดัน  .,etc. อะไรทำนองเนี๊ยะ   kiki kiki kiki

ขอต่อเรื่องเบรคหน่อยครับ  วันนี้ออกไปลองมาแหม ผ้าเบรคราคาข้างละ 550 บาท x 2 ข้าง  ที่เปลี่ยนมานี่  มันดีจริง  เงียบสนิท ประสิทธิภาพการเบรค เหมือนรถตอนมาใหม่เลย  รอดูฝุ่นดำอีกสัก 7 วัน หากมีน้อยก็ผ่านสำหรับผม  ขี้เกียจก้มไปล้างล้อบ่อยบ่อย   แต่จากประสพการณ์ถ้าวันแรกแรกใส่ผ้าใหม่  มีเสียงอี๊ด น่ารำคาญละก็  แสดงว่าแทบจะเป็นไปตลอดอายุการใช้มันเลย   แต่ถ้าใส่ปุ๊บดีปั๊บ  ไร้เสียง ในวันแรกแรก  ส่วนใหญ่จะยาวเลย  จนหมดถึงจะมีเสียงน่ารำคาญมา  โอกาศที่ใส่ใหม่แล้วมีเสียงสำหรับผม  ผมว่ามันก็จะดังอย่างนั้นไปตลอดจนหมดอายุมันนั่แหละ  ถ้าช่างบอกว่าเด๋วมันก็หายละก็  อย่าไปเชื่อเลย    ผมเปลี่ยนมาเยอะแล้ว  ดีมันก็จะดีตั้งแต่ต้น  หากดังมันก็จะไม่หายดังไปตลอด หรือหากหายไปพักพัก  มันก้มาเป็นพักพัก อีก .... 

บางทีเพื่อนสมาชิกอาจจะสงสัยนะ  บ๊ะ  !! ..ป๋า Punpun บางทีก็เล่นของแพงมาก  บางทีก็ล่อซะถูกเกินเลย  เปล่าเลย...ผมดูเรื่องคุณภาพตามไปด้วยเสมอ  ถึงมันจะถูกผมก็จะเลือกหากมันออกมาดีพอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 30, 2015, 07:07:03 pm โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #16 เมื่อ: มกราคม 30, 2015, 08:43:31 pm »

ข้อมูลเพิ่มเติม แคตาลอก  denso

http://densoautoparts.com/catalogs/oxygen-af-sensors
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 30, 2015, 08:46:29 pm โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Petchy
Jr. Member
**

like: 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 883



« ตอบ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 01:24:36 pm »

ของเล่นเยอะจังป๋า รูปนี่คอยล์จานจ่ายหรือครับ แล้วทำไมมีแต่ปลั๊กละครับ

ป๋ารถเราเป็นปี 2012 ขึ้นมาแล้วนะครับ  kiki kiki
รูปนี้เป็น Coil เดี่ยว  รถเรามี 6 Coils ครับ  ไม่มีจานจ่ายอะไรหรอก

Coils พวกนี้หากมันเริ่มเสื่อม เราจะดูด้วยตาไม่ออกครับ  ต้องเอามาต่อไฟ หาดูจาก Utube ได้  มันจะมีไฟกระโดดออกมาหา ground แรงน้อยลงไปเมื่อมันเสื่อมลงจากความร้อนโดยส่วนใหญ่ที่สร้างความโทรมให้มันถึงเร็วกว่ากำหนด   ผมเคยใช้ Coil อีกแบบกับรถคันอื่น  บางทีมันขาดที่คอเลย  ถอดออกมาหักคาเลย    แต่ไม่ได้หมายความว่าดูดีจากภายนอกแล้วสรุปว่ายังดีอยู่   ผมว่าที่ 0 mitsu บอกราคาผมมาผมว่ามันถูกมากมาก 2400 กว่า /1 หัว   ผมโดนรุ่นอื่นตัวนึงมากกว่า 3 พันด้วยซ้ำ    ก็เลยอาศัย coil จีนแดงบางครั้ง 1 พันกว่าบาท    แต่ผมว่าหล์ากรถเราราคานี้ใหม่แบบนี้  ของแท้ 0 Mitsu ราคา Ok มากเลยครับ  หากมันเสีย

-- เราอย่าลืมนะว่า...ตอนเราติดแก็สเราก็มักจะพูดกันเสมอว่า  ส่วนต่างราคาเชื้อเพลิงที่มากอยู่พอควร  สามารถเอามา Service  ดูแลสภาพเครื่องยนต์ที่อาจจะนะอาจจะ โทรมจากการใช้ Lpg ได้สบายสบาย   แต่ถึงเวลาที่เราอาจต้องดูแลมัน  เราอย่าเบี้ยวเครื่องยนต์เรานะ  สัญญากับมันแล้วว่ากิน LPG ไปก่อนนะ   หากวันหลังมีค่าใช้จ่าย Service มากนิด  เด๋วป๋าจัดให้เต็ม   kiki kiki kiki


ขอบคุณความรู้ครับป๋า ได้ความรู้เรื่องคอยล์ V6 มาเพิ่มอีกอย่างละว่าไม่เหมือนโตโยต้าคันเก่า 555
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 02:37:36 pm »

ผมพอสรุปแบบคร่าวคร่าวได้จากรถผมเองนะ  ได้ดังนี้จากการผ่าโน่นนี่มาดูมากมาย  และผมส่วนตัวจะทำตามแผนนี้

--- น้ำมันเฟืองท้ายควรถ่ายทิ้งให้หมดจรดที่ 1000 km แรก ต่อไปที่ 40000 โล และที่ 80000 โล  หลังจากนั้นขยับไปที่ 150000 เลยเพราะถ่ายที่ 80000 เศษเหล็กน้อยมาก ไม่ค่อยสึกหรอแล้ว  แต่เน้นทุกครั้ง  อัดเต็มได้ 3.5 ลิตรแน่นอน เสปคว่าที่ 2 ลิตร
และผมพบว่ารถผมหอนไม่เป้นจนบัดนี้  ทำแบบนี้มาครับ  เป็นข้อมูล แต่ 3.5 ลิตร มาตลอด เบอร์ 90 ธรรมดา ธรรมดา  แต่สองแถวพัทยาเล่นกันที่เบอร์ 100 กว่าเลย

