Languages
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยเลือกให้หน่อยคับ..  (อ่าน 5667 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Eak@
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 25



« เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2012, 09:51:33 pm »

ระหว่าง 600d.d90.และตัวเล็ก oly epl5
คิดมาหลายวันละครับไม่ตกซักที
อยากเสียตังค์แล้ว...
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
กล้องแดง
Founder
Full Member
*****

like: 20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1023



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2012, 09:55:57 pm »

ผมใช้ GF1 อยู่ ถ้าป๋าไม่มีกล้องหลักแนะนำตัด epl5 ออกก่อนเลยครับเบาก็จริงแต่เลนส์และอุปกรณ์แพงและพอจะหัดถ่ายให้ได้ DOF อย่าง Slr ก็จะหาเรื่องเปลี่ยนกล้องอีกอยู่ดีครับ
บันทึกการเข้า
ปาปุ้ย พระประแดง
THE PUI
Jr. Member
**

like: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 535



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2012, 10:28:50 pm »

ผมใช้D90 ครับ ค่อนข้างแจ่ม แต่ถ้าให้แนะนำถ้าจะซื้อD90 ก็ ซื้อ D7000ดีกว่า เพราะใหม่กว่า ส่วนยี่ห้ออื่น รอผู้รู้มาตอบครับ
บันทึกการเข้า

นายปุ้ยค้าบ

http://www.facebook.com/bukinnet
jacky
Full Member
***

like: 26
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1150



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 12:43:29 am »

ถ้าเน้นเรื่อง คุณภาพเป็นหลัก อยากให้ดูเป็น DSLR ดีกว่าครับ   Cheesy
ทั้งนิค ทั้งหนอน แจ่มทั้งคู่ครับ
บันทึกการเข้า
Eak@
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 25



« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 07:40:37 am »

ขอบคุณป๋าทุกท่านมากครับ... สาธุ

แล้วระหว่าง 600d กับ d90 ตัวไหนดีกว่ากันครับถามแบบไม่รู้เลยนะครับมือใหม่ครับ.
เน้นใช้งานง่ายนะครับ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2012, 07:43:55 am โดย Eak@ » บันทึกการเข้า
jacky
Full Member
***

like: 26
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1150



« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 09:19:35 am »

ขอบคุณป๋าทุกท่านมากครับ... สาธุ

แล้วระหว่าง 600d กับ d90 ตัวไหนดีกว่ากันครับถามแบบไม่รู้เลยนะครับมือใหม่ครับ.
เน้นใช้งานง่ายนะครับ.

ถ้าให้เลือกจริง ๆ ระหว่าง 2 ตัวนี้ผมเลือก D90 ครับ ชอบการคอนโทรล ปุ่มต่างๆ
แต่เพิ่มอีกนิดไปเป็น D7000 ตามที่ป๋าปุ้ยแนะนำ  ก็น่าจะดีกว่านะครับ  ผมว่ากล้องรุ่นใหญ่ๆเข้าถึงเมนูต่างๆได้ง่ายกว่า
 Cheesy
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2012, 09:21:06 am โดย jacky » บันทึกการเข้า
boatham
Newbie
*

like: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 143


« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 11:12:29 am »

ถ้าสองตัวนี้เน้นถ่ายเท่านั้น ไม่รวม vdo ผมให้ d90 ครับ แต่ถ้าถามถึงเทคโนโลยีผมว่า 600d เฉือนอยู่หน่อยๆ ส่วนเรื่องใช้งานง่ายนั้นอยู่ที่เราทำความเข้าใจกับกล้องนะครับ (ผมสาวก canon ก็ว่า canon ใช้งานง่ายกว่าแหละค้าบบบ )
บันทึกการเข้า
kittisak.1589
Mod
Full Member
*

like: 78
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1303



« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 09:12:22 pm »

ระหว่าง 600d.d90.และตัวเล็ก oly epl5
คิดมาหลายวันละครับไม่ตกซักที
อยากเสียตังค์แล้ว...
ขอบคุณครับ

สำหรับกล้องที่ยกตัวอย่างมา 3 รุ่นนั้น  2  ตัวแรกนั้น หลายๆคนก็คงจะรู้จักกันแล้ว
ว่าเป็นอย่างไร ใช้งานอย่างไร ใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมตกแต่งอะไรได้บ้าง เพิ่มแล้ว
ใหญ่โต หนัก แต่ใช้งานได้ดีแค่ไหน คงไม่ต้องบอกอีก

