Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

Small Room => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: Mr.Pig (No.031) ที่ พฤษภาคม 03, 2013, 11:29:21 am



Languages

หัวข้อ: "แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป" ... โดย พิษณุ นิลกลัด
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Pig (No.031) ที่ พฤษภาคม 03, 2013, 11:29:21 am
ขออณุญาตแชร์ นำมาจาก Facebook  สาธุ

แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป ... โดย พิษณุ นิลกลัด

 พิษณุ นิลกลัด

 สัปดาห์สุดท้ายของปี 2548 ผมไปงานสวดและงานเผาศพผู้ชายวัย 81 ปีที่ผมรู้จักเขามา ยาวนาน 30 ปี ไม่ใช่ญาติ แต่สนิทนักรักใคร่เสมือนญาติ

 ก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเขาสั่งลูกและภรรยาแบบคนไม่ครั่นคร้ามความตายว่า
 สวดสามวันแล้วเผา ไม่ต้อง
 บอกใครให้วุ่นวาย อย่าเศร้า อย่าร้องไห้ ทุกคนต้องมีวันนี้
 เพียงแต่เขาอยู่หัวแถวเลยต้องไปก่อน
 แล้วลูกเมียก็ทำตามคำสั่ง สวดสามวันเผา
 งานสวด 3 คืนมีคนฟังพระสวดคืนละ 14 คนคือเมีย ลูก หลาน เขย สะใภ้ และผมซึ่งเป็นคน นอกเป็นงานศพที่มีคนไปร่วมงานน้อยที่สุดเท่าที่ผมเคยไปฟังสวด

 วันเผามีเพิ่มเป็น 17 คน สามคนที่เพิ่มเป็นเพื่อนบ้านที่เคยคุยด้วยเกือบทุกเย็น
 คนหนึ่งเป็นแม่ค้าล็อตเตอรี่ที่เคยยืมเงินแล้วไม่มีสตังค์จ่าย
 เลยเอาล็อตเตอรี่ทยอยผ่อนใช้หนี้แทนเงินงวดละสองใบคนหนึ่ง
 และคนสุดท้ายเป็นหญิงที่ผู้ตายเคยผูกปิ่นโตทุกมื้อเย็น
 ทั้งสามคนบอกว่าเกือบมาไม่ทันเผา เคราะห์ดีที่แวะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
 เจ้าหน้าที่บอกว่าเสียชีวิตไปแล้ว 3 วัน

 หลังฌาปนกิจพระกระซิบถามเจ้าหน้าที่วัดว่าเจ้าของงานจ่ายเงินค่าศาลาสวดพระอภิธรรมแล้วหรือยัง

 พระท่านคงไม่เคยเห็นงานศพที่มีคนน้อยแบบที่ผมก็รู้สึกตั้งแต่สวดคืนแรก

 จริงๆ แล้วผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีสตังค์ ทำงานธนาคารแห่งประเทศไทยจนเกษียณอายุที่ ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย แต่ด้วยความที่รักและศรัทธา อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์
 อดีตผู้ว่าการแบงค์ชาติ จึงดำเนินชีวิตแบบไม่ปรารถนาให้ใครเดือนร้อน - แม้กระทั่งวันตาย

 ผมสนิทกับเขาเพราะเขามีความฝันในวัยเด็กอยากเป็นนักประพันธ์แบบไม้เมืองเดิม
 ที่เขาเคยนั่งเหลาดินสอและวิ่งซื้อโอเลี้ยงให้ เมื่อตัวเองเป็นนักเขียนไม่ได้ พอมาเจอะผมที่เป็นนักข่าวก็เลยถูกชะตาและให้ความเมตตาการมี
 โอกาสได้พูดได้คุยกับเขาตามวาระโอกาสตลอด 30 ปีทำให้ได้แง่คิดดีๆมาใช้ในการ ดำรงชีวิต

 วันหนึ่งเขารู้ว่าขโมยยกชุดกอล์ฟของผมไปสองชุดราคา 4 แสนกว่าบาท เขาปลอบใจผมว่า
'ของที่หายเป็นของฟุ่มเฟือยของเรา
 แต่มันอาจเป็นของจำเป็นสำหรับลูกเมียครอบครัวเขา คิดซะว่าได้ทำบุญ จะได้ไม่ทุกข์'