--- กรองอากาศ  ไม่เกิน 15000 km เปลี่ยน  ของเทียม 350 ของแท้ 500 แล้วแต่อารมย์
--- ถ่ายน้ำมันเครื่องธรรมดาตลอด  บางที่ถ่าย 0 มา  พอถึง 5000 ถ่ายเอง ไม่เปลี่ยนกรอง  อาศัยถ่ายบ่อยเอา  น้ำมันเครื่องทั่วไปราคาถูก
--- หัวเทียน  จากประสพการณ์  หากรถเผาไหม้ปรกติ  ผมว่า 100000 km กำลังดี ตามเสปค หัวละ 700 กว่า + VAT
--- ตั้งวาวล์ไอดี  ถ้ามีอู่ที่ทำออกมาได้ดี  ฝีมือรู้จริง ถ้าติดแก็สเอาที่สัก 5-60000 km. ก็ไม่สายไป  ส่วนใหญ่รถแก็สว่ากันที่ 40000 km.
--- OX . Sensor นี่ หากรถไม่มีอะไรผิดปรกติ ก็ไม่ต้องไปสนมัน  หากวิ่งน้ำมันแล้วปรกติมากมากก็ไม่สนปล่อยตามเลย
---  Coils นี่ ก็ปล่อยตามเลย  จะมาสนใจมันก็ตอนมีอาการสั่นมาก  ยิ่งตอนใช้แก็สจะมีมากกว่าน้ำมัน  แล้วค่อยให้ช่างพิจารณาหาเหตุอื่น  แต่เน้นไปดูจุดนี้ด้วย  รถเราไม่เหมือน 4 สูบ หรือ 6 สูบเรียง  มีการชัก Coil ขณะเดินเครื่องทดสอบได้  แต่รถ pa V6 เราทำไม่ได้ เพราะท่อร่วมไอดีมันบัง  ทดสอบแบบนั้นไม่ได้  ไม่ง่ายเหมือนรถเก๋งเล็ก
--- ล้างปีกผีเสื้อ  ถ้าไม่ได้รื้อท่อร่วมทำอะไร  ไม่ต้องไปเน้นทำ  เพราะหากกรองอากาศเราดี  ผมไม่เห็นว่ามันจะสกปรกเท่าไรเลย แทบไม่เลยด้วยซ้ำ  ไม่รู้ทำไม  ที่รถเก๋งเล็กนี่สกปรกเร็วจัง ถ้าทำเองชักปลั๊กด้านข้างออกด้วย  พยายามอย่าขยับลิ้น  อันตรายมันอาจเป็นการโปรแกรมแบบกลไกตามที่เราขยับไปด้วย  เพราะไม่รู้แน่จึงไม่ควรไปโยกมันไปมาล้างก็ล้างแต่อย่าโยกดีกว่า  เด๋วจะงานเข้า
--- น้ำมันเกียร์ผมกะว่าทุก 40000 km   0 Mitsu ดีกว่า  เกียร์เราแพงมากเลยต้องถี่หน่อยหากทำได้แต่อย่างน้อยผมกะว่าทุก 40000 ไม่ควรเกิน  เจอซ่อมเกียร์รถทุกยี่ห้อเจ้าของจะต๊กใจ...
--- กรองแอร์ไม่ต้องเป่าบ่อย  พอเห็นว่ามันคล้ำหลังเป่า  เปลี่ยนเลย ของเทียมก็เปลี่ยนบ่อย  ของแท้ก็นานหน่อย  ของเทียมมีขายร้านอะไหล่ทั่วไป  ไม่แพง  ผมซื้อ 100 กว่าบาทเอง ถ้าจำไม่ผิด
--- รถแก็สที่้สำคัญ  เมื่อเจอไฟ Engine โชว์  จบปัญหาให้ได้  อย่าทนขับแบบนั้นไปเรื่อย  ไม่จริงนะถ้าช่างบอกว่ารถ Pa V6 ไฟ Engine ขึ้นง่าย ปล่อยไว้งั้น  ไม่จริงเลยนอนยันทำให้ไม่ขึ้นนั่นแหละ  ถึงจะปรกติ สำหรับผมหากไฟ Engine ขึ้นผมจะไล่จนอยู่หมัดไม่ปล่อยไว้  มันอันตราย   กัดปัญหาให้จบให้ได้  หากไม่แล้วปล่อยไป  จะต้องเจอเรื่องที่ใหญ่ขึ้นแน่นอน  คราวนั้นมาถึงอาการจะหนักมากทีเดียว

ไม่ใช่คำแนะนำสมาชิกนะครับ    แต่เป็น Guideline ว่าผมทำกับรถผมอย่างไร  พิจารณาเลือกเอาที่มีเหตุผลก็พอนะครับ  แต่ยืนยันว่า เติมเฟืองท้าย 3.5 ลิตร รถผมไม่ส่งผลเสียใดใด  มีแต่ยังไม่เคยหอน  แต่อาจจะโชคดีก็ได้ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 02:40:39 pm โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Paje(ป๊ะเจ)
Jr. Member
**

like: 14
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 566


just keep swimming...


« ตอบ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 06:31:57 pm »

 สาธุ สาธุ สาธุเรียนท่านแอดมินผมคิดว่ากระทู้นี้มีประโยชน์มากครับ ถ้าไม่ลำบากเกินไปอยากให้ปักหมุดเพื่อไม่ให้หายไปครับ สาธุ สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า
adrmrs
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 26



« ตอบ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 09:36:38 pm »

ผมพอสรุปแบบคร่าวคร่าวได้จากรถผมเองนะ  ได้ดังนี้จากการผ่าโน่นนี่มาดูมากมาย  และผมส่วนตัวจะทำตามแผนนี้

--- น้ำมันเฟืองท้ายควรถ่ายทิ้งให้หมดจรดที่ 1000 km แรก ต่อไปที่ 40000 โล และที่ 80000 โล  หลังจากนั้นขยับไปที่ 150000 เลยเพราะถ่ายที่ 80000 เศษเหล็กน้อยมาก ไม่ค่อยสึกหรอแล้ว  แต่เน้นทุกครั้ง  อัดเต็มได้ 3.5 ลิตรแน่นอน เสปคว่าที่ 2 ลิตร
และผมพบว่ารถผมหอนไม่เป้นจนบัดนี้  ทำแบบนี้มาครับ  เป็นข้อมูล แต่ 3.5 ลิตร มาตลอด เบอร์ 90 ธรรมดา ธรรมดา  แต่สองแถวพัทยาเล่นกันที่เบอร์ 100 กว่าเลย

