Languages
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ท่านใดใช้ pajero sport V6 ช่วยแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ  (อ่าน 17332 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
soulmate
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13


« ตอบ #15 เมื่อ: กันยายน 19, 2012, 10:42:33 am »

เวลาจอดติดเครื่อง ขึ้นรถมาเผลอบิดกุญแจสตาร์ทใหม่เรื่อย มันเงียบลืมว่าสตาร์ทรถอยู่ Cheesy เฟืองไม่หอน โช๊คยังดีอยู่  เบาะสามปรับราบตลอดลูกชอบ ยังคิดว่าจะได้ใช้มั๊ยแถวสาม
บันทึกการเข้า
NUTPOL_V6
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 54



« ตอบ #16 เมื่อ: กันยายน 19, 2012, 01:01:22 pm »

เวลาจอดติดเครื่อง ขึ้นรถมาเผลอบิดกุญแจสตาร์ทใหม่เรื่อย มันเงียบลืมว่าสตาร์ทรถอยู่ Cheesy เฟืองไม่หอน โช๊คยังดีอยู่  เบาะสามปรับราบตลอดลูกชอบ ยังคิดว่าจะได้ใช้มั๊ยแถวสาม
ตอนนั่งในรถตอนติดเครื่องยนต์อยู่เงียบจริงๆครับป๋า
ผมเคยเปลี่ยนกันขับกะคนที่บ้าน เผลอไปบิดกุญเเจอีกรอบ (ตอนติดเครื่องอยู่)
เสียงดังแก๊กๆๆๆ เลยครับ ตกใจนึกว่ารถเราเป็นอะไร  ยอดเยี่ยม
บันทึกการเข้า
Woodyพ่อน้องแป้งฝุ่น
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13



« ตอบ #17 เมื่อ: กันยายน 20, 2012, 10:04:28 pm »

ศูนย์นี้บอกว่า ถ้าเป็นสีขาวได้เดือนหน้า แต่สี Dark Bluer ไม่มีอนาคต ต้อวเร่ร่อนหาต่อไป ก็เลยไปเจอที่มิตซูถนนกัลปพฤกษ์ โอ๊ยมึน
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #18 เมื่อ: กันยายน 21, 2012, 11:17:31 am »

ศูนย์นี้บอกว่า ถ้าเป็นสีขาวได้เดือนหน้า แต่สี Dark Bluer ไม่มีอนาคต ต้อวเร่ร่อนหาต่อไป ก็เลยไปเจอที่มิตซูถนนกัลปพฤกษ์ โอ๊ยมึน

OH!  ... เจ็บปวดใจจังเลยป๋า "แต่สี Dark Blue ไม่มีอนาคต ต้อวเร่ร่อนหาต่อไป "  ผม Dark Blue สะด้วย.... V6  Roll Eyes Roll Eyes จำใจรอต่อไป....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 22, 2012, 06:46:41 pm โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
annderson
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 65


« ตอบ #19 เมื่อ: กันยายน 23, 2012, 10:53:42 pm »

Uppppppp
บันทึกการเข้า
Woodyพ่อน้องแป้งฝุ่น
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13



« ตอบ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2013, 01:46:48 am »

อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ ปลาย ก.ย.2555 ตอนนี้ห้อได้ 13,000 กม.เศษๆ แล้ว หากจะให้สรุปประโยคเดียวคือ ..  PJS V6 3.0 ไร้ทุกปัญหาครับ

หากจะพูดถึงความเร็วแบบ "ซิ่งนรก" ปา V6 ก็แซงรถ PPV แบบเดียวกันได้ทุกคัน แซงปิกอัพดีเซล 3.0 ลิตร ได้ทุกคัน ฯลฯ แน่นอน ขับ PJS V6 3.0 จึงรู้ว่าฟอร์จูนเนอร์เป็นเพียง "ม้าตีนต้น" ครับ .. เจ้าของน้องจูนอย่าเพิ่งโกรธกันนะครับ .. ผมมีเรื่องเล่าสู่กันฟังครับ

วันนั้นทางวงแหวนบางนา-บางปะอินว่างๆ ผมไล่กวดฟอร์จูนเนอร์สีขาวมุกแต่ง TRD คันงาม เขาขับมาเร็วมาก ครับ.. เร็วจริงๆ .. ผมวิ่งอยู่เลน 3 ..เพราะวิ่งเลนนี้เป็นปรกตินิสัย และ กำลังมีความสุขกับ Cruise Control อยู่ดีๆ .. แต่วันนี้มันคับอกคับใจจริงๆ ขอสักทีเถอะ (วะ) ..คิดโน่นคิดนี่พักหนึ่ง .. อยากจะลองดูหน่อย ไม่เสียหายมิใช่หรือ? เสร็จสรรพ .. เอาละ (วะ) ก็เลยเปลี่ยนโหมด กดคันเร่งเบาๆ สบายๆ .. ไปได้สักพัก เลยทางลงลำลูกกาได้หน่อยนึง พอใกล้มากขึ้น เห็นกันไวๆ ก็จึง "คิ๊กดาวน์" แรงขึ้น ไล่กวด ...น้องจูน

พระเจ้า! ช่วงความเร็วๆ สูงเนี่ย เครื่อง V6 3.0 มันพายุเฮริเคนแท้ๆ เลยครับ ทั้งแรงม้าแรงบิดมันไหลมาแบบไม่มีกั๊กจริงๆ เหลือบดูไมล์ครั้งสุดท้ายก็เลย 180 ขึ้นไปแล้ว ..ผมเคยอ่านการทดสอบ V6 3.0 ปีที่แล้ว มีคนเขียนมว่า MMT ล็อก ECU จำกัดความเร็วเอาไว้ 180 เห็จะไม่จริงครั้บ คันของผมมันไปได้มากกว่านั้น .. ชั่วอึดใจก็แซงขาดจนมิดด้าม นั่นไงครับคือ ที่ผมพูดว่า "ม้าตีนต้น" .... เอาละ ผมพอใจแล้ว

พอแซงขึ้นไปได้พักหนึ่ง ห่างมากแล้ว ผมก็จึงเบี่ยงออกเลน 4 เลนนอกสุด ชะลอความเร็วลง  ช้าๆ.... มองดูน้องจูนที่กำลังวิ่งขึ้นมา .. เมื่อได้จังหวะก็กดกระจกข้างลง .. โค้งศีรษะให้เขา เพื่อขอบคุณ... ขอบคุณที่ทำให้ผมมีโอกาสได้รู้ว่า PJS V6 3.0 คือ เจ้าแห่งความเร็วอันแท้จริง  .. ไม่ใช่แค่ในทางทฤษฎี .. ขอบคุณอย่างจริงใจ และได้แต่หวังว่าเพื่อนร่วมทางท่านนั้นคงจะเข้าใจ .. คนขับน่าจะยังหนุ่มแน่น เห็นหน้าหนวดๆ เปื้อนตีนกาเข้า แกคงจะปลง .. ไม่ได้กดหน้าต่างลงดูผม  ..ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ ให้เห็น .. ต่อวีรกรรมเสี่ยงตายของผม  แกยังขับของแกต่อไปเรื่อยๆ แต่ช้าลง... ขอขอบคุณเช่นกัน

