Languages
หน้า: [1] 2   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: V6 รอบเดินเบาสั่นขณะใช้แก๊ส  (อ่าน 5397 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sompothe
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« เมื่อ: มิถุนายน 24, 2015, 08:33:46 am »

V6 รถวิ่งได้ 31,000 กม.ติดแก๊ส AC 300 Premium หัวฉีด Hana ตั้งแต่ 1,200 กม.เดือน กพ.57 ใช้ดีมาตลอด ปัญหาที่พบคือไฟเครื่องยนต์ขึ้น พบ Code Misfires ช่างแจ้งว่าสูบ 1 มีปํญหา รอบเดินเบาขณะใช้แก็สสั่น หรืออาจจะเรียกว่ากระพือก็ได้นะครับ เพราะแรงสั่นรู้สึกได้ที่เบาะนั่ง หรือใช้มือจับฝาครอบเครื่องยนต์ยิ่งชัดเจน ในขณะที่รอบเดินเบาขณะใช้น้ำมันยังนิ่งเหมือนเดิม

ช่างแก๊สแจ้งว่าน่าจะเกิดจาก หัวฉีด หัวเทียน หรือไม่ก็ Coil แต่ผมแจ้งว่าใช้น้ำมันปกติน่าจะตัดเรื่อง coil กับหัวเทียนออกไปก่อน เพราะเห็นป๋า punpun บอก coil กับหัวเทียนรื้อยากมาก น่าจะมุ่งไปที่ระบบแก็ส  พอไฟเครื่องยนต์ขึ้นก็วิ่งด้วยน้ำมันตลอดประมาณ 100 กว่า กม.ไฟเครื่องยนต์หายไป พอ่ลองใช้แก็สก็โชว์ขึ้นมาอีกวันเสาร์นี้นัดช่างเข้าไปแก้ไข จึงขอความเห็นแนวทางการแก้ไขจากป๋าทั้งหลายครับ

หมายเหตุ อาการก่อนเป็น เข้าไปเช็คแก็สรั่ว ช่างเลยถือโอกาส up firmware ล่าสุดน่าจะ v.11 ไม่แน่ใจนะครับ ขับกลับบ้าน 20 กม.ปกติ เช้าขึ้นมาวิ่งรถได้ 3 กม.ไฟเครื่องยนต์ขึ้น รอบเดินเบาด้วยแก็สสั่น (รถมีปัญหาไฟเครื่องยนต์ขึ้นช่วงเริ่มติดตั้งใหม่ๆ 4-5 ครั้ง เลยแจ้งช่างว่ามีคน up firmware แล้วหาย ตั้งแต่เดือน ส.ค.57 ที่ up firmware v.10.1 ไม่มีอาการไฟเครื่องยนต์โชว์อีกเลย) จนมาล่าสุดนี้เลยงง ๆ ว่าตกลงเป็นที่ software หรือที่ hardware กันแน่เพราะเกิดในช่วงเวลาเดียวกันพอดี ปัจจุบันให้ช่างกลับไปใช้ firmware ตัวเก่า แต่อาการทั้งหมดก็ยังไม่หาย

อัตราการกินน้ำมันเฉลี่ย 8.3 +/- อัตราการกินแก็สเฉลี่ย 6.5 +/-
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 24, 2015, 08:52:46 am โดย sompothe » บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2015, 10:39:38 am »

 ในขณะที่รอบเดินเบาขณะใช้น้ำมันยังนิ่งเหมือนเดิม

แสดงว่า.. ระบบน้ำมันปรกติดีทุกอย่าง  ถูกไหมครับ  หากเป็นแบบนั้น   ยอดเยี่ยม

ทำไมถึงโล่งอก  ก็เพราะว่า  พอระบบน้ำมันปรกติให้เห็นแบบว่า  หากไปที่ร้านแล้วพอสับไปน้ำมัน  รถเราก็หายสั่นวิ่งก็ปรกติ   ช่างจะได้ฟันธง ไปดูแลระบบแก็สได้เลย  ไม่ต้องมาดูแล coils หัวเทียน แล้ว   ร้านแก็สอยู่ห่างจากบ้านไกลเกินมากกไหมครับ   ไป Service ตรงนี้ก็น่าจะจบได้ดีเลยครับ  ไม่น่ายากหรือหาไม่เจอปัญหาครับ   เพราะหากระบบน้ำมันยืนยันออกมาดีแบบนั้น  ระบบแก็สก็ตามดูแลไม่ยากครับ  เรื่อง Firmware อย่าเพิ่งไปโทษมันมากครับ  อาการ misfires นั้น คือการไม่จุดระเบิดผิดพลาดที่สูบนั้นก็ดูสูบนั้น  สูบ 1 ของ V6 นี่น่าจะอยู่แบบนี้  โดยเปิดกระโปรงหันหน้าเข้าหาเครื่อง ซ้ายมือสูบที่ติดกับตัวเราจะเป็น  1 แล้วแถวเดียวกันก็ 3-5  อีกฝั่งก็ 2-4-6   (ผมคาดว่านะ)  ช่างร้านแก็ส  หากดูแลเรื่องในโปรแกรมแล้ว  เขาคงจะมาลองสลับ  หัวฉีดแก็สจาก หัวที่จ่ายสูบ 1 มาที่อีกด้าน  หรือหากมีหัวฉีดในมือแบบเดียวกันก็อาจจะใส่แทน  แล้วดูผล ได้ จาก Trim ของโปรแกรม  ECU premium  ตัวนี้หากต่อ oBd ลิงค์กับรถยนต์  จะพบได้ว่ามันอ่านค่า Trim ได้ทั้ง 2 Banks พร้อมกันเลย   เมื่อทำการย้ายหัวฉีดแก็สที่น่าสงสัย สลับไป BANK 2  ก็จะเห็นค่า Trim ที่เคยมากกว่า 20 ที่ด้านนึงกระโดไปอยู่อีกด้านได้    และหากเกิดจากการนั้นก็เปลี่ยนหัวฉีดนั้น  ในกรณีที่เกิดจากหัวฉีดแก็สนั้น