--- กรองอากาศ  ไม่เกิน 15000 km เปลี่ยน  ของเทียม 350 ของแท้ 500 แล้วแต่อารมย์
--- ถ่ายน้ำมันเครื่องธรรมดาตลอด  บางที่ถ่าย 0 มา  พอถึง 5000 ถ่ายเอง ไม่เปลี่ยนกรอง  อาศัยถ่ายบ่อยเอา  น้ำมันเครื่องทั่วไปราคาถูก
--- หัวเทียน  จากประสพการณ์  หากรถเผาไหม้ปรกติ  ผมว่า 100000 km กำลังดี ตามเสปค หัวละ 700 กว่า + VAT
--- ตั้งวาวล์ไอดี  ถ้ามีอู่ที่ทำออกมาได้ดี  ฝีมือรู้จริง ถ้าติดแก็สเอาที่สัก 5-60000 km. ก็ไม่สายไป  ส่วนใหญ่รถแก็สว่ากันที่ 40000 km.
--- OX . Sensor นี่ หากรถไม่มีอะไรผิดปรกติ ก็ไม่ต้องไปสนมัน  หากวิ่งน้ำมันแล้วปรกติมากมากก็ไม่สนปล่อยตามเลย
---  Coils นี่ ก็ปล่อยตามเลย  จะมาสนใจมันก็ตอนมีอาการสั่นมาก  ยิ่งตอนใช้แก็สจะมีมากกว่าน้ำมัน  แล้วค่อยให้ช่างพิจารณาหาเหตุอื่น  แต่เน้นไปดูจุดนี้ด้วย  รถเราไม่เหมือน 4 สูบ หรือ 6 สูบเรียง  มีการชัก Coil ขณะเดินเครื่องทดสอบได้  แต่รถ pa V6 เราทำไม่ได้ เพราะท่อร่วมไอดีมันบัง  ทดสอบแบบนั้นไม่ได้  ไม่ง่ายเหมือนรถเก๋งเล็ก
--- ล้างปีกผีเสื้อ  ถ้าไม่ได้รื้อท่อร่วมทำอะไร  ไม่ต้องไปเน้นทำ  เพราะหากกรองอากาศเราดี  ผมไม่เห็นว่ามันจะสกปรกเท่าไรเลย แทบไม่เลยด้วยซ้ำ  ไม่รู้ทำไม  ที่รถเก๋งเล็กนี่สกปรกเร็วจัง ถ้าทำเองชักปลั๊กด้านข้างออกด้วย  พยายามอย่าขยับลิ้น  อันตรายมันอาจเป็นการโปรแกรมแบบกลไกตามที่เราขยับไปด้วย  เพราะไม่รู้แน่จึงไม่ควรไปโยกมันไปมาล้างก็ล้างแต่อย่าโยกดีกว่า  เด๋วจะงานเข้า
--- น้ำมันเกียร์ผมกะว่าทุก 40000 km   0 Mitsu ดีกว่า  เกียร์เราแพงมากเลยต้องถี่หน่อยหากทำได้แต่อย่างน้อยผมกะว่าทุก 40000 ไม่ควรเกิน  เจอซ่อมเกียร์รถทุกยี่ห้อเจ้าของจะต๊กใจ...
--- กรองแอร์ไม่ต้องเป่าบ่อย  พอเห็นว่ามันคล้ำหลังเป่า  เปลี่ยนเลย ของเทียมก็เปลี่ยนบ่อย  ของแท้ก็นานหน่อย  ของเทียมมีขายร้านอะไหล่ทั่วไป  ไม่แพง  ผมซื้อ 100 กว่าบาทเอง ถ้าจำไม่ผิด
--- รถแก็สที่้สำคัญ  เมื่อเจอไฟ Engine โชว์  จบปัญหาให้ได้  อย่าทนขับแบบนั้นไปเรื่อย  ไม่จริงนะถ้าช่างบอกว่ารถ Pa V6 ไฟ Engine ขึ้นง่าย ปล่อยไว้งั้น  ไม่จริงเลยนอนยันทำให้ไม่ขึ้นนั่นแหละ  ถึงจะปรกติ สำหรับผมหากไฟ Engine ขึ้นผมจะไล่จนอยู่หมัดไม่ปล่อยไว้  มันอันตราย   กัดปัญหาให้จบให้ได้  หากไม่แล้วปล่อยไป  จะต้องเจอเรื่องที่ใหญ่ขึ้นแน่นอน  คราวนั้นมาถึงอาการจะหนักมากทีเดียว

ไม่ใช่คำแนะนำสมาชิกนะครับ    แต่เป็น Guideline ว่าผมทำกับรถผมอย่างไร  พิจารณาเลือกเอาที่มีเหตุผลก็พอนะครับ  แต่ยืนยันว่า เติมเฟืองท้าย 3.5 ลิตร รถผมไม่ส่งผลเสียใดใด  มีแต่ยังไม่เคยหอน  แต่อาจจะโชคดีก็ได้ครับ


ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เยอะมาก ๆ  suadyod suadyod suadyod
บันทึกการเข้า

Mitsubishi Pajero Sport V6  09/01/2014
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2015, 11:12:01 am »

เอารูป Oxygen Sensor ตัวเก่า มาทำการฟื้นชีพอีกครั้งมาให้ดู   ในรูปจะเห้นว่าเปลือกนอกสวยงามดังใหม่เลย  แต่อย่าคิดว่าข้างในไม่ ต๊ะ คิ้ง โหน่ง นะ   เผาจนแดง  จับ Ox เอาด้านรูลงชี้พื้น  เอาของเหลวที่ละลายออกมาทางรู  เชื่อว่าเป็นคราบ Carbon ที่ละลายออกมา  แต่ปล่อยให้เย็นลงนิดนึงก็ไม่ได้  มันจะแข็งเกาะเลย  ต้องแดงรฉ่ำแล้วปล่อยไหลออกมาแบบน้ำปรอทเลยแล้วให้หยดออกเองเลย  ซึ่งต้องใช้ความร้อนสูงมาก   เอาไปลองใส่ test  ดูยังใช้ได้ดีทีเดียวค่าที่ได้ก็เท่ากับของใหม่ที่ลองใส่ก่อนหน้า

แต่เพราะมันไม่ได้เสีย Heater ก็ยังดีอยู่  จึงไม่สามารถถสรุปได้ว่าการเผาแบบที่ฝรั่งทำ  มันสามารถฟื้นคืนชีพ Ox ได้หรือไม่  จึงสรุปไม่ได้  แต่สรุปได้เพียงว่า  เผาได้ไม่ทำให้แย่ลงไป ดีขึ้นไหมไม่รู้  เอาไว้ต้องหา ox ของ Honda ที่เข้ามาเปลี่ยนเพราะเสียและ Heater ยังไม่พัง มาลองเผาดูอีกทีว่ามันจะคืนชีพได้ไหมครับ

ลืมบอกไปคราบ carbon นี่ เจอน้ำยาล้างห้องน้ำแรงสุดเข้มข้น  มันไม่ระคายเคืองเลย  แต่กรดแบบป๋า Citroen ยังไม่ได้ลอง   แต่บอกเผื่อไว้ก่อน น้ายาล้างห้องน้ำทำอะไร OX ไม่ได้เลยแม้แต่สะกิดให้เดือดยังไม่ได้เลย  เหมือนจุ่มไปในน้ำเปล่าเลย 

ส่วนเปลือกมันไม่ได้เกี่ยวเรื่องเสียไม่เสีย  เข้าใจดี   แต่เอาเครื่องปัดเงาปัดสะหน่อย  เอาสวยไว้ก่อน  แต่ข้างในเผาจนน่าจะสะอาดมากมาก  การกระโดดของกระแสไฟ  น่าจะดีขึ้นมากมาก แต่แหมมันพูดกันที่ < 1 Volt เลยนะ

เด๋วพอว่างอีก  อยากดู Ox หลัง cat. สัหน่อย อิ....  แต่คงไม่ลามไปถึงกับล้าง Cat. ย้อนศรเล่นครับ  แต่อืมน่าถอด หลัง CAT มาเผาเล่นสักกะนิดนะ 555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 03, 2015, 11:30:02 am โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2015, 08:47:18 pm »

