Languages
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สเป็ค-Optionแบบละเอียดของ All new pajerosport  (อ่าน 4872 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Hurricane
ADMIN
Hero Member
*****

like: 97
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10927


Pajerosport-thailand No.0001


« เมื่อ: สิงหาคม 01, 2015, 09:52:22 pm »



มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่
ที่สุดของความสมบูรณ์แบบ

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ มี 3 รุ่น ให้เลือก ได้แก่
1)   รุ่น GT-Premium  (จีที – พรีเมียม)
2)   รุ่น GT  (จีที)
3)   รุ่น GLS-LTD  (จีแอลเอส-ลิมิเต็ด)

รุ่น   GT-Premium   GT   GLS-LTD
ระบบขับเคลื่อน   4WD   2WD
เครื่องยนต์   4N15 ไมเวค คลีนดีเซล อลูมินัม อัลลอย บล็อก ขนาด 2.4 ลิตร
ระบบเกียร์   เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 สปีด พร้อมสปอร์ตโหมด
และ INC  (Idle Neutral Control) + G-SENSOR
เบรกหน้า   ดิสก์เบรกขนาด 320 มม. พร้อมช่องระบายความร้อนและคาร์ลิปเปอร์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ
เบรกหลัง   ดิสก์เบรกขนาด 315 มม. พร้อมช่องระบายความร้อน แบบดรัมอินดิสก์
ยาง   265 / 60R18
รองรับผู้โดยสาร (ที่นั่ง)   7







