สระบุรี - วายร้ายลูกครึ่งฉกฟอร์จูนเนอร์ขณะเจ้าของติดเครื่องทิ้งไว้ริมถนน บังเอิญมีเด็กหญิงอายุ 14 ปีนอนอยู่หลังรถโดยที่คนร้ายไม่ทันได้ไหวตัว ตั้งสติแอบส่งข้อความให้แม่ทราบ แจ้งตำรวจสกัดจับได้ข้ามจังหวัดทันควัน
เมื่อเวลา 11.20 น. วันนี้ (15 ก.ค.55) ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมคนร้าย ลักรถยนต์ หลบหนีมาจากเขต จ.ลพบุรี ขณะมาจอดอยู่ที่ริมถนนพหลโยธิน หน้าร้านขายก๋วยเตี๋ยว ธารทิพย์ เขตเทศบาลเมืองสระบุรี จึงวิทยุแจ้งเหตุให้สายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่อยู่ใกล้ไปตรวจสอบพบ ด.ญ.กอบลาภ เทียมเมือง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.4 ร.ร.มัธยมนวมินทร์ราชูอุทิศ กทม. ยืนตัวสั่นตกใจรออยู่และแจ้งเหตุให้ทราบ
ในขณะเดียวกัน ได้มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างสูงหน้าตาคล้ายแขกลูกครึ่งเดินกลับมาที่รถยนต์ยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์สีดำ หมายเลขทะเบียน ฌบ-7729 กทม. จอดอยู่กำลังจะก้าวขึ้นรถเพื่อติดเครื่องยนต์ เจ้าหน้าที่ที่รออยู่จึงได้กรูกันเข้าจับกุมไว้ได้ ทราบชื่อนายสัมพันธ์ องศ์ประยูร อายุ 28 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 296/66 ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ลูกครึ่งไทย-เบลเยี่ยม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 10.40 น. วันเดียวกันนี้ ขณะที่นายชำนาญ แซ่ตั้ง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/190 ม.2 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และภรรยา พร้อมด้วยนางเกษม เทียมเมือง อายุ 51 ปี พร้อมด้วยเพื่อนบ้าน และ ด.ญ.กอบลาภ รวมทั้งหมด 6 คน โดย ด.ญ.กอบลาภ โดยสารมาในตอนท้ายสุดของตัวรถ (นอนหลับ) ทั้งหมดมุ่งหน้า จ.ลพบุรี เพื่อนำสิ่งของไปมอบช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ที่วัดพระบาทน้ำพุ
ขณะมาขับรถมาตามถนนพหลโยธินก่อนเข้าตัวเมือง ตรงข้าม สภ.ย่อยพัฒนานิคม พบร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ จึงได้หยุดรถพากันลงจากรถทั้งหมดรวม 5 คนไปดูเฟอร์นิเจอร์จอดห่างร้านราว 5 เมตรโดยไม่ได้ดับเครื่องยนต์ เพราะเห็นว่า ด.ญ.กอบลาภ นอนหลับอยู่หลังรถ
ขณะที่ทุกคนเผลอมัวเพลินดูเฟอร์นิเจอร์อยู่นั้นได้มีคนร้ายขับรถยนต์แบบ 3 ประตูสีดำแต่งซิ่ง เป็นยี่ห้อ ฮอนด้า หรือมาสด้า ยังไม่แน่ชัด เข้ามาจอดใกล้ๆ หนึ่งในคนร้ายได้ลงจากรถตรงเข้าไปที่รถ ฟอร์จูนเนอร์ที่จอดอยู่ เปิดประตูขึ้นไปบนที่นั่งคนขับแล้วเร่งเครื่องโดยเร็วชนิด “ล้อฟรี” กลุ่มนายชำนาญ เจ้าของรถจึงหันมามองดู
