มาแชร์ เรื่องน้ำยาเคลือบสีกันดีกว่าค๊าบ

[Joe ผู้ชาย*รสส้ม*]

แล้วที่ขายๆกันราคาถูกๆ ในเวปแบบนี้จะรู้ได้ไงครับว่าของแท้หรือว่าปลอมอ่ะ  มีอะไรให้สังเกตุไหมครับ เพราะก็เห็นคนสั่งในเวปกันทั้งนั้นเพราะมันถูกกว่าทั่วไปอะครับ

เรื่องที่ป๋าถามขอไม่พูดถึงนะครับ

แต่รถป๋ารุจสีดำแนะนำให้ใช้pinnacle liquid souveran

ตัวนี้กดสีให้เข้มสนิท แนวฉำ่เยิ้ม รับรองไม่ผิดหวังครับ

พินนาเคิล ก็มีคนใช้กันเยอะครับป๋า

[Nakavabi]

มาศึกษาข้อมูลด้วยคน

กล้าพูดนะแก อิอิ

พูดจริงๆนะ

ลูบกระดาษทรายก็ไม่เคยทำ  ขัดไฟหน้าก็ไม่เคย  เคลือบแก้วก็ทำไม่เป็น

เคยทำแต่ก๊อกๆแก๊กๆ

ป๋าอย่างเราใช้ รุ่นซามุไรก็โอแล้วนะครับ ถ้าระดับคริสตัล...แพงเกิ๊นนนน

แล้วตัวแทนในเมืองไทย มีแห่งเดียวเท่านั้นครับ...ที่สำคัญ ของปลอมยังไม่มีในท้องตลาดครับ

ผ่านตัวแทนในไทยแล้วราคาแพง สั่งนำเข้ามาเองถูกกว่าครับป๋า

สั่งจากautogreekโดยตรงเลยดีกว่าครับ

น้ำยาทุกยี่ห้อยกเว้นของMGและCG สั่งนำเข้าเองถูกกว่าแน่นอนครับ

เค๊าไม่ขายให้เราสิครับป๋า เค๊าให้เราติดต่อดีเลอร์ที่เมืองไทยครับ

ก็คือที่ร้านนี้ล่ะครับ heartถ้าขายให้ล่ะแจ่มเลยจร้า คริๆๆๆ

ทำไมถึงไม่ขายหรอครับป๋าโจ้

แว็กผมมีอยู่ก็สั่งจากautogeekทั้งนั้น

ไม่เคยซื้อผ่านตัวแทนในไทยเลย

แต่แค่ต้องสั่งเกินเท่าไรจำไม่ได้ถึงส่งให้

[Joe ผู้ชาย*รสส้ม*]

มาศึกษาข้อมูลด้วยคน

กล้าพูดนะแก อิอิ

พูดจริงๆนะ

ลูบกระดาษทรายก็ไม่เคยทำ  ขัดไฟหน้าก็ไม่เคย  เคลือบแก้วก็ทำไม่เป็น

เคยทำแต่ก๊อกๆแก๊กๆ

ป๋าอย่างเราใช้ รุ่นซามุไรก็โอแล้วนะครับ ถ้าระดับคริสตัล...แพงเกิ๊นนนน

แล้วตัวแทนในเมืองไทย มีแห่งเดียวเท่านั้นครับ...ที่สำคัญ ของปลอมยังไม่มีในท้องตลาดครับ

ผ่านตัวแทนในไทยแล้วราคาแพง สั่งนำเข้ามาเองถูกกว่าครับป๋า

สั่งจากautogreekโดยตรงเลยดีกว่าครับ

น้ำยาทุกยี่ห้อยกเว้นของMGและCG สั่งนำเข้าเองถูกกว่าแน่นอนครับ

เค๊าไม่ขายให้เราสิครับป๋า เค๊าให้เราติดต่อดีเลอร์ที่เมืองไทยครับ

ก็คือที่ร้านนี้ล่ะครับ heartถ้าขายให้ล่ะแจ่มเลยจร้า คริๆๆๆ

ทำไมถึงไม่ขายหรอครับป๋าโจ้

แว็กผมมีอยู่ก็สั่งจากautogeekทั้งนั้น

ไม่เคยซื้อผ่านตัวแทนในไทยเลย

แต่แค่ต้องสั่งเกินเท่าไรจำไม่ได้ถึงส่งให้

ผมเคยลองสั่ง 2 ปุกค๊าบ 555+เค๊าเลยให้ซื้อกับดีเลอร์เลยมั้งค๊าบ55555+

[Bas Na Korat@0618]

