Languages
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดประเด็น หุ้มท่อแอร์เป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่  (อ่าน 15641 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
TONGSOOK
Newbie
*

like: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 228


« เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2012, 08:39:01 pm »

ไปพบบทความในไทรตันมาครับ  ขอท่านผู้รู้แสดงความคิดเห็นหน่อยครับ
 หุ้มท่อแอร์ดีมั้ย..Huh?..........................
ฝากไว้ครับ
ไปเจอมาอีกที
กระทู้นานแล้ว แต่น่าจะมีประโยชน์ ให้พิจารณาครับ

จากคุณ kaomoodang http://www.newviosclub.com/forums/vi...hp?f=3&t=61463

ขอสงวนสิทธิ์ในบทความนะครับ

เผยแพร่ในบอร์ดนี้เท่านั้น จะก๊อป หรือ เอาไปลงในลิงค์ตัวเอง ให้เครดิตกันหน่อย

---------------------------------------------------------------


สังเกตกันไหมครับว่า ในห้องเครื่องจะมีท่ออยู่เส้นนึง ทุกครั้งที่เปิดแอร์จะมีความเย็นที่ท่อนั้นอยู่ตลอดเ วลา

บางคนคิดว่านั้นคือท่อส่งความเย็น เลยเอาผ้าไปพัน หรือ เอาท่อยางอ่อนสีดำที่ใช้กับแอร์บ้านไปพัน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่า นั้นเป็นการทำลายคอมเพรสเซอร์ทางอ้อม

อธิบายเพิ่มเติมแล้วกัน เพราะพักหลังๆคนเข้าใจผิดอย่างมาก

-------------------------------

1. ท่อเย็นที่เห็นน้ำเกาะ เป็นท่อน้ำยาที่ออกมาจากตู้แอร์มาสู่ภายนอก เรียกว่าท่ออีวาปอเรเตอร์ หรือท่อ L (L = Low Pressure) ซึ่งมีการขยายตัวต่ำ จึงทำท่อให้มีขนาดใหญ่

โดยน้ำยาแอร์จะดูดซับความร้อนวนเวียนอยู่ตามท่อทางเด ินที่ขดไปมาบนแผงคอยล์เย็นจนแปรสภาพเป็นก๊าซ ไหลออกจากคอยล์เย็นไปตามท่อ เข้าสู่คอมเพรสเซอร์อีกครั้ง

แต่เพราะระหว่างทางกลับคอมเพรสเซอร์ ตัวน้ำยาเองยังไม่แปรสภาพเป็นก๊าซอย่างเต็มที่ จึงยังพอมีคุณสมบัติในการดูดซึมความร้อนหลงเหลืออยู่ เค้าถึงออกแบบท่อให้เดินผ่านห้องเครื่องเพื่อดูดซับค วามร้อน เพื่อเริ่มต้นกระบวนการอัดความดันของน้ำยาแอร์รอบใหม ่วนเวียนไปจนกว่าคอมเพรสเซอร์หยุดการทำงาน

อีกอย่างคือ การดูดซับความร้อนจากท่อ = การเพิ่มแรงดันให้กับคอมเพรสเซอร์ไปในตัว

จากนั้นเข้าสู่คอมเพรสเซอร์อีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นกระบวนการอัดความดันของน้ำยาแอร์รอบใหม ่

------------------------------

2. หลังจากคอมเพรสเซอร์ดูดกลับมา ก็ทำการอัดน้ำยา จากนั้นพออัดเสร็จก็จะส่งผ่านท่อซึ่งมีความร้อนอยู่

ท่อร้อนคือ เป็นท่อน้ำยา หรือ ท่อ H (H = High Pressure) ตัวท่อจะมีขนาดเล็กเพื่อสร้างแรงดัน โดยน้ำยาที่ผ่านการอัดจากคอมเพรสเซอร์เรียบร้อยแล้ว จะดันออกมาเข้าแผงระบายความร้อนหน้ารถ และสภาพน้ำยาแอร์นั้นยังเป็นก๊าซอยู่

จังหวะคอมเพรสเซอร์ทำงาน จะดูดน้ำยาแอร์ที่มีสภาพเป็นก๊าซเข้ามาอัดความดันและ อุณหภูมิให้สูงขึ้น จากนั้นส่งไปตามท่อทางออกของเข้าสู่คอยล์ร้อนซึ่งพัด ลมหม้อน้ำจะทำหน้าที่ระบายความร้อนก๊าซเหล่านี้ออกไป จากครีบระบายความร้อน กระทั่งก๊าซกลายเป็นของเหลวที่มีความดันสูงไหลออกจาก คอยล์ร้อนผ่านท่อทางออกไป และน้ำยาจะไหลเข้ามาดรายเออร์ เพื่อกรองสิ่งแปลกปลอม และดูดความชื้นไปด้วย

จากนั้นน้ำยาแอร์ไปตามท่อเข้าสู่วาล์วปรับความดัน ซึ่งจะลดความดันของน้ำยาแอร์ให้อุณหภูมิลดต่ำลงอย่าง มาก เพื่อป้อนเข้าสู่คอยล์เย็น โดยเจ้าวาล์วนี้ก็จะทำหน้าที่ลดแรงดัน (หรือฉีดน้ำยาให้เป็นฝอย) อย่างรวดเร็วจนเกิดการควบแน่น และแทรกไปในคอยล์เย็นเพื่อไปดูดความร้อนที่บริเวณรอบ ๆตัวออกมา อาศัยพัดลมโบลว์เวอร์จะทำหน้าที่ดูดอากาศในห้องโดยสา รผ่านแผงคอยล์เย็น ผ่านทางท่อลมจนออกไปจากช่องปรับอากาศด้านหน้าคอนโซล อากาศร้อนในห้องโดยสารจะถูกดูดซับออกไปด้วยวิธีนี้

