Languages
หน้า: 1 [2] 3   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มีใคร DIY timing belt บ้างไหม  (อ่าน 11131 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 998


« ตอบ #15 เมื่อ: มกราคม 30, 2016, 11:18:57 am »

พอดี วันนี้มีเวลา ชั่วโมงกว่าๆ ลุยต่อ 
- ถอดสายพานแอร์ และชุดปรับความตึงสายพาน
- ถอดสายพานหน้าเครื่อง และ ชุดปรับความตึงสายพาน   ข้อนี้ทำต่างจากน้ายงค์คือ ทำตามในคู่มือ ให้ใส่สลัก ก่อนค่อยปลดสายพานและถอดน๊อต
- ถอดน๊อตมู่เลย์ของ crank shaft ตามแบบวิธีของน้ายงค์ โดยถอดปลั๊กแอร์โฟลว์ และ แมป  แล้วค่อยสตาร์ทสั้น ทีเดียว หมุนออกได้เลย
  และ มูเลย์ ดึงออกได้ โดยไม่ต้องใช้สามขา แต่ก็ซื้อมารอแล้ว
- ถอดฝาครอบสายพานตัวล่าง มีน๊อตเบอร์ 10 อยู่ 7 ตัว  เห็นสภาพแล้วอึ้ง  คือสายพานบาล๊านซ์  ฟันหายทุกซี่  โดยฟันร่วงกระจายเต็มห้อง และ ค้างตามหัวน๊อต
  ผมคงโชคดี ที่ไม่มีสักชิ้นไปติดสายพานราวลิ้น ไม่เช่นนั้น เรื่องยาว
- หมุนตั้ง mark ให้ตรง ทั้ง cam,crank,pump  ส่วนของ balance มันไม่ตรงแล้วจากฟันหลอ
- ถอดตัวตึงสายพานราวลิ้น ใช้ประแจ No. 12 และ หกเหลี่ยม No.8
- ปลดสายพานออกได้ แล้วใช้เคเบิ้ลไทร์ รัดเฟือง cam ไว้ กันเลื่อน และวาล์วกระแทกหัว
- ปลดสายพานราวลิ้นออกไม่ไต้ เพราะติด crank sensor ต้องคลายน๊อตเบอร์ 10 ที่ยึด sensor ก็เอาออกได้
- ถอดตัวดึงสายพานบาล๊านซ์ และเอาสายพานออก  ใช้ประแจ No 12 และ หกเหลี่ยม No. 6
- เก็บกวาด เศษฟัน ที่กระจายเต็ม แต่ดันมี 1 ชิ้น หล่นไปหลังเฟืองบาล๊าซ์ คงต้องถอดเฟืองออก  ซึ่งตอนแรกกะว่าจะเปลี่ยนสายพานเลย หลังจากทำความสะอาด ก็ต้องมารื้อ
   จึงหมดเวลา จะต้องไปหาลูก ที่พะเยา อีก 5 วัน ค่อยมาทำต่อ

ถ้าดูตามเนื้องาน เปลี่ยนแต่สายพาน ไม่เปลี่ยนปั๊มน้ำและซีล  ถ้าทำ 2 คน น่าจะใช้เวลาสัก 2 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ  แต่ถ้าทำคนเดียว น่าจะ 4 ชั่วโมง  แต่ถ้าศูนย์ให้จอด 1 วัน
คงเพราะ เปลี่ยนปั๊มและซีล ต้องใช้เวลาเพิ่ม  ส่วนผมไม่รีบ ค่อยๆทำไป ศึกษา ทดลองไป  แต่ก็เสียว เมื่อมันเสร้จแล้ว จะทำงานไหม


มีเวลา ครึ่งชัวโมง  รีบๆใส่สาพาน พอเสร็จ ลองหมุนดู  mark  ไม่ตรง  ยิ่งสายพานบาล๊านซ์ เพี๊ยนไปเยอะ  ส่วนสายพานราวลิ้นพบว่า เฟืองปั๊มเลื่อนไปหนึ่งซี่   พลาดตอนไหนหว่า  ทิ้งไว้ก่อน แล้วค่อยรื้อใส่ใหม่   
บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 998


