Languages
หน้า: [1] 2   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลดเสียงเฟืองท้ายหอน  (อ่าน 11469 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
plaidoi
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42



« เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 02:31:38 am »

ผมออกน้องปา 2.4 YM13 มา ก็ได้รู้เลยครับว่าเฟืองท้ายหอนเป็นอย่างไร โดยจะหอนที่ช่วงความเร็ว 100-110 Km./Hr จนรู้สึกได้ว่าเป็นเหมือนระบบเสียงเตือนความเร็วที่ 100 และผมได้มีโอกาศไปเดินตามห้างที่แผนกประดับยนต์ และได้ลองซื้อน้ำมันที่มีการแสดงให้เห็นว่าหากเติมผสมกับน้ำมันเครื่องแล้วจะเป็นฟิมล์เคลือบโลหะทำให้มีการหล่อลื่นที่ดีขึ้น และสามารถเติมกับน้ำมันเกียร์น้ำมันเฟืองท้ายได้ด้วย ผมจึงซื้อมาและไปให้ร้านช่วงล่างเติมให้ ผลปรากฏว่าจากการตรวจเช็คเบื้องต้นระดับน้ำมันที่เฟืองท้ายไม่ได้ระดับครับ ขาดไปพอสมควร ผมจึงเติมสารหล่อลื่นดังกล่าวเข้าไปครึ่งขวด และเติมเข้าไปห้องเกียร์อีกครึ่งขวดแล้วลองนำรถไปทดลองตั้งแต่ความเร็ว 0-140 Km/hr ผลปรากฎว่าลดเสียงเฟืองท้ายหอนได้มากเลยครับ แทบจะไม่ได้ยินเลย ต้องตั้งใจฟังจริงๆถึงจะได้ยินเสียงระยะความเร็วที่ 110 Km/hr แต่หากไม่ได้คิดอะไรก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงหอนเลยครับ แต่เรียนตรงๆว่าไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่เสียงหอนลดลงไปอย่างชัดเจนมาจากการเติมเติมสารหล่อลื่นให้ได้ระดับที่ถูกค้อง หรือเพราะ คุณภาพสารหล่อลื่นดังกล่าวกันแน่ครับ good good good
บันทึกการเข้า
suPreme
Global Mod
Hero Member
*

like: 46
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2418


ปาไทยแลนด์ 2805


« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 07:00:22 am »

พอจะบอกยี่ห้อได้ไหมครับ
และรบกวนช่วยรายงานผลตามระยะทางเรื่อยๆนะครับป๋า
แต่ป๋าก็ใจกล้าเกินไปป่าวครับ เติมที่เกียร์ด้วย   
บันทึกการเข้า

"พรีม" คือชื่อลูกสาวผมคร๊าบ แต่ตัวเองชื่อว่า "เก๋"
tee_noi
Full Member
***

like: 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1130


ID 1766


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 08:52:45 am »


ขอทราบยี่ห้อด้วยครับป๋า     ถ้ามีรูปตัวอย่างด้วยจะดีมากเลยครับ   สาธุ   

 เฟืองท้ายหอน เป็นปัญหาของมหาชน  ฮือๆๆ
บันทึกการเข้า

จะไปทุกที่..ที่อยากไป..
stock /ต๊อก
Full Member
***

like: 45
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1264


บ้านยุอุดร เฮ็ดงานยุกรุงเทพเด้อคร้าบบบบ


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 12:06:49 pm »

มารอด้วยครับ ของผมหอนดังมากๆๆๆ
บันทึกการเข้า

Mercury
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 36


« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 02:20:51 pm »

น้ำมันยี่ห้ออะไรครับ
บันทึกการเข้า
apichai 139
Jr. Member
**

like: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 549



« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 02:24:31 pm »

รอดูด้วยคนครับ joob
บันทึกการเข้า

ID 1663
ปาดำ 2.5 VG GT 2WD
MY 2012
 
donut2848
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 38



« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 04:06:06 pm »

ผม MY 2013 ยังหอนเหมือนกันครับ รบกวนขอรายละเอียดน้ำยาด้วยคนครับ
บันทึกการเข้า
sang2012
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 60



« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 07:02:46 pm »