ฟอร์จูนเนอร์ไม่ได้มีอะไรบกพร่องนะครับ ในสายตาของผมเป็นรถที่เพอร์เฟ็กท์อีกรุ่นหนึ่งทีเดียว ผมอ่านมาพอสมควร ..ผมชมได้อย่างจริงใจ และตัวเองมีโตโยต้าใช้อยู่ 2 คัน วิโก้แชมป์ 3.0 ด้วยคันนึง น้องจูนประหยัดกว่าเยอะแยะ เพราะใช้ดีเซล เพียงแต่ในด้านความเร็ว น้องจูนสู้ PSJ V6 3.0 ไม่ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ความบกพร่องอะไร และคนขับก็ไม่ได้ผิดอะไรอย่างเด็ดขาด แต่เพราะเครื่องดีเซลคอมมอนเรล 3.0 ของโตโยต้ามันทำได้เท่านั้น มันทำได้แค่ 170 แรงม้านิดๆ มันสุดแรงเท่านั้น แต่ปา V6 3.0 ดุกว่า มันเป็นเครื่องเบนซิน มันต่างกัน มันแรงกว่า มันมีม้าแข่ง 219 อยู่ข้างใน .. ในทางทฤษฎี .. มันเป็นเครื่องดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว และตัวเลข 174-175 แรง มันต่างกันลิบลับกับ 219 .. มันจึงไม่ใช่คู่แข่งของเครื่อง V6 3.0L 24V ทฤษฎีให้ความจริงอย่างไร มันก็สะท้อนความจริงนี้ออกมาเมื่ออยู่บนท้องถนน ..

เมื่อสัก 19-20 ปีที่แล้ว ในยุคเฟื่องฟู ผมเคยถอยคัมรี่ V6 3.0 มาใช้คันหนึ่ง รุ่น “ท้ายสุพรรณหงส์” ประกอบออสเตรเลียอะครับ วิ่งก็งั้นๆ  และมันซดเบนซิน 95 บักโกรก ผมขายไปปี 2542 เพื่อลดโหลดค่าใช้จ่าย ตอนนั้นไม่ค่อยประทับใจ เป็นคนละเรื่องกับเครื่อง V6 3.0 ของ PJS ในวันนี้ แต่ก็อย่างว่าอะครับ จะเปรียบเทียบไปก็ไม่ยุติธรรม เพราะมันคนละยุคสมัยกัน หวังว่าวันนี้โตโยต้าจะทำเครื่อง V6 3.0 ได้อึดขึ้นและประหยัดขึ้น เช่นเดียวกับที่ทำได้ดีกับดีเซลคอมมอนเรล

ถ้าหากมีฟอร์จูนเนอร์ V6 3.0 ออกมา วันนั้นผมอาจต้องขายวิโก้ 4 ประตูไปถอบ้าง .. แต่วันนี้ขอมีความสุขกับ PJS V6 3.0 ไปก่อนครับ

..................................

ผมเขียนมาเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ให้ป๋าๆ ทั้งหลายฟังเท่านั้นแหละครับ  มันเป็นการขับรถเร็วที่สุดในชีวิตและ โชคดีที่ตอนนั้นยมบาลกำลังหลับ .. แกคงจะไม่หลับตลอดไป มันจึงจะเป็นเพียงครั้งเดียวสำหรับผม จะไม่มีเรื่องแบบนี้อีกแล้ว ผมถามตัวเองว่า จำเป็นอะไรหรือต้องทำแบบนั้น? เมื่อก่อนเคยเห็นคนอื่นขับรถเร็ว ปาดหน้าปาดหลัง เรายังรู้สึกโกรธ และค่อนข้างจะเกลียดเอาการ.. เพราะไม่เคารพกฎจราจร ไม่เคารพกฎหมาย ในขณะที่เรากับเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ต่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยร่วมกัน .. ตอนนี้เราจะไปทำแบบนั้นเสียเองหรือไง?  ... ไม่ครับ ผมไม่เอาแล้ว ถึงแม้ว่าวันนี้ผมจะเป็นเจ้าของ ..จ้าวแห่งความเร็วบนท้องถนนอย่างแท้จริง ก็ตามที

ตั้งแต่วันนั้นมา ผมก็ไม่ไล่กวดใครอีกแล้ว นอกจากเร่งหนีเพื่อหาจังหวะเปิดทางให้คันหลัง ผมขับเลนนอกเสมอ ๆ มีความสุขกับครูยส์คอนโทรลครับ .. เอาแค่ 80-90 กำลังนุ่มๆ ฉลุยๆ สบายๆ และงามสง่า.. (คิดเอาเอง) .. แถมยังทำได้ 9-10 กม./ลิตร  .. เอางี้ดีกว่าครับ

เรื่องที่เป็นทุกข์ในช่วงที่ผ่านมาก็คือ จะเลือกน้ำมันเครื่องเบอร์ไหน ยี่ห้ออะไรจึงจะเหมาะ จึงจะช่วยรีดแรงม้าอันมากมายของปา V6 ออกมาใช้ได้คุ้มค่าที่สุด

ผมเพิ่งรู้ว่ามิตซูฯ ยังไม่ได้ทำน้ำมันเครื่องแบรนด์ของตัวเองออกมาขายแบบยี่ห้อดังอื่นๆ หรือจะมีก็ไม่ทราบ แต่ที่ทราบมีอย่างน้อย 2 ศูนย์ฯ เลือกน้ำมันเครื่องต่างกันให้ลูกค้าอย่างเราๆ ศูนย์บางบัวทองใช้ Shell ฯลฯ ศูนย์ที่ผมถอยน้องปา V6 เติม Castrol SAE5W30 (กึ่งสังเคราะห์?) มาให้ ซึ่งปรากฏว่าช่วงปลายๆ 4,000 กม. มันหนืดหนึบ คันเร่งหนักอึ้ง.. มันจึงไม่ใช่อย่างแน่นอน ..

ตอน 10,000 กม. ก็จึงเปลี่ยนเป็น Valvoline 0W30 สังเคราะห์ 100% ซื้อจากเซลส์ของวาลโวลีน เอาให้ชัวร์ว่าได้ของแท้ ราคา 1,500 (4+1 ลิตร) เอาไปให้ศูนย์บางบัวทองเปลี่ยนให้ รวมไส้กรอง+แหวนรองน๊อต + ค่าบริการราวๆ  600 บาท เลี้ยงน้ำช่างไปอีก 100 เป็นค่าวิชา เพราะถามโน่นถามนี่แกเยอะเหมือนกัน .. 