ในระหว่างนอนอยู่ต่างพื้นที่   ผมก็นอนไม่หลับเลยเข้าไปหาข้อมูลเรื่อง Code P0421 พวกนี้   แล้วพบว่าผมควรเอาข้อมูลเหล่านี้มาบีบให้เกิดความเข้าใจจากการเอาจากหลายเวบหลายที่ไทย อังกิค รัสเซีย อินโด haha... มาบีบข้อมูลให้ออกมาเข้าใจง่ายจากการอ่านกระทู้เพียง 5 นาที หรือกระทู้เดียวไปเลยดีกว่า   เพราะอ่านเวบไทยหลายที่ ไม่สามารถทำให้เข้าใจลึกซึ้งได้ง่ายเลย   และก็คาดว่า V6 เราอาจจะเริ่มพบปัญหานี้เข้ามามากขึ้นตามลำดับ    และผมพบว่าพอรวมข้อมูลจากหลายที่มาแล้ว  ผมน่าจะเอาความเข้าใจที่ผมพอเก็บเอามารวมกันทำให้สมาชิกที่สนใจเข้ามาทำความเข้าใจในเบื้องต้นได้ง่ายแบบอ่านสบายสบายพอได้   เพราะอ่านมาจากหลายที่แล้วมันไม่ได้เข้าใจยากอะไรเลย  ผมว่ามัน simply อีกสะด้วย

แต่เพิ่งจะเดินทางถึงบ้านเปิดอ่านเวบเราก่อนเลย    เด๋วจะคิดถึงกัน อิ.....

ทีเด็ดของสิ่งที่จะมาคุยกัน  ผมเอาวิธีที่ฝรั่งมันลักไก่   โกงข้อมูล OX ... ตัวหลัง  เพื่อหวังแค่ทำหมัน Code P0421 โดยไม่เปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสียออกไป ในกรณีที่เรามั่นในว่าเครื่องยนต์เราเผาไหม้ดี   แต่พบว่า CAT. เรา Melt เน่าหมดแล้ว  แต่เราไม่คิดจะเปลี่ยนเพราะเสียเงินเยอะ  เราก็ใช้วิธีลักไก่โกง OX ตัวหลังนี่แหละ  ยังไงเด๋วว่างจะแวะมาคุยครับ  งานนี้ข้อมูลแน่น  เพราะว่างหลายวันตอนนอนไม่หลับ   แต่เข้าใจมันทะลุปรุโปร่งเรื่อง Code นี้แล้วครับ    มันยังไม่ได้เกิดกับผม  แต่มันเกิดกับรถที่มีการจูนหนาระยะยาวมา  ในบางรอบ  และเกิดจากสารที่ไปทำปฏิกิริยาค้างใน CAT. ทำการผาไหม้สารเหล่านี้ หรือเศษเชื้อเพลิงทีเหลือ ไปทำให้ Cat มัน Melt หรือละลายอุดตัวมันเอง  ในกรณีที่ OX ตัวหน้าหรือตัวหลังไม่ได้เสีย จนทำให้เกิดการ Compare Voltage ผิดออกไปมากจน ECU เดาว่า แคทตัน หรือ OX ตัวหลังอาจเสีย  หรือ OX ตัวหน้าอาจเสื่อมเสีย จนค่า Voltage ท่เอามา Comparing เกิดเกินค่ามากกว่าจุดอนุโลมกันได้  เลยต้อง Report Code นี้ออกมา  ซึ่งเราจะมาคุยกันอีกทีว่า มันมีผลเสียอย่างไร  และเหตุมาจากไหน  แก้แบบมีเหตุผลที่มุ่งไปที่จุดทำให้เกิดลูกโซ่ของความเสียหายอย่างเป็น step อย่างไร   ไปนอนก่อนครับ  แค่เกริ่นให้มันดูน่าสนใจตาม Style ของ Punpun  Ok.. Ok.. Ok.. kiki kiki kiki
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2015, 11:09:01 am »

เมื่อมี Code นี้เกิดขึ้น  เราก็หาอ่าน Meaning ของมัน  เราจะพบว่าให้ไปตรวจ Ox .  และ ดู Cat ว่าเสื่อมสภาพหรือยัง  ทำไมเขาถึงไม่สามารถระบุฟันธงไปเลยได้ว่า CAT หรือ OX. ตัวหลังกันแน่เลยละ
ในกรณีแบบนี้ Code เกิดขึ้นเพราะ ECu พบว่า

-- ผลต่างของ Voltage ที่วัดเทียบจาก Ox1 (Upsteam) กับ Ox2 (Downsteam) มีมากเกินกว่ากำหนด  ซึ่งเวลาปรกติ เมื่ไอเสียเดินทางผ่านมา OX1. ก็จะได้ค่า Voltage ออกมาว่ามีการเผาไหม้หนาหรือบาง และผลของ Voltage นี้ก็จะไปหา ECU ซึ่ง ECu เองก็จะคำนวณปรับลดเชื้อเพิงออกมาอีกที  เมื่อไอเสียวิ่งผ่านต่อไปยัง CAT และไปเจอกับ OX2 ที่ปลาย หาก CAT ไม่ได้เสียหายทำงานปรกติ  ก็จะทำการเก็บสะสมความร้อนเพื่อไต่ความร้อนเตาเผาตัวนี้ให้สูงขึ้นมาก  เพื่อการเผาไหม้เศษที่ยังเผาได้ให้หมดไป  เพื่อโลกเราสวยงาม  และโดยกฎหมายแต่ละประเทศได้บังคับเอาไว้   (ยกตัวอย่างรถ Pa ที่ส่งไปรัสเซีย  ระบบ EGR และอุปกรณ์ลดมลภาวะจะแตกต่างจากไทยเราพอควรหาอ่านเสปครถได้จากคู่มือ  บางท่อนบางชิ้นระบุว่าตัวส่งไปทางรัสเซียจะไม่มี)

--- แต่หาก OX 2 หรือ OX1. ก็ตามเสื่อมไปค่า OX. Dif.  ก็จะไม่รายงานตามจริง เช่นกัน
--- หรือการที CAT เองเริ่มตันจากการ Melt หรือละลายจากเหตุผลหลายอย่าง เช่น
******** ระยะเวลาการใช้งานจน CAT หมดสภาพไปตามอายุมัน
******** หรือเร็วกว่า  เพราะมีสาเหตุจากมีเชื้อเพลิง  หรือเคมีที่เราจงใจใช้ผ่านระบบเผาไหม้   หรือแบบชัดชัดที่ผมเห้นกับตาก็มี  คือ มีช่างบางคน ติดเทคนิคมาจากพวกสนามแข่ง  ตอนรถจอดทิ้งไว้นานหรือรู้สึกว่ามันฝืด  ก็อาจจะเอาน้ำมันเครื่องหยอดลงไปที่ช่องหัวเทียน  หน่อยนึง เขามักเรียกว่า แช่ให้แหวนมันหล่อลื่นไม่ติดตาย  และทำให้ไหลลื่นดี  ซึ่งการทำแบบนั้นมีผลดีผมไม่ทราบ  แต่ผลเสียที่เห้นได้ชัดก็คือ  เมื่อเผาไหม้น้ำมันเหล่านั้นออกไป มันจะสะสมก่อนที่ cat แล้ว Cat เองเมื่อมันเจอแบบนั้นมันก็ต้องเผาไหม้โดยปรกติของมัน   และหากร้อนไม่เพียงพอก็ย่อมก่อให้เกิดคราบเขม่า carbon สะสมอุกรูได้เช่นกัน  หรืออาจจะเป็นสารเคมีอื่น  หรือการเผาไหม้ที่หนาหนาอยู่ประจำวึ่งอาจจจะไม่มากแต่สะสมยาว   และยิ่งเกิดขึ้นแย่กว่า  หากรถเราไม่ค่อยได้วิ่งแบบตีทางยาวไปกลับ 500 km . แบบไปต่างจังหวัดบ้าง  หรือวิ่งรถติดยึกยึกใน กทม. แบบนั้น