   ที่สุดของการออกแบบที่สมบูรณ์แบบ

การออกแบบภายนอก
•   โดดเด่นด้วยการออกแบบด้านหน้าในสไตล์ “Dynamic Shield” (ไดนามิก ชิลด์) เอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์มิตซูบิชิที่ให้ความรู้สึกถึงความปลอดภัยจากการปกป้องอย่างสมบูรณ์แบบ
•   ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบโปรเจคเตอร์ Bi-LED พร้อมระบบปรับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบสเปคตรัม LED (Spectrum LED Daytime Running Light) ให้ความรู้สึกโดดเด่นล้ำสมัย (เฉพาะรุ่น  GT และ GT- Premium)
•   ไฟท้ายแบบสเปคตรัม LED  (Spectrum LED) เพิ่มความสวยงามล้ำสมัยด้วยการออกแบบแนวตั้งมองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งในระยะใกล้และระยะไกล
•   กันชนหน้าได้รับการออกแบบใหม่ให้โค้งมนซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานแล้ว ยังช่วยในการปกป้องทั้งผู้โดยสารและตัวรถได้เป็นอย่างดี
•   โป่งข้างซุ้มล้อหน้า-หลัง ออกแบบใหม่ ในขณะที่บันไดข้าง กันโคลน และฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้รับการออกแบบให้ลงตัวกับตัวรถ พร้อมเส้นสายของตัวรถที่ให้อารมณ์ของการขับเคลื่อนไปข้างหน้า
•   ล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว สีทูโทนสำหรับรุ่น GT- Premium และสีเงินสำหรับรุ่น GT และรุ่น GLS- LTD
•   การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้สามารถลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานลงได้กว่า 13% เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการออกแบบมุมกันชนหน้า เสาเอ (A  Pillar) ให้โค้งมน และออกแบบด้านหลังให้เรียวไปยังส่วนท้าย รวมไปถึงการออกแบบราวหลังคาและชายกันชนหน้าใหม่ ที่นอกจากจะทำให้รถลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์แล้ว ยังช่วยให้ทรงตัวเยี่ยมที่ความเร็วสูง อีกทั้งยังให้การประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
•   มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต  ใหม่ มี 5  สีให้เลือก ได้แก่ สีเงิน (Sterling Silver) สีขาวมุก (White Pearl) สีเทาไทเทเนียม (Titanium Grey Metallic)  สีดำ (Black Mica) และ สีน้ำตาล (Deep Bronze Metallic)  
การออกแบบภายใน
•   ห้องโดยสารโดดเด่นด้วยโทนสีดำ พร้อมการตกแต่งแบบสีเงิน ซิลเวอร์ เดคคอเรชั่น ผสมผสานกับสีดำแบบ Piano Black ที่บริเวณแผงคอนโซลหน้า แผงประตู และคอนโซลกลาง
•   ล้ำสมัยด้วยการออกแบบคอนโซลแบบทีเชพ-ไฮคอนโซล (T-Shape High Console) ด้วยการยกคอนโซลกลางให้สูงขึ้นเพิ่มความหรูหราและสะดวกในการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ทั้งเกียร์ ปุ่มปรับเลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (เฉพาะรุ่น GT- Premium)  และปุ่มเบรกมือไฟฟ้า (ครั้งแรกที่ติดตั้งในรถยนต์มิตซูบิชิ)
•   พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบ 4 ก้าน สามารถปรับตำแหน่งได้ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตช์ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ บนพวงมาลัย
•   มาตรวัดความเร็วและความเร็วรอบดูง่ายชัดเจนพร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ (Multi-information display)  ที่แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง รวมถึงแสดงการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในสภาพพื้นผิวถนนที่แตกต่างกันเมื่อเลือกโหมดการขับขี่แบบออฟโรด
•   เบาะนั่งได้รับการออกแบบใหม่ (ergo seat design) ให้โอบรับกับสรีระของผู้นั่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเบาะคู่หน้าที่เน้นให้กระชับพร้อมแผ่นรองรับบริเวณไหล่ที่นอกจากจะให้ความสบายแล้วยังช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับห้องโดยสารอีกด้วย นอกจากนี้สามารถปรับเปลี่ยนเบาะเพื่อตอบสนองความต้องการการใช้งานที่หลากหลาย โดยเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า ในขณะที่เบาะนั่งแถวที่สองสามารถแยกพับแบบ 60:40 โดยพนักพิงสามารถปรับเอนและพับไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน  ส่วนเบาะนั่งแถวที่สามสามารถแยกพับให้ราบไปกับพื้นห้องโดยสารเพื่อให้การเก็บสัมภาระด้านหลังรถเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย และเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น
แชสซีส์และโครงสร้างตัวถัง
•   แกร่งด้วยแชสซีส์เหล็กกล้าพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE Body  ใช้เหล็กกล้าที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ High Tensile Steel  เพื่อความปลอดภัยสูงและมีน้ำหนักเบา และเพิ่มความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วยคานเหล็กกันกระแทกด้านหน้าเพื่อลดความเสียหายและแรงปะทะจากการชนด้านหน้า  
•   ขนาดตัวถังใหม่พร้อมการปรับระบบช่วงล่างใหม่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ พร้อมออกแบบจุดยึดตัวถังให้ใหญ่ขึ้นช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนเข้าสู่ห้องโดยสารให้ความนุ่มนวลในการขับขี่อีกทั้งยังช่วยให้การควบคุมรถทำได้ดีขึ้น ประกอบกับการเพิ่มอุปกรณ์ซับเสียงตามจุดต่างๆ ภายในห้องโดยสาร และเพิ่มฉนวนเก็บเสียง วัสดุดูดซับเสียงและลดการสั่นสะเทือนในส่วนต่างๆ ที่สำคัญของเครื่องยนต์ ทำให้ได้มาซึ่งห้องโดยสารที่เงียบที่ขึ้น




