+++ ? 100 ข้อคิด เพื่อชีวิตสุขสงบ ? +++

[Mr.Pig (No.031)]

สวัสดีครับผมขออนุญาต Admin.ใจดี ใช้พื้นที่ บนบ้านหลังนี้แบ่งบัน
ข้อความดีๆ...จากหนังสือ
 ? 100 ข้อคิด เพื่อชีวิตสุขสงบ ? โดย ผศ.ดร.ปริญญ์ ปราชญานุพร

แปลจาก ? DON?T SWEAT THE SMALL STUFF ? and it?s all small stuff ?

ของ RICHARD CARLSON, Ph.D.

ผมจะทะยอยนำมาลงให้อ่าน นะครับ ช่วงนี้ผมมีภารกิจหลายอย่าง จึงไม่ค่อยได้เข้ามาทักทายกัน
วันนี้ถือว่าเป็นวันดีวันพระ วันไหว้ ผมขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข กันทุกๆท่าน ครับ


1. อย่าเหงื่อตกกับเรื่องรกสมอง

Don?t Sweat the Small Stuff

1.1 เรามักปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับสิ่งต่างๆ ซึ่งถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้ง จะพบว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนัก แต่เรากลับใส่ใจกับปัญหาเล็กน้อยและทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โดยไม่จำเป็น

2. ใช้ความสงบสยบความไม่สมบูรณ์แบบ

Make Peace with Imperfection

2.1 แทนที่จะยินดีและพอใจกับสิ่งที่มี เรากลับใส่ใจว่ามีอะไรที่ผิดพลาดเพื่อจะได้ปรับปรุงแก้ไข เมื่อใดก็ตามที่เรามัวแต่สนใจในความผิดพลาด ก็แสดงว่าเราไม่พอใจและไม่เบิกบานกับสิ่งที่มีอยู่หรือเกิดขึ้น

2.2 ทันทีที่เริ่มกำจัดความต้องการที่จะทำทุกอย่างในชีวิตให้สมบูรณ์แบบ ท่านก็จะเริ่มค้นพบความสมบูรณ์แบบในชีวิตด้วยตัวของมันเอง

3. เลิกความคิดที่ว่าคนอ่อนโยนเรียบง่ายไม่สามารถประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้

Let Go of the Idea that Gentle, Relaxed People Can?t Be Superachievers

3.1 ความหวาดกลัวและวิตกกังวลต่างหากที่ทำให้สูญเสียพลังงาน และบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งกำลังใจจากชีวิต

4. ระวังผลกระทบแบบลูกกลิ้ง จากความคิดที่ไม่ยอมหยุดนิ่งของตัวเอง

Be Aware of the Snowball Effect of Your Thinking

4.1 ยิ่งท่านติดอยู่ในห้วงความนึกคิดเชิงลบโดยละเอียดมากขึ้นเท่าใด ท่านก็จะยิ่งรู้สึกเลวร้ายมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากความคิดหนึ่งจะนำไปสู่อีกความคิดหนึ่งและอีกความคิดหนึ่งไปเรื่อยๆ

4.2 ยิ่งท่านสามารถรู้ทันความคิดตัวเองเร็วมากเท่าใด ท่านยิ่งจะหยุดความคิดที่กำลังจะเกิดต่อไปได้เร็วขึ้นเท่านั้น

5. มาพัฒนาความเมตตากันเถอะ

Develop Your Compassion

5.1 ไม่มีวิธีใดจะช่วยสร้างมุมมองของเราให้กว้างขวางขึ้นได้มากกว่าการพัฒนาความเมตตาต่อผู้อื่น

5.2 ความเมตตาคือความรู้สึกเห็นใจผู้อื่น เป็นความตั้งใจที่จะเอาใจเขามาใส่ใจเรา และพยายามเข้าใจสถานการณ์ของผู้อื่น

5.3 เราไม่สามารถทำสิ่งยิ่งใหญ่อะไรได้ในโลกนี้ เราเพียงแต่สามารถทำสิ่งเล็กน้อยด้วยความรักอันยิ่งใหญ่เท่านั้น

6. เตือนตนเองว่าแม้เราจะตายไปแล้ว ? งานในตะกร้า ? ก็ยังไม่มีวันหมดสิ้น

6.1 หากมัวติดอยู่กับความคิดที่ว่า ต้องทำสิ่งต่างๆให้เสร็จ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแล้ว ชีวิตท่านจะไม่มีวันสมบูรณ์