ปาดำ ลง MG#21 ทิ้งไว้สัก 4-8 ชั่วโมง จากนั้นลง MG#135 ทับอีกที ฝุ่นจับน้อยลงครับ
จากนั้นมีคราบไรติดก็ล้างออกง่าย รถเงาใสๆดำๆ เท่านี้ก็พอใจล่ะครับ 

[Joe ผู้ชาย*รสส้ม*]

ปาดำ ลง MG#21 ทิ้งไว้สัก 4-8 ชั่วโมง จากนั้นลง MG#135 ทับอีกที ฝุ่นจับน้อยลงครับ
จากนั้นมีคราบไรติดก็ล้างออกง่าย รถเงาใสๆดำๆ เท่านี้ก็พอใจล่ะครับ 

[makrogak (ปลาลาดพริก) NO. 396]

ของผม ใช้  ของ แอมเวร์   ครับ   เงามาก   ใช้แล้วติดใจ   อิอิ   

[TAZZ]

เมื่อก่อน ตอนเรียนมหาลัย มีเวลาว่างโฮกๆ   ก็จะนิยมล้างรถ ลง wax เอง  ตอนนั้นใช้ turtle black box ทำมาเพื่อรถสีดำโดยเฉพาะ  ไม่ว่าจะเป็น pre , Carnauba , detailer จะเป็นน้ำยาสีดำหมด  ใช้แล้ว จะกลบรอยขนแมวดี มากๆ ถึงมากที่สุด จากรถที่มีรอย วงๆขนแมว กลายเป็น รถใหม่ทันที    เรื่องความเงา อันนี้ตัว black box  เอง งานจะออกไปทาง ดำเข้ม ดำลึก งานจะไม่ค่อย เงาฉ่ำ  เงาใสสักเท่าไหร่    แต่ได้ดีตรงที่ มันกลบรอย และดำซะใจ วัยรุ่น  จริงๆ     




ทีนี้พอได้ ความดำซะใจ ไร้ริ้วรอย เหมือนได้ย้อนกลับไปเป็นสาววัยละอ่อนแล้ว ก็มาเพิ่มความฉ่ำกับ Carlack 68 - Long Life Sealant ซึ่งเป็น Acryl Wax  ตัวนี้ลงง่าย เช็ดง่าย เห็นผลไว   สีดำ "ฉ่ำ" ขึ้นทันตาเห็น   แต่ข้อเสียของมันคือ ถ้าผิวสีของรถไม่สะอาดพอ หรือมีพวก คราบมูลนก ยางไม้ หรือ คราบน้ำ  มันจะเคลือบทับไปทันที กลายเป็นฝังแน่นเข้าไปอีก  ทีนี้หล่ะ ล้างรถครั้งหน้างานงอกแน่ๆ   


พอมาเริ่มทำงาน เวลาก็ไม่มีอีกเลยยยยยย (รู้งี้ติด F สักตัว สองตัวซะก็ดี)   ก็หันมาใช้บริการ คาร์แคร์ต่างๆ   ทั้ง แมกไกว์บ้าง  มาร์เธอร์บ้าง  สุดท้ายมาจบกับร้านที่ใช้ CG   ด้วยเหตุผลที่ว่า คุณภาพ กับราคา มันไปด้วยกันได้ หรือง่ายๆ ก็คือ  คุ้มค่าดี ไม่แพงมาก งานดี wax ทนพอสมควร


 
ตัวแรกที่ลองมาเล่นคือ   jetseal 109       ร้านแนะนำมา    ก็เอามาใช้แบบ งงๆ   แต่พอใช้ไป ใช้มาเริ่มชอบ   งานตัวนี้จะออกไปทาง ใสๆ วิ๊งๆ เหมือนเอา สติ๊กเกอร์ใส มา wrap ไว้    แล้วก็เนื้อwax ค่อนข้างทน (อันนี้ชอบมากเพราะไม่ค่อยมีเวลาไปล้าง)  เคลือบทีอยู่กันยาวๆ 

