Languages
หน้า: 1 2 3 [4] 5   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ท้ายสะบัดแล้วเลื้อย พลีกคว่ำ....  (อ่าน 22842 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
@ เอ เด็กเมืองชล2.4 @ PajeroSport No.2522
Jr. Member
**

like: 44
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 842


เด็กเมืองชล E85 TAP ATD E27AIY


เว็บไซต์
« ตอบ #45 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 01:25:44 pm »

ทำคลิปตั้งเบรคดีกว่าเดี๋ยวจัดให้
บันทึกการเข้า

2.4 LPG BSM K&N Emu Sport กล่ององศาจุดระเบิด
รับติดตั้ง(TAP) ของATDโซนชลบุรี
rood304
Madame Organic 304 shop
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48



« ตอบ #46 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2014, 07:24:22 pm »

ทำคลิปตั้งเบรคดีกว่าเดี๋ยวจัดให้
                ตั้งเองก็ดีเหมือนกันนะครับ ป๋าผมเคยเอาไปให้ศูนย์เปลี่ยนผ้าเบรกหลังแล้วตั้งให้ ช่างก็ล้างอ่างเบรก ฉีดล้างเขม่าซะเรี่ยม ตอนประกอบก็ไม่มีอะไร พอออกมา เบรก ไม่ค่อยอยู่ครับ ดีแต่ตอนถอยหลังเบรคจับดีเหลือเกิน คิดเอาเองว่าไม่เป็นอะไรคงยังไม่เข้าที่เข้าทาง ผ่านไปเป็นสัปดาห์อาการเดิมก็ยังหลอนอยู่ ตั้งวาวล์แรงดัน ตั้งผ้าเบรกใหม่ก็ไม่หาย ตัดสินใจถอดล้อสลับอ่างเบรกล้อหลังดูอาการหายเลยครับ.... เหตุการณ์ครั้งนี้ สันนิษฐานว่า ช่างล้างอ่างเบรกรวมกัน พอถึงเวลาประกอบก็ใส่ๆ ไป แล้วคงสลับกันผลจึงออกมาเป็นประการฉะนี้....แล  สาธุ สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า
maleethipwater
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #47 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2014, 11:35:44 am »

ต้องพยามยาม ศึกษาหาข้อมูลเองดีกว่า....น่ากลัวครับ...ไว้ใจศูนย์ก็ยาก....ปวดหัวจริง...ขอบคุณข้อมูลครับ...
 ฮือๆๆ
บันทึกการเข้า
maleethipwater
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #48 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2014, 03:17:51 pm »

ช่วงเหยียบแล้วรอพุ่ง  มีผลทำให้รถสะบัดง่ายหรือไม่...ถ้ายาง หรือถนนไม่ดีพอ.....น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสะบัดหรือเปล่า...
บันทึกการเข้า
KengEVO5 (No.521)
Hero Member
*****

like: 55
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2502



« ตอบ #49 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2014, 11:47:30 pm »

ช่วงเหยียบแล้วรอพุ่ง  มีผลทำให้รถสะบัดง่ายหรือไม่...ถ้ายาง หรือถนนไม่ดีพอ.....น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสะบัดหรือเปล่า...

เท่าที่ตามอ่าน  ดูแล้วท่านเจ้าของกระทู้คาใจเรื่องสะบัด    ผมจะลองอธิบายเสริมสักเล็กน้อยนะครับ

การเหยียบคันเร่งลึกเกินไป (หรือเดินคันเร่งเร็ว)  จะมีโอกาสล้อหลังฟรีทิ้งได้ แม้ฟรีเล็กน้อย รถก็เป๋ได้  ในเสี้ยววินาที เมื่อรถเป๋ เราจะพยายามหมุนพวงมาลัยแก้อาการ (แม้ไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่เป็นสัญชาติญาน)  เมื่อล้อหน้าเบี่ยงเบนจากมุมฉากแล้ว ล้อหลังก็จะยิ่งดิ้นฟรีทิ้ง  ท้ายรถก็จะสะบัดซ้ายขวา ตามการหมุนของพวงมาลัย ที่เราพยายามแก้   ยิ่งรถไม่มีลิมิเต็ดสลิป (LSD) ล้ออาจปั่นข้างเดียว ก็ยิ่งเสียอาการง่ายใหญ่  ทั้งหมดที่ผมบรรยายมา 2 บรรทัดนี้ เกิดขึ้นในไม่ถึง 1 วินาทีนะครับ อธิบายแบบสโลโมชั่น

