หัวข้อ: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: TAZZ ที่ พฤษภาคม 29, 2012, 09:38:36 pm
ตัวเลข cc-ความจุกระบอกสูบ หรือแรงม้า เป็นค่าที่ผู้ผลิตรถต้องระบุไว้เสมอ ส่งผลให้หลายคนรีบตีความถึงสมรรถนะรถว่า...จะแรงหรืออืด และดูเหมือนว่าตัวเลขแรงม้า-แรงบิดของรถรุ่นใหม่ๆ ในระยะหลัง เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมน้อยกว่าช่วง 10 ปีที่แล้ว ที่เพิ่มพรวดพราดเมื่อรถออกรุ่นใหม่
รถรุ่นใหม่ๆจะแรงกว่ารุ่นเดิมเสมอใช่ไหม? และแรงแค่ไหนถึงจะพอ (สำหรับตัวเรา)?
ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ผมเคยนึกเล่นๆ ว่ารถเก๋งยุคใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์สารพัดเทคโนโลยี จะมีความแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบไร้ขีดจำกัด ในพิกัดความจุกระบอกสูบเท่าเดิมหรือไม่? เพราะในช่วงก่อนปี 2000 รถรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวหลายยี่ห้อมักแรงขึ้นจากรุ่นเดิมแบบแตกต่างพรวดพราดทั้งทางตัวเลขและสมรรถนะจริงอย่างชัดเจน จากเมื่อ 20 ปี ก่อนที่เครื่องยนต์ของรถแต่ละยี่ห้อมักมีพื้นฐานเดียวกัน แคมชาฟต์เดี่ยว 2 วาวล์ต่อสูบ คาร์บูเรเตอร์ จุดระเบิดด้วยระบบจานจ่าย เครื่องยนต์ในพิกัดความจุ 1600 ซีซี ล้อนมีกำลังแตะๆ 100 แรงม้า พัฒนาต่อเนื่องเป็นทวินแคม 4 วาวล์ต่อสูบ หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ จุดระเบิดตรง-ไดเร็กคอยล์ แล้วอาจพ่วงด้วยระบบแปรผันวาวล์หรืออีกสารพัดเทคโนโลยี เพิ่มกำลังขึ้นเป็น 100 กว่าแรงม้า หรือแรงจัดอย่างฮอนด้า B18 185แรงม้า หรือนิสสัน SR16 VEN-ONE 200 แรงม้าก็มีใช้ในตลาดรถทั่วไป
แต่ระยะต่อมาโดยเฉพาะหลังปี 2005 กลายเป็นว่ารถเก๋งรุ่นตลาดๆ เช่นเครื่องยนต์ 1600-2000 ซีซี มีกำลังแถวๆ 120-140 แรงม้า เพิ่มขึ้นในรุ่นใหม่บ้าง แต่ไม่ได้พุ่งขึ้นพรวดพราดเหมือนสมัยก่อน และดูเหมือนจะก้าวแบบเอื่อยๆ ด้วยซ้ำ ส่วนรถใหม่รุ่นเล็กหรือใหญ่กว่านั้น หลายรุ่นก็แรงขึ้นบ้าง แต่ไม่ได้ก้าวกระโดดอีกแล้ว ทำไม? น่าจะเป็นเพราะ 1. แรงเพียงพอระดับหนึ่งแล้ว 2. โลกต้องประหยัดพลังงานและร่วมกันลดมลพิษ
