Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

ติดต่อที่นี่ครับ

http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=24249.0

ลองปรึกษาศูนย์ติดตั้งแก๊สดูก่อนครับ เผื่อมีทางออกOk..

http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=24372.0

เอาใจช่วยครับ ขอให้แก้ไขได้ไวไว เบื้องต้น คงต้องสอบถามไปที่สำนักงานใหญ่ ว่ามีตัวแทนที่ ภูเก็ตบ้างหรือเปล่า แล้วให้ประสานงาน ตรวจสอบแก้ไข เบื้องต้นครับ  สาธุ เสียดายถ้าเข้ามาศึกษาในห้อง LPG ก่อน ปัญหานี้อาจไม่เกิดขึ้นครับ

 :) ป๋า Punpun มีอะไรแนะนำเบื้องต้นไหมครับ  :)

หลังไมค์  แบบดูแลเบื้องตื้น  เบื้องลึกไปแล้วครับป๋า payusine ตอนนี้คงขับน้ำมันเพลินไปแล้ว  เพราะหยุการใช้ระบบแก็สชั่วคราวก่อนครับป๋า    ล้างค่า LTFT ที่ Ecu แก็สทิ้งคราบความไม่สมบูรณ์ของการเผาไหม้ของระบบแก็สไปแล้ว  ตอนนี้ก็คือวิ่งระบบน้ำมันไปเที่ยวก่อนแล้วมังครับ    แต่พอเปิดเทอม Versus  เปิดโรงเรียน  ป๋าแกจะติดต่อที่สาขาใกล้ที่สุดโดยให้สำนักงานใหญ่แนะนำครับ

อย่างป๋าว่านะ   ถ้าเข้ามาเอาข้อมูลห้องแก็สเราก่อนน่าจะดีนะครับ   ยิ่งพวก V6 - 2 banks อย่าง Pa  เรานี่  ถ้าจะ Obd ก็ต้องแน่นกันพอควรเลย  ไม่งั้นเหนื่อยกันแน่   อยากจะแนะให้ปิด Obd ก่อน แล้วจูน Manual ให้จบแล้วขับให้ดีสักเดือนแล้วค่อยว่ากันใหม่เรื่อง Obd แต่ไม่อยากเข้าลึกเพราะมองไม่เห็น   นั่งเทียนอยู่บ้านอย่างเดียว   เด๋วสำนักงานใหญ่เขาคงจัดการดูแลให้ดีเองเนอะ

ตอนนี้คงทำได้แค่ขับปรกติด้วยระบบเดิมน้ำมันครับ   แต่ไม่เป็นไร 95 G ตอนนี้ประมาณ 30 บาท/ลิตร   ยังไหวครับ  เที่ยวให้สนุกนะครับป๋า Phuket  Ok.. Ok.. Ok..

 ป๋า Punpun ไม่นิ่งดูดาย อยู่แล้วครับ อิอิ  suadyod kiki

ัป๋า punpun มาแล้ว suadyod suadyod

ยังงัยจะมาแจ้งให้ทราบครับ

ขอเพิ่มเติมนิดนึงครับ  อย่าเพิ่งไปทำอะไรดูก่อนครับเรื่องระบบน้ำมันปรกติ  ขออธิบายเหตุที่กล่าวก่อนนะครับให้เห็นภาพรวมครับ

--- เมื่อ Ecu น้ำมันไม่มีไฟเลี้ยงสักระยะนึง  ค่า LTFT ใน P-Ecu มันจะกลายเป็น 0 ไปทุกย่าน Rpm.

--- เราจึงมักจะทำการ เดินเบารถยนต์ไม่เปิดแอร์สัก 5 นาที  เปิดแอร์สัก 5 นาที อยู่กับที่  เริ่มขับไปปรกติให้รวมระยะทางได้สักระยะนึง  และหากขับแบบเรื่อยเรื่อย  ก็กระจายความเร็วออกไปบ้าง  เช่น ขับช้าไปพักเริ่มเร็วขึ้นมาบ้าง ให้มีการปรับชดเชยของ P-ecu ในเรื่องเก็บค่า Trims ใหม่สะสม

--- และจะไม่ต้องทำเช่นนั้นเลยก็ได้  หากเรารู้สาเหตุที่อาการรถเราเหมือนจะอืดนิดนิดหรือเบาสั่นบ้าง  เราก็ขับแบบใช้งานปรกติไปเลย  แต่อาจต้องรวมระยะเวลาการขับหน่อย  เพราะ P-ecu จะมีโอกาศเก็บค่า Trims ที่เหมาะสมกับสภาวะของเครื่องยนต์ใหม่  หลังจากมากพอแล้วอาการของรถเราก็จะกลับมาวิ่งฉิวเหมือนเดิมครับ

อ๋อเหมือนตอนออกรถใหม่ คู่มือเขียนว่า เกียร์จะเรียนรู้การขับขี่จากผู้ขับขี่ ดังนั้นตอนแรก จะมีกระตุกบ้างเปลี่ยนเกียร์ช้าบ้างเร็วบ้างซักระยะนึง
ใช่ไม๊ ครับ ป๋า punpun

เรื่องเกียร์ (Learnng Gear Transmission) นั้นผมไม่ทราบครับป๋า  แต่เรื่องยกขั้วแบทมากกว่าประมาณ 20 นาที นี่ Ecu น้ำมันในส่วนการปรับชดเชยน้ำมันเพื่อทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์อยู่ทุกเวลานั้นมันเป็นแบบนั้น  คือรถ Pajero   V6 เรานั้นมีโครงสร้างที่แบ่งเป็ย 2 ซีก (2 Banks)  จุดนี้เอง มันจึงมี Oxygen Sensors 2 ชุด (ชุดละ 2 ตัว บน,ล่าง)  และระบบ ECu แก็สที่ทำงานร่วมกับ Obd นี่ บางค่ายก็เป็นแบบ Mono คือจ่าย L+R เท่ากัน ตลอด แต่พวกบางแบบเช่น AC Premium มันมีรูปแบบการ set ให้ปรับจูนละเอียด 2 Banks ได้อีกด้วย  และการทำ Obd Adaptive หรือ ปรับแบบ Auto ให้ตลอดเวลา มันยังมีการเอาค่า LTFT ของ 2 Banks มาจัดการแบบ Stereo อีกด้วย (นอกเรื่องมาไกล)

-- ค่า Trims มี 2 รูปแบบในรถเรา
1. STFT  -- จะไม่เก็บคงไว้ใน ECU
2. LTFT  -- จะคงเก็บไว้ใน ECU และค่านี้หากหายไปจากการขาดไฟเลี้ยง ECU (ประมาณเวลาสักระยะ ไม่รู้เวลาที่แน่นอน) มันจะกลายเป็น 0 ไปทั้งหมด

เมื่อเราใช้ระบบแก็ส  แล้วระบบแก็สที่ไม่สมบูรณ์  Ecu น้ำมัน  มันไม่รู้มันก็คิดว่าตัวมันเอง มันก็ปรับค่า Trims ไปเรื่อย จนตัวเลขเยอะมากขึ้นหรือ ติดลบมากขึ้น จนสะเปะสะปะไปหมดจนค่าที่ได้มาทำการชดเชยมากหรือน้อยเกินกว่าจุดอนุดลมได้  มันโชว์ Engine มาเลย   เมื่อเราไม่ได้ใช้เครื่องมือในการลบ Code เราก็หมดหนทาง  มันมีทางเลือกอีกทางแบบเราเราไม่ใช่ช่าง

-- หยุดการทำงานของ eCu แก็สทั้งระบบได้ก็ดี   แล้วใช้ระบบน้ำมันปรกติ  แต่หากไฟ Engine ยังคงคาอยู่ (ด้วยเหตุ หนา บาง แก็ส  ไม่รวมเพราะเหตุอื่น)
-- วิ่งน้ำมันเหมือนรถปรกติ   เมื่อ ECU น้ำมันมันได้ค่าจาก Ox. Sensor แล้วมาประมวล มันพยว่า  อืมเผาไหม้พอได้ดี  มันก็เริ่มปรับค่า Trims ตาม Step ของมันไปเรื่อย จนเข้าสู่สภาวะปรกติ   เมื่อข้อมูลที่เผาไหม้สมบูรณ์ดี  ค่า Trim โดยรวมก็จะลดน้อยลงเหมือนยามใช้น้ำมันปรกติ   เมื่อ ECU ได้เอาข้อมูลที่ Ok เข้ามาเรื่อยจนดันข้อมูลเน่าเก่าออกหมด   มันก็จะดับไฟ Engine ลงไป   วิธีนี้ต้องใช้เวลาระยะนึง  ระบุไม่ได้ แล้วแต่เขา Designed มา

-- แต่ถ้าเราไม่มีทางอื่นเราก็มักจะใช้วิธียกขั้วแบท  แต่มันย่อมมีผลกับ ECU และระบบทุกอย่างที่ต้องการมีไฟเลี้ยงในส่วน Memory ทั้งหมด  เราก้ต้องมาไล่ตั้งกันใหม่ เช่น วิทยุ นาลิกา  แต่ก็อย่าลืมว่า เขาก็ Designed รองรับการเสียไฟเลี้ยงนี้มาแล้ว เช่น การเปลี่ยนแบท   แบทพัง  การยกขั้วเพื่อการ Service ในบางรูปแบบ

-- แต่กลับมาที่ ECu แก็สประเภท Obd Adaptive ในส่วนของ LTFT ( LTGT) ของมันเองนั้นบางแบบก็คงไว้ไม่ว่าจะสูญเสียไฟเลี้ยงไปหรือไม่ เช่น AC Premium
-- และรถ Pa  V6  เราหากเราใช้รถไปสักระบยะนึง 50000 Km Up   เราอาจจะเห็นว่าค่า LTFT 2 Banks นั้นมันมีค่าห่างกันมากขึ้นโดยเฉพาะ Bank2 จะสังเกตได้  แต่หากเราใช้น้ำมันตลอด  เราก็จะไม่รู้สึกอะไร  เพราะมันเป็นการปรับแบบ Individual Bank ให้เราอยู่แล้ว มันก็ Balance ออกมาดี   แต่หาก Ecu แก็สพวก Mono  ไม่สนเรื่องนี้ จ่ายเท่ากัน  2 Banks ตลอดเวลา  ผมว่ามันน่าจะต่างกันตรงนี้นิดนึงนะ
ตรงนี้แหละมัง  ที่ Ecu แก็สประเภท Obd หากไม่ Concern เครื่องประเภท V Engine จะไม่ละเอียดซับซ้อนพอ 

