เคยได้รับ mail ปลอบใจจากใครคนหนึ่งเมื่อปี 2009 ไม่นึกว่ามาอ่านวันนี้ยังมีความหมายดีเสมอ
ขออภัยสำหรับที่มาของผู้เขียน ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ
...

ความมืดน่ากลัว
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
เพราะในความมืด-เรามองไม่เห็น เมื่อมองไม่เห็น จึงไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร
- ปลอดภัย หรือ อันตราย
- ง่าย หรือ ยาก
- ลำบาก หรือ สะดวก
- พรรคพวกหรือ ภูตผี
- ใช่, เรากลัวผีในความมืด
ผี-ตัวแทนของสิ่งที่เราไม่รุ้ ไม่เข้าใจ ไม่รู้วิธีรับมือ บางครั้ง อนาคตก็มีลักษณะเช่นนั้น มันซ่อนตัวอยู่ในความมืดสลัว ชวนให้หวาดกลัว ยามจินตนาการถึง เพราะมีแต่ความไม่แน่นอน มองไม่เห็น สถาณการณ์เช่นนี้เองที่เราต้องการเทียนไข

เทียนไข เป็นสิ่งของที่มีสองชีวิต ก่อนจุดติดมันดูธรรมดา แต่พอติดไฟขึ้นมาก็เหมือนดวงตาของมันเบิกโพลงลุกวาว สว่างไสว ให้ความหวัง เหมือนของขลังที่วิเศษ ความสว่างของแสงจากเทียนไข หากแสงต้องกระทบโดนสิ่งใดก็พลอยให้ของสิ่งนั้นมีผิวทองอร่ามตามไป ด้วย
เสน่ห์ของมันอยู่ที่ความวูบไหวยามสายลมพัดผ่าน เปลวเทียนสีทองอร่ามโอนเอนไป ตามแรงลม ในจังหวะเดียวกันนั้น เงาของคน สัตว์ สิ่งของ ก็สอดคล้องเคลื่อนไหวไปพร้อมกันกับแสงเทียนทอง
เปลวเทียนไขคล้ายมีชีวิต เช่นกันกับแท่งเทียน แท่งเทียนที่หดลงเรื่อยๆตามระยะเวลาที่เทียนไขใช้เปลวไฟไปกับการให้แสงสว่าง ความร้อนจากแสงละลายตัวแท่ง กลั่นออกมาเป็นน้ำตาเทียนราวกับแสงที่เรืองรองนั้นต้องแลกด้วยน้ำตา บางครั้งประสบการณ์ชีวิตก็เป็นเช่นนั้นมิใช่หรือ กว่าใจจะสว่างเห็นทางไป ก็ต้องร้องไห้ก่อน น้ำตาไหลออกมาล้างตาให้สว่าง น้ำตาเทียนก็ไม่ต่างกัน เทียนหนึ่งเล่มจะให้ความสว่างได้ยาวนานแค่ไหน ก่อนที่อายุ “ไข” ของมันจะหมดลง
แต่บางทีคำถามเรื่องความยาวนานของการให้แสงสว่าง อาจไม่สำคัญเท่ากับการส่งต่อ “ส่องแสง” อาจไม่สำคัญเท่ากับ “ส่งแสง” ส่งต่อไปยังเทียนเล่มใหม่ๆ ที่รอไฟมาจุดให้ติด เพื่อร่วมกันขับไล่ความมืดมิดออกไป นั่นคือความจริง ความมืดที่แผ่ปกคลุมไปทั่วนั้น เราไม่สามารถขับไล่ด้วยเทียนไขเพียงเล่มเดียว แสงของเทียนหนึ่งเล่มนั้นน้อยเกินไป แต่ความยิ่งใหญ่ของมันอยู่ที่หนึ่งแสงสามารถจุดไฟได้เป็นล้าน ๆ แสงเทียน และเมื่อเป็นเช่นนั้นความสว่างไสวก็จะเข้ามาแทนที่ความมืดมิด เมื่อความมืดมิดหายไป ความสดใสปรากฏตัว ความหวาดกลัวก็จะหดหาย ให้ความกล้าได้เผยตัวออกมาแทน หน้าเสียดายเทียนไขที่ส่องสว่างเพียงเล่มเดียวอย่างโดดเดี่ยว คล้ายส่องแสงให้กับตัวเองเพียงผู้เดียวเท่านั้น แม้ว่าในทุกวันนี้เทียนไขไม่ได้ถูกใช้สอยในชีวิตประจำวันบ่อยเหมือนเก่าแต่ เรายังได้พบเห็นมันอยู่ทุกครั้งที่เห็น มันเตือนให้เราตระหนักรู้ว่าวันหนึ่งเทียนไขที่มีชื่อว่าชีวิตเล่มนี้จะค่อยๆหดสั้นละลายลง จนไม่เหลือ เทียนทุกเล่มย่อมหมดอายุ "ไข" ลง
ในวันหนึ่ง ทุกคนรู้ซึ้งถึงสัจธรรมข้อนี้ สิ่งที่ต่างกันคือในช่วงหนึ่งอายุ “ไข” เราใช้เทียนทำอะไรบ้างจุดต่อแสงสว่างไปได้กว้างไกลเพียงใด หรือเอาแต่จุดไฟเผาบ้านเมือง เทียนเล่มเล็กๆเป็นต้นกำเนิดของหลายสิ่งหลายอย่าง ดีบ้างร้ายบ้าง ตามแต่นิสัยจากคนใช้เทียน เทียนจุดดอกไม้ไฟให้สว่างไสวบนท้องฟ้า เทียนจุดเตาทำอาหารใหผู้คนอิ่มหนำสำราญกัน เทียนช่วยป้องกันความหนาวเมื่อก่อกองไฟให้ไออุ่น เทียนเป็นแสงสว่างนำทางในความมืด เช่นเดียวกันกับที่เทียนสามารถก่อเหตุร้ายได้สารพัด เทียนจึงไม่ควรจัดเป็นสิ่งของที่มีคุณ หรือ โทษ มัน เป็นกลางที่ไม่ต่างจากชีวิต
เรามีกันคนละหนึ่งชีวิต มีเทียนกันคนละหนึ่งเล่มในหนึ่งชั่วอายุ “ไข” เราใช้ “ไฟ” ที่มีไปทำอะไรกัน สร้างสรรค์หรือทำลาย ชีวิตและเทียนไขสามารถทำได้ทั้งนั้น