Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

ตั้งแต่รับรถมาเกือบเดือน ยังไม่เคยใช้น้ำฉีดล้างกระจกเลย
วันนี้ฝนตกเลยใช้น้ำฉีดกระจก ไม่มีน้ำออกมาเลย
เฮ้ย ปัญหาเกิดซะแล้ว อย่างอื่นไม่เคยเกิดปัญหาเลย
คิดว่ามอร์เตอร์ฉีดน้ำพังหรือขัดข้อง ตอนรับรถก็ไม่ได้ลองฉีดน้ำ
ลองเติมน้ำดู เพราะมองไม่เห็นระดับน้ำในถังใส่น้ำ ผลใช้ได้ตามปกติ
อนิจจัง MMTH ประหยัดถึงขนาดไม่เติมน้ำฉีดกระจกให้รถราคาคันละล้านกว่าเลยหรือ
หรือชุ่ยไม่มี QC ตรวจตราก่อนส่งมอบเลย ถึงได้บอกว่า เหลือเชื่อ เป็นไปได้อย่างไร

ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับมิตซู

 like like

อ้ายหย๋า วิธีลดต้นทุนขั้นสุดยอด ยี่ห้ออื่นควรดูเป็นตัวอย่าง(ที่ไม่ดี)
หรือนอกจากลดต้นทุนแบบนี้แล้ว ลดพนักงานด้าน QC ด้วยหรือเปล่าอ่ะ  ตกใจหมด

สโลแกนใหม่ของมิตซูเลย

QC มาได้อย่างไรครับ..... ^-^

อยู่ที่ศูนย์ครับ รวมทั้งเซลล์ ต้องตรวจตราความเรียบร้อยของรถก่อนส่งมอบให้ลูกค้า ทั้งนี้ทั้งนั้น MMTH ต้องยกระดับมาตรฐานของศูนย์บริการ
ผมไม่อยากคิดเลยนะ....เห็นแย่ๆ แบบนี้ น้องปาดันยอดขายมิตซูพุ่งกระฉูด ถ้าบริการดีผมว่าทิ้งเจ้าตลาดไม่เห็นฝุ่น

ผมว่า QC ของ MMTH น่าจะตรวจมาแล้วแหละครับ สังเกตุจะมีสีขีดเกือบทุกจุดในตัวรถ(ลองเปิดฝากระโปรงดู มีหลายสีหลายแผนก)
แต่ผมว่าอยู่ที่ศูนย์ที่ออกรถมากกว่าครับ (อาจมีฉีดเล่นจนหมดถัง)หรือรถท่านอาจเอาไปโชว์หลายที่ก็เป็นได้แล้วเอามาส่งมอบให้คุณ
ลองสังเกตุที่น๊อตยึดเข็มขัดนิรภัยคนขับดูครับจะมีริบบิ้นสีขาวจะเขียนวันที่ผลิดอยู่ครับขอให้โชคดีครับ อย่าเจอรถตัวโชว์เลยครับ
 สาธุ

ผมเคยพูดที่ศูนย์วันรับรถ ให้ช่างดูน้ำมันเฟืองท้ายให้หน่อย
ช่างตอบว่า ทางMMTH เขาเติมมาให้แล้ว ไม่ต้องดูหรอก
ด้วยความโมโหผมเลยตอบไปว่า สินค้าของมิตซูมันดี แต่บุคลากรของมิตซูมันห่วย
แล้วไม่เข้าศูนย์นั้นอีกเลย

ใช้รถราคาระดับนี้ยังต้องอาศัยดวงอีก....มาตรฐานอยู่ที่ไหน.......

จริงๆช่างที่ศูนย์ น่าจะเช็คให้ตั้งแต่วันรับรถเลยนะคับ

like like like ;)

QC Random  :P

จริงครับ  ตกลงน้ำมันมันขาดมั้ยครับ

ออกมาเช็คข้างนอก ก็ไม่ขาดครับแต่เราต้องการเติมให้เกิน เพราะระดับพอดีของปาเจโร่นั้นมันยังน้อยไป ถ้าเติมเกินจากระดับพอดีของปาสักครึ่งลิตร
น่าจะป้องกันเฟืองท้ายเห่าได้บ้าง(อันนี้ความคิดส่วนตัวครับ)

ถือว่าโชคดีที่เกิดในประเทศไทยนะครับ
  แต่ไม่โชคดีตรงที่เป็นประชาชนคนธรรมดา จึงไม่ค่อยได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายเท่าไหร่เลย ... โดนเอารัดเอาเปรียบตลอด กำ :-\

ผมไม่แปลกใจ เพราะผมก็เจอเหมือนกัน แต่ตอนหลังย้ำถี่ มันออกเฉยเลย ยังงงกับมันเลย ตกใจหมด ตกใจหมด

คืออย่างนี้ครับในร.งจะมีเครื่องเติมที่เป็นAuto รันตามรถไม่มีทางที่จะไม่ได้เติมมา(ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้ทำงานในมิตซูนะครับ แต่ทำรถให้อีกยี่ห้อหนึ่งน่าจะเหมือนกัน)
ในกรณีของป๋าน่าจะมาจากศูนย์มากกว่าครับตอนรับรถผมก็เจอแบบนี้ต้องให้เอาน้ำยาWasher มาเติมให้ต้องดูดีๆครับเวลารับรถเพราะออกจากร.งแล้วไม่ได้ถึงมือเจ้าของรถเลย
QCมีการตรวจสอบFunction จริงครับเป็น I-tem check ที่บังคับครับ..

