Languages
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15 16 17 ... 26   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ห้องกาแฟ Ac Users คุยกัน แชร์ประสพการณ์กัน ปรับแต่งเล็กน้อยกัน  (อ่าน 124636 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #120 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2014, 05:37:15 pm »

มาแล้วบทพิสูจน์เรื่องหัวเทียน  V6 ที่ 60000 Km...

วันนี้จัดการถอดชุดท่ร่วมไอดี V6 ออกมาเพื่อหวังผลตรวจสอบความสึกหรอของหัวเทียนและ Coils 
ผลออกมาหลังจากใช้เวลาถอดอยู่ถึง 1 ชม. 1/2   โอว เข็ดแล้ว   งวดหน้าจะทำการเปลี่ยนหัวเทียนที่ 100000 โล เพราะได้ผลจากการถอดออกมาดูจริงแล้ว  ว่ามันไปได้ถึง 120000 โล แน่นอน (รถผมเองนะ)

--- สวยงามมากเรื่องหัวเทียน  ถอดออกมาล้างทำความสะอาดนิดหน่อยเท่านั้นเอง  หัวเข็มสภาพดีถึง 85% ของของใหม่ทีเดียว วิ่ง LPG มาถึง 56000 km.
--- Coils 6 หัวอยู่ในสภาพดีมองจากภายนอก  ข้างในไม่รู้ อิ...

แต่เด๋วหา Spec การตั้งวาวล์ไอดีก่อนว่าระยะปรับมันยังไง  น่าจะเป็นการตั้งร้อนนะของ Mitsu  ข้อมูลทีมีอยู่มีแต่ของ Outlander 6B31 แรงอัด 9:1  ของเรา 6b31 New Gen. CR= 10.5 : 1  ไม่รู้ว่าเหใือนกันไหม
ที่ปรับปรุงตรวจสอบความพร้อมของเครื่องยนต์ให้มากมาก ก็เพราะตอนนี้เอา 300 Premium OBD มาใส่คู่กัดกันกับ ISA2/Premium OBD แบบสภาพแวดล้อมเดียวกันคือรถคันเดียวกัน ค่า Base Configuration เดียวกัน แตกต่างกันแค่ ISa2 Adaptation/ OBD Adaptation เท่านั้น  กะว่าจะทดสอบจนแยกแยะออกมาได้ดีมากมากแล้วจะมาคุยกันครับ   แต่ถ้าจะถามว่า อ้าวแล้วมันใช้ได้แล้วหรือกับ V6 เรา

จากการทดสอบมา 2000 KM. กับ Firmware ในส่วนของ OBD Adapter Versuion 10. ? ปรากฎว่า มันผ่านมา 3000 km. (ในเมือง 1000+ นอกเมือง 2000 Km.)  ผลออกมาไม่มีอาการ Conflict ใดใดครับ    เด๋ววันไหนนั่งอยู่บ้านว่างว่าง   จะมาคุยให้ฟังว่า ความแตกต่างของ 2 ECU จะพูดออกมาแบบภาษาง่ายง่ายให้สมาชิกเราได้เข้าใจกันได้ง่ายครับ  ใครอยากฟีงบรรยายยกมือนะ ....   ไม่มี Response กลับมามั่งก็อาจจะลืมมาเล่านะครับ

คร่าวคร่าวก่อนว่า   ขับดีกว่าเดิมไหม  ทางยาวแบบสภาพอากาศขึ้นลง  ฝนตก แดดออก แตกต่างสภาวะมากมาก  Premium สำหรับผมขับได้ลื่นสบายมากกว่าครับ  แต่การประหยัดจากการทดสอบ  มันได้ขึ้นมาไม่มาก   ราวราวกับรถผมก็ 1 ถัง 61 ลิตร ได้เพิ่มมาอีกสัก 3-40 Km.  แต่การขับโดยรวมแหม  บอกได้ว่า ดีกว่าพอควรเลยครับ   แต่ยังไม่มีการวัดอะไรกันมากครับ   อันนี้ต้องขอไปศึกษาลึกถึงการปรับจูน OBD setting ให้ถึง Max. มันก่อน    อาจจะเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกนักถ้าเคยได้ยินมาว่า   ติดระบบเสร็จแล้วเปิด OBD แล้ววิ่งเลย  ก็ดีแล้ว      ส่วนตัวผมว่ามันต้องจูนแบบถึง max แบบ ISa2 โดย Manual ให้สุดเลย  แล้วค่อยเปิด OBD ที่ผ่านการ Set แบบ เข้าอกเข้าใจโดยรวมเป็นอย่างดี แล้วมันจะให้ประสิทธิภาพที่ดีมากมากออกมาได้    ในกรณีผม  2  ECU ในรถผม  ใช้ค่า Base  Configuraton เดียวกันเลย ทั้ง ISA2/OBD แตกต่างกันที่ การปรับจูน Automatic ที่เราเรียกว่า Self Adaptation  เท่านั้นเอง

