Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

Small Room => ประชาสัมพันธ์/ข่าวสาร/บทความ/ข้อมูล/ความรู้ต่างๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: ชายอิสระ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2013, 12:50:59 pm



Languages

หัวข้อ: ถ้ารถหายในห้าง (ความรู้ทางกฎหมาย)
เริ่มหัวข้อโดย: ชายอิสระ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2013, 12:50:59 pm

รถผ่อนไม่หมดแล้วหายในห้าง ฟ้องคดีแบบไหนแพ้ แบบไหนชนะ?


 ไม่มีใครอยากโชคร้าย ไม่มีใครอยากเสียทรัพย์ แต่เมื่อรถยนต์ที่ขับไปจอดในห้างสรรพสินค้า รับบัตรรับฝากรถ

แล้วเข้าไปจอดในห้าง ซื้อของเสร็จเดินออกมา รถหาย ในใบรับฝากก็เขียนไว้ว่า "ไม่รับผิดชอบ".... รถยังผ่อนไม่หมด

มีเพื่อนที่รถเคยหายไปฟ้องคดี ฟ้องห้างที่ให้บัตรจอดรถว่าเป็นการรับฝากรถแล้วแพ้คดี แบบนี้ก็เสียเปรียบสิ
 
.... ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่ารู้ ถ้าคุณไปซื้อของในห้างแล้วรถหาย คุณมีหลักฐานใบรับฝากรถ ใบเสร็จรับเงินที่ซื้อของในห้าง

และมีภาพวิดีโอวงจรปิดชัดเจนว่า รถที่หายเป็นรถของคุณ แต่ถ้าร่างคำฟ้องผิด ศาลก็ยกฟ้อง เจ้าของรถไม่ได้รับค่าชดใช้เลย

ทั้งๆที่เป็นความรับผิดชอบของทางห้างและผู้ดูแลฝากรถ มีแง่มุมทางกฏหมายตรงไหนมั่ง คุณวิพิศ มหาสารคาม ฝากประเด็นนี้มาเผยแพร่ครับ

สำหรับเรื่องรถหายนี้ มีข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ในกระดานข่าว และ forward mail ต่อๆกันว่า
  
".......ถ้าหากเราเกิดรถหาย/ถูกทุบในห้างสรรพสินค้า.....

ต้องเข้าไปซื้อของในห้างและเก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐานว่าเราเป็นลูกค้ามาใช้บริการของห้างฯ

แนะนำว่าควรเป็นการซื้อในห้างโดยตรง ไม่ใช่ร้านค้าที่มาเช่าพื้นที่เพื่อความชัดเจน/แน่นอนของหลักฐาน  

แล้วก็ฟ้องร้องผ่านสคบ. ไม่ว่าห้าง/โรงแรมจะให้บัตรจอดรถหรือไม่ หรือเขียนไว้ว่าไม่รับผิดชอบ ทุกคดีที่มีหลักฐานชัดเจน

อย่างนี้ชนะหมดเลย.."
 
ดูคำพิพากษาของศาลตัดสินให้ห้างต้องชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีรถหายในห้าง

คำพิพากษาฎีกาที่ 4223/2542

              ".....การที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของจำเลยที่ 1 ไม่ระมัดระวังตรวจบัตรจอดรถโดยเคร่งครัด

อันเป็นการงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ เป็นผลโดยตรงทำให้รถยนต์ของ ส. ซึ่งเอาประกันภัยไว้ต่อโจทก์ถูกลักไป

และเป็นการประมาทเลินเล่อ จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อ ส. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 420 การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำไปใน

ทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 ดังนั้น จำเลยที่ 1 ในฐานะนายจ้างต้องร่วมรับผิดกับพนักงานรักษาความปลอดภัยซึ่งเป็นลูกจ้างของ

ตนในผลแห่งละเมิดต่อ ส. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 425 ส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวการมอบหมายให้จำเลยที่ 1

เป็นตัวแทนดูแลรักษาความเรียบร้อยและปลอดภัยในบริเวณลานจอดรถของศูนย์การค้า ดังกล่าว

จึงต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดซึ่งตัวแทนของจำเลยที่ 2 ได้กระทำไปในทางการที่มอบหมายให้ทำแทนนั้น

ตาม ป.พ.พ. มาตรา 427 ประกอบด้วยมาตรา 420 จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดต่อโจทก์....."
 
** ไม่ว่ารถหาย หรือถูกทุบกระจกเอาทรัพย์สินในรถไป ก็ฟ้องห้างให้รับผิดร่วมกับบริษัทยาม ร่วมกันชดใช้ให้เราได้ครับ
 
      สำหรับเรื่องการต้องฟ้องร้อง ขึ้นศาล หลายคนไม่อยากเสียเวลาทำมาหากิน คิดไปไกลว่า กว่าศาลจะมีคำสั่งให้จำเลย

ชดใช้ค่าเสียหาย จะใช้เวลานานแค่ไหน  แต่เรื่องนี้ ถ้าฟ้องแล้วชนะ และได้รับค่าชดเชย ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

และรถที่กำลังผ่อนอยู่ ไม่ใช่คันละบาท 2 บาท
 
คดีรถหายในห้าง เกิดขึ้นบ่อย จนทำให้ทางห้าง เขียนกำกับไว้ในบัตรจอดรถว่า "ไม่รับผิดชอบในกรณีที่ทรัพย์สิน