เพิ่งได้เห็นเหมือนกันว่า เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง+ไส้กรองของ PJS มันยากอยู่นะครับ ต้องมี 2 คน ต้องใช้หอย... เอ้ยย ฮ้อยส์ยกขึ้น จากนั้นก็ถอดกันกระแทกเครื่องที่อยู่ใต้หม้อน้ำออก .. หากไม่มีฮ้อยส์ก็ต้องมีหลุมมุด .. และที่สำคัญมากๆ ก็คือ มือช่างจะต้องคุ้นเคย กะน้ำหนักได้พอดีๆ กับฝาแคร้งค์อะลูมิเนียม ไม่งั้น.. ขันเข้าขันออก รูน๊อตปล่อยน้ำมันจะหวานเอานะครับ .. ผมเคยเป็นทุกข์มาแล้วกับแอ็คคอร์ด V6 ด้วยฝีมือของช่างร้านควิกๆ อะไรนั่น ที่โลตัสแยกแคราย .. มันไม่ได้รั่วทันที แต่มันจะซึมเมื่อมันร้อนและมีแรงดันมหาศาลในแคร้งค์ โชคร้ายจริงตอนสังเกตเห็นอาการก็หลายวันหลังจากนั้น จะกลับไปโวยวาย ก็จะกลายเป็นตัวตลก .. กลัวว่ากลับไปร้านแล้วจะเป็นทุกข์ยิ่งกว่าเดิม จึงยอมฟาดเคราะห์ไป ศูนย์ฮอนด้าบางใหญ่ต๊าฟให้ใหม่ ใช้น๊อตเบอร์ใหม่ รวมอะไรอีก 2-3 อย่าง งวดนั้นโดนฟาดไป 6,000 กว่าๆ ขับออกจากศูนย์มีอาการวิงเวียนหน้ามืด ..  แฟนต้องควักยาหม่องน้ำให้ดม.. จริงนะครับ ตอนนั้นเลิกงาน คงหิวด้วยมั๊ง

กลับมา PJS V6 คันเก่งดีกว่าครับ .. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องยี่ห้อใหม่ เบอร์ใหม่ มาถึงตอนที่เขียนนี้ แล่นมาเกือบ 4,000 แล้วครับ ลื่นไหลดีมาก แต่ก็ยังไม่อยากสรุปว่าใช่หรือยัง? ตอน 20,000 กม. ตั้งใจจะเปลี่ยนไปลอง Mobil One สังเคราะห์ 100% อีกสักรุ่น แล้วจะรายงานให้ทราบอีกทีครับ  .. เรื่องระบบหล่อลื่นสำคัญมากครับสำหรับเครื่อง V6 3.0 ครับ.. เพราะเครื่องมันแรง

..........................................

ผมตัดสินใจไม่ติดแก๊สและเติม E-20 มาตลอด ซึ่งตามโฆษณาของ ปตท.นั้น แก๊สโซฮอล E-20 ให้ออกเทนตั้ง 98 แต่ราคาถูกกว่าแก๊สโซฮอล 91 ลิตรละ 3 บาท หากคิดเสียว่า เอาค่าติดตั้งแก๊สซึ่งเอาให้ชัวร์ก็น่าจะ 4-5 หมื่น และยังต้องมีค่าบดบ่าวาล์วหรือค่ายกเครื่อง (หากโชคร้าย) ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งคงจะต้องควักอีก 1-3 หมื่นบาทหรือกว่านั้นสำหรับเครื่อง V6  ซึ่งมีตั้ง 24 วาล์วนะครับ.. อย่าลืมเชียว มันเป็นเงินครึ่งแสนไปแล้วครับ หากเอาเงินในอนาคตพวกนั้นมาเฉลี่ยเป็นค่าน้ำมันในวันนี้ .. และ ตลอด 3 ปีข้างหน้า ก็น่าจะคุ้มนะครับ โดยไม่ต้องแตะอะไรเครื่องยนต์

และหากคิดอีกทีว่า ใช้เชื้อเพลิงตามสเป็กที่เขาออกแบบมาให้ใช้ เพื่อรักษายนต์กรรมสุดยอดเอาไว้ใช้งานนานๆ .. กว่าการจะซ่อมใหญ่จะมาถึง ก็น่าจะเป็นตอน 2-3 แสน กม. หรือ สัก 10-12 ปีข้างหน้า เมื่อคิดได้อย่างนี้ก็ยิ่งมีความสุขไปใหญ่เลยครับ

ผมเองไม่ได้ใช้งานน้องปามากมาย เพราะมีคันอื่นอีก นานๆ จะได้ขับไปทำงาน เพราะมีปัญหาเรื่องที่จอดคับแคบ  น้องปาก็เลยได้ไปเที่ยวแค่โฮมโปรใกล้บ้าน หรือพาไปซื้อนม ซื้ออาหารที่ Max Value ร้านโปรดที่ถนนราชพฤกษ์แถวๆ บ้าน จะไกลออกไปอีกหน่อยก็ตอนไปเอิ๊กอ๊ากกับมิตรสหายเป็นครั้งคราว แต่งานหนักจริงๆ ของปา V6 ก็ตอนออกจากบ้านพร้อมหน้าพร้อมตากันแหละครับ เรามีกัน 5 คน พ่อ แม่ ลูก ลูกกับลูก ก็พอดีๆ กับที่นั่ง แต่ระดับเบิ้มๆ ทั้งน้านเลยครับ .. ด้วยภารกิจเท่านี้ผมก็จึงไม่อนาทรร้อนใจกับเรื่องแก๊สหรือน้ำมัน แต่ถ้าหากป๋าท่านใดต้องใช้น้องปา V6 แบบหัวซุกหัวซุนวันละ 100 กม.ขึ้นไป เอาให้คุ้มสุดๆ การติดตั้งแก๊สก็น่าจะเป็นทางเลือกครับ มันจะคุ้มยิ่งขึ้นหากใช้น้องปา เพื่อทำรายได้เดือนละแสนหรือเดือนละล้าน...
 
ปัญหาเดียวที่เจอก็คือ เสียงพวงมาลัยดังอี๊ดๆ เบาๆ แต่เป็นๆ หายๆ เริ่มได้ยินตอน 7,000 กม. ตอนนี้เงียบไปอีกแล้ว .. ก็เลยยังไม่มีโอกาสไปเคลม ดังอีกทีตั้งใจจะขับไปให้ช่างที่ศูนย์ฯ ฟังบ้าง

เรื่องอื่นไม่มีครับ ... ช็อกอัพยังดี ยังไม่ได้มีรอยรั่วหรือซึมอะไร อย่างที่เคยอ่าน .. ไม่มีเสียงกึกๆ หรือ กอกๆ แกกๆ ใดๆ เครื่องเดินเรียบ .. เงียบ.. และนิ่ง..  พวงมาลัยล็อก? เคยได้ยินแต่เล่ืาลือกัน ได้ยินเรื่องมีคนกลัว มีผู้อ้างว่าเกิดที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง แต่ไม่เคยเห็นหลักฐาน ไม่แน่ใจ ไม่ทราบจริงๆ ครับ? เรื่องนี้เป็นความปลอดภัยพื้นฐานของมาตรฐานอุตสาหกรรมนะครับ หากทำออกมาแล้วเกิดมีพวงมาลัยล็อก.. MMT จะประกอบรถต่อไปได้อย่างไรครับ? และหากเกิดขึ้นจริงๆ เจ้าของรถผู้เคราะห์ร้ายหรือญาติมิตร ตามฟ้องเรียกค่าเสียหายแบบ 7 ชั่วโคตร ถึงญี่ปุ่นได้เลยนะครับ .. ถ้าหากมันเคยเกิดขึ้นจริง โปรดช่วยกันแสดงหลักฐานนะครับ ไม่งั้นมันก็จะข่าวที่ทำให้พวกเราหวาดผวาไปเรื่อยๆ ..