แต่หากป๋าแน่ใจว่าระบบน้ำมันนิ่งดี  ผมก็จะข้ามเรื่องหัวฉีดน้ำมันตันออกไปเลยนะครับ   ข้ามเรื่องหัวเทียน  ข้ามเรื่อง coils เสือมหรือร้าว  ออกไปด้วย   แต่ไม่แน่นะป๋า  บางทีหากป๋าได้กลิ่นแก็สตอนเดินเบาเปิดฝากระโปรงนะ  ป๋าอาจจะเจอสายส่งแก็สไปหาสูบ 1 รั่วซึมจากหัวฉีดไปหารูจ่ายที่เจาะที่ท่อร่วมไอดี  อาจจะแค่ตรงนี้ก็ได้  รถแก็สต้องไม่มีกลิ่นแก็สนะครับ  ยกเว้นเวลาเติมในปั๊มแก็ส


บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2015, 11:01:25 am »

ป๋าหากพบปัญหาที่ Hardware เช่น สายส่งแก้สจากหัวฉีดซึมรั่ว  หัวฉีดสูบ 1 เสีย อะไรทำนองนี้ก็จบที่ร้านที่ติดมาได้  แต่หาก hardware ปรกติดี  แล้วทางร้านปรับจูนให้ใหม่แล้วไม่ดีขึ้น  ป๋ากลับมาเล่านะ  จะได้ไต่ระดับไปถึงเรื่องว่าเปิด Auto Adaptive แบบ OBD ไว้หรือไม่ยังไงค่อยว่ากันต่อ  ก่อนอื่นลองดมที่หน้าเครื่องซิป๋ามีกลิ่นแก็สซึมออกมาไหม  ลองใช้สายตามองแถวสายยางแก็สแถวหัวฉีดสิว่ามีซึมรั่วไหม  ต้องตอนเดินเบาด้วยนะ  เรื่องสูบ 1 Misfires นั้น  ร้านแก็สดูจาก error ของโปรแกรมที่ report ออกมาหรือ 0  Mitsu ครับ

ถ้าเป็นหงส์ทอง  หรือ Urc   Auto-D แมวหมู ช่างกบ ก็เข้าไปหาเขาเรื่องนี้แป๊บเดียวก็จบได้แล้วครับ   ถ้าร้านอื่นหากดูดูแล้วเหมือนจะยากขึ้น  ก็มาเล่าให้ฟังนะครับ  แต่ถ้าติดมาจากร้านที่จั่วไว้  ก็คงจบได้สบายสบายครับ
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
sompothe
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2015, 01:34:00 pm »

ขอบคุณครับป๋า punpun ติดจากร้านที่ไปเช็คครับ แต่วันที่พบปัญหามีธุระด่วนเลยจะนัดไปเช็ดวันเสาร์นี้อีกที แต่ฟังป๋าว่าผมก็เบาใจไปเยอะ เพราะถ้าเป็นที่ coil หรือหัวเทียน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งค่าแรงค่าของ (เข้าใจว่าคงหมดประกันส่วนนี้ตั้งแต่ติดแก็ส) ส่วนแก็สรั่วไม่น่าจะมีนะครับเพราะวันที่ไปเช็คก็ไปเช็ครั่วซึมด้วยแต่ก็ไม่เจอครับ ส่วนเครื่องที่อ่าน Code ใช้เครื่องของร้าน เคยอ่านที่ป๋าแนะนำไป case หนึ่ง อาจจะเป็นกรองแก็ส กรองหม้อต้ม สกปรก มีผลทำให้หัวฉีดสกปรกทำงานไม่สมบูรณ์ ว่าจะลองให้ร้านเปลี่ยนกรองหม้อต้มดูด้วยครับ (ครบรอบเปลี่ยนที่ 41000 กม. ส่วนกรองแก็สเปลี่ยนไปเมื่อ 20000 กม.)

มีประเด็นเรื่อง เปิด Auto Adaptive แบบ OBD ครับ ไม่ทราบว่าการเปิดหรือไม่เปิดมีผลต่างกันอย่างไรครับ

ขอบคุณครับป๋า
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2015, 07:30:34 pm »

กรองแก็สละเอียด  ในอนาคตเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนเอง  ต้นทุนก็แค่ ลูกละประมาณ 200 บาทครับ 2 ลูก 400 (กรองที่ใช้ทั่วไปนะ)
กรองหม้อต้ม  เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน  สำหรับผมมีผลน้อย  แต่ถ้าไม่กี่บาทก็เอา

ก็เป็นไปได้ในกรณีที่หัวฉีดมันหนืดที่บางหัว  แต่ส่วนนี้ช่างเขาคงวินิจฉัยเอาเองครับ  แต่ถ้าเราทำเองได้เราก็สลับ Bank เองเลย แล้วดูว่า misfires  มันย้ายตามไปอยู่ฝั่งนั้น  หรือหากมีดโปรแกรมจูนของ AC เาก็สามารถดู error code ที่เกิดขึ้นได้เอง  และสั่งลบได้เองอีกด้วย  นี่เป็น advantage ของรุ่น premium obd ครับ ISa2 ไม่มี

หากเราพบว่าปัญหามันตามมาตามสูบที่เราโยกไป  เราก็เคลมร้านหรือซื้อเปลี่ยนเองได้

มีประเด็นเรื่อง เปิด Auto Adaptive แบบ OBD ครับ ไม่ทราบว่าการเปิดหรือไม่เปิดมีผลต่างกันอย่างไรครับ

ตรงนี้ไม่ขอตอบตรงประเด็นนะครับ  มันจะยาว แล้วก็ ย้าว ยาว... หากมีเวลาลองหาอ่านใน Iwebgas Ac ดูครับ  มันยาวมากจริงจริงกว่าจะอ่านแล้วเข้าใจก้ต้อง  ตามไปเข้าใจเรื่องอื่นอีกเยอะครับ

แต่หากไม่พบปัญหาที่เกิดจาก Hardware แล้วละก็  งานนี้คงต้องให้ร้านเขาดูแลเรื่อง Software การปรับจูนละครับ และตั้งคำถามเจาะจงไปเราจะได้รู้สถานะรถเรา