เพราะฉนั้นหากเราพบ code นี้ หากเป้นผม  จะทำการไล่ทีละอย่างเป้น STEP ไปเรื่อย โดยผมจะทำ

-- ดูแลเรื่องระบบการวิ่งด้วยน้ำมัน  ให้ปรกติมากที่สุด   ให้แน่ใจว่า  การขับแบบใช้น้ำมันมันปรกติดี  อาจจะสังเกตได้จาก FEELING หรือเครื่องมืออื่นหากทำได้   และสังเกตุกลิ่นของท่ไอเสียในเบื้องต้นด้วย  ที่พอจะทำได้ง่ายง่าย   แล้วก็สรุปให้ได้ว่าระบบน้ำมันที่เราใช้ขับนั้น  สมบูณณ์ดีก่อน

-- หลังจากนั้นก็จะทำการดูแลระบแก็สให้มีประสิทธิภาพใกล้กับระบบน้ำมันมากที่สุด  แน่ละไม่ได้ 100%  แต่อยู่ใน Range ที่รับได้ทั่วไปให้ดี   เพราะมันอาจจะไม่ได้หนาไปแบบเห้นชัด  แต่มันอาจสะสมการจ่ายหนาแบบน้อยแต่ปล่อยไว้นาน

-- หลังจากดูแลไล่แก้ปัญหาออกมาจนรถเราสมบูรณ์ดีแล้ว  ก็คงกลับมาหาเรื่อง Cat และ Oxs.   เราก็จะตัดปัยหาออกอีกหนึ่งก่อน  ก็ดูจากการขับน้ำมันว่า OX1.. หรือก่อน CAT มันทำงานออกมาได้ดีปรกติ   โดยอาจสังเกตุเห็นจากกลิ่นน้ำมันที่ออกมาจากท่อไอเสีย  และอาจใช้เครื่องมืออื่นที่เราสามารถทำได้ดูแลพวกตัวเลข Trims  หากเป็น V6 เราก็ต้องดูถึง 2 Banks เลย และเครื่องยนต์เรามีอาการนิ่งไม่สั่นมากไหมด้วย  ไล่หาให้เครื่องเดินเรียบในระบบน้ำมันก่อน  แล้วค่อยดูไปจนถึงระบบแก็ส  ราายละเอียดก็ Search เรียนรู้เพิ่มเติในแต่ละส่วนเอง   เราแค่มาบีบเรื่อง To do list กันก่อนแค่นั้นในหมวดใหญ่ใหญ่

-- หลังจากแน่ใจว่า Ox1 .  ไม่มีปัญหาแล้ว  โจทย์ก็ถูกบีบมาให้เหลือที่  CAT และ OX2 .   ซึ่งเราก็ไม่น่าจะข้ามขั้นตอนมาแก้กันที่จุดนี้ก่อนเลย  เราน่าจะกลับไปข้อข้างต้นไล่มาดีกว่า  เพราะ  Code P0421 กลุ่มนี้  ไม่น่าจะทำให้รถเราวิ่งแย่ลงเลย  ถึงมันจะเกิดก็ตาม หากไม่รวม OX1 ด้วย ยิ่งไม่น่ามีผลในการขับเลย  แต่มีผลกับสภาพแวดล้อมของโลกเรา

-- ตอนนี้ก็เหลือที่ว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ox 2 หรือ Cat มันละลายอุดตัน  ก็ค้นหาวิธีทดสอบดูจาก Google และอื่นอื่น  โดยเริ่มที่ตัว OX2 ก่อนเลย หากเราแน่ใจจากการทดสอบแล้วว่า OX2  แล้วปัญหาก็ยัง Remain อยู่ละก็  ก็น่าจะบีบโจทย์เหลือที่จุดเดียวแล้วคือ Catalytic นี่เอง

แต่เมื่อเราได้ผลมาแล้วว่า Cat ตัน  มันก็มีทางเลือก 4-5 ทางคือ
1.. เปลี่ยนใหม่

2.. หาซื้อของเก่ามือสอง  (เสี่ยงเดา)

3.. หากแน่ใจ 100% ว่า cat พังแล้วแน่  ตันแล้ว  ก็อาจจะเอาสูตรการตัดออกมาแล้วหาอ่านเรื่องการล้างแคทสวนทางจากเวบในและนอกทั่วไปว่ามันจะ Works หรือไม่

4.. ส่วนเรื่องทะลวงทิ้งนี้  ผมไม่มีข้อมูลเรื่องนี้  แต่ที่เห้นว่าน่าจะเกิดก็คือ ค่าความแตกต่างของการเอาค่า Voltage ของ ox1. กับ ox2. มาหาค่าจะมีการเท่ากันหรือ equal ไปเลยแน่นอน  ซึ่ง Ecu ก็จะต้องรายงานออกมาแน่แน่ว่า   Cat หายไปไหนหรือไม่ทำงานเผาไหม้กากเชื้อเพลิงละ  ก็น่าจะเป็น  Code P0421  อีกนั้่แหละ   เพราะไอเสียผ่าน ox1 มาที่ ox2.  มันก็คือไอเสียที่มีสภาวะอันเดียวกันเลย  แน่นอนหาก Ox ทั้ง 2 ตัวไม่เสียเสื่อม  ค่าที่ได้ก็ย่อมจะเท่ากันเป็นแน่ แต่เหม็นแน่รถคันนี้หาก มอไซด์จอดใกล้   และหากระบบแก็สเผาไม่หมดนี่จะกลายเป็นกลิ่น Taxi LPG ไปเลย

5... หากจะตัด cat เปลี่ยนอยู่แล้ว  เวลฝรั่งยังแนะว่า ไหนไหนก็ต้องทิ้ง cat ใช่ไหม  งั้นขอเผาทิ้งทวนสักที  โดยก่อนออกเดินทางไกลยาวยาว   ก็ทำให้น้ำมันเหลือออกมาจากการเผาไหม้เยอะแบบจงใจ  อาจจะใช้หลายวิธี อาจจะชักสายไฟ coils สักอัน  ตอนเดินเครื่องสักพักให้มีน้ำมันที่เผาไม่หมดไปตุงอยู่ใน Cat แล้วออกวิ่งยาวหนักหน่วงไปตลอดทางเลย  เพื่อเป็นการทดลองเผาก่อนจากกันสักที   อาจมีผลหากที่อุดตันมันถูกเผาและดันออกไปได้มากพอ  ก็อาจจะกลับมาใช้ได้อีกพัก