Base  Configuraton เดียวกันเลย ทั้ง ISA2/OBD  ที่ทำก็มีโดยสังเชปดังนี้

--  Car and General Settings
--  ค่า Autotune ของ Gas Temperature, Gas Pressure
--  Gas Temperature, Gas Pressure Corrections
--  จุดจูนในหน้า  2 มิติ

ทุกอย่างใช้ค่าเดียวกันเลย โดยโยน File Configuration ข้ามไปมาได้เลย   แต่จะแตกต่างกันตรงท่อนแยกของการทำ Self Adaptation เท่านั้น
ลิมบอกไปนิด  สายไฟใช้ด้วยกันได้   แต่ถอด ECU ISa2 ออกมาเติมสายไฟอีกเส้นเดียวออกมาหา OBD Adapter  ส่วนเวลาจะกลับมาใส่ ISA2 ก็สลับกันใช้ได้เลย น่าจะเรียกว่า Dual ECU ได้เลยนะผมว่า  เวลาผมใช้ ISa2 ผมก็ตัดไฟเลี้ยง OBD Adapter ด้วยสวิทย์ไฟธรรมดา   เวลาผมไปใช้ Premium ผมก็ On สวิทช์ตัวนี้  วันนี้ผมจะขับ ECU ตัวไหนทดสอบ  ผมก็แค่ใช้เวลา 10 วินาที  ต่อจากนั้นก็ลุยเลย 

พอก่อนครับ.... ไม่รู้ว่าจะมีสมาชิกสนใจการทดลองนี้ไหม ... เบื่อการคุยคนเดียว 55555...
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
aszaultz
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108


« ตอบ #121 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2014, 06:18:38 pm »

แอบตามอ่านอยู่ตลอดครับ แต่คงยังไม่มีความเห็นมากเพราะผมยังไม่ได่ติดใช้ ตอนนี้หาข้อมูลอยู่ครับ อิอิ

แต่คงไปตกอยู่ที่ premium แน่ๆเลยครับ
บันทึกการเข้า
kong_za
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 170


« ตอบ #122 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2014, 06:35:57 pm »

 kiki

ตามมายกมือให้กำลังใจป๋า Punpun ครับ

สงสัยครับ ไอ้ที่ว่าขับดีกว่ากัน แบบไหนอ่ะครับ อัตราเร่งดีกว่า รอบกวาดขึ้นเร็วกว่า ความเร็วปลายมากกว่า อะไรประมาณนี้รึเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #123 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2014, 08:55:51 pm »

เอาสั้นสั้นก่อนนะป๋า Kong

--- ที่ว่าดีกว่ามันอธิบายได้แต่มันฟังยากนิดครับ  แต่จะลองเรียบเรียงให้ฟังนะครับ

คือป๋าสังเกตดูนะเวลา  เราขับรถไปไกลต่างจังหวัด  ขับผ่านฝนตกหนักมาพักนึง  ก็ไปเจอแดดร้อนแห้ง   ขับไปถึงเชียงใหม่  ลำปาง  อากาศก็เย็น หนาว   เราจะสังเกตได้ว่าเมื่ออากาศเย็น ผ่านมาทางท่อไอดี ที่เราเรียกว่า Intake Air Temperature หรือ I. A. T.  ถ้าเ ECU น้ำมันไม่เพิ่ม Dose น้ำมันให้จะเกิดอาการที่เรียกว่าบางไป  หรือขับแล้วรู้สึกตื้อ ตื้อ และเกียร์ Auto จะไม่ค่อยยอมเปลี่ยนไปที่เกียร์ที่สูงกว่า  ก็ลากกันแบบอื้ออิ้อ แล้วก็สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น  ตอนอยู่ยอดดอยสูงสูง   แต่ ECU น้ำมันมันปรับให้โดยการรับรู้จาก IAT Sensor ซึ่งรวมอยู่ในชุด  Air Flow Sensor     ECU น้ำมันมันจะปรับเพิ่ม Dose น้ำมันให้  เราเลยไม่รู้สึกอะไรมาก