ระยะหลังบริษัทรถล้วนถูกบีบบังคับจากหลายประเทศ ที่บังเอิญพร้อมใจกันออกกฎควบคุมมลพิษสำหรับรถรุ่นใหม่ที่ขายในประเทศของตน เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมของลูกหลาน พร้อมถูกกดดันจากผู้บริโภคที่พร้อมใจอยากได้ความประหยัด เพราะใครๆก็ทราบว่าราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจากใต้โลกน่าจะต้องแพงขึ้นเรื่อยๆ พัฒนาการทางเทคโนโลยียุคใหม่ มีมากมายที่จะเพิ่มความแรงได้โดยไม่ต้องเพิ่มซีซี แต่ถ้าถูกกำหนดว่า...ต้องมีทั้งความประหยัดและไอเสียสกปรกน้อยด้วย จะกลายเป็นเรื่องยากทันที ถ้าจะทำให้เครื่องยนต์แรง แล้วยอมกินน้ำมันมากหน่อย และไอเสียสกปรกมากก็ไม่เป็นไร อย่างนั้นไม่ต้องถึงมือบริษัทรถหรอก ช่างไทยนักโมดิฟายเก่งๆก็ทำได้สบาย แต่เมื่อถูกตีกรอบด้วยหลายเงื่อนไข ทำให้เครื่องยนต์เบนซินในรถเก๋งทั่วๆไป ไม่ได้แรงเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เหมือนยุคเครื่องยนต์ 4 สูบ 6 วาวล์ คาร์บูเรเตอร์ เปลี่ยนเป็น 16 วาวล์ หัวฉีดอีกแล้ว
แต่อีกซีกหนึ่งของโลกเครื่องยนต์กลับไม่เป็นไปตามนั้น!!!
เครื่องยนต์ดีเซลล้วนถูกพัฒนาเพิ่มความแรงขึ้นต่อเนื่อง แม้ความจุเท่าเดิมหรือลดลง แต่แรงขึ้นชัดเจน พิกัดความจุ 2200-2500ซีซี กับพลัง 150แรงม้า หรือ 3000-3200ซีซี กับพลัง 170-200 แรงม้า ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะใช้เทอร์โบชาร์จช่วยอัดอากาศด้วยแรงดัน (บูสต์) สูงๆ แรงขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มความจุกระบอกสูบ แล้วก็บังเอิญที่ทำให้แรงพร้อมไอเสียสกปรกน้อยลงได้ เพราะเครื่องยนต์ดีเซลชอบอากาศเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งมีแนวโน้มเผาไหม้ดี ไอเสียก็ย่อมสกปรกน้อยลง จาก 10 กว่าปีที่แล้ว รถปิกอัพ-ดีเซลไม่มีเทอร์โบกลายเป็นมีเทอร์โบ รุ่นใหม่ๆ เป็นแบบครีบแปรผันบูสต์หนัก พร้อมลดความร้อนไอดีด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ ฝาสูบที่เคยทื่อๆ แบบ 2 วาวล์ต่อสูบกลายเป็น 4 วาวล์ต่อสูบ ทวินแคมชาฟต์ (คอมมอนเรล) สารพัดจะสรรค์สร้างความแรงเพิ่มขึ้น พร้อมควบคุมมลพิษได้ดี เพราะการใช้เทอร์โบกับเครื่องยนต์ดีเซลเป็นเรื่องไม่ยาก เนื่องจากพื้นฐานแข็งแรงและการมีอากาศเพิ่มขึ้นมากๆ แม้ใช้ไม่หมด ก็ไม่มีปัญหาส่วนผสมบางเหมือนเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่กำลังอยู่ในยุคของการก้าวเพิ่มความแรง พิกัด 3000 ซีซี หรือต่ำกว่ากับกำลังระดับ 200 แรงม้า ไม่ใช่เรื่องฝัน
แรงแค่ไหนถึงพอ?