.......................................

กลุ่มมิตซูบิชิเฮฟวี่อินดัสตรี บริษัทแม่ในญี่ปุ่นทำให้มิตซูฯ เป็นค่ายรถเพียงค่ายเดียวในเอเชียที่เคยผลิตเครื่องบิน .. มิตซูบิชิ "ซีโร่" ไงครับ พวกที่ไปถล่มเพิร์ลฮาร์เบอร์นั่นไงครับ .. ผมอ่านมาพอสมควรครับ .. วันนี้ล็อกฮีดมาร์ตินกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐก็เลือก Mitsubishi Heavy Industry เป็นหุ้นส่วนในการผลิตเครื่องบิน F-35 เวอร์ชั่นญี่ปุ่นครับ เครื่องบินยังอยู่ระหว่างพัฒนาและยังมีปัญหามากมาย แต่ถึงยังไงมันก็เป็นเครื่องบินรบล้ำหน้าที่สุดในโลกปัจจุบัน ... โดยส่วนตัวผมจึงไม่ข้องใจอะไรมากมายกับเทคโนโลยีของมิตซูบิชิ ...

ขออนุญาตนอกเรื่องอีกหน่อย .. ตอนเป็นเด็กหลายท่านคงเคยได้ใช้ดินสอดำยี่ห้อมิตซูบิชิ .. อยู่ต่างจังหวัดยังจำโฆษณาทางวิทยุกรมประชาฯ ตอนเช้าๆ ได้เลยครับ .. “ดินสอดำมิตซูบิชิ .. ตราขวานทองใช้ดีแน่นอน .. ดินสอดำมิตซูบิชิ ตราขวานทองเหลาง่ายไม้อ่อน .. เด็กนักเรียน นักกีฬา ข้าราชการ ทุกคนในบ้าน...ใช้เป็นประจำ..”.. มันคล้าย– ประมาณนี้ .. ในยุคโน้นดินสอยี่ห้อนี้ใช้ดีมากครับ ขอเอาเกียรติของลูกเสือสำรองเป็นประกัน เพราะเหลาแล้วไส้ไม่หัก .. สุดยอด.. ถึงแม้ว่า 50 ปีผ่านไปวันนี้รถมิตซูฯ จะไม่ใช่พิมพ์นิยมในบ้านเราก็ตาม

ผมทุ่มสุดตัวขนาดนี้ MMT น่าจะให้ค่าโฆษณาบ้างนะครับ ไม่งั้นก็หาทางโผล่เข้ามาขอบคุณผมบ้างละกัน

ขออภัยที่เขียนยาวมาก.... ได้แต่หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ประกอบการตัดสินใจสำหรับป๋าๆ นะครับ.
บันทึกการเข้า
danai8029
Newbie
*

like: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 199



« ตอบ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2013, 06:19:00 am »

อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ ปลาย ก.ย.2555 ตอนนี้ห้อได้ 13,000 กม.เศษๆ แล้ว หากจะให้สรุปประโยคเดียวคือ ..  PJS V6 3.0 ไร้ทุกปัญหาครับ

หากจะพูดถึงความเร็วแบบ "ซิ่งนรก" ปา V6 ก็แซงรถ PPV แบบเดียวกันได้ทุกคัน แซงปิกอัพดีเซล 3.0 ลิตร ได้ทุกคัน ฯลฯ แน่นอน ขับ PJS V6 3.0 จึงรู้ว่าฟอร์จูนเนอร์เป็นเพียง "ม้าตีนต้น" ครับ .. เจ้าของน้องจูนอย่าเพิ่งโกรธกันนะครับ .. ผมมีเรื่องเล่าสู่กันฟังครับ

วันนั้นทางวงแหวนบางนา-บางปะอินว่างๆ ผมไล่กวดฟอร์จูนเนอร์สีขาวมุกแต่ง TRD คันงาม เขาขับมาเร็วมาก ครับ.. เร็วจริงๆ .. ผมวิ่งอยู่เลน 3 ..เพราะวิ่งเลนนี้เป็นปรกตินิสัย และ กำลังมีความสุขกับ Cruise Control อยู่ดีๆ .. แต่วันนี้มันคับอกคับใจจริงๆ ขอสักทีเถอะ (วะ) ..คิดโน่นคิดนี่พักหนึ่ง .. อยากจะลองดูหน่อย ไม่เสียหายมิใช่หรือ? เสร็จสรรพ .. เอาละ (วะ) ก็เลยเปลี่ยนโหมด กดคันเร่งเบาๆ สบายๆ .. ไปได้สักพัก เลยทางลงลำลูกกาได้หน่อยนึง พอใกล้มากขึ้น เห็นกันไวๆ ก็จึง "คิ๊กดาวน์" แรงขึ้น ไล่กวด ...น้องจูน

พระเจ้า! ช่วงความเร็วๆ สูงเนี่ย เครื่อง V6 3.0 มันพายุเฮริเคนแท้ๆ เลยครับ ทั้งแรงม้าแรงบิดมันไหลมาแบบไม่มีกั๊กจริงๆ เหลือบดูไมล์ครั้งสุดท้ายก็เลย 180 ขึ้นไปแล้ว ..ผมเคยอ่านการทดสอบ V6 3.0 ปีที่แล้ว มีคนเขียนมว่า MMT ล็อก ECU จำกัดความเร็วเอาไว้ 180 เห็จะไม่จริงครั้บ คันของผมมันไปได้มากกว่านั้น .. ชั่วอึดใจก็แซงขาดจนมิดด้าม นั่นไงครับคือ ที่ผมพูดว่า "ม้าตีนต้น" .... เอาละ ผมพอใจแล้ว