อาการนี้เป็น "อาการปกติ" ของรถ "ขับหลัง" ครับ  ยิ่งรถเครื่องแรง แรงบิดสูง อาการล้อหลังฟรีทิ้ง ยิ่งเกิดง่าย  ส่วนที่่ท่านวิเคราะห์เองว่า ปาเจโร่ สะบัดแล้วเลี้อย เอาไม่อยู่นั้น ถูกต้องแล้วครับ เพราะรถเราหนักครับ หนักถึง 2 ตัน แถมยังสูงอีกด้วย จะเทียบกับกระบะ 1 ตันไม่ได้ครับ กระบะน่าจะเอาอยู่มือกว่า

และไม่ใช่ว่าอาการนี้รถกระบะไม่เป็น  รถอีกคันผมใช้ D-max ตอนกลับรถยูเทิร์น  ถ้าเดินคันเร่งเร็วไป ก็ท้ายกวาดได้เหมือนกันครับ  แต่คัน  D-max ผมยางไม่ดีแล้ว อายุเกิน 3 ปี ดอกยางคงจะแข็ง หลังจากเปลี่ยนยาง 4  เส้น อาการดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย

ส่วนเรื่องศูนย์บริการมิตซูบิชินั้น  มีไว้สำหรับถ่ายน้ำมันเครื่องเท่านั้นพอครับ ช่างศูนย์ทำเป็นแค่นั้นจริงๆ  ผมก็โดนมาเยอะกับช่างศูนย์  รายละเอียดไม่ขอเล่า เดี๋ยวยาว กระทู้เก่าๆ บ่นไปเยอะแล้ว    ถ้าเราไม่มีความรู้เชิงช่างเลย  เราต้องหาอู่เก่งๆครับ ถามคนรู้จัก หรืออู่เฉพาะทาง ถามเยอะๆ หาอู่ที่ไม่ฟัน  แล้วตีซี้กับเจ้าของอู่ไว้ พอจะช่วยได้ครับ  ขอย้ำ ต้องเป็นอู่ซ่อมรถนะครับ พวกศูนย์บริการเร่งด่วน อาทิ B-เร็ว, ACT.. ตรวจเช็คฟรี 30 รายการ อะไรนั่น   ยิ่งต้องหลีกเลี่ยงครับ อันนั้นหนักกว่าศูนย์  ถ้าไม่มีความรู้ โดนฟันหัวเบะ

โดยสรุปคือ เราต้องรู้จักรถ รู้ลิมิตของรถ เรียนรู้รถ ไม่ใช่เฉพาะปานะครับ รถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ย่อมมีเอกลักษณ์ในการขับขี่ต่างกัน ผมใช้รถแทบทุกค่ายแล้ว แต่ละค่าย ก็คุมรถต่างกัน แค่รถดีเซล กับเบนซิน ฟิลลิ่งก็ต่างกันแล้วครับ  เราจะค่อยๆ เรียนรู้ด้วยตนเอง  ส่วนเรื่องยางก็มีส่วนมาก ท่านเจ้าของกระทู้ได้ใช้ยางมาถึง 46,000 ก.ม.แล้ว  (ตามทฤษฎีแล้ว ยางจะต้องเปลี่ยนทุก 50,000 ก.ม. หรือ 2-3 ปี แม้ดอกยังลึกอยู่ ก็ต้องเปลี่ยนทิ้ง เพราะเนื้อยางจะแข็ง ไม่เกาะถนน)  ยิ่งถ้าเจ้าของกระทู้ใช้ยางติดรถ ที่แถมมากับรถ ผมว่ายางมันลื่นครับ แพงซะเปล่า แต่คุณภาพไม่ค่อยดี (ความคิดเห็นส่วนตัว)  ส่วนใหญ่่เพื่อนสมาชิกในคลับนี้ วิ่งออกจากศูนย์วันแรก  ก็เข้าร้านยางกันเลย ไม่ใช่เน้นสวยงามอย่างเดียว แต่เปลี่ยนเอายางดีๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 11, 2014, 11:52:45 pm โดย KengEVO5 (No.521) » บันทึกการเข้า