ตัวเลขแรงม้าและอัตราเร่งที่ถูกนำเสนอ ทำให้หลายคนเพ่งไปที่สเปกแรงม้า หรือบางคนฟังจากคนอื่นว่าเร่งอืดหรือเร่งดี รวมถึงคิดเองว่าซีซีแค่นี้น่าจะอืด ไม่ใช่ทั้งนั้น!!!!! เพราะความหนักของเท้าขวาและความใจร้อนของแต่ละคนไม่เท่ากัน สไตล์การขับและการเผื่อระยะเร่งแซงล้วนแตกต่างกัน บางคน 200 แรงม้า ก็จะโมดิฟายเพิ่มอีก บางคน 100 แรงม้าแต่ไม่เคยกดเกินครึ่งคันเร่ง หรือบางคนสนใจตอนซื้อว่าต้องแรง แต่ใช้งานจริงกลับขับย่องๆ หากต้องการซื้อรถ หรือจะตัดสินว่ารถรุ่นใดมีอัตราเร่งดีหรืออืด?? ไม่ยาก....ลืมตัวเลขแรงม้าและซีซีชั่วคราว ทดลองขับในลักษณะเดียวกับการใช้งานจริง (ไม่ใช่เร่งสุดเท้าขวาอยู่ตลอด) แล้วตัดสินว่า แรงเกินพอ แรงพอดี หรือแรงไม่พอ
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ต้องก้าวหน้าและน่าสนใจ แต่การดำรงชีวิตจริง บางเรื่องอาจไม่จำเป็นต้องเห่อหรือไล่ตามเสมอ!!!! แรงแค่ไหน แรงพอไหม?? ง่ายๆ ครับ ทดลองขับ ไม่ต้องเชื่อใคร ไม่ต้องเชื่อสื่อ ไม่ต้องเชื่อเพื่อน หรือเข้าใจง่ายๆว่า แต่ละคนต้องการม้าฝีเท้าจัดไม่เท่ากัน !!!!!
วรพล สิงห์เขียวพงษ์ (บอย) บก. นิตยสาร Thai Driver / Option
คัดย่อจากบทความในหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา สตาร์ซ็อกเกอร์ ฉบับวันที่ 30พค.2555
อ่านแล้ว.....รู้สึกชอบในมุมมองครับ.......ด้วยจิตคารวะ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
รถรุ่นใหม่ๆจะแรงกว่ารุ่นเดิมเสมอใช่ไหม? และแรงแค่ไหนถึงจะพอ (สำหรับตัวเรา)?
ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ผมเคยนึกเล่นๆ ว่ารถเก๋งยุคใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์สารพัดเทคโนโลยี จะมีความแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบไร้ขีดจำกัด ในพิกัดความจุกระบอกสูบเท่าเดิมหรือไม่? เพราะในช่วงก่อนปี 2000 รถรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวหลายยี่ห้อมักแรงขึ้นจากรุ่นเดิมแบบแตกต่างพรวดพราดทั้งทางตัวเลขและสมรรถนะจริงอย่างชัดเจน จากเมื่อ 20 ปี ก่อนที่เครื่องยนต์ของรถแต่ละยี่ห้อมักมีพื้นฐานเดียวกัน แคมชาฟต์เดี่ยว 2 วาวล์ต่อสูบ คาร์บูเรเตอร์ จุดระเบิดด้วยระบบจานจ่าย เครื่องยนต์ในพิกัดความจุ 1600 ซีซี ล้อนมีกำลังแตะๆ 100 แรงม้า พัฒนาต่อเนื่องเป็นทวินแคม 4 วาวล์ต่อสูบ หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ จุดระเบิดตรง-ไดเร็กคอยล์ แล้วอาจพ่วงด้วยระบบแปรผันวาวล์หรืออีกสารพัดเทคโนโลยี เพิ่มกำลังขึ้นเป็น 100 กว่าแรงม้า หรือแรงจัดอย่างฮอนด้า B18 185แรงม้า หรือนิสสัน SR16 VEN-ONE 200 แรงม้าก็มีใช้ในตลาดรถทั่วไป
