Languages
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประกันภัยงัดกฎเหล็กเลิกคุ้มครองฉี่ม่วง-เมาหนักขับรถเจอดี  (อ่าน 2202 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
charles
merchant
Newbie
*

like: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68


เว็บไซต์
« เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 04:40:00 pm »

ลุยรื้อเงื่อนไขกรมธรรม์รถยนต์ภาคสมัครใจ ลดคุ้มครองคนขับเมาเหล้า จำกัดต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จากเดิมให้ถึง 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ย้ำเกณฑ์เดียวกับกฎหมายฉวยจังหวะเพิ่มเงื่อนไขสากลไม่คุ้มครองคนขับฉี่ม่วง ทั้งเมายาบ้า ยาไอซ์ ส่วนเบี้ยประกันปรับปรุงใหม่เช่นกันให้สอดรับกับความเสี่ยง-โมเดลรถใหม่เกิด เยอะ ยกเคส “อีโคคาร์” เบี้ยอาจถูกลงกว่าเดิม เชื่อกฎหมายใหม่ห้ามดื่มบนรถกดสินไหมประกันรถยนต์ลดปรับปรุง

กธ.ประกันภัยรถยนต์ผู้ขับขี่ที่ดื่มแอลกอฮอล์ฉบับมาตรฐานทุกประเภท
สมาคมประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า ทางคณะทำงานฯ อยู่ระหว่างปรับปรุงเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจฉบับมาตรฐานทุกประเภทเกี่ยวกับความคุ้มครองผู้ขับขี่ที่ดื่ม แอลกอฮอล์แล้วขับรถไปเฉี่ยวชนผู้อื่นจนเกิดความเสียหาย จากเดิมกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่ เกิน 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะปรับลดลงเหลือเท่ากับระดับที่กฎหมายกำหนด ซึ่งปัจจุบันกฎหมายกำหนดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้เป็นเกณฑ์เดียวกับประกันภัยรถยนต์ทั่วโลก

นอกจากนี้ ในกรมธรรม์ที่กำลังปรุบปรุงใหม่จะเพิ่มเงื่อนไขไม่คุ้มครองผู้ขับขี่ที่เสพ สารเสพติด เช่น ยาบ้า, ยาไอซ์ที่เรียกง่ายๆ ว่า ฉี่ม่วงด้วยกำหนดเป็นข้อยกเว้นในกรมธรรม์หากพบผู้ขับขี่เสพสารติดดังกล่าว แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นกรมธรรม์ไม่คุ้มครองเลยจากเดิมคุ้มครอง สาเหตุที่ต้องเพิ่มเงื่อนไขดังกล่าวเนื่องจากระยะหลังมีสถิติการเกิด อุบัติเหตุจำนวนมากที่พบว่าผู้ขับขี่ไม่ได้ดื่มสุรา ไม่มีกลิ่นเหล้า แต่สังเกตได้ว่าเมายาบ้า ยาไอซ์

“เดี๋ยวนี้ตำรวจเขามีน้ำยาตรวจสารพวกนี้ในปัสสาวะ ณ จุดเกิดเหตุแล้ว บางที่อาจจะต้องรอผลส่งตรวจ ซึ่งกรมธรรม์ของต่างประเทศเขาก็ไม่คุ้มครองคนขับฉี่ม่วง เสพสารเสพติดเหมือนกัน ในอดีตกรมธรรม์ของเราก็เคยมีข้อยกเว้นไว้ แต่เนื่องจากมีการปรับปรุงหลายครั้ง ครั้งหลังสุดตกหล่นไป เมื่อเราปรับปรุงใหม่เลยเพิ่มเติมเงื่อนไขข้อนี้เข้าไป”

สำหรับอัตราเบี้ยประกันภัยซึ่ง ได้มีการปรับปรุงใหม่ด้วยนั้น นายพันธ์เทพกล่าวอีกว่า มีการทบทวนทั้งระบบเช่นกันเพื่อให้สอดรับกับความเสี่ยงภัยและโมเดลรถใหม่ๆ ที่มีออกมามากขึ้นเพื่อให้อัตราเบี้ยประกันภัยถูกต้อง เป็นธรรม ทั้งกับบริษัทประกันภัยและ ผู้บริโภค อาทิ มูลค่ารถยนต์เสื่อมเร็ว เครื่องยนต์ ระบบความปลอดภัยมีมากน้อยแค่ไหน ราคาอะไหล่เป็นอย่างไร เบี้ยประกัยต้องผันแปรตามราคาอะไหล่ โดยว่าจ้างบริษัททัทชาม (ประเทศไทย) ศึกษาจัดกลุ่มใหม่ให้ โดยทัทชามแบ่งประเภทรถออกเป็น 24 กลุ่มจากเดิมมีแค่ 5 กลุ่ม