ผมออกน้องปา 2.4 YM13 มา ก็ได้รู้เลยครับว่าเฟืองท้ายหอนเป็นอย่างไร โดยจะหอนที่ช่วงความเร็ว 100-110 Km./Hr จนรู้สึกได้ว่าเป็นเหมือนระบบเสียงเตือนความเร็วที่ 100 และผมได้มีโอกาศไปเดินตามห้างที่แผนกประดับยนต์ และได้ลองซื้อน้ำมันที่มีการแสดงให้เห็นว่าหากเติมผสมกับน้ำมันเครื่องแล้วจะเป็นฟิมล์เคลือบโลหะทำให้มีการหล่อลื่นที่ดีขึ้น และสามารถเติมกับน้ำมันเกียร์น้ำมันเฟืองท้ายได้ด้วย ผมจึงซื้อมาและไปให้ร้านช่วงล่างเติมให้ ผลปรากฏว่าจากการตรวจเช็คเบื้องต้นระดับน้ำมันที่เฟืองท้ายไม่ได้ระดับครับ ขาดไปพอสมควร ผมจึงเติมสารหล่อลื่นดังกล่าวเข้าไปครึ่งขวด และเติมเข้าไปห้องเกียร์อีกครึ่งขวดแล้วลองนำรถไปทดลองตั้งแต่ความเร็ว 0-140 Km/hr ผลปรากฎว่าลดเสียงเฟืองท้ายหอนได้มากเลยครับ แทบจะไม่ได้ยินเลย ต้องตั้งใจฟังจริงๆถึงจะได้ยินเสียงระยะความเร็วที่ 110 Km/hr แต่หากไม่ได้คิดอะไรก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงหอนเลยครับ แต่เรียนตรงๆว่าไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่เสียงหอนลดลงไปอย่างชัดเจนมาจากการเติมเติมสารหล่อลื่นให้ได้ระดับที่ถูกค้อง หรือเพราะ คุณภาพสารหล่อลื่นดังกล่าวกันแน่ครับ good good good

 ขอดูหน่อยครับผลิตภัณฑ์อะไร
 ของผมเคราะห์ดีหน่อยเสียงหอนเบาถ้าไม่ตั้งใจฟังจะไม่รู้ 
 ส่วนรถของพี่ชาย รุ่นเดียวกันหอนดัง ทำทุกรูปแบบเเล้วก็ไม่หาย
บันทึกการเข้า
peper
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 208


« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 07:22:54 pm »

2.4 ก็ไม่รอดเหรอครับ  Shocked Shocked
บันทึกการเข้า
plaidoi
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42



« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 12:33:05 am »

ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยไม่รู้ผิดกฏกติกาในบ้านของเราหรือเปล่าครับ และขอออกตัวก่อนน๊ะครับ ผมไม่ได้เป็นพนักงานขายสารหล่อลื่นดังกล่าว และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผลิตภัณฑ์น๊ะครับ จุดประสงค์แค่อยากแชร์ แลกข้อมูลต่างๆอ่ะครับ สารหล่อลื่นที่ผมใช้ชื่อ K Power อ่ะครับ แต่ผมเห็นมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกน๊ะครับคิดว่าคุณสมบัติคงไม่ได้ต่างไปกว่ากันหลอกครับ หลังจากเติมมาแล้วขับไปเที่ยวหัวหิน และไปส่งงานที่สระบุรี เป็นที่น่าพอใจมากครับ ขับรถพยายามฟังเสียงหอนให้ได้ยิน แต่ได้ยินเบามากๆอ่ะครับ ถ้าหากเปิดเพลงเบาๆก็จะไม่ได้ยินเสียงเฟืองท้ายหอนเลยครับ สาธุ สาธุ สาธุ ขอโทษน๊ะครับ หากข้อความผมผิดกติกาบ้านของเราครับ
บันทึกการเข้า
kittah2010
Jr. Member
**

like: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 430


ปาน้ำตาล1625


« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 08:38:34 am »