-- ยกตัวอย่างรถผมตอนนี้ใช้ Premium OBD และ รถผม 2 banks ก็เริ่มไม่เท่ากันมากขึ้นแล้ว แต่พอผมปรับระยะเวลาการฉีดของ Bank 2  เพิ่มอีก 12% ผมพบว่ารถผมมีพลังเพิ่มกลับมากัดกับระบบน้ำมันปรกติได้เลย  แต่ผมก็จะเจอปัญหาเรื่องการปรับระบบกลับมาใช้น้ำมันในบางครั้งเมื่อแก็สหมด   แต่ก็มีวิธีการเข้าไป Set เงื่อนไขการทำงานของ OBD ให้ค่า LTFT ตอนกลับมาน้ำมัน เข้าสู่ตัวเลข Trims ที่ใกล้เคียงกันได้  แต่ไม่ได้กลับมาที่ 0 เพราะถ้ากลับมาที่ 0 รถน้ำมันผมก็จะตื้อไปพักใหญ่แน่  เลยต้อง Set ให้กลับมาใกล้กลับระบบน้ำมันเดิมมากที่สุดมันก็จะ หวานแหววทีเดียว  และจุดนี้หากมีการ Set แบบไม่เข้าใจลึก โอกาศที่จะล้มเหลวจนไฟ Engine โชว์ยิ่งมีมาก  และหากเป็น Mono ด้วย ก็ยิ่งมากไปอีก  เรื่อง Trims เหล่านี้มักจะเป็นปัญหาให้พวก Obd ทั้งหลายมึนกันมากและบางครั้งก็โชว์ไฟ Engine   จนมีคนพูดแบบกำปั้นทุบดินหลายคนว่า   OBd  ADT เปิดใช้มีปัญหา  และอะิบายกันไม่ได้   มันยุบยิบไปหมด  นั่นคือเหตุที่ ISA2300 ถูกใช้งานใน Pa V6 เรามาก เพราะ Simply the best   แต่ผมเป็นคนละเอียดออ่น  เล่นของยากได้ ก็เลยมีความสุขกับ AC Premium ได้มันส์ และหวานแหวว ครับ


***ผมหลุดไหลมาไกลจนกลับไม่ถูกแล้วครับป๋า  จบแค่นี้ก่อนเลย ****  หลงทางมาไกล


--

บางรุ่นอาจจะไม่แค่ถอดแบตออก อาจจะต้องมี procedure initialize ระบบใหม่ ด้วย.......ส่วนเกียร์ก็มี ecu คุมเกียร์ อย่างในคู่มือบอกจะมีช่วง Adaptive (Auto Apadtive) ตามนั้น

เอาใจช่วยนะครับ เสียดายน่าจะมาปรึกษาในบอร์ดก่อนติดแก๊ส เพราะน้องปาเราติดแก๊สได้ดี แต่ต้องเลือกยี่ห้อกับร้านหน่อยครับ

ป๋าพันข้อมูลแน่นมาก อ่านแล้วแบบว่างงงมาก

สรุปรถวิ่งน้ำมันปรกติ ผ้ารองพื้นหนาไปเอาออกไป1ชั้น เหลือชั้นเดียว เสียบกล่องคอนเซ้าท์ปรกติครับ

Versus Thailand สำนักงานใหญ่ ควรให้ความช่วยเหลือประสานงานกับศูนย์ที่ภูเก็ตถึงวิธีแก้ไขนะครับ
ไม่ใช่ให้ลูกค้าวิ่งไปมา กทม ภูเก็ต แล้วถ้าไปแล้วยังไม่จบอีกจะทำยังไง

หายไวๆนะครับ ต้องเข้า กทมอีก

ป๋าทาง 0 ที่ป๋าซื้อมาเขารับประกันเครื่องยนต์ จาการติดแก็สโดยอู่ในเครื่อเขาหรือไม่ครับ   เป็นการติดตั้งแก็สให้จาก 0 ที่เราซื้อใช่ไหมครับ    แต่ยังไงพอจบเรื่องที่ 0 Mitsu และ Versus แล้ว  ป๋าตรวจกับทาง Versus เขาเลย  หลังจากนี้ไปเรากลับ ภูเก็ดแล้ว  ต่อไปมี 0 Versus ที่ใกล้และมาตรฐานดีที่ตรงไหนบ้างในระยะที่ใกล้กว่าครับ      แต่ถ้า 0 Mitsu ไม่สามารถแก้ให้เราจบเรื่องนี้ได้  การขอคืนเงินจากการถอดคืนไปสู่ระบบน้ำมันเดิมอย่างเดียวหากทำได้   แล้วเราได้เงินคืนใน % ที่ไม่น้อยกว่า 70 %  ผมว่าคว้าโอกาสนั้นไว้ครับ  แต่ยังไงรถเรา 0 Mitsu ก็ไม่ควรมีค่าใช้จ่ายเรื่องการดูแลเครื่องยนต์เราให้วิ่งน้ำมันแบบปรกติได้นะครับ     เขาจะต้องไม่ปฎิเสธเรื่องความเสียหายที่มีต่อเครื่องยนต์โดยการติดแก็สจาก Co ของเขาเองด้วย   ยกตัวอย่างหากเขาพบว่า Air Flow พัง  0 Mitsu นั้นก็ต้องจัดให้เรา  ส่วนจะไปเก็ยตังค์ Versus ก็ไปเก็บกันเองนะครับ   ไม่อยากไปรื้อกระทู้ที่ทำให้ Brand เขาเสียหายออกมาเลย  มันจมไปอยู่ก้นห้องแก้สเราลึกแล้ว    เอาและ Punpun ของจะขึ้นอีกแล้ว   ^-^ ^-^ ^-^  พอก่อน...

ลองเข้่า 0 ภูเกตดูก่อนไหมครับ

ขอแจมถามนิดครับ  เพื่อดึงให้สมาชิกเห็นภาพกันหน่อย...

-- ตอนติดแก็สมาครั้งแรกที่รถมาถึง Phuket โดย รถไสลด์   หลังจากนั้นเราก็ลองใช้งานทั้งวิ่งน้ำมันและแก็สถุกไหมครับ
-- และตอนรถเราไม่มีปัญหาไฟ Engine โชว์ก่อนหน้านี้  ขับน้ำมันก็แรงดีไม่มีอาการที่กล่าวมาก่อน  ถูกไหมครับ
-- และตอนก่อนหน้า  เราก็รู้สึกได้ว่ารถแก็สก็ขับไม่ต่างจากระบบน้ำมันคือแรงดีพอพอกัน ถูกไหมครับ
-- ตกลงคือการขับด้วยน้ำมันเมื่อก่อนนี้   ยังมีแรงดีไม่เหมือนตอนนี้ ถูกไหมครับ
-- และเราก็เคยขับน้ำมันได้ดีและเร็วกว่าและแรงกว่า  ที่เป็นอยู่ปัจจุบัน  หรือว่า  เราไม่เคยลองขับน้ำมันแบบนั้นมาก่อนครับ

สรุปหากว่าเรามั่นใจว่าระบบน้ำมันที่เราเคยขับ  มันดีกว่าปัจจุบันนี้แน่นอน เห็นความต่างได้อย่างชัดเจน  จากความรู้สึกที่เคยขับ   แต่ช่างที่ 0 2 แห่ง ก็ยืนยันว่ารถเราปรกติดีทุกอย่างเสียด้วย   อันนี้ถ้าอยู้ใกล้จะเอารถไปเทียบลองให้เลยครับ  แหมมันยากเนอะ  เอ้า ปา V6 คันไหนของพวกเราอยู่ภูเก็ต  และใกล้พอมาลองสลับขับกันสัก 10 Km. หน่อยสิ...

แล้วตอนนี้ขับน้ำมันตลอดเวลา   ก็ไม่ม่อาการเรื่องไฟ Engine โชว์หรืออย่างอื่น  นอกจากตอนกดเร็วอย่างที่กล่าวใช่ไหมครับ

แล้วตกลงเราจะทำยังไงต่อดีครับ  ผมว่าแยกเรื่องระบบแก็สออกไปก่อนเลยดีไหม  เพราะไม่มีการทำงานของระบบแก็สแล้ว  และช่าง Mitsu ก็วิเคราะห์ว่าเครื่องยนต์ปรกติดีสะด้วย   แต่การติดระบบแก็สแบบเรานั้น  จะต้องมีการตัดต่อสายไฟ Ground ของหัวฉีดน้ำมัน มาเข้ากล่อง ecu ของแก็ส  และหากระบบแก็สไม่ถูกใช้งาน  ก็จะ Bypass มันมาที่ Ecu น้ำมันแบบปรกติ   แต่ช่าง Mitsu ก็ไม่เห็นบอกว่ามีอะไรผิดปรกติเกี่ยวกับการจ่ายน้ำมัน  หรือมี code ที่ขึ้นจากการจ่ายหนาบางเกินไปของ ecu น้ำมันเลย   เราก็ไม่สามารถสงสัยในเรื่องความเรียบร้อยของการตัดต่อได้เลยตรงนี้    ในท้ายสุดผมเข้าใจว่า  ป๋า Bird คงจะเอาขึ้นรถไสลด์ไป 0 ที่ซื้อมาละมังครับ   กรณีนี้หากเราไม่สามารถหาเหตุเรื่องนี้ออกมาได้จาก Mitsu ละก็    เราจะคุยกับ Versus ได้ยากขึ้นเลยครับ    เพราะหากระบบน้ำมันเราไม่สามารถวิ่งปรกติอย่างที่เคยเป็นได้     Versus ก็จะบอกว่าถ้าวิ่งน้ำมันโดยไม่เกี่ยวกับแก็สไม่ผ่าน   ระบบแก็สก็ขอรอจนกว่าระบบน้ำมันเราจะเจอปัญหาว่า    อะไรที่เป็นปัญหาแม้วิ่งด้วยน้ำมัน  และ Mitsu ก็ไม่สามารถระบุได้   Versus ก็คงรอดตัวไปก่อนได้

