Languages
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยวิเคราะห์การอุด EGR ด้วยครับ  (อ่าน 10946 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
noraset
Newbie
*

like: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 34


อีเมล์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 10:56:28 am »

พอดีกำลังจะไปอุด EGR เลยค้นหาข้อมูลไปเจอในคลับ Foutuner เลยไม่รู้จะตัดสินใจยังไง
http://www.fortuner-club.com/index.php?topic=7898.0
บันทึกการเข้า
r_rodeo
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 11:33:38 am »

รถคันเก่าของผมเป็น ranger ปี2001 เป็น turbo ธรรมดา ก่อนอุดมีอาการรอรอบและควันดำตามตูดนิดหน่อย แต่หลังจากอุดแล้วรอบมาเร็วกว่าเดิม และพุ่งมากขึ้น พี่ๆใน ...แต่สำหรับพวก vn turbo ผมไม่แน่ใจนะครับ มันอาจเป็นไปได้ว่าความร้อนสะสมอาจจะมาก จึงทำให้เกิดการกร่อนหรือความเสียหายกับตัว turbo...คงต้องรอเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆครับ...แต่สำหรับผมและน้องปาที่เพิ่งเอาเข้ามาประจำการ ผมคงไม่อุดในช่วง 100,000 กม แรกแน่นอน เพราะไม่อยากมีปัญหาเรื่องการรับประกันเครื่องยนต์....
บันทึกการเข้า
Investigation
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 111



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 12:01:29 pm »

ร่วมเเชร์ข้อมูลครับท่าน    สาธุ   สาธุ   สาธุ
เครคิต http://www.bt-50.com/topic.php?q_id=26784

เมื่อพูดถึงรถยนต์กระบะรุ่นใหม่ ที่มีมากมายในตลาดแล้วนั้น รถยนต์กลุ่มนี้ในปัจจุบันมีพัฒนาที่ก้าวล้ำไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรากำลังพูดถึงรถรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการขับขี่ได้ดี ขึ้นมากกว่าแค่ภาพเดิมที่ถูกมองว่าเป็นรถส่งของ
กระบะรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้นจนมายืนเทียบชั้นรถ นั่งหลายๆรุ่น จนได้รับความนิยมมาแต่งแรงกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์ที่วิ่งได้ไม่แพ้รถเก๋ง และเมื่อพูดถึงการทำให้รถยนต์แรงขึ้นนั้น เราหลายคนต้องเคยได้ยินตัวอักษร EGR ที่ได้รับคำแนะนำว่าให้อุดมันทิ้งเสียเถิดเพื่อความสนุกในการขับขี่


หลายคนอาจจะตัดสินใจในเรื่องการอุด EGR ที่สามารถตอบโจทย์ในความแรงโดยไม่ได้ไถ่ถามว่าตกลงมันมีความสำคัญอย่างไร บ้าง แต่แท้ที่จริงแล้ว EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้น คือวาล์วตัวหนึ่งที่ทำการดึงไอเสียจากท่อไอเสียกลับมาหมุนเวียน ในการเผาไหม้อีกรอบ ซึ่งประโยชน์หลักของมันนั้นก็เพื่อตอบสนองเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม

เราคงต้องบอกว่า วิศวกรไม่ได้คิดเกินในส่วนนี้ขึ้นมา หากแต่ EGR นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างที่ได้กล่าวไปเช่นเดียวกับในเรื่องของการ ประหยัดน้ำมัน และเชื่อหรือไม่ การอุด EGR อาจจะทำให้รถคุณไม่ได้รับการประกันในเรื่องเครื่องยนต์ด้วย


ความเชื่อเรื่องอุด EGR  อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้นคือการนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ซึ่ง แน่นอนว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เอาของเสียมายัดลงไปในท้องอีกครั้ง และนั่นคือการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดที่ว่า อุด EGR แล้วจะแรงขึ้น


แนวคิดอุด EGR นี้มีขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้วเริ่มต้นในกลุ่มคนเล่นรถกลุ่มเล็กที่หาวิธี แรงทางลัด ด้วยการศึกษาระบบเครื่องยนต์ และเมื่อเจอ EGR ที่เป็นการนำไอเสียมาเผาไหม้นั้นอีกครั้งนั้น ก็เลยทดลองทำการอุดเพื่อตัดการทำงานในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง

การปิดช่องทางในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่นั้นส่งผลให้อากาศที่เข้าสู่ เครื่องยนต์นั้นมีแต่อากาศที่ออกมาจากเทอร์โบ ซึ่งเมื่อผ่านชุดอินเตอร์คูลเลอร์ ก็ทำให้มีความเย็นลงและเป็นอากาศที่มีการควบแน่นสูงทำให้มีการตอบสนองที่ดี จากเครื่องยนต์นั่นเอง

ผลดีที่มากับผลเสีย  คำถามที่สำคัญคือ เมื่ออุด EGR แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาหรือไม่ คนที่อุดส่วนใหญ่ ซึ่งโดยมากเป็นผู้ใช้และศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ในแบบรู้กันมาปากต่อปาก ทั้งจากประสบการณ์ตัวเองและประสบการณ์ช่างหรือ Guru ก็มักจะบอกว่าไม่มีอะไร ..รับรองแรง!!! แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอุด EGR นั้นมีผลเสียเช่นกัน แลัวควรต้องพิจารณาให้ดี


เมื่ออุด EGR สิ่งแรงที่จะเกิดขึ้นคือการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการขับขี่ แต่ที่หลายคนลืมไปคือเครื่องยนต์ดีเซลนั้นปัจจุบันเป็นระบบไฟฟ้า หรือคอมมอนเรล ซึ่งใช้การตรวจจับอากาศที่ออกมาจากไอเสียคอยควบคุมสั่งการทำงานของเครื่อง ยนต์

การวัดค่าอากาศนี้ระบบจะทำการประมวลผลโดยผล ECU (Electronics Control Unit) หรือ ECM (Electronic Control Management) ตามแต่รถรุ่นนั้นจะเรียก ซึ่งค่าอากาศและส่วนผสมนั้นจะถูกประมวล และในจังหวะที่เครื่องยนต์มีการปล่อยไอเสียมากวาล์ว EGR ที่อยู่ตรงท่อไอดีก็จะเปิดขึ้นเพื่อให้ไอเสียนั้นกลับมาเผาไม้อีกครั้ง เพื่อลดก๊าซไอเสียอย่างคาร์บอนมอนนอกไซด์ หรือที่เรารู้จักในฐานะ "ควันดำ" ซึ่งมีส่วนประกอบโลหะหนักในกลุ่มควันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ลองคิดง่ายเมื่อวาล์วเปิดเครื่องยนต์ย่อมจะต้องสั่งลดการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้ส่วนผสมบางลงเพื่อลดการเกิดแก๊ส โดยหวังว่าแก๊สไอเสียที่มีส่วนน้ำมันที่ปนอยู่ในลักษณะก๊าซที่เผาไหม้ไม่หมด นั้นมาควบรวมแล้วจุดระเบิดเผาไหม้อีกครั้งนั้นจะมา แต่เราดันไปอุดมันนั้น ผลคือส่วนผสมที่บางย่อมส่งผลในเรื่องของการจุดระเบิดที่ไม่ปกติ คือส่วนผสมบาง ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น เสี่ยงต่อเครื่องยนต์พังมากกว่า แต่แน่นอนย่อมมีคนต้องบอกว่ายังไม่มีใครเจอ แต่จะคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ไม่ได้



ประการต่อมา เมื่อระบบไอเสียมีมลพิษมาก ผลคือระบบระบายไอเสียที่ปัจจุบัน มีตัวกรองไอเสีย ซึ่งเราเรียกว่า Caterlytic Converter นั้น จะทำหน้าที่หนักขึ้นและ เมื่อมันทำงานหนักก็เสี่ยงที่จะอุดตันเร็วกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ทำการอุด EGR และสุดท้ายที่ลืมนึกถึงไม่ได้ คือเทอร์โบ ที่ปัจจุบันเทอร์โบแบบ Variable หรือ Geometry turbo นั้นมีการอ่านค่าไอเสียและรอบเครื่องยนต์ในการปรับความสัมพันธ์ในการทำงาน ของชุดครีบ ซึ่งทำให้เสียหายต่อแกนเทอร์โบมีความร้อนสะสมมากกว่านั่นเอง

 เข้าใจอย่างถ่องแท้ตกลง EGR คืออะไร จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า EGR นั้นค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับหลายระบบมากกว่าที่คิดไม่ใช่เพียงแค่ ท่อที่นำไอเสียมาหมุนวนใหม่อีกครั้งเท่านั้น แต่มันอาจจะยังส่งผลถึงระบบต่างมากมาย ซึ่งเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำแต่อยากให้เข้าใจอย่างแท้จริงก็เท่านั้น