ถัดมาอีกตัวก็เป็น BlackLight ร้านไม่ได้แนะนำแต่อยากลอง ฮ่าๆ     งานตัวนี้จะออกไปทาง เงาฉ่ำๆ ไม่ใส   จะออกแนว ฉ่ำลึก   เนื้อwax ทนน้อยกว่าตัว jetseal 109 หน่อยนึง   

สุดท้ายตอนนี้ลองมาเล่นกับตัว LAVA  ตัวนี้เพิ่งได้ลองใช้ สองครั้ง เองครับ   งานตัวนี้ ก็ ตามชื่อเลย "lava"    เงาใส  ฉ่ำเยิ้ม เหมือนเอาสติ๊กเกอร์ใสมา wrap  แต่ไม่ใช่ wrap ธรรมดา  เป็นการ wrap แบบ ดึงยืด สติ๊กเกอร์ให้สุด  เงาแบบเยิ้มๆ ไหลๆ เหมือน lava 



   วันไหนล้างรถอีก จะเก็บภาพมาฝากกันครับ     ตอนนี้ไม่กล้าอวด สีเขรอะมาก  รถสีดำ ล้างเส็จ วิ่งยังไม่ทันจะสะเด็ดน้ำ ฝุ่นก็มาเกาะกันแล้ว ฮ่าๆ         

     มาแชร์กันครับ  ข้อมูลของผม  รีวิว เอามาจากความรู้สึกที่เคยสัมผัสมา เทียบเอาจากรถข้างๆที่จอดล้างเหมือนกัน แลกเปลี่ยนพูดคุยกันคนที่เอารถมาล้างด้วยกัน  อาจจะผิด ถูก เพี้ยนบ้างขออภัย ด้วยครับ 

ปล. ยืมภาพประกอบจาก อากู๋ google นะครับบบ

ใจเดียวกันอีกแล้วครับป๋า ผมใช้ CG109 JETSEAL เหมือนกันครับ กะว่าถ้าหมดรอบนี้จะลอง LAVA ด้วยคน และที่ผมชอบอีกหนึ่งตัวคือ MARINE ของ3M ครับ ตัวนี้ไม่ได้เน้นเงามากครับแต่เน้นทนครับ ใช้แล้วน้ำ+ฝุ่นมาเกาะน้อยลงครับ ผมใช้เวลาเคลือบก่อนไปต่างจังหวัด ล่าสุดลุยฝนที่ศรีราชามา น้ำเกาะข้างรถน้อนครับ ยังเงาสวยอยู่เลย

[Ake_MiNi]

เอ็มพี่ถามหน่อยของพี่ใช้แค่ Wolfgang เองอะพออะยังเนี้ยน้อง

[Nakavabi]

เอ็มพี่ถามหน่อยของพี่ใช้แค่ Wolfgang เองอะพออะยังเนี้ยน้อง

พอแล้วครับ ตั้งแต่ที่ลองมาหลายตัวชุดนี้เหมาะกับรถสีขาวมุกที่สุดแล้ว

แต่ว่าจริงๆยังขาดLubicantหน่อย สำหรับลูบคู่กับดินน้ำมัน

[Nakavabi]

ของผม ใช้  ของ แอมเวร์   ครับ   เงามาก   ใช้แล้วติดใจ   อิอิ   

ใช้ของแอมเวร์บ่อยๆไม่ดีนะครับ ถ้านานๆครั้งโอเค

เพราะมันเป็นAIO มีผงขัดผสมด้วย

[Ake_MiNi]

เอ็มพี่ถามหน่อยของพี่ใช้แค่ Wolfgang เองอะพออะยังเนี้ยน้อง

พอแล้วครับ ตั้งแต่ที่ลองมาหลายตัวชุดนี้เหมาะกับรถสีขาวมุกที่สุดแล้ว

แต่ว่าจริงๆยังขาดLubicantหน่อย สำหรับลูบคู่กับดินน้ำมัน

อ๋อตัวนั้นมีครับพี่ปริญผสมใส่ฟ๊อกกี้ให้แล้วใช้ฉีดตอนลูบดินน้ำมัน ไอ้น้ำสีชมพูช่ายมะ

[Nakavabi]