ทันทีจึงรู้ว่าถูกคนร้ายขโมยรถของตนไปแล้ว โดยมี ด.ญ.กอบลาภ ที่นอนหลับอยู่ติดรถไปด้วยจึงได้ร้องเอะอะ พากันวิ่งตามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายจึงได้เลี้ยวรถกลับ (ปีนเกาะ) กลางหันหัวกลับมาทาง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ทุกคนจึงตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา กระเป๋าถือ และโทรศัพท์ทุกคนล้วนทิ้งไว้บนรถกันหมด นางเกษม มารดา ด.ญ.กอบลาภ จึงได้ขอยืม โทรศัพท์มือถือของเจ้าของร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ โทรติดต่อ ด.ญ.กอบลาภ
ซึ่งในช่วงที่คนร้ายเร่งเครื่องยนต์ด้วยความเร็วและเลี้ยวรถขึ้นเกาะกลางเพื่อหลบหนีนั้น ด.ญ.กอบลาภ รู้สึกตัวผงกหัวขึ้นมาดู เห็นว่าไม่ใช่นายชำนาญ เป็นคนขับ และมีชายแปลกหน้านั่งอยู่ด้านหน้าเพียงคนเดียวจึงรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนร้ายแน่จึงพยายามรวบรวมสติ
เมื่อนางเกษม มารดา โทรมาหา จึงปิดเสียงโทรศัพท์ของตัวเอง โดยใช้วิธิส่งข้อความแทน ด้วยเกรงคนร้ายจะรู้เป็นระยะๆ หลายข้อความด้วยกัน “แม่หนูปลอดภัย/ แม่เขาไม่รู้ว่ามีหนูอยู่/แม่ช่วยหนูด้วย/หนูกลัว”
นายชำนาญ แซ่ตั้ง จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สำราญ ดำคำ สวส. สบ.3 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ให้ช่วยเหลือและเร่งประสานงานขอความช่วยเหลือตำรวจท้องที่ใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับกุมด้วย จากนั้นไม่นานทั้งหมดก็ได้รับแจ้งว่า ตำรวจ จ.สระบุรี สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้วพร้อมรถยนต์ที่ขโมยไป และ ด.ญ.กอบลาภ เป็นผู้ชี้เบาะแส แจ้งให้ร้านค้าช่วยแจ้งตำรวจจับกุม
ด.ญ.กอบลาภ เทียมเมือง เปิดเผยนาทีระทึกขวัญว่า ขณะที่ติดรถที่คนร้ายไปนั้นรู้สึกกลัวมากเกรงคนร้ายรู้ว่าตนอยู่ด้านหลังแล้วจะทำอันตรายเมื่อมารดา โทร.หาจึงปิดเสียงแล้วใช้วิธีส่งแมสเสทแทน เมื่อคนร้ายขับรถเข้ามาจอด ในตัวเมืองสระบุรี ตนก็ไม่ทราบว่าที่ใด เมื่อคนร้ายปิดประตูลงจากรถไปแล้วตนจึงค่อยปีนป่ายจากด้านหลังมาด้านหน้าแล้วปลดล๊อกเปิดประตูรถลงมาร้องขอความช่วยเหลือร้านค้าบริเวณนั้นให้แจ้งตำรวจมาจับกุมคนร้ายได้ในที่สุดดังกล่าว
สอบสวนนายสัมพันธ์ องศ์ประยูร คนร้ายรายนี้ให้การว่าตนมากับเพื่อนอีก คนโดยจะพากันตระเวนหาเหยื่อ ที่จอดรถแล้วติดเครื่องทิ้งไว้หากสบโอกาสก็จะชิงรถหลบหนีทันที ขณะที่เพื่อนร่วมแก๊งส่งตนลงขโมยรถฟอร์จูนเนอร์ คันดังกล่าวนี้แล้ว หลังได้ทรัพย์สินจะนัดมาพบกันที่ บริเวณสถานีขนส่ง จ.สระบุรี ซึ่งตนได้จอดแวะซื้อเสื้อเปลี่ยนโดยตนไม่ทราบเลยว่า บนรถยังมี ด.ญ.กอบลาภ นอนหลับอยู่หลังรถ เป็นเหตุให้ตนต้องถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ ซึ่งต่อมาชุดจับกุมได้ทำทีให้นายสัมพันธ์ ขับรถฟอร์จูนเนอร์ที่ขโมยมาไปที่สถานีขนส่งสระบุรี เพื่อหวังล่อให้เพื่อนร่วมแก๊งออกมา แต่คนร้ายไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนแล้วซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป
http://mgr.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000086835