EGR หรือ exhaust gas recirculation เป็นกระบวนการทางวิศวกรรมในการนำไอเสียจำนวนหนึ่งประมาณ 5-15 % กลับมาเผาไหม้ร่วมกับ อากาศดีเพื่อให้มีไอเสียที่ดีขึ้นลดมลภาวะที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์

แน่นอนจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดของไอเสียจะถูกโยนกลับเข้าสู่ห้องเผา ไหม้ แต่แม้จะเป็นเพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่ง EGR เองก็มีข้อเสียทำให้น่ำมันเครื่องนั้นมีเขม่ามากกว่าปกติโดยเฉพาะเครื่อง ยนต์ดีเซล แต่นี่คือข้อดี 4 ประการของการมี EGR

1.ลดการสูญเสีย อัตราเร่ง EGR นั้นคือการนำไอเสียมาเผาไหม้และการจะเผาไหม้ไอเสียนั้นลิ้นปีกผีเสื้อต้อง รับอากาศดีเข้ามาด้วย และถ้าคุณจับทางได้จะพบว่า อัตราเร่งจะลดลง(เครื่องลอยตัวมากกว่า)ไปน้อยกว่าเมื่อไม่อุด EGR

2.เครื่องทำงานลื่นไหลมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งสักนิด แต่ให้นึกถึงน้ำร้อนน้ำเย็น และมันก็เป็นเช่นนั้นกับอากาศและกระบอกสูบ คิดง่ายๆการอุด EGR เปรียบเหมือนกับการอากาศร้อนจากไอเสียออกไปทำให้เครื่องยนต์รับแต่อากาศดี และเย็นสบายแต่ความจริงแล้ว อากาศที่ดีนั้นทำให้ เครืองยนต์มักจะสูญเสียค่าความร้อนหน้าสัมผัสลูกสูบมากกว่ าถ้าเทียบกับมีไอเสียจาก EGR เข้ามาผสม ซึ่งแม้อาจจะไม่สามารถรู้สึกได้จากปลายเท้า แต่เชื่อเถอะว่ามีจริง

3.ลดก๊าซไอเสีย แน่นอนนี่คือหน้าที่หลักของ EGR และก๊าซไอเสียถูกใส่เข้ามาเมื่อถึงจุดสูงสุดของลูกสูบเพื่อเผาไหม้ก๊าซ คาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

4.ลดค่าความร้อนที่ลูกสูบ จำได้ไหมที่เราบอกว่าเมื่อ EGR ทำงานแล้วส่วนอากาศนั้นผสมจะน้อยลงหมายถึงส่วนผสมบางลง และเมื่อส่วนผสมบางลง นั้นก็หมายถึงการที่อากาศใหม่ที่เปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อนหลังจากเผาไหม้ก็จะ น้อยลงตามไปด้วย ทำให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอน้อยลง

 ถ้ามองตามข้อเท็จจริงของ EGR แล้ว แน่นอนมันเป็นเพียงระบบที่หมุนวนนำอากาศไปเผาไหม้อีกครั้ง หากแต่ระบบนี้นั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ แม้แต่ช่างก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ่ง ฉะนั้นหากคิดจะอุด EGR นั้นจงคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนทำ

บันทึกการเข้า
TON.HNK
Newbie
*

like: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 236


TON.HNK


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 01:50:19 pm »

...ข้อมูลดีมากครับ อย่างน้อยก็ได้คิดก่อนตัดสินใจว่า ควรหรือไม่...ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าปัจจุบันนี้เครื่องยนต์มีการพัฒนา
ขึ้นมาก การที่ค่ายรถยนต์ต่างๆจะนำมาวางจำหน่ายก็ได้มีการผ่านการ คิดค้นและค้นคว้าและพัฒนามาอย่างดี กับการที่เรา
จะดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลง ก็น่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดีอย่างแน่นอน...
   like  like  like
บันทึกการเข้า
วุธ
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 59


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 03:03:47 pm »

เข้ามาให้กำลังใจและชื่นชมป๋าหลายท่านในเวปนี้ ที่สามารถคิดก้าวข้ามเรื่องการอุดปิดระบบ EGR
ไปได้อย่างมีสติและช่วยบอกแนะนำเพื่อนสมาชิกถึงประโยชย์ของระบบ EGR ว่ามีข้อดีมากกว่าเสีย
 good