6.2 ที่จริงแล้ว ทุกสิ่งล้วนชะลอได้ มีเพียงบางงานเท่านั้นที่เร่งด่วนจริงๆ และหากท่านใส่ใจกับหน้าที่แล้ว งานต่างๆย่อมเสร็จสิ้นในเวลาอันควร

7. อย่าสอดแทรกหรือตัดบทสนทนาของผู้อื่น

Don?t Interrupt Others or Finished Their Sentences

7.1 สิ่งที่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจมากที่สุด ก็คือบุคคลที่ไม่รับฟังในสิ่งที่เขากำลังพูดอยู่ และท่านจะรับฟังอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างไร เมื่อท่านกำลังพูดให้คนผู้นั้นฟัง

8. ทำสิ่งดีๆให้ผู้อื่นโดยไม่ต้องบอกให้ใครรู้

Do Something Nice for Someone Else and Don?t Tell Anyone About It

8.1 เราควรจะให้เพราะต้องการจะให้ ไม่ใช่เพราะต้องการได้รับสิ่งตอบแทน

8.2 เมื่อท่านไม่เอ่ยถึงสิ่งดีงามที่ท่านได้กระทำกับผู้อื่น รางวัลที่แท้จริงที่ท่านได้ ก็คือความรู้สึกอบอุ่นอันเกิดจากการให้ที่แท้จริง

9. ปล่อยให้คนอื่นเด่นดังเสียบ้าง

Let Others Have the Glory

9.1 จะมีบางอย่างที่มหัศจรรย์เกิดขึ้นในจิตใจ เป็นความรู้สึกที่สงบเยือกเย็นที่เกิดขึ้น เมื่อเรายุติความต้องการให้ใครสนใจในตัวเรา และปล่อยให้ผู้อื่นได้รับความสนใจแทน

10. เรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่ในขณะปัจจุบัน

Learn to Live in the Present Moment

10.1 เป็นความจริงค่อนข้างมากที่ความสงบสุขแห่งจิตใจของเรา สามารถวัดได้จากการที่เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันได้มากแค่ไหน

10.2 เราปล่อยให้ปัญหาในอดีตและความห่วงใยในอนาคตครอบงำวินาทีปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง จนกลายเป็นคนขี้วิตกกังวล หัวเสีย เครียด และสิ้นหวัง

10.3 คนจำนวนมากใช้ชีวิตราวกับว่ามันคือเสื้อผ้าที่ซื้อหามาเปลี่ยนได้ในวันหลัง แต่แท้ที่จริงแล้วไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าเขาหรือเธอจะยังคงมีชีวิตอยู่ในวันพรุ่งนี้

.

[Pajerosport-Thailand No.0011]

...ป๋าหมู

[kitkamol50.No 7.]

...ป๋าหมู

                           +1...

[ปาท่องโก๋(ตัวน.) No.19]

  แจ่มครับป๋าหมู

[Tee_Kb]

ติดตามตอนต่อไป...

[Mr.Pig (No.031)]

สวัสดีเช้าวันจันทร์ เช้าวันเริ่มงานครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการทำงานนะครับ
วันนี้มาต่อให้อีก 10 ข้อนะครับ.

11. จินตนาการว่าทุกคนตรัสรู้หมดแล้วนอกจากตัวเอง
Imagine that Everyone Is Enlightened Except You
11.1 สิ่งที่ต้องทำคือ พยายามคิดให้ดีว่าผู้คนต่างๆ ที่ท่านผ่านพบในชีวิตกำลังพยายามจะสอนอะไรท่านบ้าง ท่านจะพบว่า ด้วยวิธีคิดแบบนี้ ท่านจะรู้สึกรำคาญ ขุ่นเคือง และโมโหน้อยลง เนื่องจากการกระทำและความไม่สมบูรณ์แบบของผู้อื่น

12. ปล่อยให้ผู้อื่นเป็นฝ่าย ? ถูก ? เสียส่วนใหญ่
Let Others Be ? Right ? Most of the Time
12.1 การได้รับความตั้งใจฟังและยอมรับ นับเป็นความปรารถนาอันยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งของมนุษย์
12.2 ผู้เรียนรู้ที่จะรับฟังมักได้รับความรักและเคารพจากผู้อื่น ส่วนผู้มีนิสัยชอบแก้ไขผู้อื่น มักถูกรังเกียจและใครๆพากันหลีกเลี่ยง

