Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

V6 Punpun ถอดหัวฉีดน้ำมันออกมา Test เพราะมันตัน 1 หัว  เลยเอารูปมาดูเป็นข้อมูลกันครับ  ต้อง Sign in เข้ามาถึงเห็นรูปครับ

ใหม่ใหม่หัวละ 5100 +Vat ที่ Mitsu  หลายที่มักกล่าวว่ามันเป็นระบบปิด  มันจะตันได้ยังไง    มันตันได้แต่ก็ล้างและทดสอบได้  เหตุที่ผมตันก็เพราะผมมักเตือนเพื่อนเพื่อนว่า  ให้บริหารหัวฉีดน้ำมันด้วยการวิ่งที่ปรกติบ้าง  เวลาน้ำมันถูกลง  แต่ตัวเองนั่นแหละไม่ค่อยจะทำตามนั้น  เลยตันซะ  เล่นซะค่า Trim สูงปรี๊ดไปเลยเวลาไปเดินด้วยน้ำมัน   ก็เลยเอาโปรแกรม Ac Syn. ของระบบแก็สออกมาตรวจดู  พอดีของผม ECU เป็นรุ่น Obd Premium ที่เปลี่ยนมาใหม่จาก Isa2 ก็ดูค่า Trim ของ 2 Banks ทั้งของ น้ำมันและแก็สได้ดี  ก็ไล่พบว่ามันมีปัญหาที่ Bank2 ก็ไล่ทดสอบเอาหัวฉีดจ่ายแก็ส  เข้าไปทดสอบสั้งให้มันจ่ายแก็สทดสอบทีละหัวที่ Bank 2 ก็พบว่า หัวที่ 6 มีปัญหา

เพราะจากการทดสอบพบว่าเมื่อจ่าย 5 หัวด้วยน้ำมัน 12345 และ จ่ายด้วยแก็สที่ 6 มันปรกติเท่ากันทั้ง 2 Banks ก็ถอดออกมาสลับหัวที่ 6 ไปอยู่ที่ Bank1 สูบ 5  ก็พบว่าปัญหาตามไปเกิดที่สูบนั้นทันที  ก็เลยมั่นใจว่าระบบ Coils, หัวเทียน และอื่นอื่น ไม่ได้เป็นปัญหา  ปัญหามันย้ายตามหัวฉีดที่ตันไปเลย  ก็เลยเอาไป  ทดสอบด้วยเครื่องล้าง Auto ทันที  ผลทดสอบหน้างาน  ใช่เลย หัวฉีดหัวนี้ พ่นไม่ค่อยออก ก็ล้างไปหลายรอบ เอามาใส่ใหม่ก็ดี  ขึ้นทันที

ก็เลยแวะมาเล่าอาการให้เป็นข้อมูลดังนี้  เอาไว้เป็นตัวอย่างในการวิเคราะห์กับสมาชิกครับ
อาการ...

---- เดินเครื่องด้วยระบบแก็ส  นิ่งสนิทดี
---- เดินเครื่องด้วยน้ำมัน  สั่น  วิ่งด้วยน้ำมันสักพัก  ค่า Trim ปรับตัวสูงขึ้นจนไฟ Engine โชว์ พร้อม code ว่ามีการ Misfired เกิดขึ้นที่ที่สูบนั้น
---- จึงตัดปัญหาเรื่องวาวล์ไอดียันทิ้งไป  เพราะระบบแก็สฉีดออกมาเท่ากันปรกติดี
---- ย้ายตำแหน่งหัวฉีดน้ำมันไปที่สูบอื่น  ปัญหาตามไป  จึงตัดปัญหาพวก Coils, หัวเทียนออกไปอีก
---- คงเหลือยืนยันให้แน่ใจ  เอาหัวฉีดไปทดสอบด้วยเครื่องทดสอบ Gasoline Injectors ก็พบเหตุ เลยจัดการซะ.