พอแซงขึ้นไปได้พักหนึ่ง ห่างมากแล้ว ผมก็จึงเบี่ยงออกเลน 4 เลนนอกสุด ชะลอความเร็วลง  ช้าๆ.... มองดูน้องจูนที่กำลังวิ่งขึ้นมา .. เมื่อได้จังหวะก็กดกระจกข้างลง .. โค้งศีรษะให้เขา เพื่อขอบคุณ... ขอบคุณที่ทำให้ผมมีโอกาสได้รู้ว่า PJS V6 3.0 คือ เจ้าแห่งความเร็วอันแท้จริง  .. ไม่ใช่แค่ในทางทฤษฎี .. ขอบคุณอย่างจริงใจ และได้แต่หวังว่าเพื่อนร่วมทางท่านนั้นคงจะเข้าใจ .. คนขับน่าจะยังหนุ่มแน่น เห็นหน้าหนวดๆ เปื้อนตีนกาเข้า แกคงจะปลง .. ไม่ได้กดหน้าต่างลงดูผม  ..ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ ให้เห็น .. ต่อวีรกรรมเสี่ยงตายของผม  แกยังขับของแกต่อไปเรื่อยๆ แต่ช้าลง... ขอขอบคุณเช่นกัน

ฟอร์จูนเนอร์ไม่ได้มีอะไรบกพร่องนะครับ ในสายตาของผมเป็นรถที่เพอร์เฟ็กท์อีกรุ่นหนึ่งทีเดียว ผมอ่านมาพอสมควร ..ผมชมได้อย่างจริงใจ และตัวเองมีโตโยต้าใช้อยู่ 2 คัน วิโก้แชมป์ 3.0 ด้วยคันนึง น้องจูนประหยัดกว่าเยอะแยะ เพราะใช้ดีเซล เพียงแต่ในด้านความเร็ว น้องจูนสู้ PSJ V6 3.0 ไม่ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ความบกพร่องอะไร และคนขับก็ไม่ได้ผิดอะไรอย่างเด็ดขาด แต่เพราะเครื่องดีเซลคอมมอนเรล 3.0 ของโตโยต้ามันทำได้เท่านั้น มันทำได้แค่ 170 แรงม้านิดๆ มันสุดแรงเท่านั้น แต่ปา V6 3.0 ดุกว่า มันเป็นเครื่องเบนซิน มันต่างกัน มันแรงกว่า มันมีม้าแข่ง 219 อยู่ข้างใน .. ในทางทฤษฎี .. มันเป็นเครื่องดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว และตัวเลข 174-175 แรง มันต่างกันลิบลับกับ 219 .. มันจึงไม่ใช่คู่แข่งของเครื่อง V6 3.0L 24V ทฤษฎีให้ความจริงอย่างไร มันก็สะท้อนความจริงนี้ออกมาเมื่ออยู่บนท้องถนน ..

เมื่อสัก 19-20 ปีที่แล้ว ในยุคเฟื่องฟู ผมเคยถอยคัมรี่ V6 3.0 มาใช้คันหนึ่ง รุ่น “ท้ายสุพรรณหงส์” ประกอบออสเตรเลียอะครับ วิ่งก็งั้นๆ  และมันซดเบนซิน 95 บักโกรก ผมขายไปปี 2542 เพื่อลดโหลดค่าใช้จ่าย ตอนนั้นไม่ค่อยประทับใจ เป็นคนละเรื่องกับเครื่อง V6 3.0 ของ PJS ในวันนี้ แต่ก็อย่างว่าอะครับ จะเปรียบเทียบไปก็ไม่ยุติธรรม เพราะมันคนละยุคสมัยกัน หวังว่าวันนี้โตโยต้าจะทำเครื่อง V6 3.0 ได้อึดขึ้นและประหยัดขึ้น เช่นเดียวกับที่ทำได้ดีกับดีเซลคอมมอนเรล

ถ้าหากมีฟอร์จูนเนอร์ V6 3.0 ออกมา วันนั้นผมอาจต้องขายวิโก้ 4 ประตูไปถอบ้าง .. แต่วันนี้ขอมีความสุขกับ PJS V6 3.0 ไปก่อนครับ

..................................

ผมเขียนมาเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ให้ป๋าๆ ทั้งหลายฟังเท่านั้นแหละครับ  มันเป็นการขับรถเร็วที่สุดในชีวิตและ โชคดีที่ตอนนั้นยมบาลกำลังหลับ .. แกคงจะไม่หลับตลอดไป มันจึงจะเป็นเพียงครั้งเดียวสำหรับผม จะไม่มีเรื่องแบบนี้อีกแล้ว ผมถามตัวเองว่า จำเป็นอะไรหรือต้องทำแบบนั้น? เมื่อก่อนเคยเห็นคนอื่นขับรถเร็ว ปาดหน้าปาดหลัง เรายังรู้สึกโกรธ และค่อนข้างจะเกลียดเอาการ.. เพราะไม่เคารพกฎจราจร ไม่เคารพกฎหมาย ในขณะที่เรากับเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ต่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยร่วมกัน .. ตอนนี้เราจะไปทำแบบนั้นเสียเองหรือไง?  ... ไม่ครับ ผมไม่เอาแล้ว ถึงแม้ว่าวันนี้ผมจะเป็นเจ้าของ ..จ้าวแห่งความเร็วบนท้องถนนอย่างแท้จริง ก็ตามที

ตั้งแต่วันนั้นมา ผมก็ไม่ไล่กวดใครอีกแล้ว นอกจากเร่งหนีเพื่อหาจังหวะเปิดทางให้คันหลัง ผมขับเลนนอกเสมอ ๆ มีความสุขกับครูยส์คอนโทรลครับ .. เอาแค่ 80-90 กำลังนุ่มๆ ฉลุยๆ สบายๆ และงามสง่า.. (คิดเอาเอง) .. แถมยังทำได้ 9-10 กม./ลิตร  .. เอางี้ดีกว่าครับ

เรื่องที่เป็นทุกข์ในช่วงที่ผ่านมาก็คือ จะเลือกน้ำมันเครื่องเบอร์ไหน ยี่ห้ออะไรจึงจะเหมาะ จึงจะช่วยรีดแรงม้าอันมากมายของปา V6 ออกมาใช้ได้คุ้มค่าที่สุด

ผมเพิ่งรู้ว่ามิตซูฯ ยังไม่ได้ทำน้ำมันเครื่องแบรนด์ของตัวเองออกมาขายแบบยี่ห้อดังอื่นๆ หรือจะมีก็ไม่ทราบ แต่ที่ทราบมีอย่างน้อย 2 ศูนย์ฯ เลือกน้ำมันเครื่องต่างกันให้ลูกค้าอย่างเราๆ ศูนย์บางบัวทองใช้ Shell ฯลฯ ศูนย์ที่ผมถอยน้องปา V6 เติม Castrol SAE5W30 (กึ่งสังเคราะห์?) มาให้ ซึ่งปรากฏว่าช่วงปลายๆ 4,000 กม. มันหนืดหนึบ คันเร่งหนักอึ้ง.. มันจึงไม่ใช่อย่างแน่นอน ..

ตอน 10,000 กม. ก็จึงเปลี่ยนเป็น Valvoline 0W30 สังเคราะห์ 100% ซื้อจากเซลส์ของวาลโวลีน เอาให้ชัวร์ว่าได้ของแท้ ราคา 1,500 (4+1 ลิตร) เอาไปให้ศูนย์บางบัวทองเปลี่ยนให้ รวมไส้กรอง+แหวนรองน๊อต + ค่าบริการราวๆ  600 บาท เลี้ยงน้ำช่างไปอีก 100 เป็นค่าวิชา เพราะถามโน่นถามนี่แกเยอะเหมือนกัน .. 