ปล.เราเคยคิดถึงเรื่องมลพิษทางอากาศสีเทาเทาในเมืองกันบางหรือเปล่า...?
แนะนำ.ข่าว10 อันดับถนนกรุงเทพ มลพิษสูง : http://hilight.kapook.com/view/28970
บันทึกการเข้า

ขอให้ช่วยกันแนะนำอย่ารักรถโดยการอุด EGR, ถอด catalysts แล้วขับรถนั่งสูดดมสารระเหยมลพิษที่รถตัวเองปล่อยออกมา
คนที่คุณรักอยู่ในรถ,คนอยู่นอกรถสูดดมไปเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เป็นการรักรถโดยทำร้ายตัวเอง, คนในครอบครัวและยังทำ
ให้บ้านเมืองสกปรก ปลูกต้นไม้ให้มากช่วยไม่ได้นะ คนกับต้นไม้มันเทียบกันไม่ได้ครับ
wutty
Newbie
*

like: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 202



อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 03:27:10 pm »

เรื่องแบบนี้ นานาจิตตังครับ  คนเราก็มีเหตุผลให้กับตัวเองกันทุกคน แล้วก็บอกกับตัวเองและคนรอบด้านว่า เราคิดถูก  ดังนั้นผมว่าใครใคร่อุด   หรือใครไม่ใคร่อุด  ก็อยู่ในดุลยพินิจของแต่ละคนครับ  ส่วนผมเองเคยได้ศึกษาอ่านมาจากหลายๆเวบ  รวมถึงในเวบปาเจโร่ นี้ด้วย  ซึ่งแต่ละคน ต่างก็ยกเหตุผลมาหักล้างกันตามความเห็นและทัศนคติของตัวเอง   สรุปสุดท้าย ผมใช้มาได้ ปีครึ่ง  ไม่ได้อุดสักจุดเดียวครับ   
บันทึกการเข้า
พ่อลูกอ่อน No.241
Jr. Member
**

like: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 689


balloon308@hotmail.com
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 03:53:49 pm »

ฟัง แล้ว ผมว่าจะไปเอาออก แระ............ อยู่พระราม 2 ตรงบางปะกอก มีช่างท่านใดมาเอาออกให้ได้หรือเปล่าครับ รบกวนแนะนำหน่อยครับป๋า Cheesy
บันทึกการเข้า

จุ๊กกรู้
POPPY
Jr. Member
**

like: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 667



« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 04:49:31 pm »

นานาจิตตัง Huh?
บันทึกการเข้า

ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้
TAYONG
Full Member
***

like: 57
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1218


ปาเจโร่โซนตะวันตก ป๋าโย่ง คอนถมทีม 082-350-23สามห้า


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 06:30:54 pm »

  ผมเลือกที่อุดครับ   เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์เพราะอะไร   ผมได้รื้อ+ผ่าเครื่องที่มีระบบ EGR  กับมือตัวเองมาหลายเครื่องแล้วมันพังเพราะเจ้า EGR นี่แหละครับ   แต่พอหมดประกันผมจะยืดการถ่ายน้ำมันเครื่องไปที่ระยะ 15000 - 20000 กม. เพื่อลดของเสียอะครับ    
บันทึกการเข้า
paje_E20NYA
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 277



« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 09:22:29 pm »

เป็นข้อมูลที่ดีมากสำหรับเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจครับป๋า Investigation สำหรับท่านที่จะตัดสินใจอุด EGR  like
ผมเลือกที่อุดครับ   เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์เพราะอะไร   ผมได้รื้อ+ผ่าเครื่องที่มีระบบ EGR  กับมือตัวเองมาหลายเครื่องแล้วมันพังเพราะเจ้า EGR นี่แหละครับ   แต่พอหมดประกันผมจะยืดการถ่ายน้ำมันเครื่องไปที่ระยะ 15000 - 20000 กม. เพื่อลดของเสียอะครับ    
ป๋าโย่่ง เป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่งครับ. อย่างไรแล้วใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจนะครับ (สวัสดีครับป๋าโย่ง) ส่วนผมอุดไปเรียบร้อยแล้ว  joob
บันทึกการเข้า

ID No. 0449  (PJS 2011 4X4  4WD 178 HP)
JAJA-RY
Jr. Member
**

like: 23
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 302



อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2012, 05:23:06 pm »