จึงเอามาเตือนสมาชิกว่า  เมื่อราคาน้ำมันถูกลงก็บริหารร่างกายหัวฉีดน้ำมันกันบ้างนะ  ยิ่งพวกที่ใช้น้ำมัน E ต่างต่างนี่  มันกัดกร่อนชิ้นส่วนที่ไม่ทำไว้ให้ทนมาย่อยสลายและอุดตันตรงปลายสุดนี่ได้  เปลี่ยนกล่อง Mo กล่องให้ใช้ได้ก็ดีได้  แต่เรื่องกรองในหัว หรือชิ้นส้่วนทางเดินน้ำมันหากมีการกร่อนแล้วหลุดออกมาจบที่ปลายหัวฉีดละก็  ลองทดสอบดูว่าหัวฉีดตันไหม  หากอยู่ กท.. มีหลายร้านที่รับทดสอบหัวฉีดน้ำมันพร้อมล้างและทดสอบโชว์จากหลอดแก้วให้เห็นเลย  แต่หากต่างจังหวัดหายาก  เพราะเครื่องมันแพง  แต่ผมอยู่พัทยามีอยู่อู่เดียวเท่านั้นที่มีและอยู่ซะลึกลับเลย  แถมไม่มีเวลาให้เรายืนจัดการเฝ้าเองด้วยเลย อิ... อยากไปใช้ 2.4 จัง  ถอดรื้อง่ายมากกว่า V6 เยอะเลย อิจฉา 2.4 เลยอะ..

อยากจะบอกอย่างนึง  เคยลองล้างด้วยน้ำยาผสมลงในถังมาหลายกระป๋องแล้ว  เอาไม่ออกหรอกหากตันเยอะ  ถอด shure กว่า  ทดสอบเห้นเห็นในหลอดแก้ว

ก่อนผมติดแก๊สก็ ถอดมาล้างใหม่ 6 หัว ล้างถังน้ำมันด้วย  เพราะก่อนนี้ใช้แต่ GSH ตอนนี้ติดแก๊สแล้วก็อย่างป๋าบอก จับ ใช้น้ำมัน รีดพลังกันบ้าง .....สรุปของป๋า แค่ล้างเปลี่ยนกรองที่หัวฉีดหรือเปลี่ยนใหม่เลยครับเนี่ย

 ล้างรอบนี้หากตันอีก  ก็จะซื้อหัวนึงป๋า  ถอดทีเหนื่อยมาก  งานช้างเลย v6.

เพราะถ้าถอดบ่อย้หนื่อย  ยอมจ่าย 5100 เลย shure ไม่ต้องรื้ออีก

อิอิอิ
  v6 หล่อแรง   
2.4 รถตลาดครับ 555555

ป๋า PUNPUN

ทำไม v6 เราตันง่าย  ปจจัยทำให้ตันมีอะรไบ้างครับ ?

v6 ผมวิ่ง เกือบ 70,000 ใช้น้ำมันตอนติดเครื่องเครื่องร้อนเข้าแก๊ส  ไม่ได้เน้นวิ่งพิเศษอะไร  ยังไม่พบอาการ

เทียบกับอีกคัน ฟอร์จูนเนอร์ เบนซิน วิ่ง 370,000 ใช้น้ำมันคล้ายๆกัน ติดเครื่องวิ่งไปเรื่อย เครื่องร้อนเข้าแก๊สออโต้  ยังไม่ตัน  ใช้โซฮอล 91 มาตลอด

มันหมายถึง ชิ้นส่วนปาเราละเอียดอ่อน ต้องดูแลมากหน่อย

ผมวิ่งนำมันเฉพาะตอนสตาร์ท กับตอนก่อนถึงที่หมายซัก 2-3 กิโลแค่นั้นเอง จะเสี่ยงมั้ยเนี่ย ทนไม่ได้

ป๋าปันปัน ผมมีเรื่องปรึกษา รบกวนขอเบอร์โทรฯด้วยครับ

ขอบคุณครับป๋าปันปัน   สำหรับข้อมูล ตอนนี้ตั้งวาล์ว ตามข้อมูลป๋า เสียงเงียบกริ๊บ ผ่านเรียบร้อย ทั้งน้ำมันแก็ส วาล์ฝั่งขวา 2 4 6 ยันสนิทครับ ส่วนฝั่ง 1 3 5 ยันเช่นกันแต่ไม่หนักเหมือนฝั่งขวาครับ งานนี้ขอร้องแกมบังคับให้ ช่างข้างบ้านทำให้ แกบอกต้องช่วยกันทำ แกจึงยอมทำให้ครับ เลยได้ลุยกัน   smile.. ขอบคุณอีกครั้งครับ ไกร สุราษฎร์