6... และหากต้องการเก็บเงินไว้เที่ยวก่อนแต่เข้าใจจากการตรวจสอบแล้วว่ารถเราปรับปรุงให้ไม่มีการจ่ายหนาบางหรือสมบูรณ์ได้ดีมากแล้ว  รวมทั้ง OX ทั้ง 2 ก็ปรกติ  คงเหลือแต่การเปลี่ย CAT แต่รถก็ยังระบายไอเสียออกไปได้พอควร  เราก็ใชัวิธีโกง ECU ตามแบบฝรั่งที่ผมยังไม่เคยทดลองเลยดู   คือ ทำอย่างไรก็ได้โดยเอา Ox2.  ให้ถอยออกมจากจุดที่มันอยู่สักนิ้ว 2 นิ้ว โดยลองจาก 1 นิ้วก่อน

ผมพอเดาจากที่ฝรั่งเขาทำก็คือ  เขาดึงถอยมันออกมาเพื่อจะได้รับไอเสียน้อยลง  ตัว OX2 จะได้ Report กระแสไฟไปยัง ECU เหมือนกับว่าไอเสียมีกากเชื้อเพลิงหลุดออกมาน้อย  หรือเข้าใจว่า CAT ยังทำงานปรกติดีนั่นเอง   หาดูวิธีการทำได้จาก 5 Dollars (5 Bucks) for not to change your catalytic..

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=GqDmmLQ4pGk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=GqDmmLQ4pGk</a>

ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลิมนะครับถึง code จะดับไปแล้ว  แต่ดูแลระบบน้ำมันและแก็สให้ไม่หนาไม่บางไปนะครับ   ผมเดานะหาก  Coils และ หัวเทียน เสื่อมเมื่อไร  การจ่ายไม่ปรกติเผาไหม้ไม่ดีพอย่อมเกิดขึ้นได้  และปล่อยไว้นานทำลาย cat
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 09, 2015, 11:33:27 am โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
aszaultz
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108


« ตอบ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2015, 01:27:16 pm »

ตัด เผา ต้มด้วยกรด ใช้ตัวextended O2simulator

ถูกสุดและได้ผลดีก็ ใช้ตัวเลื่อน sensor ออกมา อย่างป๋าบอก....ผมใช้อยู่ มีทั้งแบบตรง แบบงอ แล้วแต่ สถาพของ cat และ ecu โปรแกรมมาละเอียดขนาดไหน EURO อะไร V6 หา pre-cat เปลี่ยนยาก ค่อนข้าง Fix เรื่องรูปทรง.....สุดท้ายป้องกันดีกว่า อย่าให้แคทเสื่อมพอ

......แต่ต้มกรดถ้าทำดีๆคุม temp, ปริมาณกรดได้ดี หายแบบสะอาดๆ ใช้อีกยาวๆเลย
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2015, 07:51:16 pm »

แหมป๋า aszaultz นี่ลูกคู่ผมดีแท้เนาะ   อิ... ดีเลยครับมีอะไรทีเด็ดเอามาคุยกันเพิ่มเทคนิคการปรับปรุงสภาพรถ  เอามารวมไว้เยอะหน่อยที่เกี่ยวกับ CAT เกี่ยวกับ Ox. SENSORS

งั้นวันไหนว่างอีกจะเอา    ox2 หรือ Post Ox. หลัง cat Pa  V6  ออกมาดูสิว่าหน้าตายังไง  แต่มั่นใจว่าเป็น denso แน่นอน  ก็อยากรู้เหมือนกันว่าสภาพภายนอกมันยังไงบ้าง เด๋วถ่ายรูปแล้วเอาข้อมูลมาแจงกัน  อาจจะพอมองเห็นเบอร์ denso อะไรที่ตัวมันบ้างครับ   ใจผมอยากต่อสาย Ox ไเข้า ECU แก็สด้วยเลย  จะได้มองเห้นเวลาจูนแก็สว่า  ตอนนี้ OX-L OX-R ปล่อยค่าออกมากี่ Volt  จะได้เห็นว่ามันปรกติไหม  จริงแล้วฝรั่งมันก็ทำมาให้ต่อดูในโปรแกรม AC ได้อยู่แล้ว  แต่เราไม่ได้ต่อเอง  Ok..

ถึงตอนนี้เกิดอยากรู้ขึ้นมาละว่า V6 เรามี CAT ซ้าย1  ขวา 1 Ox. 2 ชุด  แล้วรวมไอเสียวิ่งมาอีกที่ท่อ capsule 1 ลูก  ซึ่งผมไม่รู้อย่างประจักษ์ว่า capsule ตัวนี้เป็น Catalytic ที่มีโครงสร้างแบบ Cat หรือว่าเป็นแค่ capsule เก็บเสียง กันแน่  หากสมาขิกท่านใดเคยผ่าเคยแน่ใจเคยเห้นว่ามันเป็นอะไรกันแน่  ช่วยออกมาแจงหน่อยนะครับ   ไม่เอาข้อมูลจากคู่มือรถนะครับ  ผมมองว่าบางทีก็ไม่ถูกต้อง  เพราะบางทีก็เรียก capsule นี้ว่า Cat แต่รูปทรงและลักษณะมันหากมีการผ่าออกมาอาจจะเป็นเพียง Capsule ไส้ลดเสียงก็ได้   ผมละไม่เชื่อเลยจนกว่าจะได้ลองผ่าพิสูจน์สักทีละน่า   หรือใครที่ทำร้านท่อไอเสียเชี่ยวชาญเรื่องท่อ  ออกมาฟันธงหน่อยสิว่า ที่เราหลงเรียกกันว่า Cat ลูกที่ 3 นั้น  มันไม่ใช่แค่ capsule เสียง ซึ่งไม่มีผง Ceramic + สารอื่นขึ้นรูปรังผึ้งเพื่อสะสมความร้อนไแบบไต่ระดับ   หรือเราโดนคู่มือหลอกโดยการเรียกชื่อมันว่า Catalytic กันแน่  ถ้ามันคือ cat แท้ในเชิ่งโครงสร้างภายยใน  งั้นรถ V6 เรานี้ก็ไม่มี capsule เก็บเสียงหรือรักษาแรงอัดให้พอดีละสิ.... เพราะหลุดจากตัวนี้ไปก็จะเจอหม้อพักลูกใหญ่แล้วก็ออกไปนอกรถเลย

แหมอยากรู้จริงจริง  ผมเดาว่าป๋าเชิดมีลูก capsule นี้วางอยู่ในบ้านนะ   ป๋าช่วยหาคำตอบให้หน่อยสิ  มันคาใจมาหลายปีแล้ว  ที่มั่นใจว่าป๋าเชิดมีนั้นเพราะเห้นว่าเหลือแต่ CAT L+R รวม 2 ลูกเท่านั้น  Ok.. Ok..
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
aszaultz
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108


« ตอบ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2015, 08:30:21 pm »