รถผมหอนตั้งแต่ 1000 โลแล้วครับ จะเริ่มหอนตั้งแต่ความเร็ว 90-100 กม/ชม ผมก็ลองผสมหัวเชื้อน้ำมันเกียร์ของ X1-R ครับ ขวดละ 500 กว่าบาท(ซื่อจากเว็บ Lazada)
คือถ่ายของเก่าออกเลยแล้วเติมหัวเชื้อลงไปก่อนประมาณ 240 ml. จากนั้นก็เติมน้ำมันเฟืองท้าย 90 GL5 ของ ปตท. ครับ ทดลองวิ่งดูที่ความเร็ว 90 กม/ชม.
เสียงหอนหายไปครับ แต่ที่ 100 กม/ชม ยังมีเสียงหอนอยู่แต่รู้สึกได้ว่าเบาลงกว่าก่อนมากครับ
บันทึกการเข้า
plaidoi
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42



« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 11:33:10 am »

รถผมหอนตั้งแต่ 1000 โลแล้วครับ จะเริ่มหอนตั้งแต่ความเร็ว 90-100 กม/ชม ผมก็ลองผสมหัวเชื้อน้ำมันเกียร์ของ X1-R ครับ ขวดละ 500 กว่าบาท(ซื่อจากเว็บ Lazada)
คือถ่ายของเก่าออกเลยแล้วเติมหัวเชื้อลงไปก่อนประมาณ 240 ml. จากนั้นก็เติมน้ำมันเฟืองท้าย 90 GL5 ของ ปตท. ครับ ทดลองวิ่งดูที่ความเร็ว 90 กม/ชม.
เสียงหอนหายไปครับ แต่ที่ 100 กม/ชม ยังมีเสียงหอนอยู่แต่รู้สึกได้ว่าเบาลงกว่าก่อนมากครับ

ยินดีด้วยครับ อย่างน้อยเสียงไม่หายแต่ลดเสียงหอนได้ก็ยังดีครับ แต่ผมซื้อมาขวดละ 1,000 บาท เขาอ้างอิงว่าเป็นฟิมล์เคลือบโลหะ (ไม่รู้จริงป่ะ) แต่อย่างน้อยเสียงก็เงียบกว่าเดิมเยอะมากๆเลยครับ
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 12:40:09 pm »