เอ็มพี่ถามหน่อยของพี่ใช้แค่ Wolfgang เองอะพออะยังเนี้ยน้อง

พอแล้วครับ ตั้งแต่ที่ลองมาหลายตัวชุดนี้เหมาะกับรถสีขาวมุกที่สุดแล้ว

แต่ว่าจริงๆยังขาดLubicantหน่อย สำหรับลูบคู่กับดินน้ำมัน

อ๋อตัวนั้นมีครับพี่ปริญผสมใส่ฟ๊อกกี้ให้แล้วใช้ฉีดตอนลูบดินน้ำมัน ไอ้น้ำสีชมพูช่ายมะ

อ่อ...ซื้อกับพี่หวาน(sweet-14)นี่เอง

[colo]

เอามาแชร์บ้างครับ ใช้มาหลายตัว ยังเหลือตัวที่อยากใช้แต่ยังไม่มีโอกาสเพราะราคาสูงเกินคือ Swisswax กับ Zymol บอกก่อนครับว่ารถผมสีน้ำตาลทอง

- เริ่มจากเมื่อก่อนใช้แต่ Meguiars แต่มาผิดหวังเอาตัวใหม่ของเค้า Ultimate Wax ลงแล้วดูเฉยๆมาก

- พอเข้าวงการ Wax ก็เริ่มจากเสียตังค์ไปกับ Wolfgang เป็นตัวแรก ผลงานที่ได้จะลื่น เงาใส เงามาก และเมื่อใช้ Pre-wax ด้วยงานจะสวยสุดๆ (ค้นพบอย่างหนึ่งว่า Pre-wax ต้องลงด้วยเครื่อง งานถึงจะออกมาดีสุด) แต่ไม่ทน เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก และมีไฟฟ้าสถิตย์เยอะสุดเท่าที่ใช้มา แต่อย่างไรก็ตาม Wax ตระกูลนี้เป็นตัวที่นึกอะไรไม่ออกก็จะหยิบมาใช้บ่อยสุด

- ตัวต่อไปที่ลองก็เป็น Ultima Paint Guard Plus ด้วย Concept เช็ดแล้วเดินไปทำอย่างอื่นได้เลย ไม่ต้องเช็ดออก แต่ในความเป็นจริงก็ต้องมาคอยเช็ดคราบในจุดที่โดนน้ำยามากเกินไปอยู่ดี ไม่งั้นจะเห็นเป็นคราบน้ำยา ตัวนี้ถ้าเตรียมผิวมาดี งานที่ได้จะออกเงาใสๆๆๆๆๆๆๆ เป็นเหมือนวุ้นๆเคลือบอยู่ และลื่นสุดๆ ใช้ปริมาณน้อยมากๆ แต่ไม่ชอบกลิ่นที่เหมือนน้ำมันก๊าด และมันจะไม่เงาทันทีนะครับ ต้องรอเวลาให้มัน Set ตัวนานหลายชั่วโมงเลยกว่าจะเงา ส่วนความทนทาน คิดว่าไม่ค่อยทนเท่าไหร่ ไม่กี่วันก็หมองแล้ว แต่เป็น Wax ที่เหมาะสำหรับเวลาขี้เกียจมากที่สุด เพราะลงง่ายมาก

- Pete53 และ Jetseal เป็นตัวต่อไปที่ซื้อมาใช้ เพราะเห็นว่า Jetseal เหมาะกับสีที่มีเมทัลลิก และได้ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน แต่เมื่อใช้จริงก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่ามันทนยังไง รู้แต่ว่ามันเงาไม่ถูกใจทัังคู่เลย เงาเฉยๆมากๆ ไม่ดีเด่นออกมาชัดเจนแบบ 2 ตัวข้างบน จะบอกว่าผิดหวังก็ไม่เชิง เพราะอย่างน้อยยี่ห้อ CG ก็มีดีที่ฝุ่นน้อยกว่าชาวบ้านเค้ามาก