จากนั้น.... ขั้นตอนก็จะย้อนไปที่ข้อแรกเหมือนเดิม

---------------------------

เพราะฉะนั้นแล้ว ห้ามเอาอะไรไปพันท่อ L หรือ ท่อเย็นที่มีน้ำเกาะโดยเด็ดขาดครับ เพราะจะทำให้แอร์กลับบ้านเร็วกว่าเวลาอันควร ซึ่งท่อ L จำเป็นต้องดูดซึมความร้อนในห้องเครื่องเพื่อส่งให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำการอัด

ถ้าเราเอาอะไรไปขวางทาง เช่น ไปหุ้มมัน จะทำให้สภาวะการเปลื่ยนแปลงจากของเหลวเป็นก๊าซผิดเพี ้ยนไปอย่างมาก

เราจึงควรปล่อยมันไว้ อย่าไปยุ่งกับมันเกินเหตุ ถ้าเครื่องปรับอากาศในรถคุณเย็นดีอยู่แล้ว อย่าไปยุ่งกับมันเด็ดขาด

สิ่งที่จะช่วยยืดอายุคอมเพรสเซอร์ให้ยาวนานคือ

1. หมั่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อนหน้ารถ โดยการใช้น้ำฉีดเข้าไปทุกครั้งที่ล้างรถ (ถ้าใช้เครื่องฉีดน้ำ ระวังครีบล้ม)
2. เป็นไปได้ ใช้ลมเป่าบริเวณพัดลมหม้อน้ำหน้ารถ และเป่าย้อนแผงรังผึ้งออกมา
3. เป่าไส้กรองแอร์ หรือเปลื่ยนบ่อยๆ ก่อนกำหนดได้ยิ่งดี
4. บางคนขี้ร้อน เปิดสวิตช์ ON แต่ไม่ติดเครื่อง แล้วเปิดแอร์.. นั้นเป็นการทรมานคอมเพรสเซอร์แอร์อย่างที่สุด คอมจะพังอย่างรวดเร็ว
5. หมั่นดูช่องตาแมวว่า มีฟองสีขาว (ไม่ใช่ฟองสบู่เล็กๆ) โผล่ขึ้นมาหรือเปล่า
6. ตรวจสอบสาพานขับ อย่าให้หย่อน
7. สังเกตหัวข้อต่อน้ำยา ว่ามีการรั่วซึมหรือไม่

เพียงเท่านั้น ระบบแอร์ก็จะอยู่คู่กับรถไปจนกว่าจะเบื่อ แล้วก็ขายทิ้ง

บันทึกการเข้า
jessada_choy
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2012, 08:45:21 pm »

ขอบคุณครับ  สาธุ
บันทึกการเข้า
yutah
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 56


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 03, 2013, 10:10:40 pm »

หุ้มนิดหน่อยได้ไม๊อ่า ... กันน้ำหยดใส่พวงมาลัย
บันทึกการเข้า
Taikek ปาทองดำ ID 022
Hero Member
*****

like: 39
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2528


เรื่องบางเรื่อง มีคำถาม แต่ไม่ต้องการคำตอบ มีเหตุและไม่ต้องมีผล


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 03, 2013, 10:27:03 pm »

 hi hi
บันทึกการเข้า

ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
toonze
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107


« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 09, 2013, 09:12:21 am »

แล้วทำไมแอร์บ้านหุ้มได้ครับ ใครตอบหน่อย
บันทึกการเข้า
ruth
Sr. Member
****

like: 60
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1607


S/N # 0505


« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 09, 2013, 11:23:02 pm »

ผมก็หุ้มไปแล้ว เน้นเฉพาะตรงที่จะหยดใส่ลูกปืนแกนพวงมาลัย ก็ถือว่าป้องกันเรื่องน้ำได้ดีเลยละครับ จริงๆบทความนี้เคยอ่านเจอมาก่อนไม่แน่ใจว่าที่ไหน แต่ก็ตัดสินใจแล้ว ระหว่างคอมแอร์พังเร็วกว่ากำหนด กับลูกปืนแกนพวงมาลัยล็อค ขอเลือกอย่างแรกดีกว่าครับ ถ้าพังจริงๆก็ยอมเสียเงินเปลี่ยน แต่แกนพวงมาลัยล็อคจะได้กลับมาเปลี่ยนหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ
บันทึกการเข้า
Pattanaphong
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6


« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 11, 2013, 06:55:39 pm »

ป่าครับดูรูปอ้างอิงครับ  สถานะน้ำยาก่อนเข้าคอมเพรสเซอร์ เป็นก๊าซ ครับ เส้นสีฟ้า  ดังนั้นหุ้มไปเถอะครับไม่มีปัญหา   แถมทำไห้แอร์เย็นขึ้นด้วย
บันทึกการเข้า
sr.mega
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25



« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 15, 2013, 11:57:37 am »

thank// เชอะ good
บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 998


« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 03:59:00 pm »

ไม่หุ้ม แต่ว่าทำรองน้ำ เหมือนที่ ป๋าซี แนะนำ ใน DIY
บันทึกการเข้า
P@Kaow
ID No.0612
Jr. Member
**

like: 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 690



« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 28, 2013, 08:50:11 am »

แล้วทำไมแอร์บ้านหุ้มได้ครับ ใครตอบหน่อย
นั่นซิ ทำไมหุ้มได้ รถก็น่าจะหุ้มได้
บันทึกการเข้า

ปาขาว 2.5GT 4WD MY 2012 รามอินทรา กม.8
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=5807.0
คิดลบก่อน แล้วคิดบวกที่หลัง
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 20 คำสั่ง