มาดูแลที่ปัดน้ำฝนกันครับ เข้าหน้าฝนแล้วเทคนิค และการดูแลรักษาใบปัดน้ำฝนที่ปัดน้ำ ฝนเป็นอุปกรณ์หนึ่งซึ่งสำคัญกับความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์  โดยเจ้าของรถส่วนใหญ่มักจะละเลย และไม่นึกถึง จะมาเห็นความสำคัญเมื่อตอนที่เจอฝน  ซึ่งตอนนั้นอาจจะสายเกินไป  ส่วนประกอบสำคัญของที่ปัดน้ำฝนที่ต้องดูแลสภาพค่อนข้างสมำเสมอ  เนื่องจากมีการเสื่อมสภาพหลังจากที่ผ่านการใช้งานมาระยะเวลาหนึ่ง  คือส่วนโครง และใบปัดน้ำฝน ซึ่งโดยทั่วไปมักจะมีคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนดังต่อไปนี้
1.ควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนเมื่อไรเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่  ควรทำการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนเป็นประจำทุกปี  ทั้งนี้เนื่องจากใบปัดน้ำฝน  โดยทั่วไป  จะมีอายุการใช้งานประมาณ  6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และวัสดุที่ใช้ในการผลิต
2.รู้ได้อย่างไรว่าที่ปัดน้ำฝนหมดอายุการใช้งาน เมื่อผ่านการใช้งานมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว  ที่ปัดน้ำฝนจะมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง  ซึ่งอาจทำให้ไม่ปลอดภัยเวลาขับขี่  โดยมีอาการหลายอย่างที่บ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพของที่ปัดน้ำฝน  ได้แก่ ใบปัดเป็นรอยทำให้ปัดน้ำได้ไม่หมด ,ใบปัดสะดุด ,มีเสียงดังเวลาปัด  และใบปัดฉีกขาด
3.ถ้าที่ปัดน้ำฝนไม่ค่อยได้ใช้งาน  เรามีความจำเป็นในการเปลี่ยนหรือไม่ถึงแม้ว่าไม่ค่อยได้ใช้งาน ใบปัดน้ำฝนก็ยังต้องรับกับสภาวะต่างๆนอกรถ  เช่น  แสง UV  และความร้อนจากแสงแดด  หรือมลภาวะ  ฝุ่นต่างๆ ทีมีผลกระทบกับประสิทธิภาพการทำงานของใบปัด ซึ่งทำมาจากยาง ทำให้เรามีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนตามอายุการใช้งาน เพื่อความปลอดภัย
4.ขนาดของใบปัดน้ำฝนรถแต่ละรุ่นจะใช้ใบปัดน้ำฝนขนาดที่แตกต่างกัน  ในการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน  จึงควรจะดูขนาดที่ระบุอยู่ในคู่มือของรถรุ่นนั้นๆ  หรือสามารถเทียบดูรุ่นรถที่ระบุไว้บนกล่องใบปัดน้ำฝนได้เช่นกันในกรณีที่ติดใบปัดผิดขนาด  ถ้าเล็กไปจะทำให้รัศมีในการปัดน้อยลง  ทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ไม่ดี  ถ้าใหญ่ไปใบปัดอาจจะเลยขอบกระจก ทำให้ใบปัดเสีย  และอายุการใช้งานน้อยลง
5.การทำความสะอาดใบปัดน้ำฝนเพราะว่าใบปัดน้ำฝน จะมีหน้าที่ปัดสิ่งสกปรกออกจากกระจก  ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น  หรือคราบต่าง ๆ ทำให้สิ่งเหล่านั้นอาจเกาะอยู่บนใบปัด ทำให้ใบปัดไม่สะอาด  ซึ่งเราสามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำ  แล้วรูดไปตามใบปัด  ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆ โดยเฉพาะผงซักฟอก  เพราะจะทำให้ใบปัด และสีของรถเสียหายได้
 ที่มา 
http://bit.ly/JOOqOT