แต่ระยะต่อมาโดยเฉพาะหลังปี 2005 กลายเป็นว่ารถเก๋งรุ่นตลาดๆ เช่นเครื่องยนต์ 1600-2000 ซีซี มีกำลังแถวๆ 120-140 แรงม้า เพิ่มขึ้นในรุ่นใหม่บ้าง แต่ไม่ได้พุ่งขึ้นพรวดพราดเหมือนสมัยก่อน และดูเหมือนจะก้าวแบบเอื่อยๆ ด้วยซ้ำ ส่วนรถใหม่รุ่นเล็กหรือใหญ่กว่านั้น หลายรุ่นก็แรงขึ้นบ้าง แต่ไม่ได้ก้าวกระโดดอีกแล้ว ทำไม? น่าจะเป็นเพราะ 1. แรงเพียงพอระดับหนึ่งแล้ว 2. โลกต้องประหยัดพลังงานและร่วมกันลดมลพิษ
ระยะหลังบริษัทรถล้วนถูกบีบบังคับจากหลายประเทศ ที่บังเอิญพร้อมใจกันออกกฎควบคุมมลพิษสำหรับรถรุ่นใหม่ที่ขายในประเทศของตน เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมของลูกหลาน พร้อมถูกกดดันจากผู้บริโภคที่พร้อมใจอยากได้ความประหยัด เพราะใครๆก็ทราบว่าราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจากใต้โลกน่าจะต้องแพงขึ้นเรื่อยๆ พัฒนาการทางเทคโนโลยียุคใหม่ มีมากมายที่จะเพิ่มความแรงได้โดยไม่ต้องเพิ่มซีซี แต่ถ้าถูกกำหนดว่า...ต้องมีทั้งความประหยัดและไอเสียสกปรกน้อยด้วย จะกลายเป็นเรื่องยากทันที ถ้าจะทำให้เครื่องยนต์แรง แล้วยอมกินน้ำมันมากหน่อย และไอเสียสกปรกมากก็ไม่เป็นไร อย่างนั้นไม่ต้องถึงมือบริษัทรถหรอก ช่างไทยนักโมดิฟายเก่งๆก็ทำได้สบาย แต่เมื่อถูกตีกรอบด้วยหลายเงื่อนไข ทำให้เครื่องยนต์เบนซินในรถเก๋งทั่วๆไป ไม่ได้แรงเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เหมือนยุคเครื่องยนต์ 4 สูบ 6 วาวล์ คาร์บูเรเตอร์ เปลี่ยนเป็น 16 วาวล์ หัวฉีดอีกแล้ว
แต่อีกซีกหนึ่งของโลกเครื่องยนต์กลับไม่เป็นไปตามนั้น!!!
เครื่องยนต์ดีเซลล้วนถูกพัฒนาเพิ่มความแรงขึ้นต่อเนื่อง แม้ความจุเท่าเดิมหรือลดลง แต่แรงขึ้นชัดเจน พิกัดความจุ 2200-2500ซีซี กับพลัง 150แรงม้า หรือ 3000-3200ซีซี กับพลัง 170-200 แรงม้า ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะใช้เทอร์โบชาร์จช่วยอัดอากาศด้วยแรงดัน (บูสต์) สูงๆ แรงขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มความจุกระบอกสูบ แล้วก็บังเอิญที่ทำให้แรงพร้อมไอเสียสกปรกน้อยลงได้ เพราะเครื่องยนต์ดีเซลชอบอากาศเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งมีแนวโน้มเผาไหม้ดี ไอเสียก็ย่อมสกปรกน้อยลง จาก 10 กว่าปีที่แล้ว รถปิกอัพ-ดีเซลไม่มีเทอร์โบกลายเป็นมีเทอร์โบ รุ่นใหม่ๆ เป็นแบบครีบแปรผันบูสต์หนัก พร้อมลดความร้อนไอดีด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ ฝาสูบที่เคยทื่อๆ แบบ 2 วาวล์ต่อสูบกลายเป็น 4 วาวล์ต่อสูบ ทวินแคมชาฟต์ (คอมมอนเรล) สารพัดจะสรรค์สร้างความแรงเพิ่มขึ้น พร้อมควบคุมมลพิษได้ดี เพราะการใช้เทอร์โบกับเครื่องยนต์ดีเซลเป็นเรื่องไม่ยาก เนื่องจากพื้นฐานแข็งแรงและการมีอากาศเพิ่มขึ้นมากๆ แม้ใช้ไม่หมด ก็ไม่มีปัญหาส่วนผสมบางเหมือนเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่กำลังอยู่ในยุคของการก้าวเพิ่มความแรง พิกัด 3000 ซีซี หรือต่ำกว่ากับกำลังระดับ 200 แรงม้า ไม่ใช่เรื่องฝัน
แรงแค่ไหนถึงพอ?