--- รถเราเป็น 300 PREMIUM ที่ต่อ Obd ไว้ด้วยไหม ( น่าจะต่อ  เพราะร้านเคยบอกว่าอ่าน code เจอ Cylinder-1 has misfires..)
--- ได้มีการเปิด Function  ของ OBD Adaptive ใช้งานหรือไม่  (เขาควรจะตอบตามจริง ไม่ควรบ่ายเบี่ยงให้เราเข้าใจผิด)   การเปิด Function นี้ ตามประสพการณ์  คนที่จะเปิดใช้งาน ควรอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจมันถ่องแท้  ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าช่างทุกคนจะ set ในส่วนนี้ได้ดี

--- เราจำเป็นต้องเปิดใช้ OBD Adaptive หรือไม่?..  หากเราไม่แน่ใจว่าเราหรือช่างของเราจะเข้าใจมันดีพอ  เราก็ขอ DISABLE มันไว้ดีกว่า  Ecu เราก็จะทำตัวเป็น 300 Isa2 ใช้ FUNCTION พื้นฐานเดียวกัน
--- หรือหากจะเปิดใช้ก็ควรที่จะปรับจูนด้วยระบบ Manual จนเรามั่นใจและรู้สึกได้ว่ามันจูนจนถึง Maximum ที่เพียงพอแล้ว  เราถึงจะไปดูเรื่องการเปิดใช้งาน Obd Adaptive

ในกรณีที่หากทางร้านเปิดไว้แล้ว  และหาเหตุอื่นไม่เจอว่าทำไมมันถึงเกิดปัญหานี้  เราก็กล่อมเขาเอาแบบว่า  ขอปิด Function นี้ก่อน  และอย่าลืมเน้นว่าให้สั่งลบอดีตของการปรับโดย obd ด้วย  โดยกดปุ่มที่เขียนว่า Reset Adaptation 1 ครั้งด้วย  เพื่อทำการลบกระดาษทดเลขค่า Trim ของระบแก็สที่บันทึกไว้ใน Ecu และจะทำให้การจูนแบบ Manual ไม่แปลกแยกออกไปจากที่ควรจะเป็น

หากผมเป็นร้านที่จูน  และผมพบว่า hardware ทุกตัวของระบบแก็สดีหมดปรกติดีทุกอย่าง   ผมจะทำการ disable ระบบ Obd Adpative ดูก่อน พร้อม Reset  ค่า Adaptation ให้เป็นศูนย์  แล้วทำการปรับจูนแบบ ISa2 ทุกอย่าง หลังจากนั้นก็จะลองวิ่งทดสอบ  และให้ลูกค้าทดสอบใช้งานสักพัก  หากไม่พบปัญหาอะไรอีก  ก็จะขอปรับรายละเอียดครั้งสุดท้ายอีกที  แล้วทำการ Save ค่า Setting เก็บไว้เป็น BACKUP หลังจากนั้น  ก็อธิบายลูกค้าว่า  หากจะเปิด Function นี้ก็จะทำให้แต่หากวันใดมันเกิดปัญหาแบบนี้อีก  ก็จะขอ disable ในจุดนี้โดยการเอา Backup มาใส่ให้  แต่หากมันออกมา Ok ก็ใช้งานกันต่อไป

หมายเหตุ  มีหลายท่านที่ใช้งาน  ทำการเปิด มั่ง  บางท่านก็ปิดมั่ง  ไม่ใช้งานในส่วนนี้  แล้วแต่ชอบ  สัดส่วนเปิดไม่เปิดนี้แทบจะ 50/50 เลยทีเดียว   แต่มี ecu ตัวนี้จะได้เปรียบมากกว่าเพราะมี Obd  reader ให้เราดูและช่วยลบไฟ ENGINE หรือทราบเหตุปัญหาแบคร่าวคร่าวได้   ตัวมันเองก็แพงกว่า Isa2 นิดเดียวก็ถือว่าคุ้มค่ามาก  และยิ่งหากวันใดเราปรับจูเองเล่นเองได้  มันจะเป็นเครื่องมือให้เราทำการจูนได้ง่ายกว่ามากมาก  ที่เห้นชัดก็คือมันโชว์ค่า trims ให้เราดูทั้งตอนใช้เชื้อเพลิงขนิดไหนก็ตาม  และที่แปลกกว่าชาวบ้านเขาก็คือ  มันโชว์แบบ 2 Banks แยกส่วนด้วยกับรถ V6 เรา   หากดูโปรแกรมเองได้จะเห็นว่าปัญหานี้  เราจะเห็นค่า Trim (LTFT, SHFT) ของ Bank-1 ว่า เมื่อเราเดินด้วยระบบแก็สจะมีการปรับ Short term fuel trim สูงขึ้นมามากว่าด้าน Bank-2 จนตัวเลข Total Trim (Sh/Lt Fuel trim + กัน) สูงมาก พอถึงจุดนึง ไฟ Engine check light มันก็เกิดขึ้น  และ ecu น้ำมันรถมันก็นับจังหวะที่มีเชื้อเพลิงหลุดจากการเผาไหม้มาหนาหรือไม่จุดระเบิดที่สูบไหน  มันก็  Report ออกมาว่าสูบ 1  Misfires ครั้ง 1 นะ หากเราไม่กดไปน้ำมันเพื่อหยุดการนั้น  ปล่อยไว้ต่อไป  เมื่อเกิดขึ้นอีกมันก็จะไปเก็บในส่วนของ Pending error  record พอมันสะสมมากจนถึงจุดที่ ecu ถูกโปรแกรมไว้แล้วจัดว่าไม่สามารถยอมรับค่านี้ได้    ตอนนั้น Ecu รถก็อาจจะตัดการทำงานเข้าสู่ safe mode กันทีเดียว

การที่เราขับรถที่มี error แบบนั้น  แล้วเรากดไปใช้น้ำมัน  ซึ่งเท่าที่ฟังนี่  ผมอนุมานได้ว่าระบบน้ำมัน Ok ดี    พอเราวิ่งไปสักพัก  ค่า Trims ก็จะเข้าสู่ปรกติ  เผาไหม้สมบูรณ์  เมื่อค่าเหล่านี้สะสมเข้าไปตามคิวในระบบ memory ของ ecu พอถึงจุดนึงมันก็ดันค่า Trim ที่มีปัญหาหลุดออกไป   ไฟ ENGINE ก็ดับตัวลงเองได้   เท่าทีผมสังเกตุดู V6 เราไวมากเรื่องนี้  ซึ่งก็ดีนะผมว่า..