« ตอบ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2016, 03:16:02 pm »

กลับถึงบ้านเช้านี้ มีเวลาชั่วโมงกว่า ก่อนไปทำงาน จัดการต่อได้เล็กน้อย
- จะหมุนตั้ง mark ของ crank shaft มันติดๆ แน่น ๆ  หมุนด้วยด้ามตาย 18 นิ้ว ไม่ขยับ  กังวลเลย กลัวว่าจะตั้งผิดตอนแรก แล้ว วาล์วยันหัวลูกสูบ  หรือ ว่ามันจังหวะอัด แล้วมันอัดดีเกิน ซึ่งไม่น่า นะ รถตั้งสองแสนกว่าโลแล้ว

- ปลดสายพานราวลิ้น แล้วขยับ cam sprocket ติดมาก หรือ วาล์วยัน แต่คิดว่า ติดฝืด เพราะทิ้งไว้หลายวัน   ออกหน่อยค่อยขยับตัวได้  จึงหมุน crankshaft ได้  และค่อยหมุนท้ง
 crank และ cam ให้สัมพันธ์กัน โดยให้ cam ขยับครั้งละ 15 องศา ส่วน crank ขยับครั้งละ 30 องศา หรือ 1 ชัวโมง จนตรง TCD ของสูบ 1 แล้วรื้อดู ชุดสายพานบาล๊านซ์ ก็เห็นว่าตรงดีแล้ว

- กลับมาใส่สายพานราวลิ้นใหม่ โดยหนีบสายพานติดกับ crank sprocket แล้วคล้องไล่ขึ้นไปจนถึง cam sprocket แล้วเอาคีมพลาสติก หนีบไว้ ไม่ได้ใช้การมัด  แล้วใส่ตัวตึงสายพาน ตรวจสอบ mark ก็ตรงดีแล้ว เมื่อหมุนดูจน cam หมุนครบรอบ ดู mark ก็ตรงดี จงดึงสลักตัวปรับตึงสายพานออก ผลคือ  cam sprocket เลือนไปจาก mark ครึ่งร่อง   เซ็งอีกแล้วคับ  ทำไมมันไม่พอดี  ถ้าจะขยับไปอีกร่อง ก็จะเกิน ไม่พอดี

- ไม่รื้ออีกแล้ว จัดการต่อแบต ต่อท่อเทอโบ  เสียบขึ้นอแมปและ แอร์โฟลว์   แล้วหาถุงพลาสติด มาห่อรอง ท่อน้ำมันเกียร์  ตัดใจติดเครือ่ง พังเป็นพัง  ผลคือ กระจายๆๆๆๆๆๆ
ทั้งเซ็ง ทั้งโล่งอก

- เครื่องติด  แต่ห่อน้ำมันเกียร์ผิดท่อ  น้ำมันเกียร์พุ่งเต็มห้องเครือง  ดีนะที่ไม่พุ่งใส่สายพานราวลิ้น ไม่งั้น คงต้องซื้อเส้นใหม่มาเปลี่ยน   จัดการประกอบฝาปิดสายพาน เอาผ้ามาคลุม แล้วเอาน้ำมาฉีัดล้างน้ำมันเกียร์  ก็เลยถือโอกาสล้างแผงแอร์  รีบมาทำงาน ทิ้งไว้อีกสัปดาห์ ค่อยมาทำต่อ
บันทึกการเข้า
wian
Jr. Member
**

like: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 480


« ตอบ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2016, 03:49:52 pm »

มาให้กำลังใจป๋าครับ
บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 998


« ตอบ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2016, 04:05:13 pm »

มาให้กำลังใจป๋าครับ

ขอบคุณครับ   ที่จริงก็เหมือนเสร็จแล้ว รอแต่ประกอบคืน เท่านั้น แต่ยังไม่ประกอบ เพราะไหนๆ ก็รื้อยกหม้อน้ำออกแล้ว จะต่อ pressure และ temp sensor ท่อน้ำมันเกียร์
ไว้ดูเล่น  รอมีเวลาและของมาสัปดาห์หน้า คงเรียบร้อย
บันทึกการเข้า
payusine
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 148