13. ฝึกให้อดทนยิ่งขึ้น
Become More Patient
13.1 ความรู้จักอดทนช่วยให้ท่านเดินใกล้เป้าหมายการเป็นคนสงบเยือกเย็นน่ารักยิ่งขึ้น
13.2 ยิ่งมีความอดทนมากเท่าไร ท่านยิ่งสามารถยอมรับสิ่งต่างๆ อย่างที่เป็นอยู่ได้มากกว่าการดึงดันว่าชีวิตจะต้องเป็นไปตามที่ต้องการ

14. หาช่วงเวลาฝึกความอดทน
Create ? Patience Practice Periods ?
14.1 ความอดทนเป็นคุณสมบัติของจิตใจซึ่งสามารถพัฒนาขึ้นได้ด้วยการฝึกปฏิบัติ
15. จงเป็นคนแรกที่แสดงความรักหรือเป็นฝ่ายเริ่มต้น
Be the First One to Act Loving or Reach Out
15.1 เมื่อใดก็ตามที่เรายอมให้ความโกรธเข้าครอบงำ เราได้เปลี่ยนเรื่องเล็กน้อยให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในใจของเราเองอย่างแท้จริง และทำให้คิดว่าเรื่องของศักดิ์ศรีสำคัญยิ่งกว่าความสุข

16. ถามตัวเองว่า ? เรื่องนี้จะยังสำคัญอีกหรือไม่ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ?
Ask Yourself the Question, ? Will This Matter a Year from Now? ?
16.1 หลังจากนี้อีกหนึ่งปี ท่านอาจไม่ใส่ใจในเรื่องดังกล่าวอีกเลยก็ได้ และจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่มีความสำคัญอะไรนักในชีวิต

17. ยอมรับความจริงที่ว่า ไม่มีอะไรยุติธรรมในชีวิต
Surrender to the Fact that Life Isn?t Fair
17.1 ข้อดีประการหนึ่งในการยอมรับความจริงที่ว่าไม่มีอะไรยุติธรรมในชีวิตก็คือ จะทำให้ไม่มัวเสียใจกับตัวเอง แต่กลับช่วยจูงใจให้เราพยายามทำสิ่งต่างๆอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
17.2 การยอมรับว่าไม่มีอะไรยุติธรรมในชีวิตกลับจะช่วยให้เราเกิดความรู้สึกเมตตาต่อผู้อื่นและตัวเอง ความรู้สึกเมตตาที่ว่านี้ เป็นความรู้สึกที่เกิดจากใจในการส่งผ่านความรักและความกรุณาให้แก่ทุกคน

18. อนุญาตให้ตัวเองรู้สึกเบื่อบ้าง
Allow Yourself to Be Bored
18.1 เมื่อท่านอนุญาตตัวเองให้รู้สึกเบื่อเสียบ้าง จะช่วยลดความกดดันที่เคยทำให้ท่านต้องทำโน่นทำนี่ไม่หยุดหย่อนเกือบทุกวินาทีในชีวิตแต่ละวัน

19. ลดระดับความอดกลั้นต่อความกดดัน
Lower Your Tolerance to Stress
19.1 ถ้าท่านสอนให้บุคคลพยายามเพิ่มขีดความสามารถในการอดกลั้นต่อความเครียด บุคคลนั้นก็จะยิ่งรู้สึกเครียดเพิ่มขึ้นตามขีดความสามารถที่เขาจะอดกลั้นได้

20. เขียนจดหมายระบายความรู้สึกอาทิตย์ละครั้ง
Once a Week, Write a Heartfelt Letter
20.1 คุณค่าของจดหมายนี้ ก็เพื่อดึงความคิดของท่านไปสู่ความรู้สึกสำนึกในบุญคุณหรือคุณงามความดีของใครบางคน การฝึกเขียนจดหมายนี้แม้จะไม่มีการส่งไปให้ใครจริงๆแต่ก็มีเป้าประสงค์เช่นนี้

[Tee_Kb]

 

[Black Angel No.181]

 

[TokKy (No. 12)]

    

[wit AF no.111]