“ยกตัวอย่างรถโตโยต้า แคมรี่, ฮอนด้า แอคคอร์ด, นิสสัน เทียร์น่า ของเดิมอยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ของใหม่จะอยู่คนละกลุ่มแบ่งตามเครื่องยนต์มีขนาดเครื่อง 2,400 ซีซี, 2,500 ซีซี และ 3,500 ซีซี เครื่องยนต์ที่มีซีซีสูงเวลาเกิดอุบัติเหตุจะหนักกว่า เป็นการจัดกลุ่มตามการผันแปรของเครื่องยนต์ หรือรถประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) ซึ่งตอนนี้คิดเบี้ยต่ำสุดก็จริงยึดตามพิกัดอัตราเบี้ยของเดิมที่เริ่มใช้มา ตั้งแต่ปี 2541-42 แต่ตอนนั้นคิดจากฐานรถเก๋ง 4 ล้อมียอดจำหน่ายประมาณ 7 ล้านคันแต่ตอนนี้เพิ่มเป็น 10 ล้านคัน เมื่อวอลุ่มเยอะเบี้ยก็ต้องถูกลง ถ้ายึดตามหลักนี้รถอีโคคาร์เบี้ยอาจจะแพงไป ขณะที่สถิติการเกิดอุบัติเหตุในตอนนี้ความเสี่ยงยังปกติอยู่”

บังคับใช้กฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์แนวโน้มค่าสินไหมลดเบี้ยประกันภัยต้องปรับใหม่
นายพันธ์เทพกล่าวว่า ปัจจุบันการจราจราทางถนนดีขึ้น อย่างต่างจังหวัดมีการปรับปรุงถนนดีขึ้น มีสัญญาณไฟตามจุดต่างๆ มากขึ้น กฎหมายเข้มขึ้นอย่างล่าสุดเพิ่งบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามดื่มในที่สาธารณะทั้งขณะขับขี่หรือโดยสารในรถหรือบนรถทุกประเภทรวมถึง ท้ายรถด้วย ต้องปรับให้เหมาะสมอุบัติเหตุอาจจะเกิดน้อยลง แนวโน้มค่าสินไหมทดแทนจะลดลง ดังนั้น เบี้ยประกันภัยต้องปรับให้เหมาะสม

“หลักการอัตราสินไหมประกันภัยรถยนต์ไม่ควรเกิน 60% ที่ผ่านมาประมาณ 70-80% สิ้นปี 2554 อยู่ที่ประมาณ 64-65% เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดอัตรารวม (คอมไบน์ เรโช) ประมาณ 110% เท่ากับขาดทุน 10% มาจากน้ำท่วม”

อย่างไรก็ดีในการทบทวนรูปแบบกรมธรรม์และเบี้ยประกันภัยรถยนต์นั้นทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ตั้งคณะทำงานขึ้น 3 ชุด ชุดแรกดูแลด้านพัฒนาการพัฒนารูปแบบกรมธรรม์และเบี้ยประกัน ชุดที่สองปรับปรุงเงื่อนไขกรมธรรม์ทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับและชุดที่สาม จัดทำคู่มือตีความทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับ แต่ละชุดจะมีทั้งทีมของคปภ.และสมาคมร่วมกันต่างคนต่างหาข้อสรุปของตัวเอง ก่อนจะนำไปข้อมูลไปพูดคุยกันในคณะใหญ่ซึ่งจะมีการนัดประชุมกันอาจจะเป็น เดือนนี้หรือเดือนหน้า โดยการปรับปรุงทั้งหมดต้องแล้วเสร็จและเริ่มใช้ก่อนประชมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อาจจะเป็นต้นปี 2556 หรือกลางปี 2556

บันทึกการเข้า

[~DREAM~]
Pajero Sport No.0777
Jr. Member
**

like: 54
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 896


♪ น้องปาไวท์ ♫ อั๊ยยะ 95 ♥


« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 08:01:45 pm »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ถ้ามันถูกลงแล้วคุณภาพงานบริการไม่ด้อยไปกว่าเดิม ก็เป็นเรื่องดีครับผม  ยอดเยี่ยม
บันทึกการเข้า

I PAJEROSPORT
THAILAND
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.033 วินาที กับ 20 คำสั่ง