« ตอบ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2016, 04:07:11 pm »

สู้ สู้ ครับ เอาใจช่วยครับ ยอดเยี่ยม
บันทึกการเข้า

ID 4166
wian
Jr. Member
**

like: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 480


« ตอบ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2016, 04:18:01 pm »

ตรงเพลาข้อเหวี่ยง ผมก็ถอดและประกอบอยู่ สอง สามรอบ เพราะมาร์คไม่ตรง หลังทดลองประกอบฝาครอบชิ้นล่าง(ร้อยน็อตสามตัว)และมูเล่ย์หน้าเครื่อง ต้องอาศัดตัวซีแคมป์ ขนาด หก นิ้วกดตัวตั้งสายพานไทม์มิ่ง เพื่อสอดสลัก แล้วปรับเฟืองที่แครงชาร์ปกับสายพานใหม่ ตามรูปครับ

เมื่อดึงสลักออกแล้วขยับดูมาร์คทั้งสามอีกที่ครับ ต้องตรงมาร์คทั้งสามจุด จุดที่สังเกตุยากคือ เฟืองแครงชาร์ป ผมใช้วิธีประกอบฝาชิ้นล่างและใส่มูเล่ ดูมาร์ที่มูเล่ต้องตรงกับตัว ที ที่ฝาครอบ ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 05, 2016, 09:42:05 pm โดย wian » บันทึกการเข้า
wian
Jr. Member
**

like: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 480


« ตอบ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2016, 04:27:52 pm »

ถ้าป๋ายังไม่มีเวลาประกอบ  พรุ่งนี้ผมจะถอดดูอีกรอบครับ 
บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 998


« ตอบ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2016, 11:18:10 pm »

ถ้าป๋ายังไม่มีเวลาประกอบ  พรุ่งนี้ผมจะถอดดูอีกรอบครับ 
ประกอบสายพาน หมดทุกอันแล้วครับ เหลือหม้อน้ำ กับพัดลม ยังไม่ใส่  รออาหลั่ยหม้อน้ำบางชิ้น และ จัดการกับระบบท่อออยเกียร์
บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 998


« ตอบ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2016, 11:21:52 pm »

บีบตัวปรับตึงสายพาน แบบที่ป๋าทำ ก็ดีนะ  ตรงตามหลักในคู่มือ ให้บีบในแนวตั้ง และมีเสื้อเครื่องเป็นตัวจับยึดไว้ดีเลย
ผมเสียเวลาถอดมันออกมา แล้วใช้ปากกาจับงาน ทำการบีบเข้าไปใส่ลวดล๊อคไว้  ซึ่งลำบากที่ต้องตั้งปากกาด้านข้าง เพื่อให้มันบีบ
ตัวปรับตึงสายพานในแนวตั้ง
บันทึกการเข้า
wian
Jr. Member
**

like: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 480


« ตอบ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2016, 08:14:15 am »

ดีใจด้วยครับ suadyod เสร็จเรียบร้อยกับการเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งและสายพานบาลานซ์ โดยเฉพาะสายพานบาลานซ์ที่เฟืองรูดหมด

เราทำเองก็จะได้ทำความสะอาดแผงคอยร้อนแอร์ หม้อน้ำ ให้สะอาดตามความต้องการของเราได้  lala  แต่เข้าศูนย์ อู่ทั่วไป เขาไม่ทำให้เรา 

ส่วนติดตั้งเซนเซอร์อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ ผมใช้ปลายท่อน้ำมันเกียร์ที่ถอดออกตัดต่อใส่ตัวเซนเซอร์ครับ  
บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 998


« ตอบ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2016, 02:40:21 pm »