เป็นข้อคิดที่โดนใจที่สุด ....เหล่านี้ล้วนเป็นสัจจธรรม ทีทุกคนใด้เผชิญทุกลมหายใจ  ...ยอมรับว่าตัวเราเองนั้นต้องกลับทบทวนตัวเอง  หลายข้อ...ขอบคุณป๋าหมูผู้กรุณา เเละเจ้าของบทความนี้

[Mr.Pig (No.031)]

สวัสดีวันอังคาร วันทำงานอันแสนสดใส ครับ
มาต่อให้อีก 10 ข้อครับ

21. ลองนึกภาพว่ากำลังยืนอยู่หน้าโลงศพตัวเอง
Imagine Yourself at Your Own Funeral
21.1 การคิดถึงความตายของตัวเองก็เป็นวิธีที่ดีและควรนำมาใช้ขณะยังมีชีวิตอยู่ การทำเช่นนี้จะช่วยเตือนตัวเองว่าท่านต้องการเป็นคนเช่นไร และอะไรเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต

22. บอกกับตัวเองบ่อยๆว่า ? ชีวิตไม่ใช่ความเร่งด่วน ?
Repeat to Yourself, ? Life Isn?t an Emergency ?
22.1 เราใส่ใจกับเป้าหมายของตนเองอย่างจริงจังเกินไป จนลืมนึกถึงความสนุกสนานระหว่างเดินทางไปสู่เป้าหมาย และลืมทำตัวให้สบาย รู้จักปล่อยให้บางอย่างที่ไม่สำคัญนักผ่านไปเสียบ้าง

23. เลียนแบบการทำงานของเตาหุงต้มอาหาร
Experiment with Your Back Burner
23.1 เราสามารถแก้ปัญหาต่างๆของชีวิต (ทั้งที่ร้ายแรง และไม่ร้ายแรง) ด้วยการใส่เครื่องปรุง อันได้แก่ ปัญหา ความจริง ปัจจัย และทางออกต่างๆ ลงไปในขุมพลังของสมอง และในขณะที่เราต้มซุปหรือปรุงรสอยู่ ความคิดต่างๆที่เราผ่านเข้าไปในเตาสมองควรได้รับการปล่อยให้ทำหน้าที่ของมันตามลำพัง

24. ใช้เวลาวันละนาทีคิดถึงใครบางคนที่ท่านอยากจะขอบคุณ
Spend a Moment Every Day Thinking of Someone to Thank
24.1 ความรู้สึกสำนึกในคุณงามความดีและความรู้สึกสุขสงบในจิตใจเป็นของคู่กันเสมอ
24.2 การปล่อยให้สมองและจิตใจถูกครอบงำด้วยความคิดต่างๆในทางลบอย่างรุนแรงเป็นเรื่องง่าย และเมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งแรกที่จากไปคือ ความรู้สึกสำนึกในคุณงามความดีของผู้อื่น

25. ยิ้มให้คนแปลกหน้า มองตาและทักว่า ? สวัสดี ?
Smile at Strangers, Look into Their Eyes, and Say Hello

25.1 หากท่านคิดว่าคนแปลกหน้ามีอะไรบางอย่างเหมือนท่านบ้าง และไม่เพียงปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเมตตาและเคารพเท่านั้น แต่แถมด้วยรอยยิ้มและการสบตา ท่านอาจสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองในทางที่ดีขึ้น
25.2 ผู้คนจะรู้สึกดีใจที่ท่านเป็นคนแรกที่ทักทายเขาก่อน เมื่อมองเห็นความคล้ายคลึงของมนุษย์แล้ว ท่านจะเริ่มมองเห็นความบริสุทธิ์ในพวกเราทุกคน

26. หาเวลาเงียบๆให้กับตัวเองทุกวัน
Set Aside Quiet Time, Every Day
26.1 การได้อยู่คนเดียวเงียบๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สุขสบาย และมีเวลาสำรวจตัวเอง ทำงาน หรือสัมผัสความเงียบโดยลำพัง

27. นึกภาพว่าผู้คนในชีวิตเป็นทารกเล็กๆ หรือไม่ก็คนชราอายุร้อยปี
Imagine the People in Your Life as Tiny Infants and as One ? Hundred ? Year ? Old Adults
27.1 ช่วยปลดปล่อยความรู้สึกขุ่นเคืองโกรธแค้น