สงสัยหัวฉีดบวมมั้งครับ เคยมี E-car ใช้แก๊สเป็นหลัก ไม่ได้ตัดติ๊กน้ำมัน
เดินไม่เรียบเวลาใช้น้ำมันช่างบอก ตันสองสูบ ช่างชอบบอกไม่ตัดติ๊กก็บวมแบบนี้แหล่ะ ตัดติ๊กก็สะดุดเวลา แก๊สหมด ทนเอาช่างบอก crying

จึงอยากบอกสมาชิก V6 ด้วยกันให้ได้ทราบข้อมูลครับ   มันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า Pajero  V6  เราหากติดแก็สแล้วควรจะตรวจเช็คปรับระยะตั้งวาวล์ไอดีด้วย  อย่างน้อยเลยก็ตอนแสนโล   แต่ปรกติรถแก็สที่มีการปรับ auto ของวาวล์ทั้งไอดี ไอเสีย เลย เขาไม่ต้องทำ  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า  บ่าวาวล์มันจะไม่ทรุดนะ  ไฮครอลิค มันก็ปรับให้อยู่ตอนเริ่ม start เครื่อง ก็จริง  แต่บ่าวาวล์เมื่อถึงเวลามันก็ต้องมีการ service ฝาสูบอยู่ดี  แต่รถเรา V6 6B31 มีปรับ Auto ให้อยู่ซีกเดียวคือด้านไอเสีย  ส่วนไอดีปรับมือ

เนื่องจากว่า 0 Mitsu เขาไม่รับรู้เรื่องการปรับตั้งส่วนนี้และผมก็ไม่เคยได้ยินว่า 0 ไหนจะยอมรับทำให้ด้วยเลย  จริงอยู่หากรถใช้น้ำมันปรกติก็อาจจะไปทำทีเดียวที่แสนโลหรือมากกว่าตามอาการ   แต่เราใช้ Lpg กันส่วนใหญ่  ก็ต้องเจอเรื่องนี้อยู่แล้ว  ไม่น้อยก็มาก  ถึงจะติด Tap ก็พอช่วยให้ระยะเวลายืดออกไปเท่านั้น หรืออาการยันของวาวล์ไอดีก็เกิดขึ้นช้าและน้อยกว่า    และรถเราก็แหม..นะ  กว่าจะเปิดฝาครอบวาวล์ได้  ก็เป็น 1-2 ชม. กันทีเดียวเลย  ไม่เหมือน 4 สูบ หรือรถเก๋งเล็ก  แป๊บเดียวก็เปิดออกมาโชว์หราแล้ว

เอาเป็นว่า  .. หากรถเราติดแก็ส  และใช้งานมาหลายหมื่น km.  หากมีอาการสั่นตอนเดินเบา  ยิ่งร้อนยิ่งสั่น  กินเชื้อเพลิง  แรงไม่มีทั้งระบบน้ำมันและแก็ส  ก็เอาเรื่องนี้เข้าไปพิจารณาร่วมด้วยกับการดูแลเรื่องหัวเทียน  coils และอื่นอื่น  อาการสั่นแบบนี้ภาษช่างเขาเรียกว่า  ตอดตุ๊บ ตุ๊บ เวลาเดินเบา  เอามือแตะตัวถังก็จะรู้สึกแบบนั้น

อีกอันนึงก็ดูให้ชัดว่า  มันสั่นตอนเดินด้วยน้ำมันหรือไม่  หากไม่ก็ดูระบบแก็ส  หรือหากระบบแก็สนิ่งดี  ระบบน้ำมันสั่นและมี ไฟ Engine มาเยือนที่ระบบน้ำมัน  ก็เอาเรื่องหัวฉีดน้ำมันสกปรกรวมไปพิจารณาด้วย