"ปาเจโร่ สปอร์ต.....แต่จิตวิญญาณอีโวลูชั่น"

***ขอประนาม ผู้ที่ชอบแย่งที่จอดรถใน "ช่องจอดคนพิการ" และ "ช่องครอบครัวที่มีเด็ก" โปรดช่วยกันจรรโลงประเทศไทยให้ศิวิไลซ์ทัดเทียมอารยประเทศด้วย***
นายสบาย
Jr. Member
**

like: 16
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 596


สัน สายสาม (ปา สป)


« ตอบ #50 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 08:21:31 am »

ช่วงเหยียบแล้วรอพุ่ง  มีผลทำให้รถสะบัดง่ายหรือไม่...ถ้ายาง หรือถนนไม่ดีพอ.....น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสะบัดหรือเปล่า...

เท่าที่ตามอ่าน  ดูแล้วท่านเจ้าของกระทู้คาใจเรื่องสะบัด    ผมจะลองอธิบายเสริมสักเล็กน้อยนะครับ

การเหยียบคันเร่งลึกเกินไป (หรือเดินคันเร่งเร็ว)  จะมีโอกาสล้อหลังฟรีทิ้งได้ แม้ฟรีเล็กน้อย รถก็เป๋ได้  ในเสี้ยววินาที เมื่อรถเป๋ เราจะพยายามหมุนพวงมาลัยแก้อาการ (แม้ไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่เป็นสัญชาติญาน)  เมื่อล้อหน้าเบี่ยงเบนจากมุมฉากแล้ว ล้อหลังก็จะยิ่งดิ้นฟรีทิ้ง  ท้ายรถก็จะสะบัดซ้ายขวา ตามการหมุนของพวงมาลัย ที่เราพยายามแก้   ยิ่งรถไม่มีลิมิเต็ดสลิป (LSD) ล้ออาจปั่นข้างเดียว ก็ยิ่งเสียอาการง่ายใหญ่  ทั้งหมดที่ผมบรรยายมา 2 บรรทัดนี้ เกิดขึ้นในไม่ถึง 1 วินาทีนะครับ อธิบายแบบสโลโมชั่น

อาการนี้เป็น "อาการปกติ" ของรถ "ขับหลัง" ครับ  ยิ่งรถเครื่องแรง แรงบิดสูง อาการล้อหลังฟรีทิ้ง ยิ่งเกิดง่าย  ส่วนที่่ท่านวิเคราะห์เองว่า ปาเจโร่ สะบัดแล้วเลี้อย เอาไม่อยู่นั้น ถูกต้องแล้วครับ เพราะรถเราหนักครับ หนักถึง 2 ตัน แถมยังสูงอีกด้วย จะเทียบกับกระบะ 1 ตันไม่ได้ครับ กระบะน่าจะเอาอยู่มือกว่า

และไม่ใช่ว่าอาการนี้รถกระบะไม่เป็น  รถอีกคันผมใช้ D-max ตอนกลับรถยูเทิร์น  ถ้าเดินคันเร่งเร็วไป ก็ท้ายกวาดได้เหมือนกันครับ  แต่คัน  D-max ผมยางไม่ดีแล้ว อายุเกิน 3 ปี ดอกยางคงจะแข็ง หลังจากเปลี่ยนยาง 4  เส้น อาการดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย

ส่วนเรื่องศูนย์บริการมิตซูบิชินั้น  มีไว้สำหรับถ่ายน้ำมันเครื่องเท่านั้นพอครับ ช่างศูนย์ทำเป็นแค่นั้นจริงๆ  ผมก็โดนมาเยอะกับช่างศูนย์  รายละเอียดไม่ขอเล่า เดี๋ยวยาว กระทู้เก่าๆ บ่นไปเยอะแล้ว    ถ้าเราไม่มีความรู้เชิงช่างเลย  เราต้องหาอู่เก่งๆครับ ถามคนรู้จัก หรืออู่เฉพาะทาง ถามเยอะๆ หาอู่ที่ไม่ฟัน  แล้วตีซี้กับเจ้าของอู่ไว้ พอจะช่วยได้ครับ  ขอย้ำ ต้องเป็นอู่ซ่อมรถนะครับ พวกศูนย์บริการเร่งด่วน อาทิ B-เร็ว, ACT.. ตรวจเช็คฟรี 30 รายการ อะไรนั่น   ยิ่งต้องหลีกเลี่ยงครับ อันนั้นหนักกว่าศูนย์  ถ้าไม่มีความรู้ โดนฟันหัวเบะ

โดยสรุปคือ เราต้องรู้จักรถ รู้ลิมิตของรถ เรียนรู้รถ ไม่ใช่เฉพาะปานะครับ รถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ย่อมมีเอกลักษณ์ในการขับขี่ต่างกัน ผมใช้รถแทบทุกค่ายแล้ว แต่ละค่าย ก็คุมรถต่างกัน แค่รถดีเซล กับเบนซิน ฟิลลิ่งก็ต่างกันแล้วครับ  เราจะค่อยๆ เรียนรู้ด้วยตนเอง  ส่วนเรื่องยางก็มีส่วนมาก ท่านเจ้าของกระทู้ได้ใช้ยางมาถึง 46,000 ก.ม.แล้ว  (ตามทฤษฎีแล้ว ยางจะต้องเปลี่ยนทุก 50,000 ก.ม. หรือ 2-3 ปี แม้ดอกยังลึกอยู่ ก็ต้องเปลี่ยนทิ้ง เพราะเนื้อยางจะแข็ง ไม่เกาะถนน)  ยิ่งถ้าเจ้าของกระทู้ใช้ยางติดรถ ที่แถมมากับรถ ผมว่ายางมันลื่นครับ แพงซะเปล่า แต่คุณภาพไม่ค่อยดี (ความคิดเห็นส่วนตัว)  ส่วนใหญ่่เพื่อนสมาชิกในคลับนี้ วิ่งออกจากศูนย์วันแรก  ก็เข้าร้านยางกันเลย ไม่ใช่เน้นสวยงามอย่างเดียว แต่เปลี่ยนเอายางดีๆครับ

 like like like
บันทึกการเข้า
Cherdkiet
You'll never walk alone.
Full Member
***

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1188



« ตอบ #51 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 08:27:29 am »

เข้าใจรถก่อนใช้รถ  ดีที่สุดครับ สุดยอดคำอธิบายจริง พี่เก่ง...
ผมจำคำนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่ดูแรลลี่ "หน้าฉุด หลังดัน"
อาการมันต่างกันครับ...ผมเคยโดนกลับตัว 1 ครั้ง ตอนได้เจ้าปามาใหม่ๆ จากนั้นจำเลย


ช่วงเหยียบแล้วรอพุ่ง  มีผลทำให้รถสะบัดง่ายหรือไม่...ถ้ายาง หรือถนนไม่ดีพอ.....น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสะบัดหรือเปล่า...

เท่าที่ตามอ่าน  ดูแล้วท่านเจ้าของกระทู้คาใจเรื่องสะบัด    ผมจะลองอธิบายเสริมสักเล็กน้อยนะครับ

การเหยียบคันเร่งลึกเกินไป (หรือเดินคันเร่งเร็ว)  จะมีโอกาสล้อหลังฟรีทิ้งได้ แม้ฟรีเล็กน้อย รถก็เป๋ได้  ในเสี้ยววินาที เมื่อรถเป๋ เราจะพยายามหมุนพวงมาลัยแก้อาการ (แม้ไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่เป็นสัญชาติญาน)  เมื่อล้อหน้าเบี่ยงเบนจากมุมฉากแล้ว ล้อหลังก็จะยิ่งดิ้นฟรีทิ้ง  ท้ายรถก็จะสะบัดซ้ายขวา ตามการหมุนของพวงมาลัย ที่เราพยายามแก้   ยิ่งรถไม่มีลิมิเต็ดสลิป (LSD) ล้ออาจปั่นข้างเดียว ก็ยิ่งเสียอาการง่ายใหญ่  ทั้งหมดที่ผมบรรยายมา 2 บรรทัดนี้ เกิดขึ้นในไม่ถึง 1 วินาทีนะครับ อธิบายแบบสโลโมชั่น