28. พยายามทำความเข้าใจเสียก่อน
Seek First to Understand
28.1 โดยแก่นแท้แล้ว การพยายามทำความเข้าใจเสียก่อนหมายความว่า ท่านสนใจที่จะเข้าใจผู้อื่นมากกว่าพยายามให้ผู้อื่นเข้าใจท่าน
28.2 การพยายามทำความเข้าใจเสียก่อนไม่เกี่ยวกับการพยายามหาคำตอบว่าใครเป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิด ทว่าเป็นปรัชญาของการสื่อสารอย่างทรงประสิทธิผล

29. พยายามเป็นผู้ฟังที่ดีขึ้น
Become a Better Listener
29.1 การฟังความคิดของใครสักคนจนจบย่อมนำความพอใจมาให้มากกว่าการคอยจังหวะเพื่อตัวเองจะได้พูดบ้าง
29.2 การไม่รีบร้อนตอบโต้หรือแสดงความเห็นอะไร แต่พยายามเป็นผู้ฟังที่ดี จะทำให้ท่านเยือกเย็นรอบคอบยิ่งขึ้น

30. เลือกสนามยุทธอย่างชาญฉลาด
Choose Your Battles Wisely
30.1 ทุกนาทีจะมีแง่มุมของชีวิตทั้งที่เราชอบและไม่ชอบเกิดขึ้น รวมทั้งมีผู้คนที่ไม่เห็นด้วยหรือทำอะไรแตกต่างจากเรา และมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นเสมอ หากท่านไม่ยอมรับความจริงข้อนี้ ท่านจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ให้หมดไปกับการสู้รบตบมือกับใครต่อใคร หรือไม่ก็สิ่งต่างๆอย่างไม่มีวันจบสิ้น

[wit AF no.111]

สวัสดีวันอังคาร วันทำงานอันแสนสดใส ครับ
มาต่อให้อีก 10 ข้อครับ

21. ลองนึกภาพว่ากำลังยืนอยู่หน้าโลงศพตัวเอง
Imagine Yourself at Your Own Funeral
21.1 การคิดถึงความตายของตัวเองก็เป็นวิธีที่ดีและควรนำมาใช้ขณะยังมีชีวิตอยู่ การทำเช่นนี้จะช่วยเตือนตัวเองว่าท่านต้องการเป็นคนเช่นไร และอะไรเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต

22. บอกกับตัวเองบ่อยๆว่า ? ชีวิตไม่ใช่ความเร่งด่วน ?
Repeat to Yourself, ? Life Isn?t an Emergency ?
22.1 เราใส่ใจกับเป้าหมายของตนเองอย่างจริงจังเกินไป จนลืมนึกถึงความสนุกสนานระหว่างเดินทางไปสู่เป้าหมาย และลืมทำตัวให้สบาย รู้จักปล่อยให้บางอย่างที่ไม่สำคัญนักผ่านไปเสียบ้าง

23. เลียนแบบการทำงานของเตาหุงต้มอาหาร
Experiment with Your Back Burner
23.1 เราสามารถแก้ปัญหาต่างๆของชีวิต (ทั้งที่ร้ายแรง และไม่ร้ายแรง) ด้วยการใส่เครื่องปรุง อันได้แก่ ปัญหา ความจริง ปัจจัย และทางออกต่างๆ ลงไปในขุมพลังของสมอง และในขณะที่เราต้มซุปหรือปรุงรสอยู่ ความคิดต่างๆที่เราผ่านเข้าไปในเตาสมองควรได้รับการปล่อยให้ทำหน้าที่ของมันตามลำพัง

24. ใช้เวลาวันละนาทีคิดถึงใครบางคนที่ท่านอยากจะขอบคุณ
Spend a Moment Every Day Thinking of Someone to Thank
24.1 ความรู้สึกสำนึกในคุณงามความดีและความรู้สึกสุขสงบในจิตใจเป็นของคู่กันเสมอ
24.2 การปล่อยให้สมองและจิตใจถูกครอบงำด้วยความคิดต่างๆในทางลบอย่างรุนแรงเป็นเรื่องง่าย และเมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งแรกที่จากไปคือ ความรู้สึกสำนึกในคุณงามความดีของผู้อื่น

25. ยิ้มให้คนแปลกหน้า มองตาและทักว่า ? สวัสดี ?
Smile at Strangers, Look into Their Eyes, and Say Hello