- ทั้งหมดที่ใช้มาข้างบนเป็น Wax ตระกูลใสๆ จริงๆแล้วมันค่อนข้างเหมาะกับรถสีอ่อนซะมากกว่า จึงเริ่มเปลี่ยนมาลอง Wax ที่เหมาะกับรถสีเข้มบ้าง ก็เลยลองตัวที่กล่าวขวัญกันมากสุดคือ Pinnacle Souveran Carnauba Paste Wax กลิ่นจะเหมือนนมๆ เนยๆ งานที่ได้จะออกเงาฉ่ำๆ นุ่มๆ สีรถดูเข้มขึ้น เวลาจับตัวรถจะรู้สึกเหมือนมันนุ่มๆ อ้อ..ดินน้ำมันผมก็ใช้ของยี่ห้อนี้เหมือนกัน ต้องบอกว่าเป็น Wax ที่เหมาะกับรถสีเข้มมาก ลงไม่ยากแต่เหนื่อยหน่อยเพราะรถมันใหญ่ ข้อเสียหลักๆเลยคือ ด้วยความที่มันเป็นขี้ผึ้ง ฝุ่นเลยติดตัวรถเยอะมาก เลยลองซื้อเพื่อนมันมาลอง  คือ Pinnacle Crystal Mist Detail Spray หวังว่าจะเอามาช่วยลดฝุ่น แต่โดยส่วนตัว งานที่ได้ไม่ชอบครับ ผมว่ามันทำให้ Wax ที่ลงไว้ทีแรกดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัด

- เริ่มยาวแล้ว เอาเป็นตัวสุดท้ายที่ลองใช้เลยดีกว่าครับ คือ Lava เนื่องจากกลัวไม่อินเทรนด์ เลยรีบสั่งมาลอง จริงๆตัวนี้ก็เหมาะกับรถสีอ่อนมากกว่าครับ เปิดออกมาจะได้กลิ่นส้มๆ เหมือนสีของมัน ตัว Wax จะนิ่มมากๆ งานที่ได้จะออกใสๆ ตามสไตล์ CG ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ V7 ในแบบที่เป็น Wax งานไม่ได้โดดเด่นมากมาย แต่ข้อดีของมันคือ ฝุ่นน้อยมาก ทำให้ได้ความเงาสวยไปหลายวันเลยทีเดียว

ปัจจุบันเริ่มขี้เกียจ ผมเลยมักจะซักแห้งรถเป็นประจำ ด้วยน้ำยาที่อำนวยความสะดวกมาก คือ Optimum No Rinse Wash & Shine หรือ ONR เช็ดด้วยน้ำยาตัวนี้แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดตาม จริงๆมันก็เงาแล้วนะครับ แต่กลัว Wax ที่มีอยู่จะใช้ไม่หมด ก็เลยต้องหาตัวอื่นมาลงตาม

ปล. งานจะออกมาสวยสุด ต้องเตรียมผิวดีๆครับ ให้สะอาดและเรียบที่สุด ถ้าเป็นไปได้ก็ควรใช้ Pre-wax แต่ไม่ว่าจะดูแลดียังไง สุดท้ายมันก็มีรอยขนแมวขนหมาอยู่ดี ก็คงต้องเอาไปขัดสีบ้างในที่สุด (แม้เครื่องมือจะครบ แต่ยังไม่กล้าขัดเองครับ)

[thekop07]

เอามาแชร์บ้างครับ ใช้มาหลายตัว ยังเหลือตัวที่อยากใช้แต่ยังไม่มีโอกาสเพราะราคาสูงเกินคือ Swisswax กับ Zymol บอกก่อนครับว่ารถผมสีน้ำตาลทอง

- เริ่มจากเมื่อก่อนใช้แต่ Meguiars แต่มาผิดหวังเอาตัวใหม่ของเค้า Ultimate Wax ลงแล้วดูเฉยๆมาก

- พอเข้าวงการ Wax ก็เริ่มจากเสียตังค์ไปกับ Wolfgang เป็นตัวแรก ผลงานที่ได้จะลื่น เงาใส เงามาก และเมื่อใช้ Pre-wax ด้วยงานจะสวยสุดๆ (ค้นพบอย่างหนึ่งว่า Pre-wax ต้องลงด้วยเครื่อง งานถึงจะออกมาดีสุด) แต่ไม่ทน เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก และมีไฟฟ้าสถิตย์เยอะสุดเท่าที่ใช้มา แต่อย่างไรก็ตาม Wax ตระกูลนี้เป็นตัวที่นึกอะไรไม่ออกก็จะหยิบมาใช้บ่อยสุด