ผมเลือกที่อุดครับ   เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์เพราะอะไร   ผมได้รื้อ+ผ่าเครื่องที่มีระบบ EGR  กับมือตัวเองมาหลายเครื่องแล้วมันพังเพราะเจ้า EGR นี่แหละครับ   แต่พอหมดประกันผมจะยืดการถ่ายน้ำมันเครื่องไปที่ระยะ 15000 - 20000 กม. เพื่อลดของเสียอะครับ    
เช่นกันครับ ผมเลือกที่จะอุดเพราะผมเห็นสภาพท่อร่วมไอดีของรถผมคันเก่าแล้วครับ เขม่าไอเสียจาก EGR มารวมตัวกันกับไอน้ำมันที่ระบายจากฝาวาล์ว ผ่านเทอร์โบและ อินเตอร์ ผมวิ่งไปแค่ 70000 โลท่อร่วมไอดีอุดตันแทบจะไม่มีช่องให้อากาศวิ่งผ่าน ท่อลม MAP sensor ที่ฝั่งจุดต่อไว้ที่ท่อร่วมไอดีเกือบตัน บางคันอุดตันไฟ engine show code P0107 ก็มีครับ แต่เรื่องความแรงผมไม่ได้หวังว่าจะได้ความแรงเพิ่มจากการอุด แต่ผมไม่อยากเสียค่าซ่อมบำรุงในการถอดท่อร่วมไอดีมาทำความสะอาดซึ่งค่าแรงก็มิใช่น้อยครับ เรื่องแบบนี้นานาจิตตังจริงๆ  แคทผมยังคงไว้จนกว่ามันจะตันจะถอดขายครับสัก 100000 โล
บันทึกการเข้า
Investigation
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 111



« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2012, 07:51:07 pm »

ผมอุดตั้งเเต่ออกจากศูนย์ครับท่าน  เเต่พอรับข้อมูลมากขึ้น  โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยียานยนต์  ทำให้สองจิตสองใจ
เเต่ตอนนี้เอาออกเเล้วครับท่าน  ก็อย่างตามที่สมาชิกท่านบอกครับ นานาจิตตัง  ครับท่าน
 สาธุ  สาธุ   สาธุ
บันทึกการเข้า
TAYONG
Full Member
***

like: 57
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1218


ปาเจโร่โซนตะวันตก ป๋าโย่ง คอนถมทีม 082-350-23สามห้า


อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2012, 03:19:34 pm »

ผมเลือกที่อุดครับ   เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์เพราะอะไร   ผมได้รื้อ+ผ่าเครื่องที่มีระบบ EGR  กับมือตัวเองมาหลายเครื่องแล้วมันพังเพราะเจ้า EGR นี่แหละครับ   แต่พอหมดประกันผมจะยืดการถ่ายน้ำมันเครื่องไปที่ระยะ 15000 - 20000 กม. เพื่อลดของเสียอะครับ    
เช่นกันครับ ผมเลือกที่จะอุดเพราะผมเห็นสภาพท่อร่วมไอดีของรถผมคันเก่าแล้วครับ เขม่าไอเสียจาก EGR มารวมตัวกันกับไอน้ำมันที่ระบายจากฝาวาล์ว ผ่านเทอร์โบและ อินเตอร์ ผมวิ่งไปแค่ 70000 โลท่อร่วมไอดีอุดตันแทบจะไม่มีช่องให้อากาศวิ่งผ่าน ท่อลม MAP sensor ที่ฝั่งจุดต่อไว้ที่ท่อร่วมไอดีเกือบตัน บางคันอุดตันไฟ engine show code P0107 ก็มีครับ แต่เรื่องความแรงผมไม่ได้หวังว่าจะได้ความแรงเพิ่มจากการอุด แต่ผมไม่อยากเสียค่าซ่อมบำรุงในการถอดท่อร่วมไอดีมาทำความสะอาดซึ่งค่าแรงก็มิใช่น้อยครับ เรื่องแบบนี้นานาจิตตังจริงๆ  แคทผมยังคงไว้จนกว่ามันจะตันจะถอดขายครับสัก 100000 โล
เคยถอดล้างไป 2 คัน  TRITON 1 คัน + PAJERO 1 คันสภาพตามรูปครับ


บันทึกการเข้า
yut a32
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2012, 09:55:32 pm »

ถ้าชอบความแรง สำหรับน้องปาอย่าไปอุดเลย ใส่ดันรางใบเดียว+ท่อ วิ่งกระจาย
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.057 วินาที กับ 20 คำสั่ง