25.1 หากท่านคิดว่าคนแปลกหน้ามีอะไรบางอย่างเหมือนท่านบ้าง และไม่เพียงปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเมตตาและเคารพเท่านั้น แต่แถมด้วยรอยยิ้มและการสบตา ท่านอาจสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองในทางที่ดีขึ้น
25.2 ผู้คนจะรู้สึกดีใจที่ท่านเป็นคนแรกที่ทักทายเขาก่อน เมื่อมองเห็นความคล้ายคลึงของมนุษย์แล้ว ท่านจะเริ่มมองเห็นความบริสุทธิ์ในพวกเราทุกคน

26. หาเวลาเงียบๆให้กับตัวเองทุกวัน
Set Aside Quiet Time, Every Day
26.1 การได้อยู่คนเดียวเงียบๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สุขสบาย และมีเวลาสำรวจตัวเอง ทำงาน หรือสัมผัสความเงียบโดยลำพัง

27. นึกภาพว่าผู้คนในชีวิตเป็นทารกเล็กๆ หรือไม่ก็คนชราอายุร้อยปี
Imagine the People in Your Life as Tiny Infants and as One ? Hundred ? Year ? Old Adults
27.1 ช่วยปลดปล่อยความรู้สึกขุ่นเคืองโกรธแค้น

28. พยายามทำความเข้าใจเสียก่อน
Seek First to Understand
28.1 โดยแก่นแท้แล้ว การพยายามทำความเข้าใจเสียก่อนหมายความว่า ท่านสนใจที่จะเข้าใจผู้อื่นมากกว่าพยายามให้ผู้อื่นเข้าใจท่าน
28.2 การพยายามทำความเข้าใจเสียก่อนไม่เกี่ยวกับการพยายามหาคำตอบว่าใครเป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิด ทว่าเป็นปรัชญาของการสื่อสารอย่างทรงประสิทธิผล

29. พยายามเป็นผู้ฟังที่ดีขึ้น
Become a Better Listener
29.1 การฟังความคิดของใครสักคนจนจบย่อมนำความพอใจมาให้มากกว่าการคอยจังหวะเพื่อตัวเองจะได้พูดบ้าง
29.2 การไม่รีบร้อนตอบโต้หรือแสดงความเห็นอะไร แต่พยายามเป็นผู้ฟังที่ดี จะทำให้ท่านเยือกเย็นรอบคอบยิ่งขึ้น

30. เลือกสนามยุทธอย่างชาญฉลาด
Choose Your Battles Wisely
30.1 ทุกนาทีจะมีแง่มุมของชีวิตทั้งที่เราชอบและไม่ชอบเกิดขึ้น รวมทั้งมีผู้คนที่ไม่เห็นด้วยหรือทำอะไรแตกต่างจากเรา และมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นเสมอ หากท่านไม่ยอมรับความจริงข้อนี้ ท่านจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ให้หมดไปกับการสู้รบตบมือกับใครต่อใคร หรือไม่ก็สิ่งต่างๆอย่างไม่มีวันจบสิ้น

[kitkamol50.No 7.]

                 

[Mr.Pig (No.031)]

สวัสดีเช้าวันพุธ วันหัวใจชื่นบานกลางสัปดาห์
ขอให้ทุกท่าน มีความสุข ครับ
อีกซัก 10 นะครับ
 
41. หลีกเลี่ยงการจับผิด
Avoid Weatherproofing
41.1 การถูกวิพากษ์วิจารณ์บ่อยๆ แม้จะดูเหมือนไม่ร้ายแรงหรือทำร้ายใครโดยตรง แต่ก็มีผลกระทบอย่างต่อเนื่องและอันตรายต่อวิถีชีวิตของใครต่อใครเสมอ

42. ใช้เวลาวันละนาทีคิดถึงใครบางคนที่ท่านจะรัก
Spend a Moment, Every Day, Thinking of Someone to Love
42.1 การคิดถึงใครบางคนที่ท่านจะรักทุกวัน ท่านจะบั่นความเกลียดชังให้หมดไป