  มันคงเป็นสารที่เรียกว่า โมลิบดินั่ม มังครับ  สารนี้พวกหัวเชื้อน้ำมันเครื่องมักเอาไปใช้  ถ้าใส่เฟืองท้าย มันก็คงไปเคลือบอย่างที่มันบอกไว้ที่ฉลาก   ส่วนจากประสพการณ์ที่ได้แอบดูการผ่าเครื่องแทบจะเรียกว่าอาทิตย์ละคัน ก็ดูมาเยอะแต่ไม่ใช่ช่างครับ  ว่างก็เดินไปคุยกับเพื่อนที่เป็นช่างทุกวัน   พอมันเปิดฝาวาวล์ออกมา  เราก็บอกได้เลยว่าเครื่องตัวนี้เจอหัวเชื้อมา มันจะมีคราบเคลือบออกสีอำพันเข้มเคลือบทุกชิ้นส่วนเลย  ดีไหม  คำตอบถ้ามองด้านเดียวก็น่าจะดีเหมือนอย่างเสปคมันบอกไว้จริง  แต่พอมองไกลไปสองด้านและเจอกับของจริงมา เห็นแล้วเลยว่ามันรวมกับตะกอนสะสมเป็นหน่วยที่ใหญ่ขึ้น  ตามเวลาพอมันวิ่งไหลเวียนในระบบน้ำมันเครื่องมันก็เจอเส้นทางที่แคบและสะสมจนตีบตัน  พอนานเข้ามากเข้ามันทำตัวเป็นตัวกั้นการไหลเวียนของระบบน้ำมันเครื่อง ไม่ต้องอทิบายต่อแล้วมังครับ  เมื่อมันไม่ไหลเวียนหรือไม่สะดวก  อะไรจะเกิดตอนรถน้ำมันเครื่องแห้ง  อาการก็อย่างนั้นเลย   มีรถเข้ามาเปืดฝาความร้อนขึ้นเพราะหม้อน้ำหลายราย เพราะเหตุผลดังกล่าวก็แซมมาด้วย  ผมเหมือนอยู่ในโรงผ่าศพเรื่องเครื่องยนต์  ได้เห็นได้จับได้รู้หลายอย่าง แล้วก็หลีกเลี่ยงต้นเหตุเท่าที่เห็นมาจากอู่ข้างบ้านนี่แหละ
   ส่วนเรื่องการเติม โมลิบดินั่ม  ในเครื่องจักรฟันเฟือง หรือเฟืองท้ย ก็มักจะขายเป็นหลอดสำหรับเติมเฟืองท้ายโดยเฉพาะเลย ร้านอะไหล่เรียกว่าหัวเชื้อน้ำมันเฟืองท้าย หลอดเล็กนิดเดียว  โดยส่วนตัวเพราะยังไม่ได้เห็นการผ่าเฟืองท้ายมาก  แต่ดูแลัวไม่น่ามีปัญหาอะไรน่าจะช่วยเคลือบลดเสียงลงไปได้บ้างแต่ไม่น่าจะมากมายอะไร  อุัตราการกัดกร่อนจาการเสียดสีก็น่าจะมีอายุยาวขึ้นเล็กน้อยตราบเท่าที่คุณภาพสัมพันท์ไปกับอุณหภูมิการใช้งานจริง (สารยังคงสภาพที่อุณหภูมิสูงขึ้น)
   สรุปว่า...เติมเครื่องยนต์ ไม่น่าใช้   เติมเฟืองท้ายพอไปได้  ตอนผลิตเขาก็มีการเคลือบแข็งเฟืองพร้อมเคลือบเจ้านี่อยู่แล้วด้วยนะโดยส่วนใหญ่
  ที่น่าสงสัยลองอ่านคู่มือดูสิครับปริมาตรของน้ำมันเฟืองท้ายในคู่มือ ถ้าไม่ผิดน่าจะเขียนอยู่ที่2 ลิตรกว่า(ลองเปิดดูครับ)  ส่วนความเป็นจริง ถ้าเติมกันให้สุดรูน๊อทเลยก็น่าจะได้เกือยบ 4 ลิตรทีเดียว ซึ่งรถกะบะก็เติมกันเต็มถึงรูนี้หรือลดลงไปเล็กน้อย  อันนี้ไม่มีคำตอบครับ  ถ้าถามช่าง 0 ก็จะได้รับคำตอบว่า  ผมถูกเทรนมาให้ทำตามเสปคของบริษัท  หากมีอะไรเสียหายจากการทำตามเสปค  ก็เป็นเรื่องที่เลยผมไปแล้วครับผม (ถ้าผมเป็นช่างใน 0 ผมก็คงว่าไปตามนี้เหมือนกัน)   อาจจะมีเหตุผลที่คู่มือระบุแบบนั้น  แต่เด๋วคงมรสมาชิกที่เป็น Mechanical Engineer มาช่วยไขให้ว่า เชื่ออะไรดี  แต่ถ้าเติมตามคู่มือบอก แล้วไม่หอนเราก็คงไม่ใส่ใจกันหรอก  แต่พอมีการหอนแล้ว mitsu ไม่ได้ตอบอย่างที่ควรจะแป็น เราก็เลยต้องมาลองนั่นลองนี่กันเอง  แต่ผม V6 2012 ไม่เคยได้ยินแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร แต่ผมเลือกแบบมั่วมั่วไปก่อนโดยเลือกแทงสูง เติมมันเต็มรูน็อทนั่นแหละ เจอไป เกือบ 4 ลิตร (ถ่ายเอง กลัว 0 บอกว่าถ้าเกินกว่าคู่มือ ไม่รับผิดชอบ เลยล่อเองเลย อิ) แต่ก็ลองสังเกตุดูว่ามันจะหนืดอืดไหม ก็ไม่รู่สึกอะไร ถ้าวันไหนหอนจะมาเล่าแล้วจะบอกว่า 4 ลิตรลองแล้ว ยังหอน ให้ไปดูดัชนีตัวอื่นแทนไม่ต้องมาดูเรื่องของเหลวหล่อลื่นแล้ว ไปดูเรื่องระยะห่างฟันสบอะไรเทือกนั้น ซึ่งเราแค่ User อย่างดีก็ทำได้แค่นี้ครับ
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
plaidoi
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42



« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 12:54:06 pm »