ตัวเลขแรงม้าและอัตราเร่งที่ถูกนำเสนอ ทำให้หลายคนเพ่งไปที่สเปกแรงม้า หรือบางคนฟังจากคนอื่นว่าเร่งอืดหรือเร่งดี รวมถึงคิดเองว่าซีซีแค่นี้น่าจะอืด ไม่ใช่ทั้งนั้น!!!!! เพราะความหนักของเท้าขวาและความใจร้อนของแต่ละคนไม่เท่ากัน สไตล์การขับและการเผื่อระยะเร่งแซงล้วนแตกต่างกัน บางคน 200 แรงม้า ก็จะโมดิฟายเพิ่มอีก บางคน 100 แรงม้าแต่ไม่เคยกดเกินครึ่งคันเร่ง หรือบางคนสนใจตอนซื้อว่าต้องแรง แต่ใช้งานจริงกลับขับย่องๆ หากต้องการซื้อรถ หรือจะตัดสินว่ารถรุ่นใดมีอัตราเร่งดีหรืออืด?? ไม่ยาก....ลืมตัวเลขแรงม้าและซีซีชั่วคราว ทดลองขับในลักษณะเดียวกับการใช้งานจริง (ไม่ใช่เร่งสุดเท้าขวาอยู่ตลอด) แล้วตัดสินว่า แรงเกินพอ แรงพอดี หรือแรงไม่พอ
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ต้องก้าวหน้าและน่าสนใจ แต่การดำรงชีวิตจริง บางเรื่องอาจไม่จำเป็นต้องเห่อหรือไล่ตามเสมอ!!!! แรงแค่ไหน แรงพอไหม?? ง่ายๆ ครับ ทดลองขับ ไม่ต้องเชื่อใคร ไม่ต้องเชื่อสื่อ ไม่ต้องเชื่อเพื่อน หรือเข้าใจง่ายๆว่า แต่ละคนต้องการม้าฝีเท้าจัดไม่เท่ากัน !!!!!
วรพล สิงห์เขียวพงษ์ (บอย) บก. นิตยสาร Thai Driver / Option
คัดย่อจากบทความในหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา สตาร์ซ็อกเกอร์ ฉบับวันที่ 30พค.2555
อ่านแล้ว.....รู้สึกชอบในมุมมองครับ.......ด้วยจิตคารวะ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: seto16(เอก) ที่ พฤษภาคม 29, 2012, 10:46:19 pm
ขอบคุณครับ
ผมเคยคิดเล่นๆนะครับ
สมัยมัธยม กระบะใส่ 15 นี่ก็หล่อแล้วตอนนั้นจำได้ว่า bridgestone ขอบ 15 สวยมาก
สักพักเล่น 17 กัน
ตอนนี้กระบะไป 2x นิ้วกันแล้ว...
วู้วๆๆๆ ooo ooo
ผมเคยคิดเล่นๆนะครับ
สมัยมัธยม กระบะใส่ 15 นี่ก็หล่อแล้วตอนนั้นจำได้ว่า bridgestone ขอบ 15 สวยมาก
สักพักเล่น 17 กัน
ตอนนี้กระบะไป 2x นิ้วกันแล้ว...