- ตัวต่อไปที่ลองก็เป็น Ultima Paint Guard Plus ด้วย Concept เช็ดแล้วเดินไปทำอย่างอื่นได้เลย ไม่ต้องเช็ดออก แต่ในความเป็นจริงก็ต้องมาคอยเช็ดคราบในจุดที่โดนน้ำยามากเกินไปอยู่ดี ไม่งั้นจะเห็นเป็นคราบน้ำยา ตัวนี้ถ้าเตรียมผิวมาดี งานที่ได้จะออกเงาใสๆๆๆๆๆๆๆ เป็นเหมือนวุ้นๆเคลือบอยู่ และลื่นสุดๆ ใช้ปริมาณน้อยมากๆ แต่ไม่ชอบกลิ่นที่เหมือนน้ำมันก๊าด และมันจะไม่เงาทันทีนะครับ ต้องรอเวลาให้มัน Set ตัวนานหลายชั่วโมงเลยกว่าจะเงา ส่วนความทนทาน คิดว่าไม่ค่อยทนเท่าไหร่ ไม่กี่วันก็หมองแล้ว แต่เป็น Wax ที่เหมาะสำหรับเวลาขี้เกียจมากที่สุด เพราะลงง่ายมาก

- Pete53 และ Jetseal เป็นตัวต่อไปที่ซื้อมาใช้ เพราะเห็นว่า Jetseal เหมาะกับสีที่มีเมทัลลิก และได้ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน แต่เมื่อใช้จริงก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่ามันทนยังไง รู้แต่ว่ามันเงาไม่ถูกใจทัังคู่เลย เงาเฉยๆมากๆ ไม่ดีเด่นออกมาชัดเจนแบบ 2 ตัวข้างบน จะบอกว่าผิดหวังก็ไม่เชิง เพราะอย่างน้อยยี่ห้อ CG ก็มีดีที่ฝุ่นน้อยกว่าชาวบ้านเค้ามาก

- ทั้งหมดที่ใช้มาข้างบนเป็น Wax ตระกูลใสๆ จริงๆแล้วมันค่อนข้างเหมาะกับรถสีอ่อนซะมากกว่า จึงเริ่มเปลี่ยนมาลอง Wax ที่เหมาะกับรถสีเข้มบ้าง ก็เลยลองตัวที่กล่าวขวัญกันมากสุดคือ Pinnacle Souveran Carnauba Paste Wax กลิ่นจะเหมือนนมๆ เนยๆ งานที่ได้จะออกเงาฉ่ำๆ นุ่มๆ สีรถดูเข้มขึ้น เวลาจับตัวรถจะรู้สึกเหมือนมันนุ่มๆ อ้อ..ดินน้ำมันผมก็ใช้ของยี่ห้อนี้เหมือนกัน ต้องบอกว่าเป็น Wax ที่เหมาะกับรถสีเข้มมาก ลงไม่ยากแต่เหนื่อยหน่อยเพราะรถมันใหญ่ ข้อเสียหลักๆเลยคือ ด้วยความที่มันเป็นขี้ผึ้ง ฝุ่นเลยติดตัวรถเยอะมาก เลยลองซื้อเพื่อนมันมาลอง  คือ Pinnacle Crystal Mist Detail Spray หวังว่าจะเอามาช่วยลดฝุ่น แต่โดยส่วนตัว งานที่ได้ไม่ชอบครับ ผมว่ามันทำให้ Wax ที่ลงไว้ทีแรกดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัด

- เริ่มยาวแล้ว เอาเป็นตัวสุดท้ายที่ลองใช้เลยดีกว่าครับ คือ Lava เนื่องจากกลัวไม่อินเทรนด์ เลยรีบสั่งมาลอง จริงๆตัวนี้ก็เหมาะกับรถสีอ่อนมากกว่าครับ เปิดออกมาจะได้กลิ่นส้มๆ เหมือนสีของมัน ตัว Wax จะนิ่มมากๆ งานที่ได้จะออกใสๆ ตามสไตล์ CG ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ V7 ในแบบที่เป็น Wax งานไม่ได้โดดเด่นมากมาย แต่ข้อดีของมันคือ ฝุ่นน้อยมาก ทำให้ได้ความเงาสวยไปหลายวันเลยทีเดียว