43. ลองเป็นนักมานุษยวิทยาดู
Become an Anthropologist
43.1 การสนใจในวิธีที่บุคคลแสดงออกซึ่งพฤติกรรมต่างๆ ยังสามารถสร้างความรักความเมตตาขึ้นมาทดแทนการตัดสินผู้อื่นได้อีกด้วย
43.2 หากท่านรู้สึกสนใจวิธีแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ หรือวิธีที่บุคคลเกิดความรู้สึกต่อสิ่งต่างๆอย่างแท้จริงแล้ว ท่านจะไม่ค่อยรู้สึกรำคาญหรือขุ่นเคืองการกระทำของผู้อื่นมากนัก ด้วยกลวิธีที่ท่านทำตัวเป็นนักมานุษยวิทยานี้จะช่วยให้ท่านผิดหวังน้อยลงจากการกระทำของคนอื่น

44. ทำความเข้าใจความจริงแต่ละอย่างที่ต่างกัน
Understand Separate Realities
44.1 ความแตกต่างระหว่างบุคคลในการมองสิ่งต่างๆในโลกนี้ ได้ห้ามมิให้เราคาดหวังว่าผู้อื่นจะมีความเห็นและทำสิ่งต่างๆเหมือนกับเรา นี่มิใช่เป็นเพียงหลักการที่สอนให้เรามีความอดทนกับความแตกต่าง แต่เป็นการสอนให้เกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง และเคารพในความจริงดังกล่าว

45. พัฒนาวิธีช่วยเหลือผู้อื่นของท่านเอง
Develop Your Own Helping Rituals
45.1 การกระทำเล็กๆน้อยๆที่เกิดจากความเมตตานี้ เป็นโอกาสที่จะให้บริการช่วยเหลือผู้อื่น ทั้งยังเป็นสิ่งเตือนให้ทราบว่า เรารู้สึกดีขึ้นอย่างไรที่ให้ความเมตตาและช่วยเหลือผู้อื่น

46. ทุกๆวันบอกใครอย่างน้อยหนึ่งคนเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านชอบ ชื่นชม หรือขอบคุณเขา
Every Day, Tell at Least One Person Something You Like, Admire, or Appreciate about Them
46.1 การบอกใครสักคนในสิ่งที่ท่านชอบ ชื่นชม หรือรู้สึกขอบคุณเขา ถือเป็นการฝึกแสดงออกซึ่งความเมตตา

47. ถ้ามัวถกเถียงเกี่ยวกับข้อจำกัดต่างๆ ท่านก็จะมีข้อจำกัดจริงๆ
Argue for Your Limitations, and They?re Yours
47.1 คนส่วนใหญ่ใช้พลังงานมากมายหมดไปกับการโต้แย้งถึงข้อจำกัดของตัวเอง

48. จำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีทางสร้างสรรค์
Remember that Everything Has God?s Fingerprints on It
48.1 เมื่อชีวิตเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาที่จะได้เห็นพลังสร้างสรรค์ของสรรพสิ่ง ความมหัศจรรย์บางอย่างจะบังเกิดขึ้น สันติสุขจะเริ่มเกิดขึ้นในใจ เราจะเริ่มมองเห็นแง่มุมทางบวกของชีวิตประจำวันซึ่งเราไม่เคยมองเห็นมาก่อน

49. พยายามระงับความอยากวิพากษ์วิจารณ์
Resist the Urge to Criticize
49.1 เมื่อเราตัดสินหรือวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น นั่นไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับคนที่ถูกวิจารณ์เลย แต่กลับบอกให้ทราบว่าท่านเป็นคนชอบวิพากษ์ผู้อื่น
49.2 การวิพากษ์วิจารณ์ก็เช่นเดียวกับการสบถสาบานคือ ไม่มีอะไรมากไปกว่านิสัยที่ไม่ดี เป็นเพียงอะไรบางอย่างที่เราทำจนเคยชินหรือเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย และเป็นอะไรบางอย่างที่ทำให้เราจิตไม่ว่างเพราะมีอาหารปากให้พูดถึง

50. ระบุนิสัยดื้อรั้นมากที่สุดของท่าน 5 อย่าง และลองพยายามลดนิสัยนั้นลง
Write Down Your Five Most Stubborn Positions and See if You Can Soften Them
50.1 การลดความยึดมั่นถือมั่นในความเห็นตนเองไม่ได้ทำให้ท่านอ่อนแอลงอย่างใด ที่จริงแล้วกลับทำให้ท่านเข้มแข็งยิ่งขึ้น

[neaw2510]

แล้วข้อที่ 31-40 ล่ะครับป๋า