กะว่าจะตัดท่อ ก่อนเข้าหม้อน้ำด้านบน แล้วเอาข้อต่อสามทางแบบทองเหลืองมาต่อ ใส่เกลียว1/8 เพื่อใส่เซนเซอร์ความดันและความร้อนน้ำมันเกียร  เป็นการวัดความร้อนก่อนที่จะไปผ่านคูลเลอร์  ผมรอหางปลาอุดรูระบายหม้อน้ำ   เพราะศูนย์เขาทำรูดนานแล้ว เพิ่งเห็นตอนถอดหม้อน้ำ  ไปซื้อที่ศูนย์ไม่มี ต้องให้เขาสั่งให้ ได้ของจึงจะยกขึ้นใส่
บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 998


« ตอบ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2016, 03:01:36 pm »

เมื่อทำเองแล้ว ผมได้ข้อสรุปในการดูแล สายพานดังนี้

- ทุกแสนโล เปลี่ยนสายพานหลักทั้งสามเส้น (ราวลิ้น, บาล๊านซ์ ,หน้าเครื่อง) ส่วนสายพานแอร์ ขาดหรือดูแย่มากค่อยเปลี่ยน เพราะมันเปลี่ยนง่ายและขาดก็ไม่เป็นไรแค่แอร์ไม่เย็น
- เปลี่ยนลูกรอก สายพานราวลิ้นทั้ง 3 อัน สำคัญ เพราะถ้าฝืด ติดขัด  คงเกิดเรื่องกับสายพานราวลิ้น จะทำให้เสียหายมาก
- ตัวปรับความตึง ทั้งสายพานราวลิ้นและบาลานซ์ ผมว่าเปลี่ยนเว้นครั้ง หรือ ทุกสองแสนโล ยังพอไหว 
- ปั๊มน้ำ  ,กระเดื่องตัวปรับความตึงราวลิ้น , ซีล  สามแสนโลค่อยเปลี่ยนก็ยังไหว ยกเว้นดูสภาพแล้วแย่  เหตุผลคือ

ปั๊มน้ำ มันไม่ล๊อคตายทันที  ส่วนการรั่วก็ไม่ได้รั่วมากทันที จนแก้ไม่ทัน  ถ้าความร้อนขึ้น น้ำหาย และมันเป็นเหตุ ค่อยจัดการก็ได้ ส่วนใครที่ขี้เกียจดูแล เอาที่สบายใจก็เปลี่ยนเลย แค่เพิ่มตัง เพิ่มเวลาในการทำแค่นั้น

ซีล ถ้ามันรั่วก็ค่อยๆซึม ไม่พุ่งปรี๊ดใส่สายพานให้เกิดเรื่อง  ถ้ามันซึมก็ค่อยๆไหลอาบตามเสื้อเครืองด้านในและเริ่มเยิ้มๆ ที่จุดต่ำสุดใต้ crank shaft  ก็เปิดทำเองได้  แต่ถ้าใครขี้เกียจดู ก็เปลี่ยนเลย ราคาเพิ่มอีกนิดเดียว และเสียเวลาเพิ่มอีกนิดเดียวในการเปลี่ยยนซีล

ที่ปรับความตึงสายพาน ถ้าถอดแล้วมันยึดออก 14 มม. ตามสเปค ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน นั่นคือแรงดันในการปรับตึงยังดี  ส่วนที่ปรับความตึงสายพานบาล๊านซ์  มันมีลูกรอก  ถ้ามันฝึดอาจทำให้สายพานบาล๊านซ์รูดหรือขาดได้ แต่ของผมคราวนี้ไม่ได้เปลี่ยนเพราะไม่ได้สั่งมา ขี้เกียจรอของใจร้อนประกอบเข้าไปก่อน ก็เสียวๆ ได้รูดอีกรอบ แต่ถ้ามันเกิดปัญหา ก็แค่เครืองสั่น ถ้าไม่ใช่คราวเคราะห์ ที่มันไปขัดขวางการทำงานของสายพานราวลิ้น