แต่ตัวที่ 3 อาจจะมีบางคนไม่รู้คืออะไร  ลองมาศึกษาก่อนครับ ผมเองเริ่มสนใจ
เจ้ากล้องประเภทนี้มาได้สักพักแล้วครับ และได้ลองใช้งานมาบ้าง  มาเริ่มเลยครับ

มันคือ กล้อง Mirrorless
ถ้าจะบอกว่ากล้อง Mirrorless เป็นอย่างไร ก็ต้องบอกว่าระบบหลักๆ “เหมือนกล้องคอมแพค
ตัวเล็กๆธรรมดาๆ แต่ดันเปลี่ยนเลนส์ได้” นั่นเอง
แต่… ไม่มีใครเรียกเจ้า Mirrorless ว่ากล้องคอมแพคเปลี่ยนเลนส์ได้หรอกครับ เพราะจะทำให้
 “สับสน” ได้ … ทำไมต้องสับสน? … ก็เพราะกล้อง Mirrorless นั้น มีคุณภาพระดับเดียวกับ DSLR
น่ะสิครับ ^ ^ (กล้อง DSLR คือกล้องตัวใหญ่ๆดำๆ เปลี่ยนเลนส์ได้)
ไปเรียกว่าคอมแพคเปลี่ยนเลนส์ได้ เดี๋ยวคนจะคิดว่าคุณภาพระดับคอมแพค แต่ดันเปลี่ยนเลนส์
ได้ซะงั้นไป ^ ^” ก็เลยมีชื่อใหม่ว่า Mirrorless หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า EVIL หรือ MILC
EVIL ย่อมาจาก electronic viewfinder interchangeable lens
MILC ย่อมาจาก mirrorless interchangeable lens camera

แล้วทำไมต้องใช้คำว่า Mirrorless?
ถ้าไม่อยากให้สับสนกับคุณภาพไฟล์ว่าดีกว่าคอมแพค ตั้งชื่อใหม่ไม่ได้หรือ? หรือตั้งชื่อว่า Mini-DSLR
หรือ Compact-DSLR ไม่ดีกว่าหรือ?

จริงๆแล้วกล้อง Mirrorless นั้น มีต้นแบบมาจากกล้อง DSLR นั่นแหละครับ
ซึ่งคำว่า DSLR นั้น ย่อมาจาก digital single lens reflex
และสิ่งที่ทำให้เจ้าตัว DSLR ต้องใหญ่เทอะทะ ก็เพราะมี single lens reflex (กระจกสะท้อนแสงจากเลนส์
 เข้าสู่ช่องมอง หรือ viewfinder) นั่นเองครับ  และเจ้ากระจกนี้เอง ก็คือที่มาของชื่อของ DSLR ด้วย ^ ^
(เวลาเราจะุถ่ายรูปจาก DSLR เราก็ส่อง … แล้วก็เห็นภาพ ซึ่งสะท้อนมาจากกระจก … พอเรากดปุ่มชัตเตอร์
กระจกก็จะยกขึ้น แล้วแสงก็ผ่านเข้าเซนเซอร์แทน … นี่คือหลักการของ DSLR (บางคนบอกว่าชอบเสียง
ชัตเตอร์ของกล้อง DSLR แต่บางตัวเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงยกกระจกขึ้นลง ไม่ใช่เสียงชัตเตอร์ก็มีครับ เหอๆๆ ^ ^))

พอมาเป็น Mirrorless เค้าก็มีแนวคิดคือ “ตัดกระจกที่ว่านี้ออกไป โดยให้ทุกๆอย่างคงเดิม” พูดง่ายๆคือ
ตัด SLR ออกไปนั่นเองครับ
เหตุผลก็คือเพื่อให้ขนาดมันเล็กกระทัดรัดลงกว่า DSLR เปลี่ยนเลนส์ได้เหมือน DSLR และคุณภาพ
เท่าเทียมกับ DSLR อยู่น่ะครับ ^ ^

และเพราะไม่มีกระจกที่ว่านี้ จะใช้ชื่อว่า Mini-DSLR หรือ Compact-DSLR ก็ไม่ได้ครับ ^ ^ เพราะกล้อง
มันไม่มี SLR อยู่อีกแล้ว แม้ทุกอย่างจะเหมือน DSLR ก็เถอะ  แต่สิ่งที่ตัดออกไป ก็คือส่วนสำคัญ
ของชื่อ DSLR นั่นเอง ^ ^ก็เลยได้ชื่อใหม่ว่า “ไร้กระจก” หรือ “Mirrorless” นั่นเองครับ ^ ^

สำหรับกล้อง Mirrorless นั้น
จริงๆโดยระบบ ก็เริ่มตั้งแต่ Leica M8 แล้วครับ แต่ตอนนั้นศัพท์ Mirrorless นี้ยังไม่เกิด อีกอย่าง
รูปร่างของ Leica M8 นั้นยังเทอะทะและเป็นรุปร่างของ RangeFinder นั่นเองครับ