การ reset ไฟ Engine เมื่อแก้ปัญหาจบแล้ว  โดยทั่วไปแบบไม่มีเครื่องมือลบ  ก็มักจะใช้วิธี RESET กันโดยถอดขั้วแบทเลยสัก 20 นาที  เพื่อความ shure ไปเลย   อาจจะน้อยกว่านั้นด้วย   แต่การทำแบบนั้นเท่ากับว่าเราต้องมา set หลายอุปกรณ์ใหม่ เวลา  วันที่ เครื่องเสียง อื่นอื่น   แต่หากเรามี notebook ที่ลงโปรแกรม Ac ไว้  เราสามารถสั่งลบจากตรงนั้นได้เลย  ขณะเครื่องยนต์ทำงานอยู่แบบนั้นเลย  

การลบไฟ engine ไม่ได้ทำการแก้ปัญหานะ  การลบไฟก็คือการปิด job การแก้ปัญหาจบแล้ว  หรือลบเพื่อทดสอบในขั้นตอนการเกิด
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
sompothe
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 08:31:43 am »

ขอบคุณป๋าที่ให้ความรู้อย่างมากในการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา มีประเด็นเรื่องการเปลี่ยนกรองละเอียดเอง ซึ่งจะประหยัดได้ถึง 400 บาท เพราะปกติผมเปลี่ยนที่ 800 บาท แต่เนื่องจากไปอ่านเจอตรงนี้เข้า

"บางท่านถามว่ากรองแก๊ส เจ้าของรถสามารถเปลี่ยนเองได้ไหม ซึ่งดูๆ แล้ว เปลี่ยนง่ายมาก จากการเก็บข้อมูล พบว่าการเปลี่ยนกรองแก๊สใหม่ จะทำให้แรงดันของแก๊สเพิ่มขึ้นประมาณ 0.3-0.5 bars ซึ่งมีผลกับปริมาณการจ่ายแก๊ส ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับแรงดันแก๊สให้ได้ตามสเป็คของระบบแก๊ส และปรับจูนการจ่ายแก๊ส โดยใช้โปรแกรมจูนจากช่างผู้ชำนาญ เพื่อปรับการจ่ายแก๊สยี่ห้อนั้นๆ"

เลยไม่แน่ใจในข้อเท็จจริงนะครับ แต่สำหรับผมอยากเปลี่ยนเองครับ เพราะมันไม่ได้ยากอะไร
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 10:44:20 am »

เป็นการพูดแบบไม่ชัดเจนข้อมูล ออกจะออกไปทางเกินจริงนิดนะครับ 0.3-0.5 bar  haha.... นั่นมันกรองตันเกือบร้อย% แล้วนะนี่

Anyway... เรามาคุยกันโดยให้ข้อมูลที่ละเอียดชัดเจนอีกด้านนึงนะครับ    พูดแบบนั้นดูมันขลังสำหรับลูกค้าที่กำลังจะออกจากมนต์สะกดร้านแก็ส  ก็ต้องโดนของต่อไปอีก

กรองละเอียดที่ใช้แบบทั่วไปราคาต่ำ  ที่ราคาตัวละ 200 กว่า นี้ เป็นที่นิยมใช้กันทั่วไป เราจะไม่กล่าวถึงกรองสุด high ที่ราคาสูงแบบอื่น  หรือกรองแบบที่รวม Combine อุปกรณ์อย่างอื่นติดไปด้วยในการเปลี่ยนแต่ละครั้ง

จากข้อมูลที่ส่งมานั้น  เรามาพูดถึงกรณีของรถป๋าเลยละกัน   ระบบของรถป๋า ecu มันจะอ้างอิงค่าแรงดันในการทำการจูนล่าสุดจากแรงดันหม้อต้ม  สมมุตินะ 1.20 bar  เมื่อใช้งานไป 5000-10000 km. ก็อาจจะเริ่มสกปรกเหมือนกรองต่างต่างทั่วไป และแรงดันสมมุติว่ามันตกลงไปเฉลี่ยแถว 1.12  (ค่าเฉลี่ยกลาง) แท้จริงแล้วมันสวิงอยู่เกือบตลอดเวลา    และต่อให้มันอุดตันจนแรงดันตกไปถึง 1.00 เลย   หากมีการเปลี่ยนกรองโดยเราเอง  โดยไม่มีการปรับแรงดันหม้อต้มเลย มันก็ย่อมดีกว่าการไม่เปลี่ยนอยู่ดี  หากหม้อต้มเองไม่ได้มีส่วนทำให้แรงดันตกเอง  มันก็น่าจะกลับมาที่ 1.20 โดยประมาณเหมือนเดิม

แล้วถ้าเราเปลี่ยนเองแล้วเราจะดูเรื่องแรงดันแทนร้านแก็สด้วยละ  ทำยังไง  ก็หาทางเปิดโปรแกรมจุนเพื่อดูแรงดันได้เองจากการทำงาน  และเรียนรู้การปรับแรงดันหม้อต้มด้วยตนเองไปเลย  หากมีแนวช่างอยู่แล้ว  จริงแล้วส่วนใหญ่  ผมว่าโอกาศที่ร้านแก็สเปลี่ยนกรองแล้วจะมาเปิดโปรแกรมดูแงดันมีน้อยมากถึงไม่มี    แล้วมันจะต่างกันยังไงกับที่เราจะเปลี่ยนเองละ