สายพานหน้าเครื่อง มีความสำคัญมากเหมือนกัน จะไม่เปลี่ยนก็ได้ หากเกิดปัญหามา ก็เปลียนได้ง่ายไม่ต้องรื้อเยอะหรือต้องการเครือ่งมือเยอะ สายพานที่เอาออกก็ยัดติดรถไว้ก็ดี  ถ้ามันขาดกลางทางและมีประแจ ก็เปลียนได้เลย  สำหรับผมขอเปลียนเลย เพราะถ้าขาดกลางทาง จะบังคับพวงมาลัยหนักมากๆ คลานไปได้ เปิดแอร์ก็ไม่ได้เดี๋ยวไฟหมดหม้อ  และไปแค่ไม่เกินสิบโล ก็ต้องจอดพักเพราะพัดลมไม่ทำงาน ปั๊มน้ำไม่ทำงานเครื่องจะโอเวอร์ฮีด  แต่ถ้ามีอาหลั่ยไว้เราเปลี่ยนเองได้เลย แต่คนที่ไม่มีเครือ่งมือ ทำไม่เป็น หรือไม่อยากเกิดปัญหาก็เปลี่ยนเลยดีกว่า
บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 998


« ตอบ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2016, 04:42:11 pm »

และแล้วก็เสร็จเรียบร้อย เปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง ต้องขอขอบคุณป๋า teddyisman ที่ให้ข้อมูลถึงจะเป็นข้อความแต่ก็มีความชัดเจน ถูกต้องทุกขั้นตอน ประกอบมีภาพของน้า yong2 ทำให้การเปลี่ยนสายพานฯครั้งนี้สำเร็จลุล่วงโดยดี ขอบคุณครับ  สาธุ
ผมใช้เวลาถึงสองวันเพราะได้ทำความสะอาดห้องสายพาน ,หม้อน้ำ , แผงคอลย์ร้อยแอร์ , หน้าครัชแอร์(ถอดหม้อน้ำแล้วมีพื้นที่)ไปที่เดียวกันเลยครับ lala

ถามป๋า wian  ตอนขันน๊อต crank  ให้ได้ 265-0-275 นิวตันเมตร  ป๋าล๊อคมู่เลย์ยังไง ไม่ให้หมุนตาม เพราะเราไม่มีตัวล๊อคเหมือนศูนย์   แต่ถ้าเป็นอู่เขาก็ใช้บล๊อคยิงอัดไปโดยไม่ต้องสนแรงขัน  ผมทำตัวล๊อค แต่หาน๊อตเกลียวตัวล๊อค (MB992100) เขาไม่ขายให้ใครๆยกเว้นศูนย์บริการ  ลองใช้น๊อต M12 มันพอดีแต่ขันเข้าไม่ได้มาก คงเพราะระยะเกลียวไม่ตรง    ตอนนี้ผม
ล๊อคแบบบ้านๆ มันอัดได้แค่ ร้อยกว่านิวตันเมตร

บันทึกการเข้า
wian
Jr. Member
**

like: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 480


« ตอบ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2016, 06:46:27 pm »

ผมใช้น็อตเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 มิลตามภาพเกลียวละเอียดความยาวประมาณ 2.5-3.0 นิ้ว (ซึ่งระยะความยาว 10 มิลจะมีเกลียว 9 เกลียว ) ความแข็ง 8.8  ขันเข้าไปในรูมูเล่ย์ได้พอดี ผมซื้อที่ร้านขายอะไหล่ครับ

ขันเข้าแล้วใช้ด้ามบล็อคขัดไว้ แล้วขันน็อตด้วยประแจปอนด์ ได้ประมาณ 200 n-m หมดความสามารถของประแจปอน์ด เลยต้องใช้ด้ามบล็อคอีกอันมาขันต่อโดยต่อด้ามด้วยแป๋ปน้ำ 1 นิ้ว ยาว 50 ซม.ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 05, 2016, 09:45:00 pm โดย wian » บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 998


« ตอบ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2016, 02:45:10 pm »

ขอบคุณครับ  ผมก็ลืมนึกถึงหลักการคานงัดพื้นๆ ไปเลย ไม่ต้องไปทำอุปกรณ์ยึดพิเศษใดๆ

สรุปว่าใช้ M12 แบบเกลียวละเอียดมาก(1.25)  นี่เอง ผมใช้เกลียวละเอียดธรรมดา (1.5)เลยทำให้เกลียวในมูเลย์บิ่นหายไปแล้ว

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.039 วินาที กับ 20 คำสั่ง