อาการนี้เป็น "อาการปกติ" ของรถ "ขับหลัง" ครับ  ยิ่งรถเครื่องแรง แรงบิดสูง อาการล้อหลังฟรีทิ้ง ยิ่งเกิดง่าย  ส่วนที่่ท่านวิเคราะห์เองว่า ปาเจโร่ สะบัดแล้วเลี้อย เอาไม่อยู่นั้น ถูกต้องแล้วครับ เพราะรถเราหนักครับ หนักถึง 2 ตัน แถมยังสูงอีกด้วย จะเทียบกับกระบะ 1 ตันไม่ได้ครับ กระบะน่าจะเอาอยู่มือกว่า

และไม่ใช่ว่าอาการนี้รถกระบะไม่เป็น  รถอีกคันผมใช้ D-max ตอนกลับรถยูเทิร์น  ถ้าเดินคันเร่งเร็วไป ก็ท้ายกวาดได้เหมือนกันครับ  แต่คัน  D-max ผมยางไม่ดีแล้ว อายุเกิน 3 ปี ดอกยางคงจะแข็ง หลังจากเปลี่ยนยาง 4  เส้น อาการดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย

ส่วนเรื่องศูนย์บริการมิตซูบิชินั้น  มีไว้สำหรับถ่ายน้ำมันเครื่องเท่านั้นพอครับ ช่างศูนย์ทำเป็นแค่นั้นจริงๆ  ผมก็โดนมาเยอะกับช่างศูนย์  รายละเอียดไม่ขอเล่า เดี๋ยวยาว กระทู้เก่าๆ บ่นไปเยอะแล้ว    ถ้าเราไม่มีความรู้เชิงช่างเลย  เราต้องหาอู่เก่งๆครับ ถามคนรู้จัก หรืออู่เฉพาะทาง ถามเยอะๆ หาอู่ที่ไม่ฟัน  แล้วตีซี้กับเจ้าของอู่ไว้ พอจะช่วยได้ครับ  ขอย้ำ ต้องเป็นอู่ซ่อมรถนะครับ พวกศูนย์บริการเร่งด่วน อาทิ B-เร็ว, ACT.. ตรวจเช็คฟรี 30 รายการ อะไรนั่น   ยิ่งต้องหลีกเลี่ยงครับ อันนั้นหนักกว่าศูนย์  ถ้าไม่มีความรู้ โดนฟันหัวเบะ

โดยสรุปคือ เราต้องรู้จักรถ รู้ลิมิตของรถ เรียนรู้รถ ไม่ใช่เฉพาะปานะครับ รถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ย่อมมีเอกลักษณ์ในการขับขี่ต่างกัน ผมใช้รถแทบทุกค่ายแล้ว แต่ละค่าย ก็คุมรถต่างกัน แค่รถดีเซล กับเบนซิน ฟิลลิ่งก็ต่างกันแล้วครับ  เราจะค่อยๆ เรียนรู้ด้วยตนเอง  ส่วนเรื่องยางก็มีส่วนมาก ท่านเจ้าของกระทู้ได้ใช้ยางมาถึง 46,000 ก.ม.แล้ว  (ตามทฤษฎีแล้ว ยางจะต้องเปลี่ยนทุก 50,000 ก.ม. หรือ 2-3 ปี แม้ดอกยังลึกอยู่ ก็ต้องเปลี่ยนทิ้ง เพราะเนื้อยางจะแข็ง ไม่เกาะถนน)  ยิ่งถ้าเจ้าของกระทู้ใช้ยางติดรถ ที่แถมมากับรถ ผมว่ายางมันลื่นครับ แพงซะเปล่า แต่คุณภาพไม่ค่อยดี (ความคิดเห็นส่วนตัว)  ส่วนใหญ่่เพื่อนสมาชิกในคลับนี้ วิ่งออกจากศูนย์วันแรก  ก็เข้าร้านยางกันเลย ไม่ใช่เน้นสวยงามอย่างเดียว แต่เปลี่ยนเอายางดีๆครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2014, 08:52:39 am โดย Cherdkiet » บันทึกการเข้า
maleethipwater
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #52 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 02:03:06 pm »