แต่หากเราและ Mitsu พิสูจน์พบว่า  รถเรามีปัญหาที่จุดนั้นนั้น  และเราและ mitsu สามารถวิเคราะห์ออกมาได้ว่ามันเสียหายจากระบบแก็สเข้ามาพัวพัน   ถึงจุดนั้นเราถึงกลับมาคุยกับ Versus ได้อีกรูปแบบก็ว่ากันไปมังครับ   ถ้ารถมันวิ่งไม่ปรกติตามนั้น  ผมว่ายังไง Mitsu ก็ต้องฟันธงให้ได้ว่า  มันเกิดอะไรขึ้น  กรณีนี้เราไม่เอาเรื่องประกันเครื่องยนต์ที่หายไปมาคุยกันก่อนครับ   เราแก้ตรงไปที่ปัญหา  ถ้าพบเจอเหตุเมื่อไรว่าอะไรท่เสียหาย  ถึงตอนนั้นเราค่อยมาว่ากันเรื่องใครรับผิดชอบ   แต่อย่าเข้าใจว่า   หากรถเราติดแก็สแล้วประกันตัวเครื่องยนต์จะหลุดการคุ้มครองโดย Mitsu แบบเข้าใจผิดกันนะครับ   เพราะหากรถไม่ปรกติ  ไม่ว่าประกันจะยังคงอยู่หรือไม่  Mitsu เขาก็ต้องหาจุดและแก้ไขให้ได้   ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างที่บอกแยกประเด็นออกไป   แต่ 0 Mitsu ไหนก็ตาม หากปฏิเสธการซ่อมเพราะเรื่องประกันเครื่องยนต์ขาด  0 Mitsu นั้นจะเจอ 0 Mitsu ใหญ่เล่นงานแน่แน่   เพราะมันคนละประเด็นกัน  ซ่อมเองจ่ายเองก็ได้  แต่คงไม่มีการพูดจาก 0 ว่า ไม่รับซ่อมหรือค้นหาเหตุแน่แน่ ผมว่า  แค่ 0 ที่บอกว่าให้กลับไปที่ซื้อมา   นี่ก็น่าจะมีความผิดในหลายทางแล้วนะครับ   แต่หากพูดว่าไม่พบอาการเสียหายใดใด   ก็ยังพอจะคุยกันต่อได้  แต่ในกรณีนี้ผมไม่ได้ว่า 0 ทั้ง 2  นะครับ   เขาอาจจะให้เราเลือกแต่ไม่ได้ปฎิเสธ

สรุปอีกทีนะครับ   หากเราไม่เจอปัญหาที่ทำให้รถน้ำมันเราวิ่งอืดได้    เราก็ไม่สามารถที่จะ  โทษอะไรกับระบบแก็ส  หรือแม้แต่ให้เขาแก้ไขอะไรได้เลย  เพราะคำถามแรกของระบบแก็สก็จะถามว่า   วิ่งน้ำมันแล้วปรกติไหม  ถ้าไม่ปรกติหาเหตุเจอไหม  หากไม่ เราไปต่อไม่ถูกเลย

ต้องขอโทษ เจ้าของกระทู้นิดนะครับ  ที่มาแจมมาคุยอะไรแบบนี้  เจตนาก็ไม่มีอะไรนอกจากอยากช่วยและเอาใจช่วยกันครับ  ยังไงก็ Update กันมาได้เรื่อยเรื่อยนะครับ  ตรงไหนผมพูดมากไป ละเมิดสิทธิ์ไปบ้าง ก็ขอโทษนะครับ  ยังเอาใจช่วยและตามดูอยู่ครับ

น่าจะลองให้ ศูนย์ Initialize ระบบ injectorของน้ำมัน ก่อนครับ lerning ใหม่หมด ทั้ง
แป้นคันเร่ง ปีกผีเสื้อ เกียร์  ....…ถ้าศูนย์มีเครื่อง consult ก็ต้องทำเป็นครับ.....เอาระบบแก้สออกก่อนด้วยครับ(หวังว่าทำมาเป็นแบบ plug and play)  สายที่ต่อเข้า obd gas ไฟเลี้ยง ecu gas

-- ตอนติดแก็สมาครั้งแรกที่รถมาถึง Phuket โดย รถไสลด์   หลังจากนั้นเราก็ลองใช้งานทั้งวิ่งน้ำมันและแก็สถุกไหมครับ
ตอบ : ใช่ครับ โดยขับครั้งแรกก็รู้สึกถึงความอืดเร่งไม่ออกเลยครับทั้งน้ำมัน ทั้งแก็ส

-- และตอนรถเราไม่มีปัญหาไฟ Engine โชว์ก่อนหน้านี้  ขับน้ำมันก็แรงดีไม่มีอาการที่กล่าวมาก่อน  ถูกไหมครับ
ตอบ : ขับน้ำมันก็ไม่มีแรงเลยครับ ขับแก็สความรู้สึกรถไหลลื่นขึ้นมาหน่อย แต่พอขับไปสักพัก (ระยะเวลาภายในวันเดียวคือวันแรกเลย) ขับแก็สอยู่มีเสียงดัง ต๊อกๆๆๆๆๆ เลยหยุดรถ แล้วลองกดปุ่มสับไปขับน้ำมัน เสียงก็เงียบไป ลองดับเครื่องสตาร์ทใหม่สับไปใช้แก็สอีกครั้ง สักพักเสียงก็ดังขึ้นมาอีกทีนี้ไฟเอ็นจิ้นโชว์เลยครับ ก็เลยรีบขับน้ำมันมาจอดที่บ้าน ได้ป๋าปันปันแนะนำให้ถอดแบตเครียร์ไฟเอ็นจิ้นนั่นแหละครับค่อยกล้าขับหน่อย
ส่วนเรื่องที่มีเสียง ดังต๊อกๆๆๆๆๆทางversusภูเก็ตติดต่อไปยังศูนย์กรุงเทพ ตอนแรกก็แจ้งว่ามันเป็นหัวฉีดแยกเดี่ยว ไม่ใช่แบบรางที่มีเพลทยึด จึงโอกาศไปกระทบกับท่อร่วมไอดี หรืออะไรบริเวณนั้น ทำให้มีเสียงดัง ทางช่างจึงทำการรัดเคเบิ้ลไท้หัวฉีดเดี่ยวไม่ให้ดิ้นไปเคาะกับอะไรอีก สรุปสบายใจได้แป็บเดียวขับกลับมาบ้านประมาณ10กม.ก็ดังอีก ก็กลับไปใหม่ ทางช่างก็โทรไปยังศูนย์กรุงเทพอีกครั้ง วิเคราะห์อาการว่าน่าจะน๊อตรูทองเหลืองในหัวฉีดหลุด โดยช่างได้เอาหัวฉีดแบบเดียวกับที่อยู่ในรถผมมาให้ดูและอธิบาย (ดูตัวอย่างตามรูปประกอบน๊ะครับ แต่ไม่ใช้หัวฉีดตัวนี้ครับ หารูปมาให้ดูว่าเป็นน็อตอะไรที่หลุด) ดังนั้นต้องจอดรถไว้ต้องใช้เวลารื้อเช็คใหม่ และจะเดินสายไฟระบบ OBD ให้ด้วยเพราะทางกรุงเทพไม่ได้ติดตั้งมาให้ แต่ในใบจองมีระบุไว้ ผมเลยมาคิดดูว่าเอาไปทำที่กรุงเทพจะดีกว่า เพราะว่าช่างเค้าเคยติดแต่4สูบไป3คันเอง 6สูบยังไม่เคยติดเลย เลยบอกช่างว่าจะไปกรุงเทพพอดียอมขี่น้ำมันไปทำที่ติดตั้งมาจะดีกว่าส่วนที่นี่เอาไว้เช็คตามระยะก็พอครับ

-- และตอนก่อนหน้า  เราก็รู้สึกได้ว่ารถแก็สก็ขับไม่ต่างจากระบบน้ำมันคือแรงดีพอพอกัน ถูกไหมครับ
ตอบ : ตอนขับครั้งแรกน้ำมันก็ไม่มีแรง แก็สดูจะขับลื่นกว่านิดนึงครับ

-- ตกลงคือการขับด้วยน้ำมันเมื่อก่อนนี้   ยังมีแรงดีไม่เหมือนตอนนี้ ถูกไหมครับ
ตอบ : ตอนแรก กับตอนนี้ขับน้ำมันก็ไม่มีแรงเหมือนกันเลยครับ จับรถครั้งแรกตกใจเลยครับว่าทำไมรถอืด เร่งแซงไม่ขึ้น ขับขึ้นทางชันคิ๊กดาวน์ตลอดทาง คิ๊กดาวน์ติดบ้าง ไม่ติดบ้างช่วงที่ไม่ติดนี่รถแทบจะจอดถอยหลังเลยครับ เซงมาก ขับเหนื่อยจริงๆครับ (ภูเก็ต ภูเขาเยอะครับ)

-- และเราก็เคยขับน้ำมันได้ดีและเร็วกว่าและแรงกว่า  ที่เป็นอยู่ปัจจุบัน  หรือว่า  เราไม่เคยลองขับน้ำมันแบบนั้นมาก่อนครับ
ตอบ : ผมไม่ได้ขับลองรถก่อนไปติดแก็สเลยครับแต่ให้ทางเซล์รับรถให้ และเอาไปติดแก็สให้ครับ เลยไม่รู้อาการว่าวี6เดิมๆ ขับน้ำมันวิ่งกันยังงัยครับ ตอนนี้ก็โพสน์ในกลุ่มภูเก็ตในเว็บนี้ ว่าให้ช่วยมาลองขับรถผมหน่อยว่ารถผมวิ่งเหมือนรถที่ท่านใช้อยู่รึป่าว เพราะผมไม่ทราบอาการรถเดิมเลยครับ

ผมติดต่อทางเซล์ไปแล้วครับ ที่0มิตซูรีพลับบริคปทุมธานี มีวี6 อยู่1คัน ผมจะไปเทสไดร์รถเดิมๆดูครับ ผมไปวันที่ 9 มค. นี้ครับ สรุปตามที่ป๋าปันปันว่ามาครับ ไปจบที่0รถวิ่งน้ำมันให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยมาแก๊สVersus ถ้าน้ำมันจบ แก๊สไม่จบ หงษ์ทองคำตอบสุดท้ายเลยครับ แต่ยังไม่มีท่านใดตอบกลับมาเลยครับ

ปล.ผมขับรถฟอร์จูนเนอร์3.0  4WD มา2คันเกือบ8ปี (เปลี่ยนทุก4ปี) แตะคันเร่งนิดเดียวรถเดินในรอบต่ำไปสบายเลยครับ ทั้งทางเรียบ ทางเขา เลยไม่คุันไม่ชินกับเครื่องเบนซินครับ ด้วยความที่คิดเองเออเองว่าเป็นมิตซูเครื่องแรงไม่ต้องพูดถึงยิ่งวี6ต้องวิ่งจี๊ดอยู่แล้วเลยไม่ลองขับ ดูแค่ออฟชั่น และต้องการเปลี่ยนรถค่ายอื่นบ้าง เพราะไปออกรถพร้อมกับภรรยาเค้าก็ออกฟอร์จูนเนอร์ Desel 2.5 ถ้าออกมาอีกคงขับเหมือนกันและผมก็คงต้องขับอะไรเดิมๆไปอีก4ปีรวม12ปีเลยที่เดียว นี่เลยเป็นคำตอบที่ผมหันมาหาน้องปาครับ
โดยรวมแล้ว ปาเจโร่ดีกว่ามากครับถูกใจผมทุกอย่าง มีเรื่องเครื่องอย่างเดียวที่มีปัญหานี่แหละครับ นี่ถ้าแก้ไขหายแล้วกลับมาวิ่งจี๊ดจ๊าดน๊ะผมรักน้องปาตายเลยครับ