แต่เมื่อเรามาใช้ระบบแก็สแล้ว   เมื่อ ecu น้ำมันรู้ว่าได้จังหวะเวลาการปรับ Dose เพิ่มตามความหนาแน่นของ I A T แล้ว  มันก็สั่งเพิ่มเวลาการยกของหัวฉีดน้ำมันให้   แต่ปรากฎว่า  ECU แก็สไม่ได้สั่งตามไปด้วย  เพราะ Logical ของ ECU แก็สเองไม่สามารถทำได้  ซึ่งก็เกิดขึ้น ISA2 ได้ปรกติ    แต่เมื่อ ECU แก็สเป็นแบบ OBD Adaptive มันก็จะได้ประโยชน์ทางออ้มอีกด้าน  แต่ไม่ใช่ค่า I A T โดยตรง  เพราะ ECU แก็สยุคนี้ยังไม่มีการเอาค่า IAT มาProcess โดยตรง   แต่จะได้ค่าจากการเผาไหม้บางไปหนาไปจากค่า Trim ของน้ำมันแทน ซึ่งโดยผลรวม ECU แก็สก็สามารถได้ค่า Powertrain Signal นี้เข้ามาทาง OBD Port และก็เอามาใช้ประโยชน์ในการ Process การปรับลดเพิ่มแก็สได้นั่นเอง  แต่เอาที่ผลรวมปลายเหตุเลยแบบค่าก้อนก้อนว่าหนาไป  บางไป  ซึ่งไม่ได้เอาจาก การผันผวนขึ้นต้นของส่วนผสมเชื้อเพลิงเช่น I AT  มาคำนวณปรับเพิ่มโดยตรง  แต่อย่างน้อยก็ได้ผลรวมว่าควรสั่งเพิ่มหรือลด Dose ของเชื้อเพลิงลง   ก็คือพยายามเลียนแบบ ECU น้ำมันนั่นเอง ให้ได้ใกล้เคียงความฉลาดของน้ำมันนั่นเอง

และ ISa2 ก็ ไม่มีความสามารถอันนี้เช่นกัน  แต่ Premium มีและผมยังไม่ทราบว่ามีจุดบกพร่องส่วนไหนบ้าง  แต่โดยรวมที่ 2000 Km. ผ่านมา  เจอฝนหนักมาก   และสลับกันไปแต่ละจังหวัดที่ขับผ่าน   พบว่าอาการตื้อลงจากการจ่ายบางของเชื้อเพลิง ของค่า  I A T. ที่ลดลงมาก  ไม่เกิดขึ้นจนรู้สึกได้ว่า   ฝนตก อากาศเย็น  แดดร้อน เครื่องยนต์มันทำงานได้ดี   แต่ก็มีไม่ชอบอยู่บางจุดก็คือ เปิด OBD แล้วติดเครื่องตอนเช้า   แต่ได้ทำการปรับสั่ง OBD ว่าเมื่อใดที่รอบยังไม่ถึง 1000 รอบ ห้ามทำการปรับแต่งค่าเชื้อเพลิงโดยสัญญานที่ได้จาก OBD เด็ดขาด  เพราะอยากให้มันทำงานแบบ Manual ที่รอบน้อยกว่า < 1000 rpm.  แล้วจะมาอธิบายทีหลังครับว่า  ทำไมถึงไม่อยากให้มันเริ่มทำงานแถวย่านนั้น

