เเล้วใครจะเป็นพยาน
ผมว่าดูที่เจตนามากกว่า ถ้าว่ากันตามกฎหมาย บนทางหลวงร้อยละ 80 ขับรถเกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทั้งนั้น
ความหมายของการตั้งด่านตรวจ
กองบังคับการตำรวจจราจร และกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานตำรวจจราจร 1999 (Police Traffic Enforcement Manual) [2] ไว้ใช้ในกิจการ โดยมีใจความที่เกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัด เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ เป็นแบบมาตรฐานเดียวกันมีใจความว่า
1 ด่านตรวจ
คือสถานที่ทำการที่เจ้าพนักงานตำรวจ ออกปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจค้น เพื่อจับกุมผู้กระทำผิดในเขตทางเดินรถ (ความหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2521 หรือทางหลวง ความหมายตาม พ.ร.บ. ทางหลวง พ.ศ. 2535) โดยระบุสถานที่ไว้ชัดแจ้งเป็นทางการ การตั้งด่านตรวจจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวง หรือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) แล้วแต่กรณี ดังรูปที่ 4
รูปที่ 4 การตั้งด่านตรวจค้นยาเสพติด
2 จุดตรวจ
คือสถานที่ทำการที่เจ้าพนักงานตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจค้น เพื่อจับกุมผู้กระทำผิดในเขตทางเดินรถ (ความหมายตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2521 หรือทางหลวง ความหมายตาม พ.ร.บ. ทางหลวง พ.ศ. 2535) ในกรณีปกติเป็นการชั่วคราว โดยมีกำหนดระยะเวลาเท่าที่มีความจำเป็น ในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวต้องไม่เกิน 24 ชั่วโมง และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจะต้องยุบยกเลิกจุดตรวจดังกล่าวทันที ดังรูปที่ 5
รูปที่ 5 การตั้งจุดตรวจควันดำ
3 จุดสกัด
คือสถานที่ทำการที่เจ้าพนักงานตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจค้น เพื่อจับกุมผู้กระทำผิดในเขตทางเดินรถ (ความหมายตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2521 หรือทางหลวง ความหมายตาม พ.ร.บ. ทางหลวง พ.ศ. 2535) ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน หรือจำเป็นเร่งด่วนเกิดขึ้น ให้จัดตั้งเป็นการชั่วคราว และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจะต้องยุบยกเลิกจุดตรวจดังกล่าวทันที ดังรูปที่ 6
รูปที่ 6 จุดสกัดยานพาหนะ
ที่มาของการตั้งด่านตรวจ, จุดตรวจ และจุดสกัด
1 ความสำคัญ
การตั้งด่านตรวจ, จุดตรวจ และจุดสกัด กระทำเมื่อต้องการค้นบุคคล หรือยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกพื้นที่ เป็นการบีบบังคับไม่ให้คนร้ายมีโอกาสหลบหนีออกจากพื้นที่ที่ปิดล้อม ตรวจค้นอาวุธ เครื่องมือเครื่องใช้ในการกระทำผิด ค้นหาสิ่งผิดกฎหมายในยานพาหนะต้องสงสัย เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด และตัดช่องโอกาสในการประกอบอาชญากรรมของคนร้าย
2 ลักษณะพื้นฐาน
1) ใช้เมื่อกรณีเกิดมีเหตุจำเป็น หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วน
2) ปฏิบัติในการตรวจค้น จับกุม ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และประมวลระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดีว่าด้วยการนั้นโดยเคร่งครัด
3) ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา (ตามข้อ 1.2 )
4) มีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร เป็นหัวหน้าควบคุม
5) แต่งเครื่องแบบในการปฏิบัติหน้าที่
6) ที่จุดตรวจต้องมีแผงกั้นที่มีเครื่องหมายการจราจรว่า “หยุดตรวจ” โดยให้เป็นไปตามมาตรฐานที่จุดตรวจจะต้องมี ในการติดตั้งป้ายและเครื่องหมายจราจร ควรจัดให้มีสิ่งกีดขวาง หรือสัญญาณอื่นใดให้เป็นที่สังเกตได้ง่ายในระยะไกล เช่น กรวยยางคาดแถบสะท้อนแสงเพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