ป๋าคับ code alarm ที่ให้มามันฟ้องว่าชุดหัวฉีดด้านขวาเครื่อง ตัวที่1 3 5 ทำงานไม่สมดุลกับอากาศไอดี ต้องลองไล่ดูชุดปลั้กไฟหัวฉีด sensorแอร์โฟล sensor ฝั่งไอดี ที่ท่อดำๆ กับสายไฟแก็สที่ดึงสัญญาณการฉีดน้ำมันมาว่าต่อสายสลับหัวฉีดมั้ย

ผมละสงสัยทำไมช่างถึงบอกว่ารถปรกติดี   เสียงต็อก ต็อก นั่นเสียงเหมือนใครเอาค้อนมาเคาะเสื้อสูบเครื่องยนต์ไหมครับ ?
ผมถามนิดนะครับ ถ้าเอารถกลับไปท่ 0 เดิมกรุงเทพ  จะเอาไปยังไง  ป๋าอาจจะ Plan ว่าขับน้ำมันไป   ผมถามนิดนะว่ารถไสลด์เอาไปแทนการขับของเรา  ค่าใช้จ่ายจะหนักมากไหมครับ   หากพอพอกันหรือไม่มากเกินไป   ผมว่านะ  ใส่รถสไลด์แล้วเราตามไปที่นั่นดีกว่า   เสียวจริงจริง   อีกอย่างกลัวว่าเกิดรถมีปัญหากลางทางด้วย  ป๋าไม่ได้ขับผ่านบ้านผม  ผมจะเอาข้าวห่อไปฝากก็ไม่ได้ด้วย   และเราก็อาจเรียกรถไสลด์อีกรอบซึ่งจะลำบากมากกว่าไสลด์ไปจาก Phuket เลย  และหากมีความเสียหายเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์เด๋วมันอาการจะหนักเกินเยียวยาไปใหญ่   ป๋าพอมองภาพท่ผมห่วงชัดไหมเอ่ย    เพราะเรากำลังเอารถกลับไปวิเคราะห์  หากมันอยู่ในอาการที่เรียกว่ารอดูอาการแบบนี้  ป๋าว่าน่าจะไสลด์ไปดีไหมครับ   กันไว้ดีกว่านิดตรงนี้ดีไหมเอ่ย .... อีกอย่างถ้าป๋าไปกับครอบครัวด้วยจะลำบากกันใหญ่เกิดมันมีอาการสมมุติว่า  ดับแถวประจวบ  เราไม่วางแผนรองรับไว้ด้วย  เด๋วจะหิวข้าวหิวน้ำกันใหญ่   eie eie eie

 ทนไม่ได้
ถ้าในกรณีที่ป๋าโดมกล่าวมา  ผมว่าก็น่าสนใจมากเลย     ป๋าว่าเราน่าจะลองแบบนี้อีกรอบไหม  คือ

-- กลับไป 0 Versus ที่ใกล้บ้านนั้น (Phuket)  แล้วขอคุยกับสำนักงานใหญ่ Ver. ดูว่า  หากเราขอให้ทางเขาจัดการที่ร้าน Versus นี้โดยการขอให้ช่างของเขาทำการเอาชุดสายไฟที่มีการตัดต่อเอาสัญญานหัวฉีดน้ำมันออกแล้วเอาต่อกลับเข้าไปที่เดิม  ของรถปรกติ  โดยทั่วไปจะมีการเอาสาย Ground ของหัวฉีดน้ำมัน 6 หัวของเรถเราไปเข้ากล่อง Ecu แก็สของ versus   หากการเอากลับต่อกลับคืนที่เดิม  ซึ่งไม่น่าจะผิดพลาดในการเอากลับต่อเข้าที่เดิม    เราก็จะตัดปัญหาว่ามีการต่อเอาสัญญานจากหัวฉีดเราเข้าไปในกล่องแก็สแบบไม่ถูกตาม diagram   แล้วเราปิดวาวล์ถัง  ถอดไฟเลี้ยงระบบซึ่งอาจจจถอดออกแล้ว  แล้วทำการติดเครื่องด้วยระบบน้ำมันปรกติ   แล้วป๋าดูใหม่หากเปลี่ยแปลงไปดีแบบหน้ามือหลังมือเลย    ก็ทำการบันทึกทุกกรณีที่เกิดขึ้นแล้วลุยกับ versus ได้เลย

การทำแบบนั้นผมว่า  จะตัดเรื่องการตัดต่อสัยานหัวฉีดเอาเข้าไปใช้แบบผิดพลาดได้ และการทำแบบนั้นก็ไม่ได้ยากอะไรมากสำหรับช่างของ Versus  ไม่น่าจะกี่นาทีด้วยถ้าไม่ซับซ้อนลึกลับ   อันนี้เป็นวิจารณญานของป๋ากับ Versus ว่าจะเห็นชอบด้วยหรือไม่   หาก Ok .. ตามนั้นป๋าลองขั่งน้ำหนักดูนะ   น่าจะเป็นจุดที่ ECU~ Versus กับรถเรา มีรอยต่อซึ่งกันและกันอยู่จุดเดียวตรงนี้   หากระบบรถเรายังมีการเชื่อมต่อสายไฟชุดนี้อยู่  ถึงแม้ว่ามีการถอดไฟเลี้ยงระบบแก็สแล้ว   วงจรของการใช้ Ground ของหัวฉีดก็ยังทำงานครบวงจรผ่าน ECU Versus อยู่ใน Bypass Mode อยู่  ป๋าลองคุยกับ versus กท. ดูก่อนไหม  เพราะกรณีที่ป๋าโดม commentมาน่าสนใจทีเดียว และไม่มีอัตราเสี่ยงหากการต่อสายไฟกลับไม่ผิดพลาด

รถ v6 เรา  Cylinders Numbering เป็นแบบไหน  Versus ที่ติดเข้าใจตรงกันหรือไม่ก็น่าสงสัยทีเดียว  ของเราน่าจะเป็นแบบ Bank 1 = 135  Bank 2 = 246  

และหากต่อกลับคืนแล้ว  ถ้าป๋าลองติดเครื่อง หรือวิ่งด้วยแล้ว  มันไม่มีเสียงเขก เสียงเคาะอะไร ดูการขับเปลี่ยนไปดีกว่าเดิมไหม  ป๋าคงตอบได้เด๋วนั้นเลยผมว่า  

แต่ขั้นตอนนี้เป็นทางเลือกของป๋ากับ Versus ที่จะลงมติกันเองนะครับ   มานั่งนึกนอนจิตนาการดูตามข้อมูลที่ป๋า domeให้มา   ก็มองหาจุดที่มีการเชื่อมต่อระหว่างรถเรากับ VERSUS ecu มันก็ยังคงเหลือจุดนี้ก็คือ Ground ของหัวฉีดรถเรายังพัวพันอยู่ใน ECu นี่แหละครับถึงแม้ไม่มไฟเลี้ยงระบบก็ตาม   ขอบคุณป๋าโดมที่แชร์มาครับและข้อมูล  ...

ส่วนเรื่อง mivec ยกองศา cam ที่กี่รอบดู ใต้ชื่อ Punpun ครับ  อิ...

ในระหว่างรอก็เอา Wiring Scheme 6 Cylinders ของ Versus มาดูกันประกอบให้สมาชิกที่ลุ้นกันอยุ่เห็นภาพ  ว่าเราตอนนี้อยู่ที่ Stage ไหนกันแล้ว  จากรูปที่เห็นเป็นกรรไกรตัดอันจิ๋วนั่นแหละ  ที่เรากำลังจะพิจารณาไล่หากันอยู่   ตอนนี้ป๋า Bird เรากำลังเจรจากับ Versus 0 ใหญปรึกษาดูว่า  หากมีการตรวจเช็คตรงนี้ให้ได้เลยที่ versus Phuket ได้เลยไหม  หากได้ไม่ได้ยังไง  ป๋า Bird จะกลับมา Update ให้เราฟัง    ถ้า 0   Versus ใหญ่อยู่ใกล้บ้านเราก็ไปหาเขาแล้ว  แต่เพราะมันเป็น 1000 km.  เราเลยเลือกที่พอจะทำได้โดยให้เขา Monitor อยู่ด้วย  จะได้ปลอดภัยทั้งในเรื่องเทคนิคและความรับผิดชอบด้วยเลย   ไม่อยากให้ป๋าแกขับต่อไปด้วยน้ำมันไป กท.  เพราะเราไม่รู้จริงจริงว่ามันจะแย่ไปใหญ่จากการเดินทางหรือไม่  เด๋วถ้าจะต้องไปจริงจะยุให้ไสลด์ไปดีกว่า  ไหนไหนก็ไหนไหนแล้ว  หวังว่าคงได้รับความร่วมมือจาก Versus นะครับ

แต่ยังขาดการถ่ายทอดสดส่งตรงจาก Phuket รอสักคู่ขอตัดเข้าโคสนาแป๊บนึง  ... Ok..
เอาใจช่วยหรือใครมีความเห้นจะแชร์พูดคุยก็แชร์กันมาครับ  อย่างน้อยเป็นกำลังใจป๋า Bird แกหน่อยว่าบ้านเราอบอุ่น  ประคองกันไปครับ  ตรงนี้จึงเป็นที่ที่เราชอบมาขลุกกันอยู่ในเวบเรากันทุกวัน  วันไหนไม่อ่านกินไม่ได้  นอนไม่ลง อิ...

0327 ก็ knock sensor
เครื่องเขก >> ignition timing, คอลย์ -- หัวเทียน -- octane -- ปลั๊กหลวม -- ต่อปลั๊กสลับแบบ ป๋า punpun ก็เป็นได้

ผมนึกออกแค่นี้นะ

ปล.1 รอบพุ่ง รถไม่ไป เกียร์ไม่เปลี่ยน ---> ecu injector หรือ ecu gear อาจจะสั่งเข้า safe mode ครับ

แหมป๋า  ผมอยากให้จบแค่ตรงนั้นจัง   แต่ป๋าว่าไหม  ทำไม 0 Mitsu  2 ที่   ที่ป๋าแกไปเขาถึงบอกว่าเครื่องยนต์ทำงานปรกติดีทุกอย่าง  เลยทำเอาเราก็ต้องเชื่อไปครึ่งนึงแล้วเพราะศรัทธาที่อย่างน้อยเราก็ต้องยึดไว้ก่อนเบื้องต้นเนอะ...