วู้วๆๆๆ ooo ooo
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: thekop07 ที่ พฤษภาคม 29, 2012, 11:26:38 pm
ตอนซื้อผมก็ไม่ได้เล็งที่แรงมา แต่เล็งที่เครื่อง 2500 ประหยัดภาษีกว่าเพื่อนร่วมรุ่น :D
เพราะเดิมเคลมจากโรงงาน 178 แรงม้า ผมก็คงใช้ไม่หมดแล้วค้าบบบบบบ สาธุ
เพราะเดิมเคลมจากโรงงาน 178 แรงม้า ผมก็คงใช้ไม่หมดแล้วค้าบบบบบบ สาธุ
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: McOver ที่ พฤษภาคม 29, 2012, 11:57:24 pm
ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันให้ได้อ่านกัน แต่อุตส่าห์ทนอ่านจนจบ สุดท้าย ไม่เห็นจะได้แนะนำว่าควรมีหลักการอะไรในการเลือก หรือกฎเกณฑ์คร่าวๆว่ารถขนาดไหนควรมีแรงม้าเท่าไร? อัตราเร่งมาตฐานควรมีกีวินาที? ถึงจะไม่ถือว่าอืด มีแรงม้าเยอะกว่าเพื่อสำรองในยามที่ต้องการใช้ ถ้าเลือกเอาแบบพอดีๆ ในยามปกติ ก็แทบจะหมดคอกแล้ว ยามฉุกเฉินไม่มีให้ใช้เพิ่ม คงไม่เอาหรอก ข่าวแซงกันไม่พ้นมีให้เห็นเยอะไป ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาก็ไม่รู้ว่า "แรงม้า" หรือ "แรงโม้"
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: MoCoOLz ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 01:32:48 am
ถ้าที่มียังไม่พอใช้ ต้องจัดดันราง อาหารเสริม grin grin grin
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Tee_Kb ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 06:44:53 am
ขอบคุณความรู้คับป๋าตาม สาธุ สาธุ
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Power-ant ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 08:52:55 am
ชอบจ้า ขอบคุณป๋าตามที่เอามาให้อ่านครับ like
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Ped ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 09:04:43 am
สาธุ like like like like like good
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Mayurin ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 09:22:16 am
อ่านแล้วรู้สึกว่าชอบนะครับ แต่แอบ งงๆกับ เหมือนยุคเครื่องยนต์ 4 สูบ 6 วาวล์ คาร์บูเรเตอร์ รถรุ่นใหน?
กลายเป็น 4 วาวล์ต่อสูบ ทวินแคมชาฟต์ (คอมมอนเรล) คือระบบอะไร?
ไม่ค่อยได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ เลยงง ครับ
กลายเป็น 4 วาวล์ต่อสูบ ทวินแคมชาฟต์ (คอมมอนเรล) คือระบบอะไร?
ไม่ค่อยได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ เลยงง ครับ
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: TAZZ ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 10:07:36 am
อ่านแล้วรู้สึกว่าชอบนะครับ แต่แอบ งงๆกับ เหมือนยุคเครื่องยนต์ 4 สูบ 6 วาวล์ คาร์บูเรเตอร์ รถรุ่นใหน?
กลายเป็น 4 วาวล์ต่อสูบ ทวินแคมชาฟต์ (คอมมอนเรล) คือระบบอะไร?
ไม่ค่อยได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ เลยงง ครับ
กลายเป็น 4 วาวล์ต่อสูบ ทวินแคมชาฟต์ (คอมมอนเรล) คือระบบอะไร?
ไม่ค่อยได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ เลยงง ครับ
คงต้องถามคนเขียนหละครับป๋าโอ.....ผมคัดย่อมา.....หรือหนังสือพิมพ์อาจพิมพ์คลาดเคลื่อนก็อาจเป็นไปได้ขอรับ smile.. smile.. smile.. smile..