เขามีวิธีคิด 'เท่ๆ' แบบผมคิดไม่ได้มากมาย เป็นต้นว่าสุขและทุกข์อยู่รอบตัวเรา
 อยู่ที่ว่าเราจะเลือกหยิบเลือกคว้าอะไร คงเป็นเพราะเขาเลือกคว้าแต่ความสุข
 ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตเขาต่อสู้กับโรคชรา เบาหวาน หัวใจ ความดัน เกาต์ และไตทำงานเพียง 5 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ปริปากบ่น แถมยัง
 สามารถให้ลูกชายขับรถพาเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์โดยที่ตัวเองต้องหิ้วถุง ปัสสาวะ
 ไปด้วยตลอดเวลา เนื่องจากไตไม่ทำงาน ปัสสาวะเองไม่ได้ 6 เดือนสุดท้ายของชีวิตต้องนอนโรงพยาบาลสามวันนอนบ้านสี่วันสลับกันไป
 เวลาลูกหลาน หรือเพื่อนของลูกรวมทั้งผมด้วยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
 เขามีแรงพูดติดต่อกันไม่เกิน 10 นาที แต่ 10 นาที ที่พูดมีแต่เรื่องสนุกสนาน เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนไปเยี่ยมไข้ ทุกคน
 พูดตรงกันว่า 'คุณตาไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลย ตลกเหมือนเดิม'
พอแขกกลับ ลูกหลานถามว่าทำไมคุยแต่เรื่องตลก เขาตอบว่า 'ถ้าคุยแต่เรื่องเจ็บป่วย
 วันหลังใครเขาจะอยากมาเยี่ยมอีก'

เขาเป็นคนชอบคุยกับผู้คนไม่ว่าจะอยู่บนเตียงคนไข้หรืออยู่บนรถแท็กซี่
 บ่อยครั้งที่นั่งรถถึงหน้าบ้านแล้ว
 แต่สั่งให้โชเฟอร์ขับวนรอบหมู่บ้านเพราะยังคุย ไม่จบเรื่อง แล้วจ่ายเงินตามมิเตอร์ !

4เดือนสุดท้ายของชีวิตแพทย์ที่รักษาโรคไตมาตั้งแต่สมัยเป็นแพทย์อินเทิร์น
 จนกระทั่งเป็นหัวหน้าแผนก
 แนะนำให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลให้แข็งแรงแล้วค่อย กลับบ้าน

 แต่อยู่ได้ 4 วันเขาวิงวอนหมอว่าขอกลับบ้าน หมอซึ่งรักษากันมา 16 ปีไม่ยอม
 เขาพูดกับหมอด้วยความ
 สุภาพว่า 'ขอให้ผมกลับบ้าน เถอะ ผมอยากฟังเสียงนกร้อง
 คุณหมอไม่รู้หรอกว่าคนคิดถึงบ้านมันเป็น
 อย่างไร เพราะ พอเสร็จงานหมอก็กลับบ้าน'
หมอได้ฟังแล้วหมดทางสู้ ยอมให้คนไข้กลับบ้าน แต่กำชับให้มาตรวจตรงตามเวลานัดทุกครั้ง

1 เดือนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เขาสูญเสียการควบคุมอวัยวะของร่างกายเกือบทั้งหมด
 เคลื่อนไหวได้อย่างเดียวคือกะพริบตา แต่แพทย์บอกว่าสมองของเขายังดีมาก เวลาลูก
 เมียพูดคุยด้วยต้องบอกว่า '
ถ้าได้ยินพ่อกะพริบตาสองที' เขากะพริบตาสองทีทุกครั้ง ! เห็นแล้วทั้งดีใจและใจหาย

 เขายังรับรู้ แต่พูดไม่ได้ นี่กระมังที่เรียกว่าถูกขังในร่างของตนเอง

 สิบวันก่อนพลัดพราก ภรรยากระซิบข้างหูว่า 'พ่อสู้นะ' เขาไม่กะพริบตาซะแล้วทั้งๆ
 ที่ก่อนหน้านี้สองเดือนเคยตอบว่า 'สู้'

เขาสู้กับสารพัดโรคด้วยความเข้าใจโรค สู้ชนิดที่หมอออกปากว่า 'คุณลุงแกสู้จริงๆ'

ตอนที่วางดอกไม้จันทน์ ผมนึกถึงประโยคที่แกพูดกับลูกเมื่อสี่เดือนก่อนว่า
'โรคภัยมันเอาร่างกายของพ่อไปแล้ว อย่าให้มันเอาใจของเราไปด้วย' 'แง่คิดดีๆ จากชายชราที่จากไป'
สอนให้เรารู้ว่า...

เราเกิดมาพร้อมกับจิตใจบริสุทธิ์ และมันสมองมหัศจรรย์ ที่จะสามารถเรียนรู้
 แยกแยะเรื่องดีๆและสิ่งร้ายๆในชีวิต จงใช้โอกาสดีๆที่ร่างกายและจิตใจของเรา ยังทำอะไรๆได้อย่างที่สมองสั่งจงเรียนรู้ และสร้างประโยชน์สุข ให้กับตนเองและผู้อื่นอย่างพอเพียงและดำรงชีวิตอย่างพอเพียงทางเศรษฐกิจ
 หากทุกๆครั้งที่เรียนรู้ เราล้ม เราพลาด... อาจจะรู้สึกท้อบ้างในบางที
 แม้ไม่มีกำลังกายที่จะลุกในทันที ....แต่ข้อให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป
 ถ้าเราเรียนรู้...ก็จะทำให้เราพบว่า การล้มหรือพลาดครั้งต่อไป เราจะไม่เจ็บเท่าเดิม


หัวข้อ: Re: "แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป" ... โดย พิษณุ นิลกลัด
เริ่มหัวข้อโดย: seto16(เอก) ที่ พฤษภาคม 03, 2013, 12:32:22 pm
เรื่องนี้ผมชอบมากครับ...
ผมไม่อยากรบกวนคนอื่น...