พบว่าจริงแล้ว eCU ที่มี OBD มาช่วยหรือเอาสัญญานมาช่วยนั้นสมควรจะต้องมีการเข้าใจถึงขั้น Advance กันทีเดียวถึงจะได้ Max ของมันออกมา    เพราะมีหัวข้อให้ทำการควบคุม Function มากมายใน  OBD Version นี้  สำหรับผมแล้ว  ผมว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ OBD Version ถูกจูนออกมาให้มีประสิทธิภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้   แต่ถ้าทำถูกต้องแล้ว เผลอเผลอ บินได้เลย อิ.. ( อันนี้เป็นการ   ล้อ  เล่ง )  Cheesy Cheesy Cheesy


รอพบการผ่าพิสูจน์ ความสามารถที่ลงลึกแบบ Punpun ใน ECU ตัวนี้ตอนต่อไปครับ  แต่พูดไว้นิดครับ  ยังไงก็ต้องจูน Manual แบบ ISA2 จนถึง Max ก่อน ถึงจะได้ความสามารถของ OBD ออกมาได้เต็มที่ครับ   เพราะถ้าเราจูน Manual ออกมาดีที่สุดแล้ว   OBD Adaptive ก็จะเป็นตัวปรับแต่งแค่ย่านที่แคบแคบมาก   และฉับไว ลดปัญหาการปรับกระโดดแบบย่านกว้าง   ไม่เป็นสิ่งที่ดีเลยที่พูดว่า    OBD เหรอแค่ติดตั้งเสร็จแล้วเปิด OBD เลยมันก็ดีแล้ว   แบบนั้นมันก็พอได้   แต่ไม่ได้ Maximum ที่เราต้องการอะสิ  เพราะเราไม่เอาแค่พอวิ่งได้   เราเอาสมบูรณ์แบบมากที่สุด

หมายเหตุ... ค่า Trim ของ ECU น้ำมันที่ได้มาส่งต่อให้  วันหลังรวบรวมเรื่องยาวมาเล่าส่กันฟังอีกทีครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 29, 2014, 09:43:38 pm โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #124 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2014, 02:19:02 pm »

ป๋า aszaultz ผมละตกใจเลย  โดนพิษ Newguy Fever เข้าไปเต็มเต็มเลย  เห็นแวะมาเยี่ยมกระทู้ทุกวันเลย  เอางี้ไหนไหนก็มาเป็น Fan Club กันแล้ว กลัวว่าจะพลาดทีเด็ดข้อมูลไป
โหลด File นี้แล้ว Install แล้ว กด Interesting มันจะพาป๋าไปหาข้อมูลเด็ดเด็ดเคล็ดลับการจูน 300ISa2

http://upload.freeupload2u.com/download.php?file=865ECUProcedure.zip

แต่ป๋ากำลังจะไปติด 300 Premium ผมขออณุญาติให้ข้อมูลหน่อยนะครับ   เด๋วมันจะคาใจไปนานกว่าจะหาเจอ
ผมขอแจกแจงให้เห็นว่ามันต่างกันอย่างไร  และทำไมเลยละกัน

AC ได้ผลิตเจ้า ECU แก็สออกมาเริ่มจากรุ่น Basic ที่ให้ความสามารถมันมีมากขึ้น โดยรุ่นเล็กเล็กรองลงมาก่อนถึง 300ISA2 ก็เป็น ECu ที่เป็นการปรับจูนแบบ Fix ไม่มีการ Dynamic เรื่องการจูนแบบ Auto ใดใด จะมีเล็กน้อยก็แค่การควบคุมการชดเชยต่างต่างแต่ก็เป็นแบบ จูนจบแล้วก็ใช้ได้ตลอดไปจนกว่าจะมีการปรับจูนใหม่โดยมนุษย์

แต่พอขยับมาเป็นรุ่นตระกูล 300ISA2 และ 300 Premium  มันจะมีการปรับไปตามข้อมูลน้ำมันที่ ECU สั่งจ่ายแบบ Dynamic ออกมา   โดยมี 2 ทางเลือกให้เพราะรถรุ่นเก่ากว่าปี 2000 บางคันอาจไม่มี OBD Port ออกมาให้เอาข้อมูลมาใช้ใน ECU ของแก็ส  จึงได้ Design แยกออกมาเป็น 2 รูปแบบ