ปัจจุบันเริ่มขี้เกียจ ผมเลยมักจะซักแห้งรถเป็นประจำ ด้วยน้ำยาที่อำนวยความสะดวกมาก คือ Optimum No Rinse Wash & Shine หรือ ONR เช็ดด้วยน้ำยาตัวนี้แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดตาม จริงๆมันก็เงาแล้วนะครับ แต่กลัว Wax ที่มีอยู่จะใช้ไม่หมด ก็เลยต้องหาตัวอื่นมาลงตาม

ปล. งานจะออกมาสวยสุด ต้องเตรียมผิวดีๆครับ ให้สะอาดและเรียบที่สุด ถ้าเป็นไปได้ก็ควรใช้ Pre-wax แต่ไม่ว่าจะดูแลดียังไง สุดท้ายมันก็มีรอยขนแมวขนหมาอยู่ดี ก็คงต้องเอาไปขัดสีบ้างในที่สุด (แม้เครื่องมือจะครบ แต่ยังไม่กล้าขัดเองครับ)

แน่นมาก จากประสบการณ์ตรง ขอบคุณครับป๋าสำหรับข้อมูลดีๆ 

[เอกเอนกประสงค์ No.32]

เอามาแชร์บ้างครับ ใช้มาหลายตัว ยังเหลือตัวที่อยากใช้แต่ยังไม่มีโอกาสเพราะราคาสูงเกินคือ Swisswax กับ Zymol บอกก่อนครับว่ารถผมสีน้ำตาลทอง

- เริ่มจากเมื่อก่อนใช้แต่ Meguiars แต่มาผิดหวังเอาตัวใหม่ของเค้า Ultimate Wax ลงแล้วดูเฉยๆมาก

- พอเข้าวงการ Wax ก็เริ่มจากเสียตังค์ไปกับ Wolfgang เป็นตัวแรก ผลงานที่ได้จะลื่น เงาใส เงามาก และเมื่อใช้ Pre-wax ด้วยงานจะสวยสุดๆ (ค้นพบอย่างหนึ่งว่า Pre-wax ต้องลงด้วยเครื่อง งานถึงจะออกมาดีสุด) แต่ไม่ทน เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก และมีไฟฟ้าสถิตย์เยอะสุดเท่าที่ใช้มา แต่อย่างไรก็ตาม Wax ตระกูลนี้เป็นตัวที่นึกอะไรไม่ออกก็จะหยิบมาใช้บ่อยสุด

- ตัวต่อไปที่ลองก็เป็น Ultima Paint Guard Plus ด้วย Concept เช็ดแล้วเดินไปทำอย่างอื่นได้เลย ไม่ต้องเช็ดออก แต่ในความเป็นจริงก็ต้องมาคอยเช็ดคราบในจุดที่โดนน้ำยามากเกินไปอยู่ดี ไม่งั้นจะเห็นเป็นคราบน้ำยา ตัวนี้ถ้าเตรียมผิวมาดี งานที่ได้จะออกเงาใสๆๆๆๆๆๆๆ เป็นเหมือนวุ้นๆเคลือบอยู่ และลื่นสุดๆ ใช้ปริมาณน้อยมากๆ แต่ไม่ชอบกลิ่นที่เหมือนน้ำมันก๊าด และมันจะไม่เงาทันทีนะครับ ต้องรอเวลาให้มัน Set ตัวนานหลายชั่วโมงเลยกว่าจะเงา ส่วนความทนทาน คิดว่าไม่ค่อยทนเท่าไหร่ ไม่กี่วันก็หมองแล้ว แต่เป็น Wax ที่เหมาะสำหรับเวลาขี้เกียจมากที่สุด เพราะลงง่ายมาก

- Pete53 และ Jetseal เป็นตัวต่อไปที่ซื้อมาใช้ เพราะเห็นว่า Jetseal เหมาะกับสีที่มีเมทัลลิก และได้ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน แต่เมื่อใช้จริงก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่ามันทนยังไง รู้แต่ว่ามันเงาไม่ถูกใจทัังคู่เลย เงาเฉยๆมากๆ ไม่ดีเด่นออกมาชัดเจนแบบ 2 ตัวข้างบน จะบอกว่าผิดหวังก็ไม่เชิง เพราะอย่างน้อยยี่ห้อ CG ก็มีดีที่ฝุ่นน้อยกว่าชาวบ้านเค้ามาก