เพิ่งได้เห็นเหมือนกันว่า เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง+ไส้กรองของ PJS มันยากอยู่นะครับ ต้องมี 2 คน ต้องใช้หอย... เอ้ยย ฮ้อยส์ยกขึ้น จากนั้นก็ถอดกันกระแทกเครื่องที่อยู่ใต้หม้อน้ำออก .. หากไม่มีฮ้อยส์ก็ต้องมีหลุมมุด .. และที่สำคัญมากๆ ก็คือ มือช่างจะต้องคุ้นเคย กะน้ำหนักได้พอดีๆ กับฝาแคร้งค์อะลูมิเนียม ไม่งั้น.. ขันเข้าขันออก รูน๊อตปล่อยน้ำมันจะหวานเอานะครับ .. ผมเคยเป็นทุกข์มาแล้วกับแอ็คคอร์ด V6 ด้วยฝีมือของช่างร้านควิกๆ อะไรนั่น ที่โลตัสแยกแคราย .. มันไม่ได้รั่วทันที แต่มันจะซึมเมื่อมันร้อนและมีแรงดันมหาศาลในแคร้งค์ โชคร้ายจริงตอนสังเกตเห็นอาการก็หลายวันหลังจากนั้น จะกลับไปโวยวาย ก็จะกลายเป็นตัวตลก .. กลัวว่ากลับไปร้านแล้วจะเป็นทุกข์ยิ่งกว่าเดิม จึงยอมฟาดเคราะห์ไป ศูนย์ฮอนด้าบางใหญ่ต๊าฟให้ใหม่ ใช้น๊อตเบอร์ใหม่ รวมอะไรอีก 2-3 อย่าง งวดนั้นโดนฟาดไป 6,000 กว่าๆ ขับออกจากศูนย์มีอาการวิงเวียนหน้ามืด ..  แฟนต้องควักยาหม่องน้ำให้ดม.. จริงนะครับ ตอนนั้นเลิกงาน คงหิวด้วยมั๊ง

กลับมา PJS V6 คันเก่งดีกว่าครับ .. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องยี่ห้อใหม่ เบอร์ใหม่ มาถึงตอนที่เขียนนี้ แล่นมาเกือบ 4,000 แล้วครับ ลื่นไหลดีมาก แต่ก็ยังไม่อยากสรุปว่าใช่หรือยัง? ตอน 20,000 กม. ตั้งใจจะเปลี่ยนไปลอง Mobil One สังเคราะห์ 100% อีกสักรุ่น แล้วจะรายงานให้ทราบอีกทีครับ  .. เรื่องระบบหล่อลื่นสำคัญมากครับสำหรับเครื่อง V6 3.0 ครับ.. เพราะเครื่องมันแรง

..........................................

ผมตัดสินใจไม่ติดแก๊สและเติม E-20 มาตลอด ซึ่งตามโฆษณาของ ปตท.นั้น แก๊สโซฮอล E-20 ให้ออกเทนตั้ง 98 แต่ราคาถูกกว่าแก๊สโซฮอล 91 ลิตรละ 3 บาท หากคิดเสียว่า เอาค่าติดตั้งแก๊สซึ่งเอาให้ชัวร์ก็น่าจะ 4-5 หมื่น และยังต้องมีค่าบดบ่าวาล์วหรือค่ายกเครื่อง (หากโชคร้าย) ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งคงจะต้องควักอีก 1-3 หมื่นบาทหรือกว่านั้นสำหรับเครื่อง V6  ซึ่งมีตั้ง 24 วาล์วนะครับ.. อย่าลืมเชียว มันเป็นเงินครึ่งแสนไปแล้วครับ หากเอาเงินในอนาคตพวกนั้นมาเฉลี่ยเป็นค่าน้ำมันในวันนี้ .. และ ตลอด 3 ปีข้างหน้า ก็น่าจะคุ้มนะครับ โดยไม่ต้องแตะอะไรเครื่องยนต์

และหากคิดอีกทีว่า ใช้เชื้อเพลิงตามสเป็กที่เขาออกแบบมาให้ใช้ เพื่อรักษายนต์กรรมสุดยอดเอาไว้ใช้งานนานๆ .. กว่าการจะซ่อมใหญ่จะมาถึง ก็น่าจะเป็นตอน 2-3 แสน กม. หรือ สัก 10-12 ปีข้างหน้า เมื่อคิดได้อย่างนี้ก็ยิ่งมีความสุขไปใหญ่เลยครับ

ผมเองไม่ได้ใช้งานน้องปามากมาย เพราะมีคันอื่นอีก นานๆ จะได้ขับไปทำงาน เพราะมีปัญหาเรื่องที่จอดคับแคบ  น้องปาก็เลยได้ไปเที่ยวแค่โฮมโปรใกล้บ้าน หรือพาไปซื้อนม ซื้ออาหารที่ Max Value ร้านโปรดที่ถนนราชพฤกษ์แถวๆ บ้าน จะไกลออกไปอีกหน่อยก็ตอนไปเอิ๊กอ๊ากกับมิตรสหายเป็นครั้งคราว แต่งานหนักจริงๆ ของปา V6 ก็ตอนออกจากบ้านพร้อมหน้าพร้อมตากันแหละครับ เรามีกัน 5 คน พ่อ แม่ ลูก ลูกกับลูก ก็พอดีๆ กับที่นั่ง แต่ระดับเบิ้มๆ ทั้งน้านเลยครับ .. ด้วยภารกิจเท่านี้ผมก็จึงไม่อนาทรร้อนใจกับเรื่องแก๊สหรือน้ำมัน แต่ถ้าหากป๋าท่านใดต้องใช้น้องปา V6 แบบหัวซุกหัวซุนวันละ 100 กม.ขึ้นไป เอาให้คุ้มสุดๆ การติดตั้งแก๊สก็น่าจะเป็นทางเลือกครับ มันจะคุ้มยิ่งขึ้นหากใช้น้องปา เพื่อทำรายได้เดือนละแสนหรือเดือนละล้าน...
 