7) ในเวลากลางคืนต้องให้มีไฟส่องสว่างให้มองเห็นอย่างชัดเจนได้ในระยะไกล ได้ไม่น้อยกว่า 150 เมตร ก่อนถึงจุดตรวจ และให้มีแผ่นป้ายแสดง ยศ ชื่อ นามสกุล และตำแหน่งของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำด่านตรวจ และจะตรวจดังกล่าว และให้แผ่นป้ายแสดงข้อความว่า “หากพบเจ้าหน้าที่ทุจริต หรือประพฤติมิชอบให้แจ้งผู้บังคับการ โทร xx-xxxx-xxxx” (ให้ใส่หมายเลขโทรศัพท์ของ ผบก. ไว้) ข้อความดังกล่าวให้มองเห็นได้ชัดเจนได้ในระยะไม่น้อยกว่า 15 เมตร
กำหนด “เขตพื้นที่ปลอดภัย” ไว้สำหรับเป็นบริเวณตรวจค้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งแก่ผู้ต้องสงสัยที่ถูกตรวจค้น และเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างทำการตรวจค้น
9) ควรวางกำลังส่วนหนึ่งไว้ในบริเวณทางแยก หรือจุดกลับรถก่อนถึงจุตรวจ หรือจุดสกัดเพื่อไว้ทำหน้าที่สกัดกั้น หรือไล่ติดตามผู้ที่เลี้ยวหรือกลับรถย้อนหลบหนีการตรวจค้น และควรมีชุดติดตามอย่างน้อยอีก 1 ชุด บริเวณเลยจุดตรวจ และจุดสกัดในระยะพอสมควรเพื่อติดตามยานพาหนะที่ไม่หยุดตรวจค้น
10) การตั้งจุดตรวจหรือจุดสกัด ให้มีการประสานการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยใกล้เคียงให้ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบติดต่อกัน โดยมิให้เกิดการตั้งจุดตรวจ หรือจุดสกัดซ้ำซ้อน อันเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้สัญจรไปมาเป็นอันขาด
11) พึงใช้ความระมัดระวัง และตั้งอยู่ในความไม่ประมาททุกขณะทำการตรวจค้น
12) พึงเป็นผู้มีมารยาทที่ดีงาม และรักษากิริยาวาจาระหว่างทำการตรวจค้น เช่น ไม่ส่องไฟฉายไปบริเวณใบหน้าประชาชนผู้ถูกตรวจค้นโดยตรง และรู้จักใช้คำพูดที่สุภาพ เช่น “สวัสดีครับ” “ขอโทษครับ” และ “ขอบคุณครับ”
13) ใช้ความสังเกตและให้ความสนใจเป็นพิเศษแก่ยานพาหนะที่มีลักษณะพิรุธ เช่น รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หรือพับงอแผ่นป้ายทะเบียน เพื่อปิดบังอำพรางหมายเลข หรือพาหนะที่มีการดัดแปลงสภาพ
14) ในการปฏิบัติตั้งจุดตรวจ หรือจุดสกัด ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน และประชาชน และไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ใช้ถนนโดยไม่จำเป็น
3 การควบคุมและการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อเริ่มต้น หรือเลิกปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจ หรือจุดสกัด ให้รายงานทางวิทยุสื่อสารให้ผู้บังคับบัญชา ผู้สั่งอนุมัติให้ตั้งจุดตรวจ หรือจุดสกัดดังกล่าวทราบ และเมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติแล้วให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ หรือสกัดดังกล่าวรายงานผลปฏิบัติ เป็นลายลักษณ์อักษร เสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงผู้สั่งอนุมัติภายในวันถัดไปเป็นอย่างช้า
ให้ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ระดับสารวัตรขึ้นไป ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกตรวจ ผู้บังคับบัญชา ต้องดูแลเอาใจใส่กวดขัน ดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาของตน มิให้ฉวยโอกาสขณะปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจ จุดตรวจ หรือจุดสกัด เรียก หรือรับผลประโยชน์จากผู้ใช้รถที่กระทำความผิดกฎหมาย หรือไปดำเนินการตั้งจุดตรวจ หรือจุดสกัด ในแนวเขตทางเดินรถ หรือทางหลวง โดยมิได้รับคำสั่งจากผู้มีอำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
และหากตรวจพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใด ประพฤติมิชอบลักษณะดังกล่าวให้รีบพิจารณาดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ผู้นั้นไปตามอำนาจหน้าที่ ทั้งทางคดีอาญา และคดีวินัย แล้วรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึง ผบ.ตร. ทราบโดยมิช้า การรายงานให้ระบุ ยศ นาม ตำแหน่งของข้าราชการตำรวจผู้กระทำผิด พร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะ และพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดให้ละเอียดชัดเจน
ที่มา: คู่มือการปฏิบัติงานตำรวจจราจร, 1999