- ทั้งหมดที่ใช้มาข้างบนเป็น Wax ตระกูลใสๆ จริงๆแล้วมันค่อนข้างเหมาะกับรถสีอ่อนซะมากกว่า จึงเริ่มเปลี่ยนมาลอง Wax ที่เหมาะกับรถสีเข้มบ้าง ก็เลยลองตัวที่กล่าวขวัญกันมากสุดคือ Pinnacle Souveran Carnauba Paste Wax กลิ่นจะเหมือนนมๆ เนยๆ งานที่ได้จะออกเงาฉ่ำๆ นุ่มๆ สีรถดูเข้มขึ้น เวลาจับตัวรถจะรู้สึกเหมือนมันนุ่มๆ อ้อ..ดินน้ำมันผมก็ใช้ของยี่ห้อนี้เหมือนกัน ต้องบอกว่าเป็น Wax ที่เหมาะกับรถสีเข้มมาก ลงไม่ยากแต่เหนื่อยหน่อยเพราะรถมันใหญ่ ข้อเสียหลักๆเลยคือ ด้วยความที่มันเป็นขี้ผึ้ง ฝุ่นเลยติดตัวรถเยอะมาก เลยลองซื้อเพื่อนมันมาลอง  คือ Pinnacle Crystal Mist Detail Spray หวังว่าจะเอามาช่วยลดฝุ่น แต่โดยส่วนตัว งานที่ได้ไม่ชอบครับ ผมว่ามันทำให้ Wax ที่ลงไว้ทีแรกดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัด

- เริ่มยาวแล้ว เอาเป็นตัวสุดท้ายที่ลองใช้เลยดีกว่าครับ คือ Lava เนื่องจากกลัวไม่อินเทรนด์ เลยรีบสั่งมาลอง จริงๆตัวนี้ก็เหมาะกับรถสีอ่อนมากกว่าครับ เปิดออกมาจะได้กลิ่นส้มๆ เหมือนสีของมัน ตัว Wax จะนิ่มมากๆ งานที่ได้จะออกใสๆ ตามสไตล์ CG ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ V7 ในแบบที่เป็น Wax งานไม่ได้โดดเด่นมากมาย แต่ข้อดีของมันคือ ฝุ่นน้อยมาก ทำให้ได้ความเงาสวยไปหลายวันเลยทีเดียว

ปัจจุบันเริ่มขี้เกียจ ผมเลยมักจะซักแห้งรถเป็นประจำ ด้วยน้ำยาที่อำนวยความสะดวกมาก คือ Optimum No Rinse Wash & Shine หรือ ONR เช็ดด้วยน้ำยาตัวนี้แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดตาม จริงๆมันก็เงาแล้วนะครับ แต่กลัว Wax ที่มีอยู่จะใช้ไม่หมด ก็เลยต้องหาตัวอื่นมาลงตาม

ปล. งานจะออกมาสวยสุด ต้องเตรียมผิวดีๆครับ ให้สะอาดและเรียบที่สุด ถ้าเป็นไปได้ก็ควรใช้ Pre-wax แต่ไม่ว่าจะดูแลดียังไง สุดท้ายมันก็มีรอยขนแมวขนหมาอยู่ดี ก็คงต้องเอาไปขัดสีบ้างในที่สุด (แม้เครื่องมือจะครบ แต่ยังไม่กล้าขัดเองครับ)

แน่นมาก จากประสบการณ์ตรง ขอบคุณครับป๋าสำหรับข้อมูลดีๆ 

ตัวนี้น่าสนจัย

ปัจจุบันเริ่มขี้เกียจ ผมเลยมักจะซักแห้งรถเป็นประจำ ด้วยน้ำยาที่อำนวยความสะดวกมาก คือ Optimum No Rinse Wash & Shine หรือ ONR เช็ดด้วยน้ำยาตัวนี้แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดตาม จริงๆมันก็เงาแล้วนะครับ แต่กลัว Wax ที่มีอยู่จะใช้ไม่หมด ก็เลยต้องหาตัวอื่นมาลงตาม