:D ผมรับรถมาเมื่อวันที่ 4 / 5 / 55 พอกลับถึงบ้านเปิดเช็คเอานิ้วก้อยแหย่ดูระดับน้ำมันเฟืองท้ายไม่ติดที่นิ้ว  เลยจัดการเติมไป 1 ลิตรล้นรูเติมออกมานิดหน่อย   มุดรถทำเองเลยเพื่อความสะบายใจอะครับ
(http://image.free.in.th/z/iw/dsc02749.jpg) (http://pic.free.in.th/id/ad50faa587e6e457e9485db616c5cfd3)

ดีนะ  ที่ตอนซื้อแอร์มิตซู  เค้าไม่ลืมเติม น้ำยาแอร์  มาให้ด้วย

ไม่เติมครับ... เป็นมาตรฐานเค้า เพราะอะไร ไม่ทราบ...
รถที่เข้าถึงศูนย์ ทางศูนย์จะมีคู่มือตรวจสอบว่าต้องเติม ต้องใส่อะไรบ้าง...

ตอนผมรับรถ Sale ใส่ให้ เค้าบอกว่า ต้องเติมก่อนส่งมอบ แล้วก็ปล่อยลมยางให้เหลือตามที่ระบุข้างรถ...
ถ้าจำไม่ผิด น้องผมซื้อ Honda City ก็ไม่มีเหมือนกัน... ต้องเติมเอง...

เหมือนกันครับ ของผมมองลงไปไม่เห็นอะไรเลย เติมน้ำลงไป 2 ขวด (ขวด 1.5ลิตร) ยังมองไม่เห็นเหมือนกัน แต่ในใบตรวจเช็ครับรถของเซล ติ๊กว่าตรวจแล้ว นอกจากนี้ลมยังเติมไว้ 50 (ยาง 245) พอไปโวยก็ถามว่า รู้ได้ไงว่าไม่เช็ค  ทั้งๆ ที่ย้ำแล้วย้ำอีก ว่าช่วยเช็คหน่อย โดยเฉพาะน้ำมันเฟืองท้าย ผมก็ว่าไม่ได้เช็คหรอก ตามมีตามเกิด วันหลังเข้าไปจะให้ช่วย คนรับรถก็พูดบ่ายเบี่ยง บอกทำนองว่า ไม่มีน้ำมันมันพังไปแล้ว  โอ๊ยมึน

ถ้าไม่เติมก็ยังดีครับ

หากเติมแล้วแต่ไม่มีน้ำนี่ซิน่ากลัว  painful

สงสัยผมจะได้ปาปลอมซะแล้ว..

ผมก็ว่าผมได้ปาปลอมน่ะครับ แต่อาจจะเป็นปาจริงตอนที่วิ่ง 140 กม./ชม.
จะมีเสียง ไม่รู้เรียกว่าหอนรึเปล่า มันคงเป็นจุดที่ภาษาช่างเรียกว่า
Critical Speed มั้งครับ มันจะมีอยู่หลายช่วงของความเร็วเลยจุดนี้ไปเสียงก็หาย
และก็จะมีเสียงที่ระดับความเร็วอื่นๆอีกครับ ในทางการช่างจุดนี้เราจะไม่แช่ความเร็วไว้ครับ
เครื่องมันจะสั่นมาก (Vibration สูง) เราจะทำความเร็วหนีออกไป
ให้เร็วกว่าจุดอื่นๆครับ ผมเทียบกับกังหันแก๊สที่ใช้ฉุดเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า
หรือบนกังหันเครื่องบินนะครับผม ผมเห็นบ่นกันมากเลยครับยี่ห้ออื่นก็เป็นครับ
แต่เราไม่ได้อยู่ในคลับของเขา เราอาจจะไม่ได้สอบถามเขาละเอียด
ผมกลับมองว่าคนที่ขับปาเจโร่ส่วนใหญ่ จะมีการศึกษาค่อนข้างสูงทางด้านเทคนิค
จึงทำให้เรามาคุยกัน ในเรื่องจุดด้อยต่างๆของรถ น้องปามีดีอยู่ในตัวอยู่แล้วครับ
หรือว่าไม่จริงครับ ลองเทียบแสตนดาร์ด กับเจ้าตลาดก็ได้ ขับสัก 120 กม./ชม.
แล้วเหยียบเบรคเต็มแรงเลยครับ จะเกิดอะไรขึ้น ก่อนซื้อได้ลองทำรึยังครับ
จะรู้ว่าน้องปามันทำได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ
เขียนมายาวแล้วเอาไว้ถ้ามีคนอยากฟังวันหน้าจะมาหาข้อดีของน้องปาให้ฟังเพิ่มครับ
เวลาขับรถทำใจให้สบายอย่าพยายามจับผิด..แล้วเราจะมีความสุข กับการขับน้องปาครับผม smile..