สูญหายหรือความเสียหายใดๆทั้งสิ้นที่เกิดขึ้นกับตัวรถ"แล้วก็นำมาใช้อ้างเพื่อต่อสู้คดี ดังนั้นจึงต้องต้องคดีเอา
 
 แต่คนที่ฟ้องแล้วแพ้ ไม่ได้รับค่าชดเชยจากห้างสรรพสินค้าก็มีเหมือนกันนะครับ
 
 ***  คดีถ้าคุณตั้งเรื่องฟ้องห้างที่ให้บัตรจอดรถว่าเป็นการรับฝากรถคุณก็จะแพ้คดีตั้งแต่ร่างคำฟ้อง

เพราะคดีแบบนี้ฟ้องฝากทรัพย์ศาลยกฟ้อง

แต่ถ้าฟ้องละเมิด ศาลจะพิพากษาให้ห้างชดใช้

กรณีแบบนี้จะขึ้นกับพยานหลักฐานด้วย ซึ่งทนายความจะให้คำปรึกษาอย่างละเอียด

* * การรับบัตรจอดรถ ก็มิได้เป็นสัญญาฝากทรัพย์อย่างที่หลายคนเข้าใจเช่นกัน

สัญญาฝากทรัพย์ คือ ส่งมอบการครอบครอง เช่น มอบกุญแจให้ เหมือนอย่างในโรงแรมบางแห่งจะให้ลูกค้า

ที่มาพักส่งมอบกุญแจให้ เพราะเค้าจะได้ดูแลได้อย่างเต็มที่

   ส่วนห้างมีที่จอดรถ โดยให้รับบัตรหรือไม่ ก็ไม่เป็นการรับฝากรถ หรือ เกิดสัญญาฝากทรัพย์ ดังนั้นเรื่องนี้จึงเข้าเงื่อน

ไขในเรื่องละเมิด คือ ห้างและยามประมาทเลินเล่อ ให้ทรัพย์สินเราเสียหาย หรือ สูญหาย
 
ดังนั้น คดีแบบนี้ ต้องฟ้องแบบละเมิด ถึงจะชนะคดีความ!!!
  
ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องทางแพ่ง(เรียกร้องค่าเสียหาย) ไม่ใช่ทางอาญา(จำคุก) ต้องให้ทนายความรวบรวมพยานหลักฐานแล้วยื่นฟ้อง

จะเป็นผิดสัญญาฝากทรัพย์หรือเป็นเรื่องละเมิดอันนี้ลองปรึกษาทนายความดูอีก ครั้ง เพราะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานด้วย
 
เมื่อฟ้องศาลให้ทางห้างชดใช้แล้ว เรื่องผ่อนรถที่ต้องชำระเงินทุกเดือนนั้น

ถ้าไม่ชำระเงินต่อ ทางบริษัทจะเลิกสัญญาเช่าซื้อรถ และจะมายึดรถไป

ถ้าไม่มีรถคืนให้ บริษัทจะเรียกร้องให้ชดใช้เงินแทน

ถ้าเราไม่ชดใช้เงิน ทางบริษัทก็มีสิทธิฟ้องและเรียกดอกเบี้ยระหว่างผิดนัด
 
---- จำนวนหนี้ยิ่งสูงขึ้น !!!!!!
 
 หากหลายคนคิดแบบง่ายๆ ไม่อยากขึ้นศาล ไม่อยากยุ่งเรื่องคดีความ แต่จะต้องยุ่งยากกับจำนวนหนี้ที่สูงยิ่งขึ้น

หากคิดให้รอบคอบ

ถ้าฟ้องคดีชนะกับทางห้าง ค่าเสียหายที่ได้รับก็จะนำมาใช้ในการชำระหนี้ได้ รวมทั้งถ้ามีเหลือก็นำไปผ่อนรถใหม่ได้อีกครับ

 http://mblog.manager.co.th/bonkalasin/th-53893/


หัวข้อ: Re: ถ้ารถหายในห้าง (ความรู้ทางกฎหมาย)
เริ่มหัวข้อโดย: Pajerosport-Thailand No.0011 ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2013, 01:29:11 pm
ขอบคุณมากๆครับ...ป๋าชาย... smile..

ได้ความรู้ดีครับ...


หัวข้อ: Re: ถ้ารถหายในห้าง (ความรู้ทางกฎหมาย)
เริ่มหัวข้อโดย: pungkung ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2013, 08:50:07 pm
 สาธุ ขอบคุณมากครับ ความรู้ดีๆทั้งนั้น สาธุ


หัวข้อ: Re: ถ้ารถหายในห้าง (ความรู้ทางกฎหมาย)
เริ่มหัวข้อโดย: IRON-MAN ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2013, 09:18:09 pm
รถผมหายในลานจอดรถห้าง เมื่อ 16/02/2555 จอดรถซื้อของ มีใบเสร็จ ร้อง สคบ. มา 1 ปีเงียบ เป็นโจทย์ร่วมกับประกันฟ้องห้าง
ศาลชั้นต้นยกฟ้อง โดยห้างฯ อ้างว่าเพื่ออำนวยความสะดวกในการจอดรถผู้มาใช้บริการ แต่ไม่มีหน้ารักษาทรัพย์สิน ตอนนี้กำลังยื่นอุทธรณ์อยู่ครับ


หัวข้อ: Re: ถ้ารถหายในห้าง (ความรู้ทางกฎหมาย)
เริ่มหัวข้อโดย: PjOe_RayOng ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2013, 09:19:46 pm
 สาธุ สาธุ good good