ในฐานะที่ป๋า aszaultz, มาทางสาย electrical แล้ว  ผมอยากขอข้อมูลนิดสิ  ว่าเรืองท่ี่ระบบแก็สทั่วไปเขาใช้เส้น Ground ของแต่ละหัวฉีดเป็นตัวกำหนดวงจรให้ปิดครบนี้  ก็เท่ากับว่าเมื่อหัวฉีดแก็สต้องการกระแสไป Supply ไปเลี้ยงสนามแม่เหล็กนี้  ไม่ว่า solenoids เหล่านั้นจะต้องการกระแสมากน้อยแค่ไหน  เราก็ไม่ต้องห่วงเรื่องขนาดของสาย Ground ที่ใช้หรือไม่  ผลอีกด้านของการทำแบบนั้นก็เหมือนกับว่าไม่มีการดึงกระแสจากตัว ECU แก็สใช่ไหมเอ่ย  หรือยังมีอยู่ดี  ผมไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เลยอยากรู้  แต่เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงให้มีการปิดเปิดวงจรกันในระบบ ECu ด้วยสาย Ground..  ไม่ได้ถามเอาใจนะ  อยากรู้เอาไปประกอบการเล่น ECU นะป๋า  เพราะเห็น solenoid ถังแก็ส  มันลูกโตมากเลย และระบบ ECU แก็สก็ Solenoids เป็นเกือบสิบจุดเลย

และเด๋วผมจะไปทดสอบถาคสนามแป๊บที่โรงรถเลยว่า   จากโจทย์ถ้าผมถอด ECU แก็สออกจาก socket เอามาถืออยู่ในมือเลย ผมจะ start น้ำมันได้หรือไม่ เคยทดสอบแต่ถอดไฟเลี้ยง ecu ออก ว่ามันจะติดเครื่องเดินด้วยน้ำมันได้หรือไม่    และหากผมถอด ECU ออกมาเลยแล้วมันติดเครื่องไม่ได้ละก็   นี่คือระบบกันขโมยแบบโจรขโมยรถเองก็ต้องปวดหัวแน่แน่  5555... แต่ถึงทำได้ก็ไม่ทำเพราะ  เด๋ว ECU Reset จะทำให้เกิด Undesirable Effect ตามมา
-----------------------
ผมละอยากให้มันจบแค่  ตัดต่อสายไฟ Ground หัวฉีดสลับเบอร์ Cylinder หรือ Conflict กันอยู่แค่ตรงนี้เลย  ป๋า Bird จะได้จบ case นี้ไปเที่ยววันเด็กให้สบายใจ  แต่ดูก่อน  หากแทงถูกเหมือนแทง 2 ตัวละก็  อาจจะต้องช่วยกัน  แนะนำเรื่องตรวจสอบความพร้อมของระบบเครื่องยนต์ที่ทำงานผิดพลาดมาหลาย Km. จากการใช้งาน แต่แค่นั่งจินตนาการไปเรือย  เพราะตอนนี้ใจผมไปยืนดูอยู่ถึง Versus Phuket ไปแล้วนะนี่ อิ....

กลับมานิดนึงป๋า Bird Phuket  เคยใช้ v6 วิ่งทางราบที่ไม่ขึ้นภูเขาด้วยน้ำมันไหมครับ ปกติหรือเปล่า
ปกติ V6 วิ่งทางราบออกตัวไม่อืดนะ กดคันเร่งนิดนึงก็พุ่งแล้ว แป๊บๆ ก็ 80 ละ ยิ่งคิกดาวน์นี่พุ่งปรี๊ดไป 140 เร็วมาก อยากให้ป๋าลองวิ่งทางราบด้วยน้ำมันดูว่าโอเคไหม

เพราะถ้าเทสวิ่งขึ้นเขาชันๆ ด้วยเกียร์ต่ำ แรงบิด (Torque) มันน้อยกว่าดีเซล จะขึ้นเขาสู้เครื่องดีเซลไม่ได้นะครับ  แต่ไปได้เรื่อยๆ แต่รอบอาจจะสูงหน่อย ประสบการณ์จากที่ผมไปปายกับอินทนนท์มา ขึ้นเขาชันๆ ทีโดนกระบะดีเซลแซงหมด
ที่พูดประเด็นนี้เพราะเห็นป๋าใช้ฟอร์จูนเนอร์ดีเซลมาก่อน อาจจะไม่ชิน ถ้าขึ้นเขา V6 แบบนั้นคือปกติครับ (เขาที่นี้คือชันๆ นะครับ ที่แบบว่าเริ่มต้นจากความเร็ว 10-20-30 ไม่ใช่ซัดมา 80 แล้วขึ้นเขาอันนี้ V6 ทำได้ดีไม่แพ้ใคร)

เข้ามาให้กำลังใจ และตามผลครับ
ผมมี LINE ติดต่อคุณ เป็นต่อ ผจก. ฝ่ายโคดนาประชาสัมพันธ์อยู่ครับ
ยังไงถ้ายังไม่คืบหน้า ผมยินดีประสานงานให้ครับ

แต่งานนี้พลาดไปนิดนึง คือไม่ได้ลองรถก่อนติดตั้งแก้ส...

และก็ขอโทษครับ  ผมเข้ามาเห็นช้าไป น่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง ไม่มากก็น้อยครับ

รออีก1วันครับ วันนี้รถจอดอย่างเดียวครับไม่กล้าขับแล้วครับ ต้องยอมรับจริงๆว่า Versus เขามั่วจริงๆครับ
พรุ่งนี้ก่ะว่าถ้าถอดระบบแก๊สออกแล้ววิ่งฉิวแบบที่ป๋าปันปันว่ามาล่ะก็จะโทรคุยกับทาง Versusกรุงเทพว่าจะให้เก็บงานที่ภูเก็ตโดยให้ทางภูเก็ตโทรประสานกับทางงานกรุงเทพ แล้วส่วนค่าใช้จ่ายด้วยว่าเค้าจะรับผิดชอบยังงัย ดีมั้ยครับป๋าๆทุกท่าน

ปล. โค็ด 0327 แจ้งขึ้นมาตอนใช้แก๊สน๊ะครับ ที่0 versus เอาเครื่องมาเสียบแล้วพิมพ์ออกมาครับ ไม่ใช่ตอนใช้น้ำมันครับ

ลองรอเข้า 0 ก่อนดีกว่าครับ.....เพราะ พวกนี้บางทีต้อง monitor parameter online ขณะขับ ก็คงต้อพึ่ง consult ครับ รถป้ายแดง hardware น่าจะยังไม่พัง.....

เอาใจช่วยครับสู้ๆ......

มาลาสมาชิกไปทดสอบรถกับหม้อต้มแฝดนรก  อีก 2000 Km. ครับ  Thursday to Sunday อาจไม่เข้ามาตอบนะครับ Rolling on the road.  ครับ  แต่พยายามจะเข้ามาเช็คดูอยู่เรื่อยนะครับ

อยากให้สมาชิกเข้ามาแชร์เรื่องนี้หน่อยครับ   สมมุตืนะว่า  หากมีการเอาสายสัยญานที่ถูกตัดต่อไปเข้า ECU แก็สออกแล้วต่อสายไฟ Ground หัวฉีดน้ำมันคืนตำแหน่งเดิมแล้ว   และป๋า bird แกทดสอบขับด้วยน้ำมัน ซึ่งระบบแก็สตอนนั้นก็ถูก Disable ไปแล้วแบบ 100%  แค่ยังคงอุปกรณ์เพื่อรอการ set กลับเมื่อรถวิ่งด้วยน้ำมัน OK แล้วก่อน ค่อยว่ากันใหม่  ผมว่าหากมันตรงประเด็นละก็ป๋าแกขับออกไปแค่ 5 นาที แกก็คงบอกได้ว่า Ok แล้วหรือยัง หากสมมุติว่าจบปัญหาได้แล้ว  ผมอยากให้เราช่วยแจมแนะนำกันเรื่อง  เราจะทดสอบดูได้ยังไงว่าระบบที่ผ่านมาทำความเสียหายในส่วนไหนที่น่าจับตามมองเป็น พิเศษหรือไม่ เพราะหากมี Guideline กันรอไว้ก่อนจะได้ทำการตรวจสอบที่ 0 Mitsu ต่อเลย  เราจะได้ลองใช้น้ำมันแบบเต็มที่สัก 2-300 km. กันดูก่อน  หากไม่พบอะไรที่น่ามีปัญหาอีกตอนนั้น  ป๋า Bird แกอาจจะจัดการเอาเข้าระบบแก็สเดิมต่อ  หรือ อะไรก็จะได้ว่ากันไปต่อ  เราควรเช็คอะไรต่อดีเพื่อดูว่าน้ำมันก็วิ่ง Ok 100% แล้ว  และไม่มีความเสียหายที่เรายังมองไม่ถึง   แนะกันมานะครับ  ส่วนผมเองคงอยู่บนถนนหลายวัน คงพิมพ์อะไรลำบากครับ และเรื่องที่ถามกันมาผมก็ไม่ค่อยพอรู้เลยครับ

แต่ถ้าตัดประเด็นนี้ไปแล้วได้   การไม่ต้องสไลด์ไปอีก 1000 km. คงไม่ต้องเกิดขึ้นครับ และสามารถคิดเรื่องระบบแก็สเดิมต่อหรือระบบใหม่กันได้ต่อไปครับ

ถึงไหนแล้วครับ

ป๋า Punpun จะไปเทสหม้อต้มเเฝดนรกที่ไหนครับ อิอิ ของผมระบบเเละการขับขี่ต่างๆเริ่มมาเข้าที่เข้าทางเเล้วครับ หลังจากได้ความรู้จาก อ.Punpun มาเป็นผู้ชี้เเนวทางครับ ขอบคุณมากครับป๋า Punpun เดี๋ยวถ้ามีอะไร Update เพิ่มเติมจะมา Update เรื่อยๆครับ  suadyod

 suadyod

ยินดีด้วยครับ  แม้....มันน่าจะมีบทลงโทษให้เราเห็นด้วยนะครับ
แจ้งทาง 0 ใหญ่ Versus ไว้ด้วยก็ดีครับ
ให้เขารู้จักออกคุมมาตราฐานการติดตั้งหน่อย จะได้ไม่เสียชื่อ  เสียลูกค้า
ผมเป็น 1 คนที่ไม่นิ่งเฉยจึงได้รับการแก้ไขจาก  0 ใหญ่มาแล้วครับ


จริง ๆ  ในนี้มี Mr.Versus นะ  น่าจะมาตอบไรบ้าง

   สวัสดีครับป๋าเบิร์ด ผมแสบเองครับผมเพิ่งเข้าเวป มาวันนี้เอง เพิ่งได้มาอ่าน รถป๋าเป็นไงบ้างครับเจอสาเหตุแล้วเหรอครับ เท่าที่อ่านมาน่าจะเกิดจาก วายริ่งสายกล่องผิด อ่ะครับถึงวิ่งไม่ออกอ่ะครับ เพราะถ้าเป็นที่อื่นน้ำมันต้องวิ่งได้ครับ เพราะปรกติรถ v6 เป็นรถที่วิ่งดีนะครับแต่ผมก็ไม่เคยขับนะครับเคยแต่นั่งรถ ที่ป๋าๆเอาติดกล่องคันเร่งแล้วผมนั่งไปลองด้วยกันอ่ะครับ ขนาดใช้แก๊ส กดแป๊ปเดียว 150-160 สบายๆเลยครับ ขอให้เจอสาเหตุ และแก้ใขได้ด้วยดีนะครับ ป๋า