  มันคงเป็นสารที่เรียกว่า โมลิบดินั่ม มังครับ  สารนี้พวกหัวเชื้อน้ำมันเครื่องมักเอาไปใช้  ถ้าใส่เฟืองท้าย มันก็คงไปเคลือบอย่างที่มันบอกไว้ที่ฉลาก   ส่วนจากประสพการณ์ที่ได้แอบดูการผ่าเครื่องแทบจะเรียกว่าอาทิตย์ละคัน ก็ดูมาเยอะแต่ไม่ใช่ช่างครับ  ว่างก็เดินไปคุยกับเพื่อนที่เป็นช่างทุกวัน   พอมันเปิดฝาวาวล์ออกมา  เราก็บอกได้เลยว่าเครื่องตัวนี้เจอหัวเชื้อมา มันจะมีคราบเคลือบออกสีอำพันเข้มเคลือบทุกชิ้นส่วนเลย  ดีไหม  คำตอบถ้ามองด้านเดียวก็น่าจะดีเหมือนอย่างเสปคมันบอกไว้จริง  แต่พอมองไกลไปสองด้านและเจอกับของจริงมา เห็นแล้วเลยว่ามันรวมกับตะกอนสะสมเป็นหน่วยที่ใหญ่ขึ้น  ตามเวลาพอมันวิ่งไหลเวียนในระบบน้ำมันเครื่องมันก็เจอเส้นทางที่แคบและสะสมจนตีบตัน  พอนานเข้ามากเข้ามันทำตัวเป็นตัวกั้นการไหลเวียนของระบบน้ำมันเครื่อง ไม่ต้องอทิบายต่อแล้วมังครับ  เมื่อมันไม่ไหลเวียนหรือไม่สะดวก  อะไรจะเกิดตอนรถน้ำมันเครื่องแห้ง  อาการก็อย่างนั้นเลย   มีรถเข้ามาเปืดฝาความร้อนขึ้นเพราะหม้อน้ำหลายราย เพราะเหตุผลดังกล่าวก็แซมมาด้วย  ผมเหมือนอยู่ในโรงผ่าศพเรื่องเครื่องยนต์  ได้เห็นได้จับได้รู้หลายอย่าง แล้วก็หลีกเลี่ยงต้นเหตุเท่าที่เห็นมาจากอู่ข้างบ้านนี่แหละ
   ส่วนเรื่องการเติม โมลิบดินั่ม  ในเครื่องจักรฟันเฟือง หรือเฟืองท้ย ก็มักจะขายเป็นหลอดสำหรับเติมเฟืองท้ายโดยเฉพาะเลย ร้านอะไหล่เรียกว่าหัวเชื้อน้ำมันเฟืองท้าย หลอดเล็กนิดเดียว  โดยส่วนตัวเพราะยังไม่ได้เห็นการผ่าเฟืองท้ายมาก  แต่ดูแลัวไม่น่ามีปัญหาอะไรน่าจะช่วยเคลือบลดเสียงลงไปได้บ้างแต่ไม่น่าจะมากมายอะไร  อุัตราการกัดกร่อนจาการเสียดสีก็น่าจะมีอายุยาวขึ้นเล็กน้อยตราบเท่าที่คุณภาพสัมพันท์ไปกับอุณหภูมิการใช้งานจริง (สารยังคงสภาพที่อุณหภูมิสูงขึ้น)