ปัญหาเดียวที่เจอก็คือ เสียงพวงมาลัยดังอี๊ดๆ เบาๆ แต่เป็นๆ หายๆ เริ่มได้ยินตอน 7,000 กม. ตอนนี้เงียบไปอีกแล้ว .. ก็เลยยังไม่มีโอกาสไปเคลม ดังอีกทีตั้งใจจะขับไปให้ช่างที่ศูนย์ฯ ฟังบ้าง

เรื่องอื่นไม่มีครับ ... ช็อกอัพยังดี ยังไม่ได้มีรอยรั่วหรือซึมอะไร อย่างที่เคยอ่าน .. ไม่มีเสียงกึกๆ หรือ กอกๆ แกกๆ ใดๆ เครื่องเดินเรียบ .. เงียบ.. และนิ่ง..  พวงมาลัยล็อก? เคยได้ยินแต่เล่ืาลือกัน ได้ยินเรื่องมีคนกลัว มีผู้อ้างว่าเกิดที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง แต่ไม่เคยเห็นหลักฐาน ไม่แน่ใจ ไม่ทราบจริงๆ ครับ? เรื่องนี้เป็นความปลอดภัยพื้นฐานของมาตรฐานอุตสาหกรรมนะครับ หากทำออกมาแล้วเกิดมีพวงมาลัยล็อก.. MMT จะประกอบรถต่อไปได้อย่างไรครับ? และหากเกิดขึ้นจริงๆ เจ้าของรถผู้เคราะห์ร้ายหรือญาติมิตร ตามฟ้องเรียกค่าเสียหายแบบ 7 ชั่วโคตร ถึงญี่ปุ่นได้เลยนะครับ .. ถ้าหากมันเคยเกิดขึ้นจริง โปรดช่วยกันแสดงหลักฐานนะครับ ไม่งั้นมันก็จะข่าวที่ทำให้พวกเราหวาดผวาไปเรื่อยๆ ..

.......................................

กลุ่มมิตซูบิชิเฮฟวี่อินดัสตรี บริษัทแม่ในญี่ปุ่นทำให้มิตซูฯ เป็นค่ายรถเพียงค่ายเดียวในเอเชียที่เคยผลิตเครื่องบิน .. มิตซูบิชิ "ซีโร่" ไงครับ พวกที่ไปถล่มเพิร์ลฮาร์เบอร์นั่นไงครับ .. ผมอ่านมาพอสมควรครับ .. วันนี้ล็อกฮีดมาร์ตินกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐก็เลือก Mitsubishi Heavy Industry เป็นหุ้นส่วนในการผลิตเครื่องบิน F-35 เวอร์ชั่นญี่ปุ่นครับ เครื่องบินยังอยู่ระหว่างพัฒนาและยังมีปัญหามากมาย แต่ถึงยังไงมันก็เป็นเครื่องบินรบล้ำหน้าที่สุดในโลกปัจจุบัน ... โดยส่วนตัวผมจึงไม่ข้องใจอะไรมากมายกับเทคโนโลยีของมิตซูบิชิ ...

ขออนุญาตนอกเรื่องอีกหน่อย .. ตอนเป็นเด็กหลายท่านคงเคยได้ใช้ดินสอดำยี่ห้อมิตซูบิชิ .. อยู่ต่างจังหวัดยังจำโฆษณาทางวิทยุกรมประชาฯ ตอนเช้าๆ ได้เลยครับ .. “ดินสอดำมิตซูบิชิ .. ตราขวานทองใช้ดีแน่นอน .. ดินสอดำมิตซูบิชิ ตราขวานทองเหลาง่ายไม้อ่อน .. เด็กนักเรียน นักกีฬา ข้าราชการ ทุกคนในบ้าน...ใช้เป็นประจำ..”.. มันคล้าย– ประมาณนี้ .. ในยุคโน้นดินสอยี่ห้อนี้ใช้ดีมากครับ ขอเอาเกียรติของลูกเสือสำรองเป็นประกัน เพราะเหลาแล้วไส้ไม่หัก .. สุดยอด.. ถึงแม้ว่า 50 ปีผ่านไปวันนี้รถมิตซูฯ จะไม่ใช่พิมพ์นิยมในบ้านเราก็ตาม

ผมทุ่มสุดตัวขนาดนี้ MMT น่าจะให้ค่าโฆษณาบ้างนะครับ ไม่งั้นก็หาทางโผล่เข้ามาขอบคุณผมบ้างละกัน

ขออภัยที่เขียนยาวมาก.... ได้แต่หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ประกอบการตัดสินใจสำหรับป๋าๆ นะครับ.


ขอบพระคุณมากๆ ที่ได้ให้ความรู้ข้อมูลดีๆ ในการตัดสินใจของหลายๆ ท่าน
ตังผมเองใช้วี6 สำน้ำเงินเพราะชอบเป็นการส่วนตัว  อ่านบทความข้างต้น
ทำให้รู้ว่าวี 6 สามารถเติม E20 ได้ หลงเชื่อตามเซลล์ ให้เติมแกสโซฮอลล์
95 มาตลอดเลย แรกๆ เล่น 91 เพียวๆ เลย...ยอมรับจริงๆ เลยว่า มันแรงๆ

ขอบคุณมากๆ ครับ

บันทึกการเข้า

สวรรค์อยู่ใต้ฝ่าเท้าของมารดา
sombat
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 87



« ตอบ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2013, 11:51:15 am »

 like red heart
บันทึกการเข้า
suPreme
Global Mod
Hero Member
*

like: 46
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2418


ปาไทยแลนด์ 2805


« ตอบ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2013, 02:39:55 pm »

ใครกำลังอยากได้ PPV 7ที่นั่ง แล้วได้เข้ามาอ่านข้อมูลป๋า Woodyพ่อน้องแป้งฝุ่น คงต้องรีบไปไปจอง V6 แล้วละครับ  ยอดเยี่ยม
ผมใช้ 2.5 GT ยังไม่กล้ากดคันเร่งเท่าไรเลยครับ แค่ออกตัวแบบแรงๆ ไม่กี่ครั้ง เข้าใจเลยว่าหลังติดเบาะของรถสปอร์ตเป็นยังไง แต่ดันมาเจอใน "ปาเจโร่สปอร์ต"
 like +1 ให้ป๋าที่ทำให้ผมเคลิ้มไปกับ V6 ครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2013, 02:44:25 pm โดย suPreme » บันทึกการเข้า

"พรีม" คือชื่อลูกสาวผมคร๊าบ แต่ตัวเองชื่อว่า "เก๋"
tinghang
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


« ตอบ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2013, 09:35:15 am »

ตอนแรกผมก็จะไปจองฟอร์จูน 2.7 แต่ ไม่มีรถรอนาน บวกกับ ส่วนตัวใช้ ตัว 2.7 เป็นรถส่งของที่บ้านอยู่  รู้สึกว่าไม่ค่อยพอใจในอัตราเร่งตอนต้นเท่าไหร่ น้ำหนักบรรทุกประมาณ 500-600 โล  กินแก๊สตก 2บาทกว่า แต่พอออกตัวไปแล้วก็โอเค    มานั่งคิด ๆ ถ้าออกน้องจูนเครื่องตัวเดียวกับรถที่ส่งของอยู่รับไม่ได้ในสมรรถนะ   แต่ไม่ใช่รถไม่ดีนะครับเพียงแต่ไม่ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการมากกว่า  พอดีV6ออกมาพอดี ก็เลยรีบไปเอา ชอบเครื่อง V6 เป็นการส่วนตัว  เพราะเมื่อก่อนใช้ ESCAPE V6    