หมายเหตุพิเศษ... สำหรับสมาชิกที่ติด ac premium  หากทำการจูนเอง  และพบว่าระบบน้ำมันสั่นพอควร   ก็ไม่ควรทำการ AUTOTUNE ใดใด  เพราะ Premium  OBD พวก Firmware รุ่นล่า ล่า นี้ จะมีประสิทธิภาพสูงมาก  มันจะทำการ Autotune ให้แบบแยก Bank อิสระในรถ v Engine และหากเราทำ มันจะมีผลการจ่ายแก็สของ 2 Banks ออกมาแบบ undesirable เละเทะ ทีเดียว  ต้องแก้ไขระบบน้ำมันให้นิ่งก่อน  แต่ในระบบ Isa2 ไม่พบเทคนิคดังกล่าว

-- แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องแยกเรื่องเหตุที่เดินเบาสั่น  เอามาพิจารณาหาเหตุหลายรายการดังกล่าวข้างต้นว่าเพราะเหตุใด แต่เรื่องที่ดูเหมือนจะเทคะแนนให้มากสุดสำหรับผมมี 2 ประเด็น

-- วาวล์ไอดียัน  แรงอัดตก
-- หัวฉีดน้ำมัน  หัวฉีดแก็ส
-- ส่วนเรื่อง Coils   ผมยังไม่เคยเห็นสมาชิกใด Report เรื่อง coils ร้าว  เสื่อม ละลาย คอหัก หรือใดใดเลย
-- และหัวเทียนก็เห็นสมาชิกถอดออกมาแต่ละคน  ก็หลายหมื่นโล  แสนโลก็มี  สภาพดีมากมาก  แปลกจัง 
2 เรื่องสุดท้าย  นี่น่าสนใจมาก  ว่าอายุใช้งานปรกติมันยาวจัง  ปรกติ coils ในรถแก็สทั่วไป มักจะมีปัญหาออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว  แต่ V6 เรา  Coils และ หัวเทียนมันทนชมัดเลย

ร่ายมายาวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุยเน้นเรื่องอะไร   แค่แวะมาคุยเรื่อง V6 ควรจะปรับตั้งวาวล์ไอดีหรือไม่  หรือเราจะเชื่อ 0 Mitsu แล้ววิ่งไปทั้งทั้งที่แรงอัดมันตก  รถมันสั่นดี  มันเป็นเรื่อง Amazing มากมากในจุดนี้ Outlander เมืองนอกเครื่อง block เดียวกับเราเป็น Gen. แรก  ก็ยังต้องตั้งระยะวาวล์ไอดี  แล้วทำไมของเราไม่ต้องละ ก็มัน auto ข้างเดียว  เพราะอาจจะพัวพันอยู่กับ Mivec เลยซับซ้อนเกินไปที่จะใส่ Auto อีกข้างด้วย  แต่ที่แน่แน่  มีน๊อทให้ปรับสูบละ 2 ตัว แน่นอนในซีกไอดี  :D :D :D