ใช่ครับป๋าเชิด นี่ถ้าต่อสายผิดเกิดกล่อง ECU เดิมช๊อตเสียไปใครจะรับผิดชอบก็ยังไม่รู้เลยครับ นี่ยังดีมันไม่ช๊อตนะ รอดไป  โอ๊ยมึน

เฝ้าติดตามมาตั้งแต่ต้น มหากาพย์ V6 Versus ใกล้จะจบแล้วครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ถ้าเป็นผมก็เครียดครับ ยิ่งรักรถมากกว่าเมียสะด้วย 5555

โชคดีครับ ที่ ระบบไฟไม่เสียหาย........ช่างทำงานแบบไม่มีแบบ ก็อันตรายครับ ไม่มีแบบแถมไม่ ชัว ยิ่งน่ากลัวครับ................ยังไงก็โชคดีมากครับ ขอให้รถหายเป็นปกติ จะได้ใช้สักที อิอิ suadyod suadyod

เดี๋ยวผมหาให้  เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการก็อบกระทู้นี้ ไปใส่ในกระทู้ Mr.Versus ครับ

สรุปสุดท้ายของวันนี้ เจ้าหม่องเดินสายไฟเสร็จกำลังจะใส่ท่อกรองอากาศ พอดีเพื่อนเหลือบไปเห็นมีแจ็คชุดสายไฟเครื่องเหลืออยู่อันหนึ่ง เลยถามเจ้าหม่องไป เจ้าหม่องว่าแจ็คเหลือครับไม่มีที่เสียบ เพื่ิอนผมจึงเดินไปถามหัวหน้าช่างแกก็เดินมาดู แล้วบอกว่าเป็นเซ็นเซอร์อากาศไม่ต้องเสียบ แล้วแกก็เดินไป ผมกับเพื่อนก็ยืนงงกัน รถป้ายแดงทำแจ็คมาเหลือ ก็เลยช่วยกันหาดู สักพักหัวหน้าช่างเดินมาอีกรอบทีนี้เอาไฟมาส่องแถวๆใต้ท่ออากาศกับใบพัดฟรีปั๊ม จึงเจอแจ็คตัวเมียอีกเส้นเนื้อคู่กัน เจ้าหม่องก็ถอดท่ออากาศเอาปลั๊กมาเสียบใหม่อีก เฮ้อเกือบไป
ประกอบเสร็จทุกอย่าง ติดเครื่องเรียบร้อย นึกว่าเสร็จแน่วันนี้เพราะเหลือจูนคงไม่นาน สรุปช่างจูนลา ไม่มาทำงาน กำจริงๆแล้วก็ไม่บอกให้ผมรอจนป่านนี้ เฮ้ออออ สรุปพรุ่งนี้เที่ยงโทรมาอีกทีน๊ะครับ !!กลับบ้าน!! สถานเดียว กำแท้ๆ

เหนือยใจแทนเลยครับ  ยังไงก็แล้วแต่ สู้ๆ ต่อไปครับ เดี๋ยวปัญหาเบื้องต้นเรื่องเครื่องยนต์คงจบได้ดีครับ  เตรียมแรงไว้ตามเรื่องความรับผิดชอบของ Versus ต่อไปครับ  สาธุ

อีกนิดเดียวครับ  สู้ๆ  เป็นกำลังใจให้ครับ

แม้....ถ้าอยู่นนท์  ผมวิ่งไปจูนให้เลย

ไม่ยากครับป๋าเชิด ให้ป๋าเบิร์ด ออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ แล้วบินไปเลยครับ ป๋าเบิร์ดว่าไงครับ 555

ถ้ามีการ set ระบบพรุ่งนี้  อยากแนะครับ

-- ถาม  mr. mong  ว่า Ecu ตัวนี้มีการรับสัญญาน OBD มาที่ Ecu ไหม
-- หากมี .....   ตอนเวลาจูนระบบใหม่  ขอหยุดการเปิดระบบปรับ OBD ไว้ก่อนครับ  ขอให้ทำการจูนใช้งานก่อน 30 วัน ด้วยระบบปรกติ
-- และหากทำการใช้งานปรกติในรอบ 30 วัน หรือน้อยกว่า จนเราพอใจ  เราจะมาให้เขาทำการเปิด function นี้อักที

เด๋วกลับพัทยามีเวลานั่งพิมพ์แบบไม่ขับรถ  จะสาธยายเหตุผลให้ฟังครับ  พัทยา--ขอนแก่น ผมใช้เวลา  9 ชมม. ขับไปหยุดไป รถเยอะมาก  แปลกใจครับ

แทงหวยละถูกยากจริงจริงเลย....   ช่างพูดแบบนั้นเรื่องไฟ  ผมเดาว่า  เอาสายไฟ 12 v. หัวฉีด สลับกับ ground ที่ต้iองส่งไปยัง Ecu แก็สบางเส้น  และไม่ใช่การโชตดี ที่ Ecu รถไม่เกิดเสียหาย เพราะมันเป็น Output จาก Ecu น้ำมัน ออกไป แต่ ECu แก็สมีสิทธิ์มากกว่าเพราะเป็นผู้รับ  แต่ไม่เป็นไรเคลม versus ได้ หากเสียไหม้    ดีใจครับที่ป๋าสบายใจมากขึ้น  แต่ยังเหลือให้ Worry ตรงสูบที่รับหัวฉีดน้ำมันที่มีปัญหา  การไม่ได้รับ ground สัญญาน แต่ได้รับ ไฟบวกแทน   น่าจะไม่มีการจ่ายน้ำมันที่สูบนั้นนานแค่ไหน  หรือวิ่ง 5 สูบ  แต่ทำไมช่าง Mitsu บอกว่า รถปรกติหว่า   ป๋า Bird หากมีไฟ Engine เกิดในระบบวิ่งด้วยน้ำมัน  แจ้งมานะครับ   จะได้มีการวิเคราะห์เรื่อง  คราบความเสียหายที่ยังคงมีอยู่จากการวิ่งที่ผ่านมาแบบไม่สมบูรณ์


ยังเป็นห่วงเรื่อง  ร่องรอยบาดแผลที่อาจเกิดอยู่ภายในระบบเผาไหม้ของสูบที่ต่อ Ground  ผิด   ผมคิดมากไปหรือเปล่าไม่รู้   หากระบบแก็ส Ok แล้ว  ขอให้ลองขับน้ำมันเมื่อมีโอกาศหน่อยนะครับ    อยากให้ชัวร์เรื่องนั้น

สงสัยป๋าพันต้องออก V6 ติด versus ไว้ช่วยเพื่อนสมาชิกอีกคันแล้วครับ

 kiki kiki

เป็นกำลังใจให้นายหัวเบิร์ดภูเก็ต ผ่านไปด้วยดีนะครับ

ปล.ค่าบริการที่ภูเก็ตทำอยู่หลายรอบ 600 บาทครับ ช่างเขาก็พยายามเต็มที่แล้วครับ

อ้าว ป๋าเบิร์ด ต้องขึ้นมา กทม เหรอครับแหมผมส่ง กล่องคันเร่ง ไปแล้วด้วย ไม่งั่นแวะมาผมติดให้เลยก็ได้ครับ
สรุปรถยังไม่จบเหรอครับ

ไม่เคยจูนกล่องออโทนิค6สูบ

ผมงงครับ เขาไม่ได้มีกล่องของเขาเองเหรอครับ

ตามรูป

มันเป็นกล่องนี้ครับ

ป๋าก็ใส่กล่องใหม่ให้เลยไหนๆก็มาแล้ว แล้วก็ให้ป๋าเบิร์ดส่งกล่องปลายทางคืน จะได้ชัวร์  kiki

ขออีก 1 คำถามครับ ในเมื่อ VERSUS  มีของตัวเองทำไม สาขาถึงใส่ลูกผสมให้

ตกลงร้าน Versus ก็ไม่ได้ทำ Autronic  แล้วตกลงรถเราเป็นระบบ Verง หรือ Aut.  กันเอ่ย ?

ยังไงก็ยังปูเสื่อรออยุ่ครับ   แก้ปัญหากันต่อไปครับ  สู้ต่อไป .... ยังไงยังไงก็ยึดระบบน้ำมันที่ไม่รวนไว้ก่อนนะ  เน้นระบบน้ำมันให้ชัวร์ให้ดี   จะได้มีหลังพิงได้บ้าง  ส่วนระบบที่ติดมา   หากมันจบไม่ลงอย่างไร  ถึงขั้นต้องคืนเงินเลิกลากันไป  แล้วได้คืนสัก 70% เป็นยอดเงินคืนก็ต้องเอาไว้ก่อนครับ  หากมาแนวนี้อยากแนะรอไว้ก่อนเลยครับว่าถ้ามาทางนี้  เพราะเป็นทางเลือกสุดท้าย  ให้ถอดออกจนเกลี้ยงคืนสภาพเดิมให้มากสุดสุดเท่าที่ทำได้  แล้วทำให้ระบบน้ำมันช้ำน้อยที่สุด  ใช้งานให้ได้สักพักก่อน  กลับมาพักใจพักตัววิ่งน้ำมันสักพัก  ให้ทุกอย่างปลอดภัยว่า  ระบบน้ำมันเราสมบูรณ์  ยอมขับน้ำมันราคาลิตรละ 30 บาท ไปสักพัก จนเรามีข้อมูลในการวางแผนเลือกระบบใหม่แบบใจเย็น  หากค่าน้ำมันแพงหน่อยต่อ Km หน่อย  หาข้อมูลวางแผนระบบต่อไปให้แน่นเร็วขึ้น   แล้วว่ากันต่อครับ

ป๋า  punpun   มาเเล้วครับ เยี่ยมเลยครับป๋า  suadyod

เห็นรูปกล่องแล้ว ท่าทางจะดราม่า เรื่องยาวซะแล้วครับ. ยังไงก็สู้ต่อนะครับ. ปัญหามีไว้แก้ครับ. 