-- 300 ISA2 สำหรับรถที่ไม่สามารถต่อ OBD มาร่วมกับ ECU แก็สได้
-- 300 OBD Premium สำหรับรถที่สามารถต่อ OBD มาร่วมกับ ECU แก็สได้

แต่พื้นฐาน Basic การทำงานขั้นต้น 2 ตัวนี้ เหมือนกันหรือแทบจะเป็นตัวเดียวกันเลย  เพียงแต่จะมีรอยแยกเรื่องการปรับจูน Automatic ออกมาแตกต่างกันใน 2 รูปแบบ  เพราะฉนั้นการเรียนรู้การ setup เบื้องต้นที่ดีจึงต้องเรียนรู้ที่ฐานแรกของมันก่อน  และเมื่อไปถึงรอยแยกของ self Adaptation แล้ว   เราถึงจะเรียนรู้แยกออกไป  ทางใครทางมัน   แม้กระทั่งหลังจากการจูน Manual ด่านแรกแล้ว File ที่ Save ออกมาจาก2  ECU จึงไม่ต่างกันในเรื่อง การเอามาใช้ร่วมกันได้เลย   อันนี้ผมทดสอบใช้เองแล้ว  แต่ก็แปลกไม่มีใครพูดเรืองนี้เท่าไร   

แต่โดยส่วนตัวแล้ว  ถ้าผมจำเปนต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างนึง  และไม่มีปัญหากับรถผม   ผมก็คงเลือก OBD หากไม่มีปัญหาเรื่อง OBD Hand Shaking เกิดขึ้นกัยรถเรา

แต่อยากให้ความเห็นข้อนึงว่า  ทุกวันนี้มี Users 300ISA2 มากมายที่ไม่ได้เคยเปิด ISA2/Self Adaptation ใช้เลยด้วยซ้ำ หรือ OBD/Self Adaptation  จึงเห็นได้ว่าหากไม่มีการใช้ในเรื่องเหล่านี้    ECU 2 ตัวนี้ก็คือตัวเดียวกันนั่นเอง   เพราะทั้งคู่ถูก Setup ให้ทำงานใน  Basic Mode เท่านั้น  ซึ่งแค่นั้นก็สร้างความพอใจแก้ Users  โดยรวมแล้ว

จริงอยู่เราสามารถลดเสปคลงไปใช้พวก รุ่นน้องลงได้หากไม่คิดเรื่อง Advantage ตรงนี้ แต่ราคามันก็ต่างกันนิดเดียว  และทำได้เฉพาะพวก 4 สูบลงมาเท่านั้น  เพราะ 6 สูบ เจ้า300ISA2 เป็น Version ต่ำสุดแล้วของ 6 สูบ และก็อีกนั่นแหละ เพิ่มเงินอีกนิดเดียวก็ได้เจ้า Premium ตัว Top 6 สูบแล้ว   ตัว Premium ดูเหมือนจะแพงกว่านิดนึง  แต่กลับกันผมกับคิดว่ามันถูกกว่าสะอีก เพราะในรุ่น Premium มีการเพิ่ม OBD Adapter Unit เข้ามาซึ่งก็มีต้นทุนเพิ่มและเราสามารถมีการอ่าน Error Code ของ ECU น้ำมันได้ด้วยจากโปรแกรมใน Notebook พร้อมข้อมูลอีกเล็กน้อยอีกด้วย  เท่ากับว่าเราได้ OBD Reader  ตัวน้อยเพิ่มมาอีกนิด

ข้อมูลที่พอสรุปให้ก็คือ..

 ECU 2 ตัวนี้  หากไม่มีการเปิด Self Adaptation ทั้งคู่  มันคือ ตัวเดียวกันนั่นเอง  แต่เป็นผมจะเอา Premium หากไม่ติดปัญหาเรื่องการเข้ากันได้กับ OBD ของรถ  ซึ่งป๋าก็เห็นด้วยเช่นกัน  แต่อย่างไรก็แล้วแต่ให้มองเรื่อง การทำ Self Adaptation  เป็นเรื่อง Option แถมที่เราจะเลือกที่จะเล่นหรือไม่เล่นดีกว่า    เพราะโดย Function พื้นฐานมันก็ซื้อใขเราได้หมดแล้ว

