Languages
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ล้างแอร์แบบไหนดีครับ  (อ่าน 2485 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
add
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 66


คิดจะ"บิน"อย่าลืม"ดิน"ที่เคยเดิน


« เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 12:12:12 pm »

อยากถามท่านสมาชิกว่า ควรล้างแอร์แบบไหนดี ถอดตู้กับไม่ถอดตู้อ่ะคับ   ผมอยู่ กทม.อยากเอารถไปล้างแอร์มากเลย รบกวนพี่ๆทุกท่านแนะนำร้านล้างแอร์ให้ด้วยน๊ะครับ   3heart สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า
Mr.Pig (No.031)
Hero Member
*****

like: 25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2286


"ใจเดียวกัน ทางเดียวกัน"


« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 12:31:03 pm »

ความเข้าใจทำไมต้องล้างตู้แอร์
แค่ฝุ่น กลิ่น และเชื้อโรค คุณก็คงบอกพอได้แล้ว จะให้ล้างตู้แอร์ก็ล้าง แต่ด้วยความที่มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับการล้างตู้แอร์ที่ทำให้หลายคนไม่อยากจะพบกับเหตุการณ์เหล่านั้น ทางที่ดีก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าแต่ละเหตุการณ์มีที่มาที่ไปอย่างไร
การทำความสะอาดตู้แอร์
ปัจจุบัน การทำความสะอาดตู้แอร์ มี 4 วิธี

1. การล้างตู้แอร์แบบถอดตู้ ต้องรื้อตู้แอร์ แล้วเอาคอยล์เย็นมาล้างข้างนอก น้ำยาทำความสะอาดแตกต่างกันไปแล้วช่างจะใช้อะไร ที่ค่าบริการถูกๆ ต้องคอยดูว่าใช้ผงซักฟอก โซดาไฟ หรือเปล่า พวกนี้จะล้างออกยาก ดังนั้นเวลาประกอบกลับ เปิดแอร์ จะรู้สึกว่ามีกลิ่นผงซักฟอก เจ้ากลิ่นนี้บอกอะไรเรา อันดับแรก สารทำความสะอาดล้างออกไม่หมด สามารถกัดกร่อนคอยล์เย็นได้ อันดับสอง สารทำความสะอาดที่สูดเข้าไป ไม่ส่งผลดีต่อระบบทางเดินหายใจของเราเลย ถ้าคนแพ้ ก็อาจแสบตา แสบจมูกได้ ก็อย่างว่า ไม่มีของดีราคาถูก การถอดล้างตู้แอร์แบบนี้ ต้องแว็คเติมน้ำยาแอร์ใหม่ และต้องเปลี่ยนไดเออร์กับวาลว์ความดัน ถ้าประหยัดงบ ไม่ยอมเปลี่ยน ท่อแอร์รั่วได้เพราะความชื้นเข้าไปอยู่ในระบบจากการถอดตู้แอร์

2. การล้างแบบไม่ถอดตู้ โดยหลักการก็เพื่อช่วยให้การทำความสะอาดนั้นง่ายขึ้น เสร็จเร็วขึ้น ทางร้านได้เงินไว โดยทั่วไป เครื่องล้างตู้แอร์จะกำหนดน้ำยาที่ต้องใช้เฉพาะสำหรับการล้าง แต่อย่างว่าแหละ บางร้านต้องการลดต้นทุน เพราะต้นทุนน้ำยาต่อคัน ไม่ถูกหลายร้อยทีเดียว ก็เลยเอา น้ำยาราคาถูกๆ โซดาไฟ บ้างผสมลงไปเพื่อให้น้ำยาใช้ได้หลายคันขึ้น ทีนี้เวลาล้างน้ำยาออกจะมีปัญหา เพราะเครื่องไม่ได้ถูกกำหนดให้ล้างผงซักฟอก หรือ โซดาไฟ ผลที่ได้ เจ้าของรถจ่ายราคาแพง แต่ได้งานบริการที่ไม่มีคุณภาพ โดยคาดไม่ถึง การล้างแบบไม่ถอดตู้นี้จะเหมาะกับรถใหม่ รถที่ล้างแอร์ปีละ 1 ครั้ง หรือพูดง่ายๆ เหมาะกับรถที่ดูแลรักษาความสะอาดตู้แอร์เป็นประจำ ถ้าใช้มา 7-8 ปี แล้ว ช่างแอร์ไม่ค่อยอยากล้างวิธีนี้ เพราะตู้แอร์อาจจะรั่วอยู่แล้ว แต่ฝุ่นไปอุดรูรั่วไว้ พอล้างเอาฝุ่นออก รอยรั่วก็ปรากฎ เจ้าของรถต้องทำความเข้าใจด้วย เมื่อไม่ได้ล้างทำความสะอาดมาเป็นปีๆ อัตราเสี่ยงก็ต้องสูง