แต่หากได้คำตอบมาว่า  เราเองก็ทำอะไรไม่ด้สักอย่างที่กล่าวมา   งั้นก็คงมีทางเดียวคือ  ปล่อยเป็นหน้าที่ร้านแก็สเขาต่อไป    เหมือนกับทุกวันนี้ผมฟังวิทยุโคสนา  บอกว่ากินอาหารเสริมตัวนี้  แล้วทำให้หายจากโรคนี้โรคนั้นได้  แต่พอตอนจบมีการพูดเร็วเร็วเป็นคำเตือนออกมาว่า .... ผลิตภัทน์ตัวนี้ไม่ใช่ยา  ไม่มีผลในการรักษาโรค  ...... (พูดเร็วเร็ว..แบบ ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 ขวด)   เฮ้อ ... แล้วจะฟังมาแต่ต้นทำไมหว่านี่  ว่ามะเร็งก็หาย  เบาหวานก็ตรวจแล้วไม่เจอน้ำตาลเกิน  ., etc.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 25, 2015, 10:50:22 am โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 10:54:03 am »

ตัวนี้ดีและถูก 180-200 ซื้อจาก gas online

กระซิบครับ.. แฟนคลับ PUNPUN เขาเปลี่ยนกันเองเยอะแล้วครับ   ป่านนี้ร้านแก็สคงคิดถึงเขากันแย่แล้ว ...  หายไปไหนกันหมดหว่า ...

ลองหาอ่านกระทู้ป๋า Not พาเปลี่ยนกรองแก็สกันครับ ละเอียดยิบทีเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 25, 2015, 10:57:24 am โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 11:03:52 am »

เห็นบอกว่าจะไป service วันเสาร์   งั้นช่วงนี้ใช้ระบบน้ำมันไปตลอดนะครับ   หากใช้ระบบแก็สแล้วมัน misfires สูบที่ว่าอยู่เรื่อยละก็  อันตรายกับ catalytic เรานะครับ   จะมีกากเชื้อเพลิงไปสะสมที่ CAT ของ Bank-1 เป็น cat ที่มีสูบ 1 อยู่ และเมื่อมีกากเชื้อเพลิงมากกว่าปรกติ  มันจะเผาไหม้ใน cat นั้น แล้วทำการสะสมความร้อนและไต่ระดับสูงขึ้นมากกว่าปรกติที่มันทำงาน  และมันจะแดงสุกปลั่งเป็นทองคำได้ ดูจากเปลือกนอก  cat ตอนนี้ก่อนก็ได้  ว่า 2 ด้านมันสีเหมือนกันไหม  หากข้างซีกคนขับสุกมากละก็  แคทเรา melting ได้เลยนะหากอาการถี่มาก มันว่ากันว่าสามารถไต่ไปได้ถึง 1000 องศาได้เลยนะ

กดน้ำมันใช้ไปก่อนตอนนี้คุ้มกว่าครับ  เพราะ Cat เราราคาเแพงมากกว่า

***แอบแซวป๋า nu ting นิดนะ  ผมโผล่มาปุ๊บ กระทู้ใหม่  ป๋าแกก็มาแอบดูผมอยู่เรือยเลย...อิ...****  kiki kiki kiki
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
sompothe
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 01:11:21 pm »

กระจ่างเลยครับ ธุรกิจก็ยังคงเป็นธุรกิจไม่เข้าใครออกใคร kiki
สำหรับกรองแก็สยี่ห้อนี้แบบเข้า 1 ออก 2 มีไหมครับ พอดีที่ผมใช้เป็นแบบนี้ คราวหน้าได้ประหยัดไปตั้ง 400  suadyod
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 01:31:38 pm »

มีป๋า  ยี่ห้อไหนก็ได้ กรองแก็สก้คือกรองแก็ส  เหมือนกับ กรองน้ำมันเครื่องยี่ห้อไหน  ก็ต่างกันไม่เยอะ  ถูกหน่อยก็เปลี่ยนบ่อย แต่ผมชอบ certools นี่มี่มันเป็นฟองน้ำข้างใน  มันซับเมือกเหลวได้ดี ของป๋าเดินระบบสายแก็สและเลือกหม้อต้มมาแบบภูธรเชียวนะ  หม้อออกทางเดียวน่าจะเป็น Toma มัง  แล้วมาออกเป็น 2 ราง 2 กรองแก็ส    ก็ ok  ยังไงพอหมดประกันแล้ว  เมื่อถึงอายุหม้อต้มโทรมแล้วละก็ดูตัวใหม่นะป๋า  พวก ออก 2 ทางตั้งแต่หม้อต้มเลย  เอาลูกใหญ่ใหญ่ อิ.... พวก Kme Gold Turbo ไรเงี๊ยะ...

แต่กรอง 2 ออก 1 น่าจะราคาแพงมากอาจถึง 300  อิ..... ป๋าก็จะประหยัดไป 500 นา... สั่งมาทีละ 5 ตัว เปลี่ยนทุก 1.5 หมื่นโลไปเลย  เอาเข็มขัดใหม่ทุกครั้งก็อีกตัวละ 20 บาท เปลี่ยนบ่อยหากมันลื่นนะ  สั่งสายออ่นมาติดบ้านไว้สัก 5เมตร เปลี่ยนมันบ่อย ยี่ห้อไม่แพงก็ได้  เมตรละ 100 กว่าบาทก็ Ok แล้ว  หรือหากไม่เปลี่ยนบ่อย  ตัดปลายสัก 1-2 cm. ตามข้อต่อที่เรารัดเข็มขัดทิ้ง  ดูในกระทู้ป๋า not เปลี่ยนกรองแก็สกันเอง

หากมีสายจูนกับ Notebook ละก็ Download โปรแกรม   Ac มาไว้ดูอะไรอะไรได้เยอะ เช่น แรงดัน  ดูค่า Trim น้ำมันและแก็ส  ตั้งเกจ์แก็ส  ป๋าแน่ใจนะรถป๋า Ecu เป็น Ac Premium ผมเคยคุยกับสมาชิกในเวบ AC คุยไปคุยมาเขาไปเอา ECU ออกมาดู  เอ๊ะ ทำไมมันเขียนว่า G1    แต่ใช้โปรแกรม Ac ได้