   ที่สุดของสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบ
เครื่องยนต์
•   ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ใหม่ รหัส 4N15   แบบ 4 สูบ ไมเวค คลีนดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร  พร้อมการฉีดน้ำมันด้วยอัตราส่วนกำลังอัดต่ำเพียง 15.5:1 โดยการใช้อลูมินัม อัลลอย บล็อก (Aluminum Alloy Block) ที่น้ำหนักเบา  ประสานการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 สปีด  จึงประหยัดน้ำมันขึ้นถึง 17% เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา และปล่อยค่ามลพิษที่ต่ำกว่า 200 กรัม / กิโลเมตร ภายใต้โครงสร้างภาษีใหม่ที่จะประกาศใช้ในเดือนมกราคม 2559 นี้  
•   ระบบ MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System)  ลิขสิทธ์เฉพาะของมิตซูบิชิที่ควบคุมการปิด-เปิดวาล์วไอดี แบบแปรผันที่ทำงานสอดคล้องกับความเร็วของเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม ให้การเผาไหม้หมดจด;  เทอร์โบ แปรผัน  (VG Turbo)  ให้เครื่องยนต์มีกำลังสูงทั้งในรอบต่ำ รอบกลางและรอบสูง ตอบสนองการขับขี่ได้ทันใจในทุกรอบความเร็ว;  และระบบหัวฉีดน้ำมันที่ให้แรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 200 MPa (เมกะปาสคาล)  ส่งผลให้รถมีพละกำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่  2,500 รอบต่อนาที  
ระบบขับเคลื่อนและเกียร์
•   ระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 สปีด พร้อมสปอร์ตโหมด ที่ให้ทั้งสมรรถนะที่ดีขึ้นพร้อมอัตราเร่งที่ต่อเนื่องโดยผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการจากทั้งด้ามเกียร์ หรือจะเลือกปรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) ในรุ่น GT และ GT-Premium   นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยควบคุมและตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก (Idle neutral control) เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์และลดการสูญเสียเชื้อเพลิงในขณะรถหยุดนิ่งเมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่ง “D” ท่ามกลางสภาพการจราจรที่แออัดส่งผลให้ประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่และลดการสึกหรอของระบบเกียร์ช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์ให้ยาวนานขึ้น พร้อมด้วยระบบ G-SENSOR ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน
•   รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบ Super Select 4WD–II ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time  All Wheel Control ช่วยให้เกาะถนนมากขึ้นแม้ในทางลื่น และสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc เมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรดได้ตามความต้องการและง่ายขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า
•   โหมดขับเคลื่อนแบบออฟโรด ในรุ่น GT-Premium ที่สามารถเลือกการขับขี่เพื่อรองรับสภาพเส้นทางออฟโรดได้ถึง 4  รูปแบบ (ครั้งแรกในมิตซูบิชิ) โดยจะสัมพันธ์กับการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน และเบรกทำให้สามารถขับเคลื่อนผ่านสภาพเส้นทางต่างๆ ไปได้  
o   GRAVEL      เหมาะสำหรับขับขี่บนถนนลูกรังที่มีกรวดและดิน
o   MUD/SNOW    เหมาะสำหรับขับขี่ในบริเวณที่เป็นโคลนหรือหิมะหนา
o   SAND      เหมาะสำหรับขับขี่ในบริเวณที่เป็นทรายละเอียด
o   ROCK      เหมาะสำหรับขับขี่บนถนนที่พื้นผิวขรุขระเช่นมีหินมากหรือล้อลอยจากพื้น  

•   ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ( ASTC : Active Stability & Traction Control) ซึ่งประสานการทำงานของระบบ ASC ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวในสภาวะที่รถเสียสมดุลเพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง  และ ATC  ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถลช่วยควบคุมการหมุนของล้อทั้ง 4 อย่างสมดุล
ระบบช่วงล่าง
•   ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยส์ปริงและเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบทรีลิงค์ ทอล์คอาร์ม พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงและเหล็กกันสะบัดเพลาหลัง โดยการปรับตั้งค่าสปริงและโช้คอัพใหม่ทั้งหน้าและหลังช่วยเพิ่มการทรงตัวเมื่อเข้าโค้งและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่มากขึ้น
พวงมาลัย
•   รัศมีวงเลี้ยวที่แคบสุดในรถระดับเดียวกันเพียง 5.6 เมตร พร้อมการลดระยะการหมุนของพวงมาลัยที่น้อยลงจากซ้ายสุด – ขวาสุด ที่  3.8 รอบ ช่วยให้สามารถควบคุมรถได้อย่างดีเยี่ยมที่ความเร็วต่ำ และการควบคุมที่แม่นยำที่ความเร็วสูง รวมทั้งง่ายต่อการกลับรถหรือถอยจอดในเมือง
ระบบเบรก  
•   เพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกด้วยคาร์ลิปเปอร์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ พร้อมดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนที่ล้อหน้า และดิสก์เบรกแบบดรัมอินดิสก์ที่ล้อหลัง
•   ระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)  ระบบช่วยเสริมแรงเบรก (BA) รวมไปถึงระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (Brake Override System) ทำให้เบรกได้ง่ายและปลอดภัยขึ้น
•   ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน  (ESS : Emergency Stop Signal System) จะทำงานเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกอย่างกะทันหัน หรือเมื่อระบบ ABS ทำงาน โดยไฟฉุกเฉินจะกะพริบต่อเนื่องจนกว่าจะปล่อยเบรกหรือรถหยุดสนิทเพื่อแจ้งให้รถคันหลังทราบ
•   ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน  (HSA : Hill Start Assist) ป้องกันการลื่นไหลในกรณีที่ต้องเบรกรถบนทางชันและต้องออกตัวอีกครั้ง
•   ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC : Hill Descent Control) ช่วยรักษาระดับความเร็วของรถด้วยการควบคุมการเบรกให้สอดคล้องกับสภาพการขับขี่เมื่อต้องขับขี่ผ่านเส้นทางแบบออฟโรด และลงทางลาดชัน หรือทางลาดลื่น โดยระบบจะทำงานเมื่ออยู่ในช่วงความเร็ว  2-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  (เฉพาะรุ่น GT- Premium)
•   เบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าติดตั้งบริเวณคอนโซลกลางสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน


   ที่สุดของระบบความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ

•   ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว  (FCM-Forward Collision Mitigation System) จะทำงานโดยใช้เรด้าประเมินระยะห่างจากรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนเพื่อให้เบรกรถ พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และเมื่อความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. ระบบช่วยเบรกจะทำงานอัตโนมัติ เมื่อพบว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน เพื่อบรรเทาความเสียหายจากการชน (เฉพาะรุ่น GT และ GT-Premium  )
•   กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ (Multi-around Monitor) ทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพได้รอบตัวรถ เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการจอดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
•   ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (UMS-Ultrasonic misacceleration Mitigation System) ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตร้าโซนิคตรวจจับวัตถุด้านหน้าหรือด้านหลังในระยะไม่เกิน 4 เมตร ในขณะที่เกียร์อยู่ตำแหน่ง "D" หรือ "R"  หากมีการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะทำการตัดกำลังเครื่องยนต์ไว้ประมาณ 5 วินาที ทั้งนี้ระบบจะทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 10 กม./ชม. เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดจากการชน
•   ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW – Blind Spot  Warning)  ทำงานโดยการใช้คลื่นอัลตร้าโซนิค ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณมุมกันชนทั้ง 4 ด้าน โดยระบบจะส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตาซึ่งไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง ในขณะเดียวกันเมื่อเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนพร้อมสัญญาณเตือนไฟกระพริบบนกระจกมองข้าง ทั้งนี้ระบบจะทำงานที่ความเร็ว 20 - 140 กม./ชม.  ในระยะไม่เกิน 3 เมตร เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนช่องจราจร (เฉพาะรุ่น GT-Premium )
•   ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS สำหรับทุกรุ่น โดยในรุ่น GT-Premium มาพร้อมถุงลมนิรภัย  7 ตำแหน่ง ได้แก่ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS โดยทำงานร่วมกันกับระบบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทางพร้อมระบบผ่อนแรงโนมัติ ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ถุงลมนิรภัยหัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย

   ที่สุดของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่สมบูรณ์แบบ
•   ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยเอกสิทธิ์ของมิตซูบิชิ  ETACS  (Electronic Time and Alarm Control System)
-   ระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อก (Welcome Light) ซึ่งจะทำงานเมื่อผู้ใช้กดปุ่ม Unlock ที่รีโมท ไฟหน้าและไฟท้ายจะสว่างขึ้นเมื่อสวิตช์ชุดไฟหน้าอยู่ในตำแหน่ง OFF หรือ AUTO ไฟหน้าจะทำงานเป็นเวลา 30 วินาที โดยทำงานควบคู่กับระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติช่วยให้การหารถในที่มืดได้ง่ายยิ่งขึ้น
-   ระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Coming Home Light) เมื่อหมุนสวิตช์ชุดไฟหน้าไปที่ตำแหน่ง OFF หรือ AUTO ดึงก้านไฟเลี้ยวเข้าหาตัว ไฟหน้าใหญ่จะทำงานเป็นเวลา 30 วินาที
-   ระบบพับเก็บและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติเมื่อกดล็อกและปลดล็อก
-   ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับเปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดเป็นจังหวะเมื่อรถใช้ความเร็วเกิน 60 กม. / ชม. ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดเป็นจังหวะเหมือนเดิมเมื่อลดความเร็วหรือหยุดรถและเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง (R) ระบบใบปัดน้ำฝนหลังจะทำงานอัตโนมัติ
-   ระบบตัดการทำงานของไฟหน้ารถโดยอัตโนมัติ โดยไฟหน้ารถจะดับเองอัตโนมัติ หลังจากดับเครื่องยนต์ แล้วเปิดประตูช่วยประหยัดไฟในแบตเตอรี่
-   สัญญานเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้าในกรณีที่ผู้ขับขี่ลืมปิดไฟหรี่หน้าหลังจากดับเครื่องแล้วเปิดประตูจะมีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น
-   ระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน เพียงขยับก้านไฟเลี้ยวเพียงเล็กน้อยสัญญาณไฟเลี้ยวและสัญญาณไฟเตือนในหน้าปัดจะกะพริบ 3 ครั้ง
-   ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสาร เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระภายในรถ
-   ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลังจากดับเครื่องยนต์กระจกไฟฟ้าจะยังสามารถเปิด-ปิดได้ต่อไปอีก 30  วินาที
-   สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท โดยไฟกระพริบเตือนจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท
•   ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ( Keyless Operation System)  ช่วยให้สามารถล็อกและปลดล็อกประตู รวมทั้งสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมการติดตั้ง ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกในการสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
•   ระบบกุญแจอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer)  ป้องกันการโจรกรรมโดยจะอนุญาต ให้ติดเครื่องได้เฉพาะลูกกุญแจที่ส่งรหัสสัญญานตรงกับระบบเท่านั้นจึงช่วยให้ปลอดภัยจากการโจรกรรม
•   ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา สำหรับรุ่น GT-Premium และ GT และแบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ สำหรับรุ่น GLS-LTD พร้อมแผงควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลังแบบอิสระและช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
•   เครื่องเสียง 2DIN วิทยุ ซีดี ดีวีดี เอ็มพี 3 พร้อมจอภาพแบบระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อบลูทูธแบบ A2DP และระบบนำทางในรถ (Navigator System)  พร้อมจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบ Wide Screen ขนาด 9 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่นดีวีดี และรีโมทคอนโทรล รวมทั้งหูฟังอินฟราเรด สำหรับรุ่น  GT และ GT-Premium  ในขณะที่รุ่น GLS-LTD มาพร้อม วิทยุ ซีดี  แบบ 2DIN  
•   ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถมีความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เพิ่มความโดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยชุดแต่งแท้ลิขสิทธิ์จากมิตซูบิชิ
มิตซูบิชิ “ปาเจโร สปอร์ต ใหม่” มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพที่ได้รับการออกแบบเฉพาะจากนักออกแบบของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยมีให้เลือกทั้งชุดตกแต่งภายนอกและชุดตกแต่งภายใน สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบความโดดเด่นไม่เหมือนใคร  ซึ่งจากประสบการณ์ในการพัฒนาอุปกรณ์ตกแต่งอย่างมืออาชีพทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ถึงคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมการรับประกันอุปกรณ์ตกแต่งนาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)  


บันทึกการเข้า

AyWit
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 142



« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2015, 09:21:58 am »

ทนไม่ไหวแล้วววววว
บันทึกการเข้า
jeab
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 173


« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2015, 01:00:10 pm »

ทนไม่ไหวเหมือนกัน.....แต่จำต้องทน                                                                                                                  คันที่ใช้อยู่นี่ 3ปีพอดี...จะเอาไปปล่อย...เพื่อมาโปะคันใหม่                                                                              ราคาหายไปเยอะเลย...ม่ายหวายยย
บันทึกการเข้า
Hurricane
ADMIN
Hero Member
*****

like: 97
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10927


Pajerosport-thailand No.0001


« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2015, 10:09:23 pm »

 
บันทึกการเข้า

supradit
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ID 4635


« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2015, 09:05:37 am »

 suadyod 
บันทึกการเข้า

2.5GT 2WD Y2013_ID 4635 อยู่เมืองสระแก้ว ครับท่าน..
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.052 วินาที กับ 20 คำสั่ง