3. การฉีดสเปรย์ทำความสะอาดตู้แอร์ ไม่ต้องรื้อตู้ออกมา ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดให้ทั่วคอยล์เย็น ก็เป็นอันเรียบร้อย คราบน้ำยาจะค่อยๆ ออกมาพร้อมกับน้ำแอร์ตามท่อน้ำทิ้ง ถ้าตู้แอร์ไม่สกปรกมาก วิธีนี้ก็พอใช้ได้ แต่คงต้องฉีดสเปรย์กันบ่อย 2-3 เดือนต่อครั้ง เพราะอยู่ในเมือง ฝุ่นจะเยอะมาก สเปรย์บางยี่ห้อจะช่วยขจัดกลิ่นด้วย ราคาค่าฉีดสเปรย์เท่าที่ทราบมา เริ่มต้นที่ 800 บาท รวมๆ เงินแล้วก็มากกว่าการล้างตู้แอร์แบบที่ 1 และ ที่ 2

4. การใส่กรองแอร์ ไม่ใช่รถทุกรุ่นจะใช้ได้ เพราะกรองแอร์ก็ทำมาสำหรับรถอีกระดับ ช่วยกรองฝุ่นอีกวิธีหนึ่ง แต่อายุการใช้งานก็ประมาณ 5000 กม. ต้องเปลี่ยนอันใหม่ ถ้าไม่เปลี่ยน ลมจะผ่านเข้าตู้แอร์ไม่สะดวก ลมแอร์ที่ออกมาก็จะอ่อนกำลังลง ลมที่ตีกลับจะมีผลต่อคอมแอร์ เท่าที่ทราบกรองแอร์สำหรับรถบางรุ่นราคาพอรับได้ แต่บางรุ่นราคาเป็นพันบาท ไม่แน่ใจว่าที่ราคาไม่กี่ร้อยประสิทธิภาพจะเป็นอย่างไร ถ้าใช้วิธีนี้ในการทำความสะอาด ในระยะ 1 ปี ก็เสียค่าใช้จ่ายมากกว่า การทำความสะอาด แบบที่ 1 และ ที่ 2
ทำไมต้องล้างตู้แอร์รถยนต์
เจ้าของรถหลายๆ ท่านยังไม่ทราบว่า ความสกปรกของตู้แอร์เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาในระบบแอร์ ถ้าไม่ดูแลบำรุงรักษา ก็ต้องเตรียมใจเตรียมสตางค์ไว้ คงเคยได้ยินกันมาเรื่อง ท่อแอร์รั่ว ตู้แอร์รั่ว คอมแอร์ดัง สาระพันปัญหาที่เราๆ ไม่ค่อยเข้าใจ ลองคิดง่ายๆ แล้วกันว่า แอร์บ้านยังต้องล้าง แล้วแอร์รถยนต์จะยกเว้นได้อย่างไร แอร์บ้านถ้าไม่ล้างเลย เกิดอะไรขึ้นก็คงพอทราบกันบ้าง แล้วแอร์รถหล่ะ ถ้าสกปรก แล้วจะไม่มีผลอะไรเลยหรือ ทำไมหลายคนจะซื้อที่นอน ยังต้องเลือกแบบที่ป้องกันตัวไรฝุ่น ทำไมเจ้าไรฝุ่นจะอยู่ในรถคุณไม่ได้บ้าง


น้องปาอ้วน บ้านๆ คันของผม พบร้านแอร์ที่ไว้ใจได้ แถวบ้าน ล้างแบบไม่ถอดตู้ปีละครั้ง และเปลี่ยนกรองแอร์ ทุกๆ 5000 กม.  เข้าปีที่ 6 แล้ว แอร์ยังเย็นดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 22, 2015, 12:39:05 pm โดย Mr.Pig (No.031) » บันทึกการเข้า

  Smiley "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน" red heart
add
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 66


คิดจะ"บิน"อย่าลืม"ดิน"ที่เคยเดิน


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 12:38:16 pm »

ขอบคุณครับพี่   Mr.Pig (No.031)   suadyod 
บันทึกการเข้า
Mr.Pig (No.031)
Hero Member
*****

like: 25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2286


"ใจเดียวกัน ทางเดียวกัน"


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 12:45:39 pm »

ขอบคุณครับพี่   Mr.Pig (No.031)   suadyod 

ยินดีครับ อยู่กรุงเทพฯแถวใหน ถ้าอยู่ไกล้ๆ นนทบุรีจะแนะนำ ร้านแอร์ ตรงถนนติวานนท์ให้ครับ 
บันทึกการเข้า

  Smiley "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน" red heart
add
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 66


คิดจะ"บิน"อย่าลืม"ดิน"ที่เคยเดิน


« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 12:55:05 pm »

Mr.Pig (No.031)  ผมอยู่แถวๆ Home Work ราชพฤษ์ครับพี่
บันทึกการเข้า
Cherdkiet
You'll never walk alone.
Full Member
***

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1188



« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 02:24:02 pm »

ขอบคุณครับพี่   Mr.Pig (No.031)   suadyod 

ยินดีครับ อยู่กรุงเทพฯแถวใหน ถ้าอยู่ไกล้ๆ นนทบุรีจะแนะนำ ร้านแอร์ ตรงถนนติวานนท์ให้ครับ 

ผมอยู่วัดสวนแก้วครับ  ขออาศัยด้วยคนครับ
บันทึกการเข้า
add
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 66


คิดจะ"บิน"อย่าลืม"ดิน"ที่เคยเดิน


« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 04:26:44 pm »

 Ok.. Ok..
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.031 วินาที กับ 20 คำสั่ง