ได้ข้อมูลแบบประจักษ์มาเองแล้ว  เลยเอามาฝากสมาชิก  ซึ่งในอนาคตจะมีการถามมา

รูปที่ 1 หัวฉีดน้ำมัน V6
รูปที่ 2  หัวฉีดน้ำมัน 2.4

ราคาของใหม่ ทั้งสองหัวจาก Mitsu หัวละ 5100+Vat

แต่หากใครมี 2.4 แล้วเสียหายหัวใดหัวหนึ่ง  ล้างยังไงก็ไม่หานตัน  หรือเสียหายไปเลยจากเหตุอื่น   ติดต่อมาให้ฟรีมี 4 หัวครับ  รับมาจากป๋าในห้องมือสอง ทั้ง Rail-4 เลย  แต่ขอไปเฉพาะหัวที่เสียนะครับ  จะได้เอาไว้แบ่งแบ่งกันใช้นะ  เอาไปหมดเอาเก็บไว้เปล่าเปล่า  ที่รับมาเพราะความอยากรู้ว่า 2.4 กับ 3.0  มัน cc. ต่อกระบอกสูบไล่กันโดยขนาดประมาณ  น่าจะเบอร์เดียวกัน  แต่อดสงสัยเลยซื้อมาวัดดูเลย  เพราะหากใช้ได้ก็ใช้เองกับ v6 และคิดไว้แล้วหากใช้ไม่ได้  ก็แจกป๋า 2.4 ที่อาจเจอปัญหา  เพราะซื้อ 0 Mitsu ไม่ไหวหรอก 5 พันกว่าต่อหัว  เลยมาบอกกันไว้ก่อน  แจกฟรีฟรีแต่ขอแบบเสียจริงนะครับ  จะได้ไว้ให้สมาชิกท่านอื่นแบ่งกันไปใช้คนละหัว  มันจะไม่เสียหายทุกหัวทีเดียวหรอก  แต่ลองล้างลองจ่ายไฟเปาะแปะ  แล้วยิงลมสวนก่อนก็ดี  ส่วนใหญ่น่าจะผ่านได้   หรือป๋า A เมืองชล หากผ่านมา pattaya จะเอาไปไว้เป็น spare ไว้ให้พรรคพวก 2.4 ก็ติดต่อมานะ  ยกรางไปเลยมี 4 หัว  เอาไปเก้บไว้  เพราะสมาชิก 2.4 มีปัญหาก็คุยกับป๋า A เมืองชลกันเยอะ  ไม่คิดเงินใดใดทั้งสิ้น.. free..

ลืมบอกไป  หัว V6 มันยาวกว่า 2.4 และทั้งสองรุ่น  กรองอยู่ภายในลึกมาก  เอาออกไม่ได้  หาก รถที่เติมพวก แอลกอฮอลล์ % สูง บริหารหัวฉีดน้ำมันมั่งนะ  กรองแบบ Fix internal หากมันไม่ทนการแช่ แอลกอฮอลล์ % สูง กรองภายในมันกรอบแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอุดได้นะ  จะแคะเหมือนพวก Honda ก็ไม่ได้ด้วยตะกร้อมันอยู่ลึกมาก อาการที่พบส่วนใหญ่คือเครื่องสั่นจากการจ่ายน้ำมันกระพร่องกระแพร่งเป็นบางสูบ ไฟ ENGINE~ โชว์ที่ระบบน้ำมันตอน close loop  และหากอ่าน CODE จะเจอ บางสูบ Misfires ที่สูบนั้นสูบนี้  หากจะทดสอบ  ลองย้ายหัวดู   code จะตามไปเกิดกับสูบที่ย้ายไป  ค่า Trim หากดูจาก Obd Reader จะมีการชดเชยสูงมากจนเกิน limit แล้ว Engine Check Light ...Shown up...

และหากใครมีหัวฉีด v6 ตัวยาวรูป1 เก็บไว้ละก็   ผมขอซื้อต่อหัวนึงนะ  หรือทั้งรางก็ได้หากไม่แพงมาก  ของผมมันมีหัวนึง เหมือนจะไม่ค่อยรอด แต่ยังพอไปได้

ข้อมูลละเอียดมากเลยครับป๋า

 เอาข้อมูลมาเพิ่มครับ

--- หัวฉีดของ Pajero V6 เรา  ใช้ตรงรุ่นเลยกับ Outlander
--- ภายในหัวฉีดของเราไม่มีกรองใดใดทั้งสิ้น  (น่าแปลกใจจริง  อาจจะแก้ปัญหา แอลกอฮอล์กัดกรองเปื่อยก็ได้ ก็ไม่รู้เหมือนกัล..)
--- เอารูปกล่องและเบอร์มาให้ดูครับ

ก็อยากจะเตือนสมาชิก Pa V6  ที่ใช้แก็สว่า  ช่วงไหนแก็สหมด ยังหาปั๊มข้างหน้าไม่เจอ ก็วิ่งน้ำมันมั่งก็ได้นะ  บริหารหัวฉีดน้ำมันกันหน่อย   ไม่ต้องวิ่งแช่น้ำมันนาน  แค่เอาแบบว่า  ได้ทำงานมั่งก็ยังดี   แล้วน้ำมันในถังก็มีอย่างน้อย 500 บาท ก็ดีนะครับ    รถกลุ่มเราส่วนใหญ่ไม่ตัดการทำงานปั๊มติ๊ก  น้ำมันควรจะมีหล่อเลี้ยงในระบบอยู่ไม่น้อยกว่า minimum นะครับ  อายุปั๊มในถังเราจะได้ยาวนาน