และในกรณีรถป๋า เป็น Premium Obd  ป๋าสามารถอ่าน code ที่ไฟ Engine เกิดมาให้พวกเราดูได้จากโปรแกรม และเมื่อป๋าแก้ปัญหาจบป๋าสั่งลบไฟ engine ได้แบบ immediately กันเลย ดับทันทีทันใด  Ok.. Ok..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 25, 2015, 01:35:59 pm โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
sompothe
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 01:55:56 pm »

ขอบคุณครับ ป๋า แม่นเหมือนตาเห็นเลยครับ Toma
บันทึกการเข้า
sompothe
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #12 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2015, 09:20:08 am »

เรียบร้อยแล้วครับป๋า punpun สรุปว่าสูบ 1 มีการจ่ายแก๊สมากเกินไป ทางร้านแจ้งว่าค่ามัน error ผมขอสรุป 2 ข้อ ให้ป๋าช่วยวิเคราะห์หน่อยครับ
1.ค่า error จริง ซึ่งในทางทฤษฏีเป้นไปได้ไหมครับ ?
2.ไฟเครื่องโชว์หลังจากมีการ up firmware (ซึ่งป๋าบอกว่าน่าจะยังไม่ใช่จำเลย) และช่างบอกว่าค่ามันเกินไปราว 2 % ให้วิ่งน้ำมันไล่รอบๆ ละ 1 นาที ตั้งแต่ 1000 รอบ ถึง 3000 รอบ เพื่อให้เส้นกราฟมันเกาะกับเส้นน้ำมัน ซึ่งผมเข้าใจว่าขณะนั้นมีการปรับอะไรไปด้วยค่าจึงเพี้ยนไปจากเดิม

ป่าคิดว่าเป็นข้อ 1 หรือ 2 ครับ

มีคำถามต่อจากข้อ 2 ครับ ในเมื่อระบบเป็นออโต้จูนไม่ต้องจูนอีกเลย (ตามที่แจ้งไว้เมื่อเริ่มติดแก๋ส) ทำไมค่าจึงเกินไปได้ และการขับน้ำมันไล่รอบมีความจำเป็นไหมครับ?

หมายเหตุ ขอเล่าเหตุการณ์ขณะเข้าตรวจเช็คไว้เป็นประสบการ์ณสำหรับท่านอื่นๆ นะครับ

พอนำรถเข้าเช็ค แจ้งช่างว่ารอบเดินเบาด้วยแก็สสั่น แต่น้ำมันปกติ ขอให้ไล่เช็คระบบแก็สเพียงอย่างเดียวก่อน จากนั้นช่างก็เปลี่ยนเป็นน้ำมันสลับแก็สไปมา และบอกว่าไม่ต่างกันคือสั่นทั้งน้ำมันและแก็ส ผมบอกเฮ้ย ลองสัมผัสที่ฝาพลาสติกครอบเครื่องสิ และลองไปนั่งที่เบาะจะรู้ว่ามันสั่นต่างกันแน่ แต่ช่างมันอย่างว่านะครับมั่นใจในตัวเองมากเกินไปไม่ทำตามแฮะ ถามกลับ รถใช้มากี่ กม.ผมบอกไปว่าวิ่งน้ำมันมา 1200 กม.วิ่งแก็ส 30,000 กม. จากนั้นเขาสรุปว่าเป็นที่ coil กับหัวเทียน เสีย หรือวาล์วยัน จะเปิดเครื่องผมก็เข้าไปยืนยันว่าระบบน้ำมันไม่มีปัญหานะ และการเปิดวาล์วหรือถอดหัวเทียนเช็คไปเรื่องใหญ่นะ เพราะรุ่นนี้มันเปิดยาก โชคดีเจ้าของร้านเข้ามาพอดีเลยเข้าไปคุยขอเช็คค่าต่างๆ ด้วย software ก่อน จึงพบสา่เหตุที่แท้จริงใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที แม้เกือบถูกเปิดบริสุทธิ์แล้ว นี่ถ้าไม่ได้ความรู้จากป๋า punpun เพื่อยืนยันความมั่นใจนี่เป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว

ผมสรุปอย่างนี้ครับ การ inspection (ตรวจเครื่องจักร เครื่องยนต์ด้วยประสาทสัมผัส) นั้น ต้อง ตาดู หูฟัง จมูกดมกลิ่น มือหรือร่างกายสัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง สั่น ฯ จึงจะครบถ้วนนี่อะไร ดูด้วยตา หูฟังเสียง บอกให้ไปสัมผัสเครื่องยนต์หรือลองนั่งดูยังไม่ทำตาม ส่อแสดงถึงความไม่ใช่มืออาชีพ ซึ่งเรื่องตรงนี้ผมได้แอบแจ้งเจ้าของร้านเขาทราบด้วยจะได้นำไปตักเตือนและปรับปรุงแก้ไขงานบริการ

สุดท้ายขอบคุณป๋า punpun เป็นอย่างมากที่ให้คำแนะนำที่ดี และคิดว่าคงต้องทำอะไรด้วยตัวเองบ้างแล้วแหละ  kiki เช่นเปลี่ยนกรองแก็สเอง และอาจจะต้องถืงกับจูนแก็สเองก็เป็นได้ ขอบคุณมากนะครับ ป๋า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2015, 09:22:46 am โดย sompothe » บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2015, 10:20:32 am »

เอาแบบขอตอบทีละข้อนะขอรับ  ... เรื่องมันยาว  เพราะมีการเข้าใจผิดออกไปจากมุมมองของป๋าเอง  ซึ่งมาจากข้อมูลที่พยายามหมุนเราให้งง  ให้หลงเชื่อ  ให้หลงรักแบบไร้เหตุผล  เด๋วอ่านไปเรื่อยจนจบทุกข้อป๋าจะทราบเอง  แต่ผมต้องขอเวลาตอบที่ละ step ข้อที่ถามไปนะครับ  มันจะยาว ย๊าว ยาว แน่ แน่  แต่จะตอบครับ  เพราะหากปล่อยป๋าและสมาชิกที่ตามอ่านอยู่หลุดประเด็นนี้ไป  จะไม่เป็นะรรมแก้เราในเรื่องการเข้าใจความสามารถของระบบที่เราติดมานี้  งั้นขอไล่ตามทีละข้อเลยนะครับ  หากยังไงวันนี้จะมาต่อให้จบทุกข้อครับ

1.ค่า error จริง ซึ่งในทางทฤษฏีเป้นไปได้ไหมครับ ?