อิอิ น่าจะเป็น cat ครับ เรียก Maincat กรองอีกชั้น ส่วนใหญ่จะเป็นรถ EURO IV VI ของผมก็แบบนี้ครับ pre cat 2 ลูก รวมเข้า main cat ที่มี cat อยู่หน่อยนึง แล้วก็เป็นพักกลางในตัว ด้วยเลย.........ยังไงก็ลองดูครับ ตามร้านท่อไอเสียที่ตัดๆ ออก พวกรถแต่งๆ อิอิ
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2015, 10:10:17 am »

ผมอ่านเจอข้อมูลเวบนี้มาแล้วพบว่าเขาเขียนได้กระชับดีมากมาก  และเนื้อหาแบบอ่านแล้วเข้าใจได้เลย  เลยอยากเอามาแปะให้เพื่อนเพื่อนที่เริ่มอยากจะเข้าใจมันเป็นฐานแรกก่อนได้ศึกษากันครับ  อาจจะดูรกกระทู้นิดแต่ คัดเฉพาะเนื้อเนื้อมาเลย

เหตุที่เอาข้อมูลดีดีมาจ่อรอก็เพราะว่า   เร็วเร็วนี้รถ V6 LPG หลายคันอาจจะได้เจอ code เหล่านี้เร็วเร็วนี้  เพราะแต่ละคันที่วิ่งทางไกลมาก  หลายคันเกิน 1 แสนโล  กันไปแล้ว  และโอกาศที่จะเจอ Code เหล่านี้เริ่มมีเข้ามาแล้ว  ก้เลยมองไกลว่าเอามาแชร์กันก่อนไปเลย  เพราะหากเราไม่มีพื้นฐานความเข้าใจบ้างแล้วอาจจะมีการถูกยุให้จ่ายซื้อทั้ง OX~ และ catalytic converter ราคาแพงกันได้  หากเราเข้าใจมันตรงประเด็นอาจ Save ค่าใช้จ่ายไปได้ถึงหลัก 4 หมื่นบาท up กันทีเดียว

ต้นฉบับบข้อมูล มาจาก http://ricksfreeautorepairadvice.com/p0420-p0421-p0422-p0423-p0424-p0430-p0431-p0432-p0433-p0434/

รายละเอียด...
P0420 P0421 P0422 P0423 P0424 P0430 P0431 P0432 P0433 P0434

Some blog readers have been asking if they really have to replace a $1,200 catalytic converter just because they’re seeing these codes. Perhaps not. But before I dig into what may be causing the problem, let’s do a quick explanation of exactly what a catalytic converter does and how it may fail.

Inside the catalytic converter you’ll find a honeycomb coated with rare-earth metals like Rhodium, cerium, platinum, and palladium. These metals react with oxygen, fuel, oil, to reduce the amount of carbon dioxide and oxides of nitrogen released into the atmosphere.

To check on the efficiency of the catalytic converter, manufacturers install an oxygen sensor in front of and behind the converter. The front oxygen sensor is very busy. It constantly senses changes in the exhaust. In fact, a properly operating oxygen sensor senses switches from lean to rich mixtures as often as 10-times per second. That data gets fed back to the computer to alter air/fuel mixtures going into the engine. If the catalyst is operating properly the post-cat sensor should see VERY FEW changes.

Now let’s talk about how it all works.

Hot exhaust gas warms the metals in the cat converter to about 475-575 degrees F. At that point the cat converter is referred to as “lit up.” In other words, that’s hot enough for it to start doing it’s job of burning off excess fuel and oil. As soon as the cat converter see excess fuel, the catalytic operation begins and the operating temperature rises to 1,200- 1,500 degrees F. The converter can easily handle those temps. But if the engine is misfiring and dumping excess fuel or the engine is worn and dumping excess oil, the converter can overheat to upwards of 2,500 degrees. At that point the ceramic honeycomb begins to melt and self destruct. Please re-read the previous sentence. The point is cat converters self destruct BECAUSE of engine misfires and worn engine conditions that dump too much fuel and oil. They don not fail from normal use.

There are a few other things that can kill a cat converter. First, if you think your car is a real screaming machine and you’re dumb enough to run racing oil in it, the extra friction modifiers in racing oil (zinc and phosphorous) will kill the converter. If you do an engine repair and use too much RTV sealant or the sealant isn’t “sensor safe” that too can kill a cat converter. Finally, a coolant leak can foul oxygen sensors. At that point they’re blind and with no fuel control, you’ve set up the conditions for converter burn out.

Now let’s focus on the codes

 P0420 Catalyst System Efficiency Below Threshold (Bank 1)
 P0421 Warm Up Catalyst Efficiency Below Threshold (Bank 1)
 P0422 Main Catalyst Efficiency Below Threshold (Bank 1)
 P0423 Heated Catalyst Efficiency Below Threshold (Bank 1)
 P0424 Heated Catalyst Temperature Below Threshold (Bank 1)
 P0430 Catalyst System Efficiency Below Threshold (Bank 2)
 P0431 Warm Up Catalyst Efficiency Below Threshold (Bank 2)
 P0432 Main Catalyst Efficiency Below Threshold (Bank 2)
 P0433 Heated Catalyst Efficiency Below Threshold (Bank 2)
 P0434 Heated Catalyst Temperature Below Threshold (Bank 2

Every control module runs a catalyst efficiency “monitor.” In other words, it runs a cat converter test. First, it determines that the engine is up to operating temperature. To do that it looks at the engine coolant temp sensor. Next, it looks at the upstream oxygens sensors to

P0420, P0421, P0422, P0423, P0424, P0430, P0431, P0432, P0433, P0434
Oxygen Sensor

ensure they’re switching from lean to rich (or vice versa) at least 10-times per second. If the upstream sensor is working and the cat converter is working, then the downstream sensors (after the car) should be seeing any variations. That would mean the cat converter is doing it’s job of converting fuel, oil, carbon dioxide, and oxides of nitrogen into harmless compounds. To sum up, the computer is looking for a rapidly changing upstream sensor and a very quiet downstream sensor. If the downstream sensor is active and exceeds the standards by 1.5 times, the computer determines that the catalyst efficiency is below threshold. It then sets a P0420 trouble code. The big mistake DIYers make in not checking other codes.

For example, if the upstream O2 sensor is failing (called a lazy sensor because it’s not switching often enough) the computer may be dumping too much fuel into the mixture. That extra fuel may cause the POST O2 sensor to vary too much. That’ll set a cat converter code and trick you into thinking the converter is bad. So first address any OTHER codes present before you even think of swapping out the cat converter.

To check for a lazy sensor (one that’s failing enough to cause a problem but not serious enough to set a trouble code) most technicians use a scope. But you can use a scan tool –one that includes a readout for “cross counts” (that’s the technical term of when an oxygen sensor switches from lean to rich and vice versa). You should also check Short and Long Term Fuel Trim. If those numbers are 0-10%, you’re ok. But if they’re between 11-25%, the computer is adding too much fuel and that’s an indication of a serious problem. You can see how important it is to own a serious scan tool if you really want to diagnose the root cause of the problem.

However, if you don’t own a scan tool and want to solve the problem yourself, start by replacing the UPSTREAM O2 sensors. That may sound counterintuitive since the codes actually indicate a problem with the downstream sensors. But remember, it the UPSTREAM sensors that control air/fuel mixtures. If they’re going bad, the air/fuel mixture will be screwed up and that will interfere with the downstream sensor readings.