ผมก็คิดอยู่เหมือนกันครับ ป๋า แต่ก็อยากให้ ป๋าเบิร์ด แกได้รับการแก้ไข ทั้งระบบ แก๊ส และ น้ำมัน ให้นิ่งก่อนอ่ะครับจะได้ชัวร์ๆครับ

แวะมาเอาใจช่วย ให้ผ่านไปได้นะครับ ป๋าเบิดร์

ป๋าขอรายละเอียดอุปกรณ์ทุกตัวมาเลยก็ดีครับเพื่อการตรวจสอบว่าเราถูกลักไก่ที่จุดไหนบ้าง. ที่เห็นๆก็กล่องละครับ. ในความเห็นของผมเราติดversus กล่องต้องเป็นของversus ครับ.   แล้วก็ประเด็นหัวฉีดอีก.   สมควรให้สลัดไปกินจริงๆSCC  O0

เป็นกำลังใจให้ครับป๋าสู้ๆ

ผมขอคำถามเดียสครับ

แจ้ง  VERSUS Thailand หรือยังครับ

เท่ากับว่า  ตอนส่งรถใหม่เรากลับไปหา 0 Mitsu หลังจากติดให้ครั้งแรก  เพื่อส่งรถให้เรากลับไปที่ Phuket  ก็ส่งไปทั้งทั้งแบบที่เป็นอยู่วันนี้ได้ยังไงเอ่ย ... ผมอ่านในเวบเห็นบอกว่า  เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ....  ขอเจรจาแล้วปิดกระทู้ดีไหมครับ   ว่าขอเงินคืนสัก 50% แล้วช่วยกรุณาเราถอดทุกอย่างคืนกลับที่เดิมให้มากที่สุด   แล้วเอารถเข้า 0 Mitsu ที่เราซื้อมาตรวจสอบระบบน้ำมันให้ปรกติที่สุด   แล้วกลับบ้านก่อนดีกว่าครับ   กลับไปตั้งหลักเพื่อใช้งานระบบน้ำมันให้ชัวร์   จริงอยู่น้ำมันแพงกว่าแก็ส   แต่ที่ 30 บาท ส่วนต่างน่าจะยังพอไหวไปสักพักนึง   กลับไปตั้งหลักบ้านเราก่อน   หากเจรจาแล้วจบที่คืนเงินได้ถึงมากกว่า 80%  ขออณุญาติปิดกระทู้กันเลยหากเจรจาออกมาด้วยดี   เพราะปล่อยไว้ก็แย่ด้วยกันทุกฝ่าย   หากปล่อยไว้แบบนี้  วิ่งมาจูนมาช่อมกันแบบนี้   ต่อไปก็ไม่มี Pa เราไปที่ร้านนี่แล้วนะ  ถึงจะทำให้ออกมาดีแล้ว   แต่ใจลูกค้าไม่มีเหลือแล้ว  สลายไปแล้ว   หากเกิดปัญหาแบบเล็กน้อย  เด๋วลูกค้าก็วิตกไปอีกว่า   มีอะไรผิดพลาดเหลืออีกไหม    เราจะต้องขับ Phuket - Bangkok อีกกี่รอบกัน  มันเลยจุดที่เรียกว่า  เชื่อช่างของผมเด๋วทำให้ออกมาดีเอง   

ขอเจรจาทุกฝ่ายดีกว่าไหมครับ   อย่าดันกันไปต่อเลย   ผมเห็นภาพอนาคตอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าแบบฝันกลางวันเต็มจอแล้วครับ  รถราคา 1.3 ล้าน เด๋วจะรวนไปทั้งระบบ  อีกอย่างหากอุดรูท่อไอดีที่เจาะให้เนียนสายไฟที่ตัดต่อคืนสภาพดีได้   รถกลับมาเป็นปรกติน้ำมัน  สำหรับผมเอาเข้า 0 ที่ไม่ได้ซื้อมา  ประกันเครื่องยนต์ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันเคยเจออะไรมา   ยิ่งถ้าเปลี่ยนท่อร่วมไอดี ชุดที่เจาะใส่่รูแก็สจากหัวฉีด  ยิ่งดูไม่ออกเลยว่าไปเจออะไรมาดูเป็นปรกติ  เรื่องประกัน 100000 Km.  มันไม่มี Record บันทึกว่าไปติดแก็สมาแล้วแจ้งระบบศูนย์รวม Mitsu หรอกนะผมว่า   

อีกอย่างหากคราวนี้กลับไป Phuket พร้อมกับการเดินเครื่องด้วยระบบแก็สที่ถือว่า Ok วันนี้    หากขับกลับไปแล้วไฟ Engine มาเยือนอีก   ซึ่งมีโอกาศทั้งระบบปรกติดีหรือไม่ดีในตอนนี้    มันก็มีสิทธิ์เกิดให้เห้นได้เมื่อผ่านไปสักเดือน   ถ้ามันเกิดขึ้นมา   เราจะเข้า Service ที่ไหนใน Phuket และ  Ves ก็ไม่มีช่าง Autr   เราจะต้องไปหาร้านใน Phuket ที่จูน Autr เป็นแล้วมันจะเกี่ยวกับ Vers สำนักงานใหญ่เรื่องประกันต่างต่างยังไง  หรือ Vers กับ autr คืออันเดียวกัน ซึ่งผมไม่รู้จริงจริง เจ้าของตัวแทนจำหน่านเดียวกันหรือ

และถ้าหากทางร้านที่ติดบอกว่าไม่รับคืน  งั้นก็ขอขายอุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ในรถเราเป็นมือสองไปเลย  จะช่วยรับเอาไปได้ไหม  ผมอาจจะพูดแรงไปนิดนะป๋าป๋าครับ   แต่ผมก็คงไม่มีศรัทธาเหลืออะไรอีกแล้ว  ต่อไปแค่ขับแล้วมีเสียงแค่หม้อต้มมันดังนิดเดียว  ที่ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่  แต่ใจผมก็สลายรอบ 2 อีกแน่  เพราะบางอย่างเมื่อเราไม่สามารถหาที่มาของปัญหาได้   เราย่อมจะโทษมาที่นี่ที่ติดตั้งอย่างเดียวเท่านั้น  ตรงนี้ที่ผมต้องใช้คำว่า ศรัทธาที่กล่าวข้างต้นนั่นเอง   ผมเดาได้เลยว่า  เราคงไม่มาจาก phuket เพื่อการใดใดอีก  หากกลับไปคราวนี้   ซึ่งทางร้านก็น่าจะสบายตัวไป

เรื่องติดแก็สระบบใหม่เข้าไปนั้น  หากจะพูดกันแบบมีเหตุผลไม่ลำเอียงกันละก็  ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ย่ห้อนี้หรืออะไร   มันอยู่ที่ร้านและการกระทำที่ทำให้เราเริ่มจะเสียกับเสียไปเรื่อยเรื่อย   จากปัญหาเล็กเล็กที่มีการเพิกเฉยจากจุดเริ่มจุดเดียวตรงนี้เท่านั้นเอง --- เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ---
มันเกิดขึ้นไปแล้ว  ก็แค่ต้องแก้ปัญหากันที่จุดที่จบได้  และเจ้าของรถเจ็บปวดน้อยที่สุด   หากทำได้ในการเจรจาผมว่าอย่างน้อยเจ้าของรถควรจะได้ดังนี้


---- รถที่ถูกถอดและจัดเก็บรายระเอียดงานที่รื้อออกเพื่อกลับวสู่สภาพรถที่มาก่อนติดตั้งให้มากที่สุด  แน่ละไม่ 100%  แต่มากที่สุดที่ควรจะทำ  และวิ่งปรกติด้วยระบบน้ำมันสมบูรณ์
---- เจ้าของรถควรจะได้รับการเยียวยาทางด้านเงิน คืน 100%  เป็นอย่างน้อย  + กับค่าเดินทางไปกลับ Phuket อีกก็แล้วแต่คุยกัน เป็นการเชื่อมสัมพันธ์ทีดีต่อไป
---- จริงอยู่ติดให้ดี 100% ใหม่ก็ได้  เอาช่างมือสุดยอดมาเลย  แต่ความเชื่อถือมันจบไปแล้ว  คงปิดข้อนี้กันไป

และเพื่อให้ทุกฝ่ายไม่เสียหายไปมากกว่านี้   ก็ขอความร่วมมือสมาชิกเรา   อาจเขียนว่า   กรุณาไม่ Post กลับใดใดอีก  กระทู้ก็จะตกไปตามกาลเวลาเอง.....

ผมขอยอมแชร์ เรื่องนี้ออกมาแบบมุมมองนี้  หากเป็นการละเมิดสิทธิ์ หรือเป็นเรื่องไม่น่ากล่าวผมก็ขอโทษ  ที่เห็นภาพอนาาคตไปแบบว่าแย่กว่านี้หลายเท่าในสายตาผมเองครับ   และอาจจะ Post เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว   เพราะเด๋วเกิดผมคิดแทนว่าเป็นรถผมเองเรื่องมันจะไปกันหนักกว่านี้เยอะครับ  ขอให้เจรจาผ่านไปด้วยดีครับ   ทุกทางเลือกก็ขอให้ได้รับความยุติธรรมทุกฝ่ายครับ   

ผมในฐานะที่เป็นหนึ่งคนที่ขอเจรจาถอดของคืน เพียงแค่จูนไม่นิ่งสักที
จนได้รับการเยียวยาจาก Versus Thailand เป็นอย่างดี

ข้อนี้ผมถึงอยากให้ลองคุยกับทาง Versus Thailand เลยครับ อย่านิ่งนอนใจ เพราะอู่มันเริ่มมีกลิ่น ตุ ตุ แล้วครับ
ตั้งแต่เอากล่อง Autronic มาใส่ได้

ผมขออนุญาต คัดลอกข้อความและภาพบางส่วนส่งให้ก่อนจะได้ไมครับ
ผมรอคำอนุญาตจากเจ้าของกระทู้ ป๋าเบิร์ดก่อนนะครับ

รอฟังผลครับ

โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับไอเดียของป๋า punpun ครับ แต่อย่างไงก็แล้วแต่ ขอเอาใจช่วยให้ปัญหาจบเร็ว ๆ นะครับ

รอฟังการผลการแก้ไขครับ   ปมต่างๆ มาขมวดรวมอยู่ที่ SCC แล้วครับ ว่าจะแก้ปัญหาเครื่องยนต์ได้หรือไม่ และจะแก้ปัญหาผิดพลาดต่างๆที่เกิดขึ้นมาได้อย่างไรครับ (เท่าที่ลองหาใน google ที่อู่นี้มีข้อมูลให้อ่านเยอะไม่ใช่เล่นครับ) สู้ต่อไปครับ  smile..