กล้องตัวแรกของ Mirrorless จริงๆนั้นก็คือ Panasonic G1 ครับ   (แต่รูปร่างยังเป็น DSLR อยู่ คนเลยไม่ค่อยฮือฮา)
จนกระทั่งเกิดการวางตลาดของ Olympus E-P1 นั่นแหละครับ กระแสของ Mirrorless จึงได้เกิด
(วางขายกลางปี 2009) เพราะเป็นกล้องตัวแรกจริงๆที่ขนาดไม่ใหญ่ทึนทึก แต่คุณภาพระดับ DSLR
ฮือฮาขนาดไหน? ก็ต้องบอกว่าเวบดังๆอย่าง Dpreview นั้น มีคนเข้าไปดูข้อมูลของ E-P1 มากเป็นอันดับหนึ่ง
ติดต่อกันเกือบ 3 เดือน ปล่อยให้กล้อง DSLR รุ่นใหม่ตอนนั้นอับเฉาไปเลย

ผมคัดลอกมาจากบทความของ ecมอลล์ดอทคอม
ตอนนี้ผมได้หยิบๆจับ NEX 5r ก็ถือว่าโอเคครับ ภาพที่ออกมา ดีมากทีเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2012, 09:14:18 pm โดย kittisak.1589 » บันทึกการเข้า

kittisak.1589
Mod
Full Member
*

like: 78
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1303



« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 09:23:09 pm »

ภาพตัวอย่างกล้อง Mirrorless






บันทึกการเข้า

Eak@
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 25



« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 08:30:05 am »

ระหว่าง 600d.d90.และตัวเล็ก oly epl5
คิดมาหลายวันละครับไม่ตกซักที
อยากเสียตังค์แล้ว...
ขอบคุณครับ

สำหรับกล้องที่ยกตัวอย่างมา 3 รุ่นนั้น  2  ตัวแรกนั้น หลายๆคนก็คงจะรู้จักกันแล้ว
ว่าเป็นอย่างไร ใช้งานอย่างไร ใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมตกแต่งอะไรได้บ้าง เพิ่มแล้ว
ใหญ่โต หนัก แต่ใช้งานได้ดีแค่ไหน คงไม่ต้องบอกอีก

แต่ตัวที่ 3 อาจจะมีบางคนไม่รู้คืออะไร  ลองมาศึกษาก่อนครับ ผมเองเริ่มสนใจ
เจ้ากล้องประเภทนี้มาได้สักพักแล้วครับ และได้ลองใช้งานมาบ้าง  มาเริ่มเลยครับ

มันคือ กล้อง Mirrorless
ถ้าจะบอกว่ากล้อง Mirrorless เป็นอย่างไร ก็ต้องบอกว่าระบบหลักๆ “เหมือนกล้องคอมแพค
ตัวเล็กๆธรรมดาๆ แต่ดันเปลี่ยนเลนส์ได้” นั่นเอง
แต่… ไม่มีใครเรียกเจ้า Mirrorless ว่ากล้องคอมแพคเปลี่ยนเลนส์ได้หรอกครับ เพราะจะทำให้
 “สับสน” ได้ … ทำไมต้องสับสน? … ก็เพราะกล้อง Mirrorless นั้น มีคุณภาพระดับเดียวกับ DSLR
น่ะสิครับ ^ ^ (กล้อง DSLR คือกล้องตัวใหญ่ๆดำๆ เปลี่ยนเลนส์ได้)
ไปเรียกว่าคอมแพคเปลี่ยนเลนส์ได้ เดี๋ยวคนจะคิดว่าคุณภาพระดับคอมแพค แต่ดันเปลี่ยนเลนส์
ได้ซะงั้นไป ^ ^” ก็เลยมีชื่อใหม่ว่า Mirrorless หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า EVIL หรือ MILC
EVIL ย่อมาจาก electronic viewfinder interchangeable lens
MILC ย่อมาจาก mirrorless interchangeable lens camera

แล้วทำไมต้องใช้คำว่า Mirrorless?
ถ้าไม่อยากให้สับสนกับคุณภาพไฟล์ว่าดีกว่าคอมแพค ตั้งชื่อใหม่ไม่ได้หรือ? หรือตั้งชื่อว่า Mini-DSLR
หรือ Compact-DSLR ไม่ดีกว่าหรือ?