ตอนผมแต่งงานก็ไม่ได้เชิญแขกมากมาย
ไม่ถึงร้อยคนเพราะเกรงใจ
ผมแต่งที่อ.นาทวี จ.สงขลา
พื้นที่สีแดง
ก็เลยไม่ได้เชิญใครมากมาย

หลังจากเพื่อนๆรู้ก็พากันโกรธ/บ่นน้อยใจว่าทำไมไม่เชิญ
บางคนเกือบโกรธกันไป
ใจอยากเชิญครับ แต่เราก็ไม่อยากให้เขาต้องลำบาก
ทั้งลางาน ทั้งเดินทางใกล ทั้งมีความเสี่ยงหลายๆอย่าง

ผมว่าอยู่ที่แนวคิดครับ..แต่ผมก็แอบคิดนะ ถ้าวันสุดท้ายของผม
ผมก็ยังขอไม่รบกวนใครมากมายให้เค้าลำบาก eie eie




หัวข้อ: Re: "แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป" ... โดย พิษณุ นิลกลัด
เริ่มหัวข้อโดย: Pajerosport-Thailand No.0011 ที่ พฤษภาคม 03, 2013, 12:38:47 pm
 สาธุ...ขอบคุณมากๆครับ ป๋าหมู...สำหรับข้อคิดดีๆ..."สัตวโลก...ย่อมเป็นไปตามกรรม"

"กรรมลิขิต ครับ"


หัวข้อ: Re: "แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป" ... โดย พิษณุ นิลกลัด
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Pig (No.031) ที่ พฤษภาคม 03, 2013, 12:42:00 pm
สาธุ...ขอบคุณมากๆครับ ป๋าหมู...สำหรับข้อคิดดีๆ..."สัตวโลก...ย่อมเป็นไปตามกรรม"

"กรรมลิขิต ครับ"
สาธุ


หัวข้อ: Re: "แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป" ... โดย พิษณุ นิลกลัด
เริ่มหัวข้อโดย: Hurricane ที่ พฤษภาคม 03, 2013, 12:44:29 pm
 ขอบคุณครับ ป๋าหมูนำเอามาฝาก

ทุกวันนี้ผมมีความสุขมากที่่ทำอะไรหลายๆอย่างด้วยใจเสมอมาไม่ได้หวังอะไรมาตอบแทน   บางครั้งทำไปมีคนไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด ก็ต้องปล่อยวางให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ครับ  


หัวข้อ: Re: "แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป" ... โดย พิษณุ นิลกลัด
เริ่มหัวข้อโดย: tiger98 ที่ พฤษภาคม 03, 2013, 01:09:50 pm
ขอบคุณครับ ป๋าหมูนำเอามาฝาก

ทุกวันนี้ผมมีความสุขมากที่่ทำอะไรหลายๆอย่างด้วยใจเสมอมาไม่ได้หวังอะไรมาตอบแทน   บางครั้งทำไปมีคนไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด ก็ต้องปล่อยวางให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ครับ 
like heart good สาธุ


หัวข้อ: Re: "แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป" ... โดย พิษณุ นิลกลัด
เริ่มหัวข้อโดย: PJ Man ที่ พฤษภาคม 06, 2013, 10:22:53 pm
ข้อความดีๆชอบมากครับ ชีวิตคนเราอยู่ได้โดยไม่ประมาท ความสุขก็จะตามมา อ่านแล้วนึกถึงคำหนึ่งที่ผมเคยท่องให้ตัวเองฟังเสมอว่า "จงเรียนรู้เพื่อจะอยู่กับมัน"


หัวข้อ: Re: "แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป" ... โดย พิษณุ นิลกลัด
เริ่มหัวข้อโดย: Kridsda_25 ที่ พฤษภาคม 13, 2013, 02:33:22 pm
 สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ

ขอบคุณป๋าหมูมากๆครับ

สอนให้เราใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย.....ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน


...........ความสุขไม่ได้หาที่ไหน...แต่อยู่ที่ตังเราเองจะสร้าง


บุญรักษาทุกท่านครับ



หัวข้อ: Re: "แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป" ... โดย พิษณุ นิลกลัด
เริ่มหัวข้อโดย: Osaoka ที่ มิถุนายน 23, 2013, 10:41:18 pm
 like
ขอบคุณที่เอามาฝากครับ


หัวข้อ: Re: "แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป" ... โดย พิษณุ นิลกลัด
เริ่มหัวข้อโดย: jeab2510 ที่ มิถุนายน 27, 2013, 01:41:00 am
ขอบคุณแง่คิดดีๆ เกิด แก่ เจ็ดป่วย ตาย เป็นไปตามกลไกลธรรมชาติ นับถือจริงๆครับ สาธุ สาธุ