--- เอาเป็นว่าแค่ในทางใช้วิจารณญาน  ก็ตอบได้แล้วครับว่า  มันเป็นไปได้หลายอย่าง เช่น

/// เริ่มจาก usually does กันก่อนเลย  กรองแก็สกสปรก และมากขึ้นโดยเฉพาะคราบเหนียวที่หลุดจากประสิทธิภาพการกรองของ filters ออกไปหาหัวฉีด  แล้วไปหน่วงเวลาการปิดเปิดขอหัวฉีดโดยเมือกเหนียว+ฝุ่น สนิมจากถังแก็สที่หลุดปนมา ก็สามารถทำให้เวลาการเปิดหัวฉีดอาจเป็นแบบสองทางแย่  คือ

 1. ยกไม่ขึ้นเพราะหนืด  แรงแม่เหล็กไฟฟ้าจาก coil ในหัวฉีดดึงสู้ความหนืดของลูกเลื่อนไม่ไหว การเปิดแก็สจึงยกเปิดได้น้อย
 2. หากเปิดได้แต่กว่าจะปิดลงก็หนืดอีก  และยังไม่ทันลงสุดก็มีกระแสแม่เหล็กมาดูดดึงอีกแล้ว  ทำให้เปิดไม่สุด ปิดไม่สุด

ตรงนี้หากเป็นเพราะกรณีนี้ที่ไม่เกี่ยวกับคำสั่งเวลาการเปิดยกหัวฉีด  ก็ควรจะจัดการเปลี่ยนซะ  หรือหากจะล้างจะซ่อมอะไรวิธีไหนก็หาทางทำเสียก่อน  ยังไม่น่าไปรื้อหาเรื่องอื่นต่อก่อน  น่าจะเปลี่ยนตรงนี้ให้ก่อน แล้วค่อยตรวจสอบซ้ำใหม่หากจบก็จบหากไม่จบก็ไปหาต่อ   เพราะเมื่อเจอแบบนี้ยังไงก็ต้องทำในจุดนี้ก่อนอยู่ดี  สรุปว่าในทางทฤษฏีเป็นไปได้แน่นอน...

2.ไฟเครื่องโชว์หลังจากมีการ up firmware (ซึ่งป๋าบอกว่าน่าจะยังไม่ใช่จำเลย) และช่างบอกว่าค่ามันเกินไปราว 2 % ให้วิ่งน้ำมันไล่รอบๆ ละ 1 นาที ตั้งแต่ 1000 รอบ ถึง 3000 รอบ เพื่อให้เส้นกราฟมันเกาะกับเส้นน้ำมัน ซึ่งผมเข้าใจว่าขณะนั้นมีการปรับอะไรไปด้วยค่าจึงเพี้ยนไปจากเดิม

--- หลังจากมีการ up Firmware อันนี้อย่าเพิ่งให้ firmware เป็นจำเลยเลยครับ  เพราะหากช่างผิดพลาดตรงไหน  ก็จะโยนความผิดให้ Firmware ได้  ในกลุ่มผม  หาก firmware ตัวไหนมีปัญหา  จะมีการพิจารณาทดสอบกันมากมาย  ไม่ระบุลงไปก่อนว่าเป็นเพราะ firmware ต้องหาจุดที่ว่า error ตรงไหนอย่างไร  หากทางร้านไม่แน่ใจก็น่าจะ Stand ที่ version ที่เคยเป็นอยู่แล้วทำการปรับจูนให้ใหม่  จะได้ไม่พะวงว่ามาจาก Firmware

ช่างที่อธิบายเรื่อง 2% นั้นหากให้ผมเดาผมว่า  เขาเอาคำว่า 2% มาจากหน้าการจูนที่เรียกว่า Deflection ที่ระบุความคลาดเคลื่อนเป็น %  และการที่เขาอธิบายเราแบบให้ดูขลัง  อาจทำให้เราหลุดความเข้าใจหรือไม่เข้าใจไปเลยก็ได้

เช่นคำว่า " ให้วิ่งน้ำมันไล่รอบๆ ละ 1 นาที ตั้งแต่ 1000 รอบ ถึง 3000 รอบ เพื่อให้เส้นกราฟมันเกาะกับเส้นน้ำมัน ซึ่งผมเข้าใจว่าขณะนั้นมีการปรับอะไรไปด้วยค่าจึงเพี้ยนไปจากเดิม "

ที่กล่าวแบบนั้นน่าจะหมายถึง  ได้มีการทำ Autotune ใหม่เกิดขึ้น  และการทำนั้นก็ต้องมีการเก็บค่าอดีตการสั่งจ่ายทั้งน้ำมันและแก็สที่จะออกมาเป็นกราฟให้ Monitor ดู ที่ช่างกล่าวคือวิธีการเก็บกราฟที่ว่านี้เอง  มันเป็นส่วนนึงของขั้นตอน มาตรฐานในการจูน Ecu ตัวนี้  การทำแบบนี้ ก็จะได้กราฟเกิดขึ้นมาเพื่อการดูผลเปรียบเทียบระหว่างการใช้น้ำมันและแก็ส  เพื่อประกอบเป็นข้อมูลให้ผู้จูนวินิจฉัยในการปรับจูน

--------------------------------------------------

มีคำถามต่อจากข้อ 2 ครับ ในเมื่อระบบเป็นออโต้จูนไม่ต้องจูนอีกเลย (ตามที่แจ้งไว้เมื่อเริ่มติดแก๋ส) ทำไมค่าจึงเกินไปได้ และการขับน้ำมันไล่รอบมีความจำเป็นไหมครับ?