จริงๆแล้วกล้อง Mirrorless นั้น มีต้นแบบมาจากกล้อง DSLR นั่นแหละครับ
ซึ่งคำว่า DSLR นั้น ย่อมาจาก digital single lens reflex
และสิ่งที่ทำให้เจ้าตัว DSLR ต้องใหญ่เทอะทะ ก็เพราะมี single lens reflex (กระจกสะท้อนแสงจากเลนส์
 เข้าสู่ช่องมอง หรือ viewfinder) นั่นเองครับ  และเจ้ากระจกนี้เอง ก็คือที่มาของชื่อของ DSLR ด้วย ^ ^
(เวลาเราจะุถ่ายรูปจาก DSLR เราก็ส่อง … แล้วก็เห็นภาพ ซึ่งสะท้อนมาจากกระจก … พอเรากดปุ่มชัตเตอร์
กระจกก็จะยกขึ้น แล้วแสงก็ผ่านเข้าเซนเซอร์แทน … นี่คือหลักการของ DSLR (บางคนบอกว่าชอบเสียง
ชัตเตอร์ของกล้อง DSLR แต่บางตัวเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงยกกระจกขึ้นลง ไม่ใช่เสียงชัตเตอร์ก็มีครับ เหอๆๆ ^ ^))

พอมาเป็น Mirrorless เค้าก็มีแนวคิดคือ “ตัดกระจกที่ว่านี้ออกไป โดยให้ทุกๆอย่างคงเดิม” พูดง่ายๆคือ
ตัด SLR ออกไปนั่นเองครับ
เหตุผลก็คือเพื่อให้ขนาดมันเล็กกระทัดรัดลงกว่า DSLR เปลี่ยนเลนส์ได้เหมือน DSLR และคุณภาพ
เท่าเทียมกับ DSLR อยู่น่ะครับ ^ ^

และเพราะไม่มีกระจกที่ว่านี้ จะใช้ชื่อว่า Mini-DSLR หรือ Compact-DSLR ก็ไม่ได้ครับ ^ ^ เพราะกล้อง
มันไม่มี SLR อยู่อีกแล้ว แม้ทุกอย่างจะเหมือน DSLR ก็เถอะ  แต่สิ่งที่ตัดออกไป ก็คือส่วนสำคัญ
ของชื่อ DSLR นั่นเอง ^ ^ก็เลยได้ชื่อใหม่ว่า “ไร้กระจก” หรือ “Mirrorless” นั่นเองครับ ^ ^

สำหรับกล้อง Mirrorless นั้น
จริงๆโดยระบบ ก็เริ่มตั้งแต่ Leica M8 แล้วครับ แต่ตอนนั้นศัพท์ Mirrorless นี้ยังไม่เกิด อีกอย่าง
รูปร่างของ Leica M8 นั้นยังเทอะทะและเป็นรุปร่างของ RangeFinder นั่นเองครับ

กล้องตัวแรกของ Mirrorless จริงๆนั้นก็คือ Panasonic G1 ครับ   (แต่รูปร่างยังเป็น DSLR อยู่ คนเลยไม่ค่อยฮือฮา)
จนกระทั่งเกิดการวางตลาดของ Olympus E-P1 นั่นแหละครับ กระแสของ Mirrorless จึงได้เกิด
(วางขายกลางปี 2009) เพราะเป็นกล้องตัวแรกจริงๆที่ขนาดไม่ใหญ่ทึนทึก แต่คุณภาพระดับ DSLR
ฮือฮาขนาดไหน? ก็ต้องบอกว่าเวบดังๆอย่าง Dpreview นั้น มีคนเข้าไปดูข้อมูลของ E-P1 มากเป็นอันดับหนึ่ง
ติดต่อกันเกือบ 3 เดือน ปล่อยให้กล้อง DSLR รุ่นใหม่ตอนนั้นอับเฉาไปเลย

ผมคัดลอกมาจากบทความของ ecมอลล์ดอทคอม
ตอนนี้ผมได้หยิบๆจับ NEX 5r ก็ถือว่าโอเคครับ ภาพที่ออกมา ดีมากทีเดียว
ขอบคุณมากครับ..
บันทึกการเข้า
bik boran
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8


รักในสิ่งที่คิดว่า ใช่


« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 20, 2013, 01:10:32 am »

 like like like

^
^^
^^^
^^^^
  ตามป๋าข้างบนเลยครับ
บันทึกการเข้า

ไม่ต้องบินให้ สูง อย่างใครเขา
แค่บิน เอาเท่า ที่เรา ยังพอไหว
   ท่าที่บิน ไม่จำเป็น ต้องเหมือนใคร
แต่ บินไป ให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ!

www.facebook.com/bik.kilouy
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.045 วินาที กับ 20 คำสั่ง