   สรุปว่า...เติมเครื่องยนต์ ไม่น่าใช้   เติมเฟืองท้ายพอไปได้  ตอนผลิตเขาก็มีการเคลือบแข็งเฟืองพร้อมเคลือบเจ้านี่อยู่แล้วด้วยนะโดยส่วนใหญ่
  ที่น่าสงสัยลองอ่านคู่มือดูสิครับปริมาตรของน้ำมันเฟืองท้ายในคู่มือ ถ้าไม่ผิดน่าจะเขียนอยู่ที่2 ลิตรกว่า(ลองเปิดดูครับ)  ส่วนความเป็นจริง ถ้าเติมกันให้สุดรูน๊อทเลยก็น่าจะได้เกือยบ 4 ลิตรทีเดียว ซึ่งรถกะบะก็เติมกันเต็มถึงรูนี้หรือลดลงไปเล็กน้อย  อันนี้ไม่มีคำตอบครับ  ถ้าถามช่าง 0 ก็จะได้รับคำตอบว่า  ผมถูกเทรนมาให้ทำตามเสปคของบริษัท  หากมีอะไรเสียหายจากการทำตามเสปค  ก็เป็นเรื่องที่เลยผมไปแล้วครับผม (ถ้าผมเป็นช่างใน 0 ผมก็คงว่าไปตามนี้เหมือนกัน)   อาจจะมีเหตุผลที่คู่มือระบุแบบนั้น  แต่เด๋วคงมรสมาชิกที่เป็น Mechanical Engineer มาช่วยไขให้ว่า เชื่ออะไรดี  แต่ถ้าเติมตามคู่มือบอก แล้วไม่หอนเราก็คงไม่ใส่ใจกันหรอก  แต่พอมีการหอนแล้ว mitsu ไม่ได้ตอบอย่างที่ควรจะแป็น เราก็เลยต้องมาลองนั่นลองนี่กันเอง  แต่ผม V6 2012 ไม่เคยได้ยินแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร แต่ผมเลือกแบบมั่วมั่วไปก่อนโดยเลือกแทงสูง เติมมันเต็มรูน็อทนั่นแหละ เจอไป เกือบ 4 ลิตร (ถ่ายเอง กลัว 0 บอกว่าถ้าเกินกว่าคู่มือ ไม่รับผิดชอบ เลยล่อเองเลย อิ) แต่ก็ลองสังเกตุดูว่ามันจะหนืดอืดไหม ก็ไม่รู่สึกอะไร ถ้าวันไหนหอนจะมาเล่าแล้วจะบอกว่า 4 ลิตรลองแล้ว ยังหอน ให้ไปดูดัชนีตัวอื่นแทนไม่ต้องมาดูเรื่องของเหลวหล่อลื่นแล้ว ไปดูเรื่องระยะห่างฟันสบอะไรเทือกนั้น ซึ่งเราแค่ User อย่างดีก็ทำได้แค่นี้ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ จริงๆครับ หากทำตามสเป็กแล้วไม่มีเสียงหอน เราคงไม่คิดที่จะไปแก้สเป็กหลอกครับ แต่นี่มันหอนก็เลยต้องลองแก้ไขกันหน่อย ดีครับ รอฟังความคิดเห็นผู้รอบรู้หลายๆท่านน๊ะครับ
บันทึกการเข้า
nuntawut(YAI)
Newbie
*

