มีป๋าหลายคน ก่อนมาใช้บริการร้านผม โทรมาเล่าให้ฟัง โดนทุบไปหลายคันมั๊กๆ
เพราะในมุมมองโจรเขาบอกปาเจ๊ะ คือรถป๋า รถเสี่ย เป๋าหนัก
แล้วชอบไปจอดทิ้งแถวร้านอาหารหรูๆด้วย แถวนวมินทร์โดนไปหลายคัน
ตอนนี้มีจับแก๊งค์นี้ได้ แม้จะหลบหนีได้บางคน....ยังไงไปดูของกลาง ร่วมเป็นโจทก์ ฟ้องให้หนักๆ เอาให้อยู่ในคุกนานที่สุดเลยนะครับ
ตะครุบ2แท็กซี่โจร ทุบกระจก ฉกของในรถ
ดูคลิป คลิ๊ก Play หรือกดตามลิงค์เลยครับ
ขับแท๊กซี่ตระเวนตามถนน แหล่งมีผับบาร์ เมาจอด-ก็โดน นําทรัพย์เหยื่อ โพสต์ขายเน็ต
สืบโคกครามเจ๋งรวบ 2 หนุ่ม แก๊งทุบกระจกรถขับแท็กซี่บังหน้า บางรายฉกทรัพย์สินนักท่องราตรีดื่มจนเมาหนัก ขับรถกลับบ้านไม่ไหว ต้องจอดรถนอนหลับริมถนนหลายท้องที่ ก่อนนำทรัพย์สินที่ได้มาไปขายในเว็บไซต์ขายของต่างๆและร้านรับซื้อของมือสอง ขณะผู้ต้องหาอีก 1 คน หลบหนีไปได้
ตำรวจรวบ 2 โชเฟอร์แท็กซี่ตระเวนทุบกระจกรถฉกทรัพย์สินไปขาย เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 ก.ย. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สมบัติ หงษ์ทอง ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พงษ์สิทธิ์ ปาลาพงศ์ สว.สส. ร.ต.อ.เฉลิมพล วงษ์ชัยสุวรรณ รอง สว.สส. แถลงจับกุม นายวิวรรธน์ หรือแว่น สนิทชน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 260 ถนนวงศ์สว่าง แขวงและเขตบางซื่อ กทม.และนายชัยวัฒน์ หรือโก้ โภคินวรนันต์ อายุ 35 ปี พักอยู่ห้องเลขที่ 2615 ชั้น 6 อาคารอิน 36 แมนชั่น ซอยอินทามระ 36 แขวงดินแดง เขตบางซื่อ กทม. พร้อมของกลางกว่า 100 รายการ อาทิ ปืนสั้นยี่ห้อกล็อก 9 มม. 1 กระบอก กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน ไอแพด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก กระเป๋าถือและอุปกรณ์การทุบกระจกรถยนต์ และรถแท็กซี่โตโยต้า อัสติส สีชมพู ทะเบียน ทว 3119 กรุงเทพมหานคร และรถแท็กซี่โตโยต้า อัสติส สีชมพู ทะเบียน ทว 1618 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ก่อเหตุ โดยมีผู้เสียหายมาร่วมดูการแถลงข่าวด้วย
พ.ต.อ.เจริญกล่าวว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา นายเชษฐา ชาญนรา อายุ 37 ปี ทำงานสถาปนิก บริษัทออกแบบแห่งหนึ่งย่านอโศก เข้าแจ้งความต่อ พงส.สน.โคกคราม ว่าขณะจอดรถยนต์ ยี่ห้อเกีย รุ่นสปอร์ตเทจ สีดำ ทะเบียน ภธ 8609 กรุงเทพมหานครบริเวณริมถนนประเสริฐมนูกิจ(เกษตร-นวมินทร์) ใกล้ ร.ร.เลิศหล้า แขวงบึงกุ่ม เขตบางกะปิ กทม. เพื่อรับประทานอาหาร กระทั่งกลับมาที่รถพบถูกทุบกระจกรถเอากล้องถ่ายรูปและทรัพย์สินอีกหลายรายการรวมกว่า 7 หมื่นบาท ต่อมาคนร้ายนำกล้องไปโพสต์ขายในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง นายเชษฐาจำได้ว่าเป็นกล้องที่ถูกขโมยไป ก่อนประสานฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม วางแผนล่อซื้อ นัดส่งของกันที่หน้าบิ๊กซี สาขาวงศ์สว่าง ถนนพิบูลย์สงคราม แขวงและเขตบางซื่อ กทม.เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยนายวิวรรธน์ หรือแว่น ผู้ต้องหานำกล้องมาที่จุดนัดพบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม
จากนั้นขยายผลตามรวบนายชัยวัฒน์ผู้ต้องหาอีกคน ไปค้นที่พักและแท็กซี่ทั้ง 2 คันของผู้ต้องหาทั้งคู่พบของกลางจำนวนมาก โดยแก๊งนี้มี 3 คน ผู้ต้องหาอีก 1 คนยังหลบหนีอยู่ เจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นใครกำลังตามจับตัวอยู่ แก๊งดังกล่าวจะก่อเหตุท้องที่ สน.โคกคราม สน.บางเขน สน.ลาดพร้าว สน.โชคชัย สน.พหลโยธิน สน.ทองหล่อ และ สน.ห้วยขวาง คาดก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง หากประชาชนสงสัยว่าถูกแก๊งนี้ก่อเหตุให้มาดูของกลางที่ สน.โคกคราม ตลอด 24 ชม. เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อใช้ในการหลบหนี ส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาสารภาพว่า ขับแท็กซี่บังหน้ามักจะไปจอดตามสถานบันเทิง เพื่อรับนักท่องราตรีที่ดื่มสุราจนเมาไม่ได้สติก่อนปลดทรัพย์สินนอกจากนี้ จะตระเวนไปตามถนนที่มีร้านอาหารและร้านสุราเยอะๆ หาเหยื่อที่เมาขับรถกลับบ้านไม่ไหวจอดรถนอน ตีเนียนเป็นพลเมืองดีเข้าไปเคาะกระจกรถสอบถามอาการ หากเหยื่อตายใจเปิดกระจก หรือปลดล็อกประตูรถจะฉกกระเป๋าหรือทรัพย์สินในรถทันทีก่อนหนีไป ถ้าเจอรถที่จอดทิ้งไว้ริมถนนใกล้ๆร้านอาหาร จะเข้าไปดูว่าในรถวางสิ่งของมีค่าอะไรหรือไม่ ก่อนใช้เหล็กทุบกระจกจนแตกและเอาทรัพย์สินไป 4 เดือนที่ผ่านมาร่วมกันก่อเหตุประมาณ 13 ครั้ง จะนำทรัพย์สินไปขายตามเว็บไซต์ต่างๆ กับร้านรับซื้อของมือสองต่างๆ นำเงินมาแบ่งกันใช้กินใช้เที่ยว และจ่ายค่าแท็กซี่ด้วย ส่วนปืนพกได้จากรถยนต์เหยื่อรายหนึ่งที่จอดทิ้งไว้ริมถนนย่านเกษตร-นวมินทร์เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้เอาไปขายแต่เก็บไว้ป้องกันตัวด้วย
ขณะที่นายสมเกียรติ พิพัฒน์พัลลภ อายุ 47 ปี เจ้าของตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์รายใหญ่ ย่านถนนวิภาวดี หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนไปสังสรรค์กับเพื่อน ดื่มสุรามากจนขับรถไม่ไหว ก่อนจอดรถตู้โตโยต้า รุ่นแกรนเวีย สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ภย 881 กรุงเทพมหานคร นอนบริเวณริมถนนเกษตร-นวมินทร์ ต่อมามีคนร้ายมาในคราบโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่เข้ามาเคาะกระจกรถ เพื่อสอบถามอาการและเสนอให้ความช่วยเหลือ เมื่อตนเปิดประตูรถ คนร้ายอาศัยจังหวะเผลอหยิบกระเป๋าเอกสาร ภายในมีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 ไอแพดมินิ และเงินสดประมาณ 1 หมื่นบาท หลบหนีขึ้นแท็กซี่ไป
เครดิต
http://www.thairath.co.th/content/453053