คำว่า Autotune นี้เพราะว่ามันเป็นคำกระชับที่หมายถึง  การทำการจูนโดย ECU แก็สเองทีรอบเดินเบา  เพื่อจุดประสงค์ที่จะได้ค่าตั้งต้นในการเปรียบเทียบการจ่ายของแก็สที่ได้มาจากการพยายามทำการปรับการจ่ายให้มีประสิทธิภาพเท่ากับน้ำมันให้มากที่สุด  แต่เป้นเพียงการทำที่รอบเดินเบารถอยู่นิ่ง  และค่าที่ได้ก็จะเป็นฐานการคำนวณในรอบ rpm. อื่นอื่นต่อไป  แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำการจูนโดย Automatic แบบว่าคนไม่ต้องมาทำอะไรแบบนั้นที่เราอาจเข้าใจเคลื่อนไป  การทำ Autotune บางที่ก็ใช้คำว่า Calibrate ซึ่งอย่างหลังนี่มีความหมายชิดมากกว่า  หากแปลมาเป็นภาษาไทย

ยังไงขั้นตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า Autotune เสร็จก็วิ่งใช้งานได้เลย  ยังไงก็แล้วแต่ยังต้องมีการปรับจูนอยู่ดีใน ecu ตัวนี้  ถึงจะไปได้ถึง maximum ของการจูน  และการขับระบบน้ำมันเพื่อสร้างกราฟขึ้นมานั้นเพื่อเอามาเปรียบเทียบกับระบบแก็สว่า   มันพอจะมีปีะสิทธิภาพได้ใกล้เคียงกันไหม  โดยเอากราฟเป็นเครื่องมือคร่าวคร่าวให้ดูง่ายขึ้น  จึงขอตอบว่าหากต้องการใช้กราฟในการเทียบแบบดังกล่าว  ก็มีความจำเป็นในการขับน้ำมันเพื่อสร้างข้อมูลน้ำมันครับ

ข้อความบรรทัดนี้เป็นการเข้าใจไม่ถูกต้องนะครับป๋า

---- ในเมื่อระบบเป็นออโต้จูนไม่ต้องจูนอีกเลย (ตามที่แจ้งไว้เมื่อเริ่มติดแก๋ส) ทำไมค่าจึงเกินไปได้ และการขับน้ำมันไล่รอบมีความจำเป็นไหมครับ ----



... จากนั้นเขาสรุปว่าเป็นที่ coil กับหัวเทียน เสีย หรือวาล์วยัน...


--- กรณีที่เกิดจาก coils ก็มีส่วนทำให้เกิดแบบนั้นได้  แต่มีจุดต่างนิดนึง ที่ว่า ในระบบแก็สจะสั่นมากกว่าระบบน้ำมันก็  โดยปรกติจะเป็นแบบนั้น  แบบว่าสั่นทั้งคู่  แต่จะรู้สึกชัดในระบบแก็ส
--- กรณีวาวล์ยัน  ในที่นี่เครื่องเรา  จะมีส่วนในซีกวาวล์ไอดี   ซึ่งมันก็สั่นทั้งคู่อีกนั่นแหละ  แต่จะสั่นมากขึ้นหากยิ่งร้อน กรณีที่ผมพบเองบ่อยก็คือสั่นแทบจะเท่ากันทั้งคู่เลยไม่ว่าเชื้อเพลิงไหน

ส่วนคำถามที่ป๋าถามมาตามหลังใน pm  เด๋วว่างมาตอบนะครับ  น่าจะเป็นคำถามที่เปิดเผยไม่ได้ กระมัง  อิ....

แต่ผมว่าป๋ามาลงทะเบียนเรียน Ac ในห้องจูนแก็ส AC ของเราก่อนดีกว่า  เพราะป๋าได้รับข้อมูลและเก็บไปเข้าใจนั้นมันไม่ถูกเลยนา   หากปล่อยแบบนี้ต่อไป  ป๋าจะตามอู่แก็สไม่ทันนะ 
รถป๋าอะนะ  ระบบ hardware โดยรวมถือว่าดีอยู่มากมาก   รวมทั้ง ECU ก็อย่าไปเปลี่ยนนะ  ตัวนี้แหละเด็ดขาด  หากจะใช้เพื่อการปรับจูนเองในอนาคตละก็  ยิ่งจะดีกว่า 300-ISA2 อีกนะป๋า  เรื่อง conflict กับ Obd ในรถเราในอดีตนั่น  มันเลยมาแล้ว  แค่ update เจ้า Obd Adapter กล่องดำเล็กเล็ก หรือ Donky (กล่องลาโง่)   ด้วย  Firmware จากตัวแทนจำหน่ายก็จบแล้ว  มันมีปัญหาอยู่แค่นั้นเอง  ผมทดสอบมา6-70000 km. แล้วเรื่อง Ecu ทำการ conflict กับ Obd II ของรถ  มันจบไปนานแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2015, 10:45:53 am โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
sompothe
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2015, 11:17:09 am »

 suadyod ขอบคุณมากๆ นะครับ ทำให้ได้ความรู้อีกเยอะเลยจะได้ทันคน  kiki ส่วนห้องเรียน AC ผมอาจแบบคร่าว ๆ ทุกหน้าแล้ว เดี๋ยวจะกลับไปอ่านทวนให้ละเอียดอีกหลาย ๆ รอบครับ

อดถามอีกไม่ได้ครับ แล้วถึงขั้นนี้ต้องกลับตรวจเช็คหัวฉีดแก็สอย่างละเอียดอีกไหมครับ (แค่ Software เพียงพอไหมครับ) เพราะอีก 8 เดือนจะหมดระยะเวลาประกัน แล้วการล้างหัวฉีดแก็ส เขาถอดออกมาล้างได้เหมือนหัวฉีดน้ำมันไหมครับ กรณีที่ยังอยู่ในประกันจะได้ให้ทางร้านถอดล้างให้นะครับ ที่ผมถามย้ำเพราะคุยกับช่างพวกนี้ถ้าไม่มีข้อมูลเพียงพอมักจะถูกบ่ายเบี่ยงเสมอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2015, 11:22:20 am โดย sompothe » บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 20 คำสั่ง