like: 20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 213



« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 02:24:58 pm »

  มันคงเป็นสารที่เรียกว่า โมลิบดินั่ม มังครับ  สารนี้พวกหัวเชื้อน้ำมันเครื่องมักเอาไปใช้  ถ้าใส่เฟืองท้าย มันก็คงไปเคลือบอย่างที่มันบอกไว้ที่ฉลาก   ส่วนจากประสพการณ์ที่ได้แอบดูการผ่าเครื่องแทบจะเรียกว่าอาทิตย์ละคัน ก็ดูมาเยอะแต่ไม่ใช่ช่างครับ  ว่างก็เดินไปคุยกับเพื่อนที่เป็นช่างทุกวัน   พอมันเปิดฝาวาวล์ออกมา  เราก็บอกได้เลยว่าเครื่องตัวนี้เจอหัวเชื้อมา มันจะมีคราบเคลือบออกสีอำพันเข้มเคลือบทุกชิ้นส่วนเลย  ดีไหม  คำตอบถ้ามองด้านเดียวก็น่าจะดีเหมือนอย่างเสปคมันบอกไว้จริง  แต่พอมองไกลไปสองด้านและเจอกับของจริงมา เห็นแล้วเลยว่ามันรวมกับตะกอนสะสมเป็นหน่วยที่ใหญ่ขึ้น  ตามเวลาพอมันวิ่งไหลเวียนในระบบน้ำมันเครื่องมันก็เจอเส้นทางที่แคบและสะสมจนตีบตัน  พอนานเข้ามากเข้ามันทำตัวเป็นตัวกั้นการไหลเวียนของระบบน้ำมันเครื่อง ไม่ต้องอทิบายต่อแล้วมังครับ  เมื่อมันไม่ไหลเวียนหรือไม่สะดวก  อะไรจะเกิดตอนรถน้ำมันเครื่องแห้ง  อาการก็อย่างนั้นเลย   มีรถเข้ามาเปืดฝาความร้อนขึ้นเพราะหม้อน้ำหลายราย เพราะเหตุผลดังกล่าวก็แซมมาด้วย  ผมเหมือนอยู่ในโรงผ่าศพเรื่องเครื่องยนต์  ได้เห็นได้จับได้รู้หลายอย่าง แล้วก็หลีกเลี่ยงต้นเหตุเท่าที่เห็นมาจากอู่ข้างบ้านนี่แหละ
   ส่วนเรื่องการเติม โมลิบดินั่ม  ในเครื่องจักรฟันเฟือง หรือเฟืองท้ย ก็มักจะขายเป็นหลอดสำหรับเติมเฟืองท้ายโดยเฉพาะเลย ร้านอะไหล่เรียกว่าหัวเชื้อน้ำมันเฟืองท้าย หลอดเล็กนิดเดียว  โดยส่วนตัวเพราะยังไม่ได้เห็นการผ่าเฟืองท้ายมาก  แต่ดูแลัวไม่น่ามีปัญหาอะไรน่าจะช่วยเคลือบลดเสียงลงไปได้บ้างแต่ไม่น่าจะมากมายอะไร  อุัตราการกัดกร่อนจาการเสียดสีก็น่าจะมีอายุยาวขึ้นเล็กน้อยตราบเท่าที่คุณภาพสัมพันท์ไปกับอุณหภูมิการใช้งานจริง (สารยังคงสภาพที่อุณหภูมิสูงขึ้น)
   สรุปว่า...เติมเครื่องยนต์ ไม่น่าใช้   เติมเฟืองท้ายพอไปได้  ตอนผลิตเขาก็มีการเคลือบแข็งเฟืองพร้อมเคลือบเจ้านี่อยู่แล้วด้วยนะโดยส่วนใหญ่
  ที่น่าสงสัยลองอ่านคู่มือดูสิครับปริมาตรของน้ำมันเฟืองท้ายในคู่มือ ถ้าไม่ผิดน่าจะเขียนอยู่ที่2 ลิตรกว่า(ลองเปิดดูครับ)  ส่วนความเป็นจริง ถ้าเติมกันให้สุดรูน๊อทเลยก็น่าจะได้เกือยบ 4 ลิตรทีเดียว ซึ่งรถกะบะก็เติมกันเต็มถึงรูนี้หรือลดลงไปเล็กน้อย  อันนี้ไม่มีคำตอบครับ  ถ้าถามช่าง 0 ก็จะได้รับคำตอบว่า  ผมถูกเทรนมาให้ทำตามเสปคของบริษัท  หากมีอะไรเสียหายจากการทำตามเสปค  ก็เป็นเรื่องที่เลยผมไปแล้วครับผม (ถ้าผมเป็นช่างใน 0 ผมก็คงว่าไปตามนี้เหมือนกัน)   อาจจะมีเหตุผลที่คู่มือระบุแบบนั้น  แต่เด๋วคงมรสมาชิกที่เป็น Mechanical Engineer มาช่วยไขให้ว่า เชื่ออะไรดี  แต่ถ้าเติมตามคู่มือบอก แล้วไม่หอนเราก็คงไม่ใส่ใจกันหรอก  แต่พอมีการหอนแล้ว mitsu ไม่ได้ตอบอย่างที่ควรจะแป็น เราก็เลยต้องมาลองนั่นลองนี่กันเอง  แต่ผม V6 2012 ไม่เคยได้ยินแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร แต่ผมเลือกแบบมั่วมั่วไปก่อนโดยเลือกแทงสูง เติมมันเต็มรูน็อทนั่นแหละ เจอไป เกือบ 4 ลิตร (ถ่ายเอง กลัว 0 บอกว่าถ้าเกินกว่าคู่มือ ไม่รับผิดชอบ เลยล่อเองเลย อิ) แต่ก็ลองสังเกตุดูว่ามันจะหนืดอืดไหม ก็ไม่รู่สึกอะไร ถ้าวันไหนหอนจะมาเล่าแล้วจะบอกว่า 4 ลิตรลองแล้ว ยังหอน ให้ไปดูดัชนีตัวอื่นแทนไม่ต้องมาดูเรื่องของเหลวหล่อลื่นแล้ว ไปดูเรื่องระยะห่างฟันสบอะไรเทือกนั้น ซึ่งเราแค่ User อย่างดีก็ทำได้แค่นี้ครับ
เห็นกระทู้ป๋าทีไรผมอดใจไม่ได้จริงๆ ความรู้ทั้งนั้น!  good
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 19 คำสั่ง