Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

Small Room => ประชาสัมพันธ์/ข่าวสาร/บทความ/ข้อมูล/ความรู้ต่างๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: flyo ที่ สิงหาคม 30, 2017, 04:44:11 pm



Languages

หัวข้อ: มารู้จักประโยชน์จานเบรกรถยนต์แต่ละชนิด
เริ่มหัวข้อโดย: flyo ที่ สิงหาคม 30, 2017, 04:44:11 pm
การขับขี่รถยนต์นอกจากการดูแลภายนอก ภายใน และการเติมน้ำมันแล้ว การดูแลรักษา และรู้จักทำความเข้าใจในส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์มีความสำคัญไม่แพ้กัน วันนี้จะพาทุกท่านมาพบกับจานเบรกว่ามันมีกี่ชนิด และแต่ละชนิดมีประโยชน์อย่างไร สุดท้ายรถยนต์ของท่านเหมาะกับจานเบรกชนิดไหน

วันนี้ทางเว็บไซต์ ฟิล์มกรองแสงรถยนต์  3เอ็ม ออโต้ฟิล์ม คลับ (3M Auto Film Club) ก็มีความรู้เด็ดๆ มาฝากคนรักรถกับตอน "มารู้จักประโยชน์จานเบรกรถยนต์แต่ละชนิด !!!" หลังจากได้แนะนำเรื่อง "ของ 4 อย่างที่ไม่ควรเก็บเมื่อรถยนต์จอดตากแดด" ข้อดีของการเติมลมยางรถยนต์ด้วยไนโตรเจน ไปในตอนที่แล้ว

(http://www.3mautofilmclub.com/img_cms/image/mCar/%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%201.jpg)
1.จานเบรกแบบเรียบ (Smooth Brake Rotors)

จานเบรกที่พบในรถได้บ่อยที่สุดคือ จานเบรกแบบเรียบ ซึ่งรถยนต์ส่วนใหญ่ (รถบ้าน) มักจะได้รับการติดตั้งจานเบรกชนิดนี้มาแต่ตั้งโรงงาน ด้วยพื้นผิวที่เรียบทำให้มันมีพื้นผิวสัมผัสมากกว่าจานแบรกชนิดอื่น ๆ สามารถทนต่อแรงได้ดี และยังทนทานมากกว่าจานเบรกชนิดอื่นอีกด้วย
 
ในส่วนจุดด้อยแม้มันจะแข็งแรงทนทาน แต่ว่าการระบายความร้อนมักจะทำได้ไม่ดีเท่าจานเบรกชนิดอื่น และยังมีปัญหาเรื่องฝุ่นที่ไปเกาะผ้าเบรก เมื่อใช้งานไปนานๆ อาจจะต้องกดแรงเบรกมากกว่าปกติ สุดท้ายหากขับบนถนนเปียก หรือขับลุยน้ำ ประสิทธิภาพการทำงานของมันจะลดลง เพราะจะเกิดชั้นบางๆ จากละอองน้ำเกาะอยู่ระหว่างผ้าเบรกกับจานเบรก
 
(http://www.3mautofilmclub.com/img_cms/image/mCar/%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B9.jpg)
2.จานเบรกแบบเจาะรู (Drilled Brake Rotors)

จานเบรกแบบเจาะรู มักถูกใช้ในวงการรถแข่ง หรือรถยนต์ที่มีแรงม้าสูง ๆ  มันมีจุดเด่นคือสามารถระบายความร้อนได้ดีจากการเสียดสีของผ้าเบรก ซึ่งช่วยลดอาการเบรกไม่อยู่ ที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อผ้าเบรกร้อนจัด แถมยังช่วยลดปัญหาฝุ่นเกาะเกาะหน้าจานเบรก
 
จุดด้อย หรือจุดอ่อนของจานเบรกชนิดนี้คือ มันมักจะแตกร้าวได้ง่าย ซึ่งเกิดจากอุณหภูมิที่แตกต่างระหว่างบริเวณที่เจาะรู (เย็น) กับบริเวณที่ไม่ได้เจาะรู (ร้อน) จนทำให้จานเบรกเปลี่ยนรูป และเกิดรอยแตกร้าว แต่จานเบรกชนิดนี้ยังคงถูกติดตั้งในรถยนต์ที่สรรถนะสูง เพราะว่าแม้มันจะมีจุดด้อย แต่สามารถลดปัญหาด้วยเทคโนโลยี และวัสดุคุณภาพสูงในการผลิตจานเบรกชนิดนี้
 
(http://www.3mautofilmclub.com/img_cms/image/mCar/%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87.jpg)
3.จานเบรกแบบเซาะร่อง (Slotted Brake Rotors)

จานเบรกแบบเซาะร่อง ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในแบบเดียวกันกับจานเบรกแบบเจาะรู และมันถูกพัฒนามาจากจานเบรกแบบเจาะรู เมื่อถูกนำมาต่อยอดทำให้มันมีประสิทธิภาพได้เปรียบกว่า ในส่วนที่มีพื้นผิวสัมผัสมากกว่า จึงทำให้มันทนแรงเสียดทานได้มากกว่า และเบรกระยะสั้นๆ ได้ดีกว่า อีกทั้งมันยังลดปัญหาการเกิดรอยแตกร้าวที่มักจะเกิดขึ้นในจานเบรกแบบเจาะรู
 
เนื่องด้วยพื้นผิวสัมผัสที่มีมากจึงทำให้มันเสียดสีกับผ้าเบรกได้ดีขึ้น แต่ต้องแลกกับการสึกหรอของผ้าเบรกที่เร็วขึ้น หากนำมันมาใช้ในรถแข่งสมรรถนะสูง ที่ต้องใช้เบรกตลอดการแข่งขัน การสึกหรอจะค่อนข้างสูง ทำให้อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น
 
(http://www.3mautofilmclub.com/img_cms/image/mCar/%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%AA%E0%B8%A1%20(2).jpg)
4.จานเบรกแบบเจาะ+เซาะ (แบบผสม)

เรียกได้ว่าจานเบรกชนิดนี้คือ จานเบรกแบบผสม (เจาะ+เซาะ) เป็นการนำจุดเด่นจุดด้อยของจานเบรกทั้ง 2 ชนิดเข้ามาอยู่ด้วยกัน มันสามารถระบายฝุ่นจากจานเบรกได้อย่างรวดเร็ว จึงเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก พร้อมทั้งยังเบรกเสถียรมากขึ้น เหมาะกับรถแข่งทางเรียบ หรือแบบเซอร์กิต
 
แต่เมื่อจานเบรกแบบผสมชนิดนี้มีรู จึงทำให้เกิดการแตกร้าวจากอุณหภูมิที่แตกต่างกันคล้ายๆ กับจานเบรกแบบเจาะรู แต่ดีกว่า
 
ข้อมูลและรูปจาก 3mautofilmclub.com