อาการที่หัวฉีดเริ่มจะตันตัน  ไม่ว่าตันเล็กน้อยหรือยังไงก็ตาม  เราอาจไม่เห็นว่ามีการจ่ายน้ำมันไม่เท่ากันในแต่ละหัวฉีดเกิดขึ้นแล้ว   จนกว่าอาการตันจะหนักขึ้น  จนบางสูบจุดระเบิดผิดพลาด (misfire) เราถึงจะเห็นว่ามีการจ่ายน้อยที่หัวฉีดน้ำมันบางหัวด้วย  การที่ Ecu น้ำมันรถเราเปิดไฟ Engine Check Light ขึ้นมา พร้อม Code ที่บอกว่ามีการ misfire ที่สูบใดสูบหนึ่งหรือหลายสูบ  และหากระบบน้ำมันของเราไม่นิ่งดี   หากมีการปรับจูนแก็สในช่วงที่ระบบน้ำมันเราจ่ายไม่เท่ากันในแต่ละหัวฉีด   การปรับจูนแก็สที่เรียกว่า Autotune ในแต่ละครั้งนั้น  จะมีการเลียนแบบการทำงานที่ผิดพลาดไปตามนั้นด้วยโดย Ecu แก็สจะปรับเทียบการจ่ายแก็สได้แย่ตามกันไปด้วย   โดยเฉพาะพวก Smart Ecu (lpg) ที่มีการแบ่งการคาริเบทเทียบระบบน้ำมันที่มีการแบ่ง Bank1 และ Bank2 จะมีการเลียนแบบการทำงานของ Ecu น้ำมันไปแบบผิดผิด  คือ ซ้าย ขวา จ่ายไม่เท่ากันไปด้วย  เพราะหากหัวฉีดซีก Bank ใด Bank หนึ่ง เริ่มตัน   Ecu น้ำมันจะปรับการเพิ่ม Dose มากกว่าปรกติตามค่า Trim ที่เพิ่มขึ้น ในด้านที่มีอาการดังกล่าว   Ecu แก็สก็จะถูกเทียบแบบผิดไปด้วย  ผลคือจะมีการจ่ายแก็สไม่เท่ากันของ 2 Banks ในระบบแก็สขึ้นมา ทำให้เครื่องยนต์สั่นไม่ Balance ดี

เอาหัวฉีด 2.4 ทั้งรางมาลองล้างดู  ทำเครื่องมือปิดเปิดหัวฉีด จากสวิทย์ราคา 15 บาท ว้คอยเปิดปิดหัวฉีดด้วย อิ...

เอา adapter ของ modem 12 V. มาใช้แทน Battery สะดวกดี

ผลจากการเล่นมาทั้งหัวฉีด 2.4 และ V6 พบว่า

2.4 รูฉีด ใหญ่กว่านิดนิด
V6  รูฉีด เล็กกว่า 2.4 

นับรุมันไม่ไหวตาไม่ดี  เอาแว่นขยายมาดูก็แล้ว  น่าจะ ประมาณ 10 รูเท่ากัน  แต่แต่ละรูเล็กว่ากันนิด  Flow Rate 2.4 จ่ายได้มากกว่า

2.4 = 600 cc./Cylinder    (4x600=2400)
V6  = 500 cc./Cylinder    (6x500=3000)

ทั้ง 2 หัวฉีด ไม่มีกรองใดใดทั้งคู่ 

และพบว่า V6 รูละเอียดมากกว่า  และน่าจะตันง่ายกว่าด้วย  และพบว่าล้างยากมากกว่า 2.4 อีก   ปั๊มเชื้อเพลิงในถัง น่าจะเป็นตัวเดียวกันเลย  รวมทั้งน่าจะใช้แรงดันเท่ากันด้วย 

ห้อง line กลุ่ม AC Classroom เปิดให้มาโกยข้อมูล AC ครับ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบจูนเอง เปลี่ยนกรองเอง ล้างหม้อต้มเอง หรือถามไถ่ปัญหา AC ECU