ขอบคุณครับ  ในชีวิตไม่เคยมีความรู้เรื่องรถมากนัก  เกิดปัญหาเลยวิตกกังวล ผมได้ข้อมูลพอสมควรแล้ว.....น่าจะพอระวังได้ในระดับหนึ่งครับ...คงต้องระวังและทดสอบรถตัวเองเสมอครับ....ขอบคุณขอมูลครับ....และจะติดตามรถแต่ละรุ่นจากคลับต่อไป
บันทึกการเข้า
def64
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91


« ตอบ #53 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 07:04:30 pm »

โดยสรุปคือ เราต้องรู้จักรถ รู้ลิมิตของรถ เรียนรู้รถ ไม่ใช่เฉพาะปานะครับ รถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ย่อมมีเอกลักษณ์ในการขับขี่ต่างกัน

อันนี้เข้ามากด + ให้เลยฮัฟ


เคยดูสารคดีเกี่ยวกับรถ F 1 เค้าบอกว่า รถนั้นเขาให้ความสำคัญกับเรื่องเครื่องยนต์ 20 % ประสิทธิภาพการควบคุมและการถ่ายทอดกำลัง 20 %  โครงสร้างรถและไดนามิกและช่วงล่างต่างๆ 20% ยาง 20% และคนขับอีก 20%  ประมาณนี้แหละฮัฟ   (ถ้าในปัจจุบันคงต้องบวกพวกระบบไฟฟ้าและอิเลคโทรนิคต่างเข้าไปด้วยกระมังฮัฟ )  


ผมเอามาตีความกลับแล้วคิดเตือนใจว่า ถ้าคนไม่พร้อมนี่ โอกาสเกิดอุบัติเหตุมีเข้าไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์เข้าแล้ว ถ้าบวกมีข้อบกพร่องในปัจจัยของรถบวกมาด้านใดด้านหนึ่งนี่ เปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันนี่ปาเข้าไปเกือบครึ่งนึงแล้ว  

ซึ่งคนที่จะมีประสบการณ์พร้อมหรือมีฝีมือระดับนักแข่งที่สามารถแก้อาการรถสะบัด ปัด เป๋ แถ ไถ ไสลด์ กระโจน ดื้อ แหก ฯลฯ ได้ระดับทุกอาการนี่ คงมีจำนวนน้อยมากๆๆ เราๆท่านๆคงมีข้อมีข้อบกพร่องกันทุกคนอยู่แล้ว เมื่อบวกกับรถบกพร่องหรือสึกหรอไปด้านใดด้านหนึ่งไม่ว่าจะจากการใช้งานหรือบำรุงรักษาไม่ถึงก็ตาม มีโอกาสแจ๊กพอตได้ทุกเวลาฮัฟ


สรุปคือ ไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซ็นต์ฮัฟ แบ่งๆกันผิดไป  kiki








ส่วนเรื่องศูนย์บริการมิตซูบิชินั้น  มีไว้สำหรับถ่ายน้ำมันเครื่องเท่านั้นพอครับ ช่างศูนย์ทำเป็นแค่นั้นจริงๆ  ผมก็โดนมาเยอะกับช่างศูนย์  

เช๊คระยะเพื่อรักษาสิทธิwarrantyเท่านั้นฮัฟ

อย่างของผมเคยเจออาการวิ่งแล้วดับไปดื้อๆเลย เป็นบ้าง ไม่เป็นบ้าง เวลาแซงนี่ลุ้นฉิบ....จะดับไหมหว่า จิตเสื่อมไปเลย  ยี่ห้อ h นี่แหละฮัฟ ช่างศูนย์เปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ โดนฟันไปหลายหมื่น แก้ไม่หาย