รอลุ้นนายหัวเบิร์ดอยู่เหมือนกันครับ ไม่รู้ได้กลับภูเก็ตแล้วหรือยัง

เป็นกำลังใจให้นายหัวเบิร์ดครับ ผมก้อใช้ V6 เหมือนกันครับ ระบบ Gas ได้อาจารย์ Punpun ให้คำเเนะนำครับ ขอให้จบปัญหาได้เร็วๆนะครับ

ใครก็ได้  ตามป๋าเบิร์ดมาทีครับ

รอทราบผลเหมือนกันครับ

อาจจะตกลงกันได้ดีพอใจ 2 ฝ่ายมังครับ  และอาจจะชอหยุดกระทู้มังครับ   หากตกลงออกมาดีสำหรับป๋า Bird แล้ว  ก็สะกิดกันมานิดครับ  เด๋วจะได้บอกสมาชิกกัน  งั้นเอางี้ถ้าป๋า Bird ไม่เข้ามา Up อะไรต่อ  เราก็เข้าใจไปว่ามีการตกลงกันดีพอใจ 2 ฝ่ายแล้ว  และอาจจะอยากหยุดการ Up กระทู้   ก็ ok ครับ  ยึดประโยชน์ของป๋า Bird เป็นหลักครับ   เราอาจจะหยุด Up หากไม่มีป๋า Bird เข้ามารายงานต่อนะครับ  ไม่รู้ว่าจะดีไหมครับป๋าป๋า 

นั้นผมไปล่ะ   ฟริ้ว !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ถ้าตกลงกันได้ดีเป็นที่พอใจกันทั้งสองฝ่าย ก็ยินดีด้วยครับ  แต่ขอให้บอกนิดนึงครับจะได้ไม่ต้องรอฟังผล  และที่สำคัญเพื่อเป็นแนวทางอันเป็นประโยชน์ต่อท่านอื่นๆ ครับ สาธุ

ขอให้หายขาดครับป๋า  ขอให้ขับสนุกครับ
ถ้ามองอย่างป๋าว่า  จูนอีกซักครั้ง ทุกอย่างน่าจะออกมาดี
เพราะช่วงที่วิ่งๆ ไป มันน่าจะเก็บ action ต่างๆ ของค่าน้ำมันไว้แล้วครับ

ปรับแต่งแก้ไขอีกนิดหน่อย  น่าจะสมบูณร์ครับ


ขอให้สนุกกับพลังงานทางเลือกครับป๋า
ผม 2 ปี 80,000 โล ประหยัดไปกว่า 300,000 ครับ
คอนเฟิร์ม

วี 6 แก็ส เหมือนกัน ดีใจด้วยครับนายหัวเบิร์ด มีปัญหาอะไรปรึกษา ป๋าๆ ในห้องแก็สได้นะครับ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา ของผมก็มีปัญหาเรื่องไฟโชว์อยู่กำลังอยู่ในโหมดทดสอบดูอาการ ได้ป๋า ปันปัน ป๋าเชิด ช่วยดูแลให้อยู่ ก่อนจะต้องเดินทางขึ้นไปให้ร้านที่ติดตั้งดำเนินการแก้ไขให้ครับ

ดีใจด้วยนะครับ ป๋าเบิรด์ จบซะที  suadyod

ป๋าเชิด วันเสาร์ นี้เจอกันครับ อิอิ

ผมจะออกไปแตะขอบฟ้า

ดีใจด้วยนะครับ จะได้ใช้รถแบบสบายใจสักที   suadyod

 eie  มาแล้วครับ...  อ่านดูแล้วตกใจมากมาก   ทำไมร้านถึงเห็นเรื่องไฟ engine เป็นแค่เรื่องของการยกขั้วแบท   เรายกขั้วก็ต่อเมื่อต้องการทดสอบว่าสิ่งที่เราแก้ไขแล้วมันดีขึ้นหรือยัง   แต่ทำเพื่อให้ไฟหายไปแบบไม่เห้นปัญหาหรือตามแก้ในจุดที่ทำให้เกิด  ผมว่าป๋า BIRD ต้องเหนื่อนกับมันอีกยาวเลย    ผมว่ามันแค่ผ่านมาที่ step ของการเอาระบบน้ำมันกลับคืนมาให้ดีเหมือนเดิมเท่านั้น    มันยังไม่จบลงแบบขับปรกติได้เหมือนที่ควรจะเป็น

ตอนนี้เราก็พบกับปัญหาใหม่ระบบน้ำมันเรียบร้อยดี  หากทำการวิ่งด้วยน้ำมัน   แต่ระบบแก็สยังต้องตามหาเหตุให้ได้ต่อไป   เรากำลังจะเป็นรถทดสอบอีกแล้ว  ผมขอกลับไปที่กล่าวมาก่อนหน้านิดนะครับ   อยากแนะให้แยกออกเป็น 2 Sections ก่อนในการปรับจูนใช้งาน

1.. ปรับจูนทุกอย่างตามระบบของ Ecu เขาแบบ  ไม่ไปเกี่ยวข้องกับนระบบ OBD Adaptive  หากเกี่ยวข้องก็แค่สำหรับการอ่านค่าเท่านั้น ให้มีการจูนแบบ ระบบที่ไม่มี OBD ก่อน  แล้วทำให้สมบูรณ์  แบบว่าไม่เจอไฟ Engine อีกเลย  จะจูนแบบไหนไหนก็ตาม  ก็ทำให้เหมือนรถแก็สทั่วไป  ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับน้ำมันอย่างน้อยก็ใกล้เคียง   พอตัดไประบบน้ำมันก็ต้องได้การวิ่งที่เหมือนรถน้ำมันทั่วไปในรุ่นเดียวกัน   และควรใช้งานระบบแก็สแบบ None Obd Self Tuning  ให้เหมือนกับระบบน้องลงมาคือ None Obd แบบสมบูรณ์  ไม่มีไฟ Engine และหากดูค่า Trims น้ำมันจาก Obd Reader ในโปรแกรมของเขาแล้ว  ไม่ต่างจากน้ำมันมากนัก  คืออยู่ในขั้นยอมรับกันได้ทั่วไปชองระบบรถวิ่งแก็สส่วนใหญ่

2.. หากข้อ1  ผ่านการวิ่งมาด้วยดี  แบบ 5000 Km. แล้วออกมา Ok. ดี   ถึงจะยอมรับให้มีการปรับจูนแบบมี OBD ที่คอยช่วยเหลือในเรื่อง Self Tuning ทำนองนั้น  เราจะได้เข้าใจได้ว่า  หากมีการใช้ Function อย่างหลังนี้ร่วมด้วยแล้ว รถเรามีอาการอย่างไร  และจะได้แยกประเด็นในการเข้าใจไปด้วยว่า  เป็นเพราะระบบที่ Added เข้ามาทีหลังจากการจูน Manual หรือไม่  การเจาะโจทย์ของปัญหาที่จะตามมาจะได้เป็นขั้นตอน   แบบว่า  ยกตัวอย่าง  เกิดปัญหาใหม่เมื่อมีการเปิด Function ช่วยเหลือใน Mode ของ OBD Adaptive  หากเราแก้ไขในปัญหาในอนาคตแบบนั้นไม่ได้  เราจะได้ทำการ Disable มันไว้ก่อน   แล้วค่อยหาทางแก้ไขที่จุดนั้น

พูดแบบสั้นสั้นก็คือ  ไม่ควรใช้ Function ของ Obd Adaptive ในช่วงนี้เลย  ควรทำอย่างข้างต้นก่อน

--- ความเห็นส่วนตัว  อยากพูดให้กำลังใจป๋า Bird   แต่ผมบอกได้เลยว่า  ผมพูดแบบนั้นไม่ได้เลยในความเห็นของผม  ป๋า Bird กำลังเจออะไรที่เหนื่อยอีกรอบ   และคราวนี้หากแก้ไม่ตรงจุด  เราจะเข้าสู่ Mode อัตราเสี่ยงของการโทรมของเครื่องยนต์  ซึ่งเราอาจจะเอากลับคืนได้ยากหากปล่อยไว้แบบนี้ระยะยาว    จึงอากให้ป๋าคำนึงว่า  เราจะให้ Versus ทำการปรับให้เราให้ผลออกาแบบไม่มีไฟ Engine อีกที่ Phuket ให้ได้  และหากต้องตัด Function ของ Obd ออกก่อนเพื่อทำตามขั้นตอนข้างบนจะมีประโยชน์ในการสรุปปัญหาเป็นอย่างมากในอนาคตครับ  ไฟ Engine ขึ้นแต่ละครั้ง  ความโทรมของเคื่องยนต์ไม่สามารถวัดออกมาได้ว่าแค่ไหน  แต่มีการสะสมมากเข้าไปเรื่อยเรื่อย  อย่าปล่อยไปเพราะยอมรับที่การยกขั้วแบทครับ   ต้องขอพูดแบบตรงไปตรงมานะครับ   กำลังใจก็ยังมีอยู่ต่อกันครับในส่วนลึกและจริงใจ ------

และอีกเหตุผลที่ผมสะดุดคือ  เรื่องที่ทางร้านเอา Au ใส่แทนมาแต่แรกนั้น   ผมเดาใจทางร้านว่า   เขาคิดว่าเขาปล้ำกับ Ver รุ่นที่ใช้อยู่นี้ได้ยากลำบากกว่าการเอา Au ใส่เข้าไปแทน  แต่เขาไปพลาดตรงเรื่อง wiring ก็เลยไปกันใหญ่  คราวนี้เลยต้องปล่อยเลยตามไป  ว่ากันที่ดาบข้างหน้าครับ  อันนี้ผมคิดเอง .....

เอาเป็นว่าทำการบันทึกลงสมุดเลยดีไหมครับ   ว่าเริ่มวิ่งที่ Phuket นี้วันต่อวันดีไหมครับ เหมือนปูมเรือ   เพราะเวลาเราจะไปบอกกับช่างก็เอาปูมแก็สนี้ออกมาให้ดูแบบ Diary โหลสากล เลยครับ  ผมว่ามันช่วยได้มากทั้งเราและช่างครับ   อีกอย่างเมื่อเรามีสมุดบันทึกนี้  หากวันใดเข้าไป Ver สาขาไหนก็ให้เซ้นรับรถเราที่เข้าไป Service แล้วให้บันทึกด้วยว่าทำอะไรลงไปแก้ไขอะไรไป   มันจะช่วยได้แน่นอน  เราเองจะได้เรียงลำดับอะไรอะไรออกมาถูกในการอะิบายช่างครับ  และพยายามทำแบบนี้เสมอนะครับ  อยากแนะนำไว้  กดไปน้ำมันวิ่งแทน  ทุกครั้งที่ไฟ Engine ขึ้น  ส่วนมันจะดับหรือไม่ก็อีกเรื่องครับ แต่ก็ไม่ลืมดูเรื่องความร้อนและอื่นอื่นในเรื่อง ไฟ Engine ที่ขึ้นโดยนอกเหนือจากระบบเผาไหม้ของระบบแก็สด้วยนะครับ   เพียงแต่ว่าเราให้ % สูงในเรื่องแก็สมากกว่า

อยากบอกด้วยว่า เป็นห่วงมากมากครับ  ให้กำลังใจเสมอครับ  และพยายามปะติดปะต่อทุกอย่างท่ป๋า Bird อธิบายมา  เพราะเอาสมองคิดตามเท่าที่จะมีประสพการณ์และพอจะเอาวินิจฉัยได้  แบบพอรู้น้อยและรู้บ้างครับ 

คิดถึงป๋าเบิร์ดจัง

 เซียนพริ้วไหวขอแนะนำร้านอาหารดูบอลรอบกรุงเทพนั่งกินข้าวดูบบอลจอใหญ่ยักษ์พร้อมเพื่อนฝูง ตกใจ ตกใจ

เดี๋ยวก็โดนครับ  รอแป๊บ