วิ่งน้ำมันได้ 2 ถังจับติดแก๊สเลย   เพราะน้ำมัน 1 ถัง วิ่งได้ประมาณ500โล เลยรีบจับติดแก๊ส EURO GAS + หัวฉีดKEIHIN + ถังโดนัส 71 ลิตร   (โดยปกติเป็นคนใช้รถติดแก๊สอยู่แล้วหลายคันและติดแบบระบบดีๆ อู่เก่ง ๆ  ก็เลยไม่ค่อยเจอปัญหาเกี่ยวกับแก๊ส)

ผมว่าถ้าเป็นรถPPV ที่ตอบโจทย์ได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด ณ ขณะนี้  ติดแก๊สได้+เครื่องแรง V6+ เบาะหลังสุดพับได้ราบเรียบขนของลูกอ่อนได้เต็มที่ + ช่วงล่างเกาะถนนมั่นใจมากในระดับใช้งานทั่วไปถ้าไม่ซิ่งและขับโหดมาก เรียกว่าเอาอยู่      

ติดแก๊สแล้วประหยัดไหม ?  ถ้าเทียบกับ ตัวขนของที่บ้าน2.7  ผมก็ถือว่าประหยัดครับ    เครื่องสามพัน หกสูบ   เพราะเจ้า ESCAPE V6 ตัวเก่าก็กินประมาณนี้  ตกโลละ 2 บาทต้น ๆ  ในสภาพการขับขี่ที่รถติด ใช้ความเร็ว ไม่เกิน 80 เปิดแอร์หน้าหลังตลอด  นั่ง 3-4 คน

ช่วงล่างไม่ดี ไม่เกาะจริงหรือทำไมต้องไปเปลี่ยนเป็นนกแก่กัน 555    ผมว่ามันดีแล้วนะถ้าไม่รั่วซะก่อนที่จะหาเรื่องไปเปลี่ยน  เพราะคันนี้ส่วนใหญ่ ผบทบ ผมเป็นคนขับส่วนมาก แกเทียบกับเอสเคปคันเก่า  เค้าก็ว่าน้องปานุ่ม เกาะถนนดี   สรุปส่วนตัวสำหรับผมถ้าไม่รั่วกูก็ยังไม่เปลี่ยน เพราะไม่มีเงิน  แต่ถ้ารั่วปุ๊บ นกแก่เสร็จผมแน่ 555

อัตราเร่ง แรงจริงไหม
ส่วนตัวผมว่า ตั้งแต่ออกตัวไปจนถึง 100 ไม่ได้แรงเท่าไหร่  พวกเครื่องดีเซลหลังติดเบาะขับมันกว่า  แต่พอตั้งแต่ 100ขึ้นไป จนถึง 160  เจ้า MIVEC ทำงานได้อย่างดี มาเร็ว เคลมเร็ว มาก จนต้องรีบถอนคันเร่ง

ปัญหาที่เจอจริง ๆ คือ
1. พวงมาลัยมีเสียงดัง เวลาวิ่งไปสักพัก ไม่ได้เป็นตลอด ยังแก็ไม่หาย ช่างที่ 0 บอกว่าเปลี่ยนใหม่ก็เป็นเหมือนเก่า Huh???
2. เวลาจอดรถแล้วออกตัวเร็ว ๆ คิกดาวน์ หรือ ยูเทริน์กลับ รถ    มีเสียวนิดนึง   เหมือนรถมันคิดสักพักค่อย  ส่งกำลังมาแล้วก็ปรู๊ดไปเลย     ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ระบบแก๊สหรือสมองเกียร์  แต่คิดว่าน่านะเป็นที่ระบบแก็ส  ยังไม่ว่างไปจูนใหม่   เพราะตั้งแต่ติดมา ยังไม่มีเวลากลับไปจูน

เลือกเลยครับ ไม่ผิดหวัง  อย่างไปกลัวโน่น นั่น นี่เยอะ มีแต่เค้าว่ากัน    ยังไม่เคยเจอกับตัวเองอย่าไปปิดกั้น   ผมใช้รถติดแก๊สมาแล้วหลายคัน JAZZ  VOLVO 850/960 ESCAPE  VIGO2.7   ยังไม่เคยเจอเครื่องพังเลยครับ  มีแต่อย่างอื่นพัง ช่วงล่างพัง หม้อน้ำรั่ว เกียร์พัง    555   มีความความสุขกับการใช้ PAJERO V6 นะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2013, 04:30:02 pm โดย tinghang » บันทึกการเข้า
Plateen
Newbie
*

like: 9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 282


เฉาก๋วย GT


« ตอบ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2013, 08:40:47 am »

ตอนนี้บนถนนมี Ford T6 Wildtrack ดีเซล 3.2 ออกมาวิ่งกันบ้างซึ่งตอนแรกผมก็คิดจะเอาตัวนี้แต่ตอนนั้นรอรถนานมาก รอเป็นปี
ซึ่งผมว่าน่าจะฟัดกะ V6 ได้หรือน่าจะเหนือกว่าในบางช่วงความเร็วเพราะม้าตามสเปคก็ 200 เหมือนกันแต่แรงบิดเยอะกว่า ปาV6 มาก มากถึง 470 นิวตัน
โดยรถน่าจะเบากว่า ช่วงล่างเป็นแหนบ คงด้อยกว่าปา แต่ได้เกียร์ 6 สปีด
ไม่ได้ต้องการจะโฆษณาหรือดิสเครดิส ป๋า tinghang นะครับ แค่อยากจะบอกว่าบนถนนมันมีเสือซ่อนเล็บอยู่ ไม่เฉพาะ ปาวี 6 เท่านั้น
 ปล ถ้า Ford เอาตัวนี้มาทำ PPV จะน่าสนใจมากๆ
บันทึกการเข้า
nongput
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 66


« ตอบ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2013, 08:44:14 am »

จองแล้วครับ V6  สีน้ำเงิน  ที่ศูนย์มิตซูระยอง   แต่ยังไม่ได้ฤกษ์ออกรถ   วันก่อนขับรถผ่านหน้าศูนย์  เห็นมีสีน้ำเงินจอดอยู่คันนึง   แต่ไม่รู้ว่า V6  หรือเปล่า  มองไม่ทัน    ไม่รู้ว่ามาจอดรอเราหรือเปล่า   joob
บันทึกการเข้า
tinghang
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


« ตอบ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2013, 08:57:22 am »

ไม่เป็นไรครับ หลาย ๆ ความคิดเห็นก็ดี   แต่จริง ๆ แล้วผมไม่ได้จะสื่อว่า ปาv6 มันแรงนะ  ผมแค่ว่ามันลงตัวมากที่สุด  สำหรับรถแนว PPV   ที่เจ้าของอยากนำมาติดแก๊ส  ณ เวลานี้     เสียอย่างเดี่ยว ไม่มี ขับ 4 มาให้ haha   ฮือๆๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.075 วินาที กับ 20 คำสั่ง