สุดท้ายวิ่งไปหาช่างแต่งรถซิ่งแถวๆบ้าน แกเช็คอยู่ครึ่งวัน สรุปคือ แกเปลี่ยนรีเลย์ปั๊มติ๊กตัวเดียว หายขาด

ที่สำคัญ แกเปลี่ยนให้ฟรีด้วย    



ขอบคุณครับ  ในชีวิตไม่เคยมีความรู้เรื่องรถมากนัก  เกิดปัญหาเลยวิตกกังวล ผมได้ข้อมูลพอสมควรแล้ว.....น่าจะพอระวังได้ในระดับหนึ่งครับ...คงต้องระวังและทดสอบรถตัวเองเสมอครับ....ขอบคุณขอมูลครับ....และจะติดตามรถแต่ละรุ่นจากคลับต่อไป


อย่างนี้ต้อง + ฮัฟ  Ok..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 12, 2014, 07:06:42 pm โดย def64 » บันทึกการเข้า
maleethipwater
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #54 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2014, 10:22:42 am »

สุดยอด...คำแนะนำ..เบาใจขึ้นครับ...และต้องศึกษารถที่เราใช้ดีกว่าครับ....สู้..
บันทึกการเข้า
kawee019
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


« ตอบ #55 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2014, 04:08:19 pm »

ขอบคุณครับ ความรู้ใหม่ทั้งนั้นเลยครับ สาธุ
บันทึกการเข้า
maleethipwater
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #56 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2014, 12:36:43 pm »

ปาเจโรของผม หน้าจะปี12 มีโช๊คหลัง...เบรคหลังเป็นดั้ม  ตัวใหม่ไปดูมา ไม่มีโช๊คหลัง และเบรคหลังเป็นดีส...และคานที่ยึดระหว่างคัทซี เหล็กใหญ่ขึ้น..เข้าแก้ปัญหาการสะบัดง่ายหรือเปล่าครับ   ผมความรู้เรื่องรถไม่มากครับ....ขอข้อมูลด้วยครับ
บันทึกการเข้า
apichai 139
Jr. Member
**

like: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 549



« ตอบ #57 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2014, 04:29:36 pm »

ปาเจโรของผม หน้าจะปี12 มีโช๊คหลัง...เบรคหลังเป็นดั้ม  ตัวใหม่ไปดูมา ไม่มีโช๊คหลัง และเบรคหลังเป็นดีส...และคานที่ยึดระหว่างคัทซี เหล็กใหญ่ขึ้น..เข้าแก้ปัญหาการสะบัดง่ายหรือเปล่าครับ   ผมความรู้เรื่องรถไม่มากครับ....ขอข้อมูลด้วยครับ
ป๋าครับ รถผมก็ขับหลังเมื่อตอนใช้แรกเรายังไม่ชินกะคันเร่งและแรงบิดของปาเจโร่ ถนนลื่นๆกดที่ไรเลื้อยทุกทีครับ หลังๆมาชินละไม่เกิดอาการนี้อีกเลยครับ อีกอย่างครับป๋ารถปี 14 ก็น่าจะมีโช๊คหลังเหมือนกันนะครับ
บันทึกการเข้า

ID 1663
ปาดำ 2.5 VG GT 2WD
MY 2012
 
maleethipwater
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #58 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2014, 11:54:45 am »

จะรอน้องปาตัวใหม่....หน้าไม่เกิน 2 ปี....
บันทึกการเข้า
maleethipwater
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #59 เมื่อ: กันยายน 01, 2014, 11:50:03 am »

ซ่อมมาแล้ว....แต่โช๊คหลังด้านซ้ายเสีย...ผึ่งรู้วิ่งดูเด็ง..เหมือนจะเลื้
อยสงสัยโช๊คหรือเปล่าที่เราไม่รู้...เจอถนน...เจอเบรคกระทันหันมีสิทธิ เดี้ยวต้องเปลี่ยนดูก่อน...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 21 คำสั่ง