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Mayurin ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 10:12:49 am
ยังไงก็ขอบคุณครับ ป๋าตามสบายดีนะครับ
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: TAZZ ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 10:16:03 am
ยังไงก็ขอบคุณครับ ป๋าตามสบายดีนะครับ
สบายดีครับ....วิ่งไปวิ่งมา กรุงเทพฯ - ศรีราชา บ่อยๆ....ยังไม่มีโอกาสเลยไปให้ป๋าโอเลี้ยงกาแฟซักที grimace grimace 5555 5555 victory victory smile.. smile.. smile..
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Mayurin ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 10:19:21 am
มาได้เลยครับ ถ้ามาแถวนี้ เดี๋ยว PM เบอร์ไปให้ครับ
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Na ratchada ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 01:27:37 pm
มาได้เลยครับ ถ้ามาแถวนี้ เดี๋ยว PM เบอร์ไปให้ครับ
ขอด้วยครับ เอาแบบอยู่ถึงเช้านะครับ PM มาเลย หากไปแถวนั้นจะได้ขอใช้บริการ eie
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Mayurin ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 01:50:24 pm
มาได้เลยครับ ถ้ามาแถวนี้ เดี๋ยว PM เบอร์ไปให้ครับ
ขอด้วยครับ เอาแบบอยู่ถึงเช้านะครับ PM มาเลย หากไปแถวนั้นจะได้ขอใช้บริการ eie
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Na ratchada ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 02:08:36 pm
มาได้เลยครับ ถ้ามาแถวนี้ เดี๋ยว PM เบอร์ไปให้ครับ
ขอด้วยครับ เอาแบบอยู่ถึงเช้านะครับ PM มาเลย หากไปแถวนั้นจะได้ขอใช้บริการ eie
ขอบคุณครับป๋าโอ สวยงามแบบนี้ ชื่อนามว่ากะไรกัน เดี๋ยวจะเรียกไม่ถูกเวลา นั้นน่ะ
(http://image.ohozaa.com/i/2b5/Jb05U.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/pcto)
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: pakob ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 02:46:50 pm
รถเด๊่ยวนี้ เดิมๆ ก็่ ใช้ไม่หมดแล้ว
นานๆ จะได้กดหนักๆซะที แต่ก็ กลัว เอาไม่อยู อ่ะ anger
นานๆ จะได้กดหนักๆซะที แต่ก็ กลัว เอาไม่อยู อ่ะ anger
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Black Angel No.181 ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 09:22:04 pm
อ่านแล้วรู้สึกว่าชอบนะครับ แต่แอบ งงๆกับ เหมือนยุคเครื่องยนต์ 4 สูบ 6 วาวล์ คาร์บูเรเตอร์ รถรุ่นใหน?
กลายเป็น 4 วาวล์ต่อสูบ ทวินแคมชาฟต์ (คอมมอนเรล) คือระบบอะไร?
ไม่ค่อยได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ เลยงง ครับ
กลายเป็น 4 วาวล์ต่อสูบ ทวินแคมชาฟต์ (คอมมอนเรล) คือระบบอะไร?
ไม่ค่อยได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ เลยงง ครับ
อ่านเพลินๆป๋า อย่าคิดมาก grimace grimace grimace
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: Spjs ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 09:28:33 pm
like like like
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: AGGG ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 09:31:28 pm
hiเป็นบทความอ่านสนุก ลื่นดี มีส่วนที่สอดคล้องกับความคิดผมอยู่มากๆ
like like like
like like like
หัวข้อ: Re: ------**แรงแค่ไหนถึงจะพอ? กี่แรงม้าจึงไม่อืด?**--------
เริ่มหัวข้อโดย: ... ที่ พฤษภาคม 30, 2012, 09:35:16 pm
อ่านแล้วชอบครับ โดยเฉพาะสรุปตอนท้าย
แต่ละคนต้องการม้าฝีเท้าจัดไม่เท่ากัน
like like like
สาธุ สาธุ สาธุ
แต่ละคนต้องการม้าฝีเท้าจัดไม่เท่ากัน
like like like
สาธุ สาธุ สาธุ