If you’ve replaced both upstream sensors and the code still persist, then it’s time to replace the downstream sensors. Still have a code? Well, now you’ve got one more option. Force the cat converter into “clean out” mode. This involves dumping so much extra fuel into the exhaust that it forces the cat converter to overheat and possibly burn off the contamination. Yes, this procedure and also destroy the converter—but you’re already at that point and don’t have much more to lose. To perform this procedure, disconnect a spark plug wire or coil pack wire and run the engine at 1,500 to 2,000 RPM for about 5-10 mins. The extra fuel from the misfiring cylinder should raise cat converter temps to almost 2,000 degrees. After 10 minutes, reconnect the spark plug or coil pack wire and take it for a hard drive at freeway speeds. That should force enough of the burned off carbon buildup out of the converter. If it works, you just saved yourself $1,200. If it doesn’t, you lost nothing but some extra gas.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 10, 2015, 10:16:36 am โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2015, 02:38:32 pm »

วันนี้ถ่ายน้ำมันเกียร์ที่อู่ H ข้างบ้าน   เลยดู Ox2 ของ Cat เรา ตัวหลัง Cat  เลยแกล้งถอดปลั๊กออก 2 ตัว  ได้ Code

-- P0053 HO2S Heater Resistance Bank 1 Sensor 1
Possible causes
- Faulty Heated Oxygen Sensor Bank 1 Sensor 1
- Heated Oxygen Sensor Bank 1 Sensor 1 harness is open or shorted
- Heated Oxygen Sensor Bank 1 Sensor 1 circuit poor electrical connection

----------------------------------------------------------------------------

-- P0057 HO2S Heater Control Circuit Low Bank 2 Sensor 2
Possible causes
- Faulty Heated Oxygen Sensor (H2OS) Bank 2 Sensor 2
- Heated Oxygen Sensor (H2OS) Bank 2 Sensor 2 harness is open shorted
- Heated Oxygen Sensor (H2OS) Bank 2 Sensor 2 circuit poor electrical connection
- Heated Oxygen Sensor (H2OS) Bank 2 Sensor 2 circuit fuse
- Faulty Engine Control Module (ECM)

หลังจากนั้นก็ได้ข้อสรุปว่า  OX-2 หลัง cat เรานี้ไม่มีผลพัวพันกับการคำนวณปรับลดเชื้อเพลิง   แต่เป็นตัวตรวจสอบอาการของ cat ว่าปรกติหรือไม่เท่านั้น  พูดง่ายไปอีกนิดก็คือ  ทำเพื่อตรวจสอบเครื่องมือลดมลภาวะโดยตรง   มองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของการคำนวณโดย ECU น้ำมันที่มาปรับลด dose เชื้อเพลิงเลย  ก็แสดงว่าเครื่องยนต์ก็ทำงานปรกติหาก Ox -1  คู่หน้ายังทำงานปรกติดีอยู่  ผมสรุปเองว่า  หาก Cat ผมละลายแล้วยังพอมีรูระบายไอเสียออกไปได้พอ  ผมอาจจะไม่เปลี่ยน cat แต่จะใช้วิธีโกงค่า OX-2 เอาโดยการถอย Ox-2  ออกมาจากเบ้าสัก 1-2 นิ้ว  เพื่อลดปริมาณไอเสียที่จะมาสัมผัว Ox-2 เอาก็แล้วกัน  เอาแค่ปลด Code ไฟ engine ออกไป ก็ ok ก่อนแล้ว  และหากไอเสียมันเริ่มตื้อมาก และมีการเช็คว่ามันตันมากแล้ว  ก็อาจจะยอมทะลวงออกเฉพาะรูตรงกลางออกดูก่อน  หาก code error เกี่ยวกับox-2 หายไปได้  ก็อาจจะไม่สนใจและขับไปต่อปรกติ  หากมีเงินเหลือค่อยยอมจ่ายค่า cat ใหม่   แต่คาดว่าคงไม่เปลี่ยนหรอกเพราะหลายตังค์  ก็อาจจะทะลวงเฉพาะรูกลาง  ดูการอั้นของไอเสีย  แล้วปรับถอย Ox2 เพื่อโกงค่า Voltage เอา

แต่ที่เอาเขียนบันทึกนี้  รถผมยังไม่มีอาการใดใด  แค่ไม่มีอะไรสนุกทำก็มุดใต้ท้องรถเล่น  หาข้อมูล  เด๋ววันไหนว่างอีกจะเอาตัวมันออกมาถ่ายรูปให้ดูเลย  และอาจจะเผาทำความสะอาดให้กริ๊บกริ็บสักหน่อย  kiki kiki kiki
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2015, 02:41:58 pm »

รูปตำแหน่งปลั๊ก Ox-2 หลัง CAT ซ้าย-ขวา วางคู่กันอยู่ดูจากล้อหน้าขวา  มองไปที่ตัวถังจะเห้น  สายสั้นนิดเดียว

หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจเรื่องระบบ Oxygen Sensors ทั้ง 4 ตัว ของ Pajero Sport V6 เราแล้ว  ผมก็เลยเอาข้อมูลหลักหลักมาบีบมาเค้นให้มันย่อยภาพรวมให้เราได้อ่านและทำความเข้าใจกันเมื่อต้องการจะทราบเกี่ยวกับ Code ที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งโดยมากจะเกิดจากรถติดแก็สได้มากกว่า    หวังใจว่าการรวมเนื้อหาย่อยมาบีบกระทู้เล็กนี้  สามารถทำให้เราเห็นภาพรวมของการทำงานออกมาได้อย่างดี   ที่เหลือก็สามารถวินิจฉัยเป็นเรื่องไป   แต่ผมอาจจะวิ่งเกินเส้น Line มาหน่อย  เพราะเอาสิ่งที่กำลังจะเกิดหรือยังไม่เกิดกับรถเรามาเร็วไปหน่อย   อิ....

แต่หากผมมีผลทดสอบอะไรใหม่ใหม่เกี่ยวกับเนื้อหาจะมา Up ให้นะครับ   แปลกใจจังช่วงนี้เรื่องกระทู้  ที่จะมาถามกันว่า  ติดแก็สที่ไหนดี  ยี่ห้ออะไรดี  หายไปหมดเลย  เหมือนกับว่าร้านแก็สส่วนมาก  กำลังจะขาดลูกค้าไปมากเลย   ผมสารภาพส่วนตัวเลยนะครับ   ใจจริงผมอยากไปเล่นรถดีเซลแล้ว   เพราะ Lpg เกือบจะถึงจุดความต่างของการไปใช้ดีเซลยากขึ้นและยากขึ้นอีก     แต่เพราะเล่น Lpg มันสนุกและบังคับให้เราดูแลรถเรามากขึ้น เข้าใจมันมากขึ้น   ก็เลยยังไม่อยากหนีไปไหน....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 16, 2015, 08:46:30 pm โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
หน้า: 1 [2] 3   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 20 คำสั่ง