ไม่อยากให้คาดหวังว่า Option นี้จะทำงานได้ดีเกินจริงไปในความรู้สึกก่อนติดตั้ง   เพราะจากที่เรียนรู้มา   มันไปถึง Maximum ได้  แต่ Users จะต้องเรียนร้เองและดันคุณภาพเอาเอง  ถึงแม้ OBD ก็เถอะ  ผมคุยกับร้านแก็สหลายเจ้าที่ผ่านมา   เลยอยากจะบอกว่าหากเอาแบบที่ร้านทำให้ก็อยู่แค่ Stage นึงเท่านั้น   แต่หากเรียนรู้จนลึกเองได้  ไปได้อีกไกลทีเดียวครับ
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
kong_za
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 170


« ตอบ #125 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2014, 04:03:20 pm »

 

แสดงว่าที่เราทำใช้ fucntion Gas Temp Correction กับ Gas pressure Correction ที่ได้รับการทดลองจูนไว้อย่างดีแล้ว

มันก็ยังให้ผลลัพธ์ สู้ฟังก์ชั่น OBD ไม่ได้เหรอครับป๋า

เมื่อตอนผมวิ่งขึ้นเหนือ ขึ้นดอยสูง ตอนช่วงเช้าตรู่ นี่ ถึงขนาดไฟ engine ขึ้นเลยทีเดียว แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ตั้งใจจูนแก๊สให้มันดีน่ะครับ
บันทึกการเข้า
aszaultz
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108


« ตอบ #126 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2014, 04:43:26 pm »

ขอบคุณ ครับป๋า ตอนนี้โหลดมานั่งอ่านอยู่ครับ ไล่เซฟๆกระทู้มานั่งๆเปิดๆ ชักคันไม้คันมือ อยากจะลองแล้ว เดือนหน้าน่าจะได้ติดแน่นอน

ตอนนี้ได้แต่นั่งอ่านข้อมูลของป๋า อยู่ครับ กับดูพวก youtube ที่ป๋าทำออกมา ไปพลางๆ

อย่างที่ป๋าบอก basic ต้องดีก่อน ส่วน function obd, ATD คงมารอป๋า จัด อีกจะคอยติดตามครับ  สาธุ สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #127 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2014, 06:37:12 pm »

ตกใจ
แสดงว่าที่เราทำใช้ fucntion Gas Temp Correction กับ Gas pressure Correction ที่ได้รับการทดลองจูนไว้อย่างดีแล้ว
มันก็ยังให้ผลลัพธ์ สู้ฟังก์ชั่น OBD ไม่ได้เหรอครับป๋า
เมื่อตอนผมวิ่งขึ้นเหนือ ขึ้นดอยสูง ตอนช่วงเช้าตรู่ นี่ ถึงขนาดไฟ engine ขึ้นเลยทีเดียว แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ตั้งใจจูนแก๊สให้มันดีน่ะครับ

เราได้ทำในส่วนที่ ECU มันเปิดยอมรับการตกแต่งเล็กน้อยจากเราจนเกือบจะไม่มีอะไรให้เล่นแล้วก็ตาม   มันมีค่านึงที่เราไม่สามารถควบคุมได้  ก็คือ  ค่าของความหนาแน่นของอากาศที่ผันไปตามอุณหภูมิสภาพอากาศนอกรถที่จะไหลผ่านท่อไอดีมา   ไม่ใช่ว่า  ecu ของเราเท่านั้น ecu แก็สทั่วไปก็ไม่ได้ครอบคลุมเช่นกันใน  แต่ในระบบ ecu น้ำมันนั้นเรามีการคำนวณร่วมอยู่ด้วยในการจ่ายน้ำมันให้เหมาะสมกับการเผาไหม้ของ I A T. นี้

แต่ถ้าเป็นดู Vdo เก่าเก่า ของ Newguy ป๋าอาจจะเห็นว่าเรื่องการทำ Gas Temp Correction ของ Newguy นั้น  มันฝากเลี้ยงค่า I AT. ไปหน่อยนึงกับค่า Gt.  ป๋าจะสังเกตได้ว่ารูปแบบปีกการปรับ  เมื่อ GT เย็นลง  ทั่วไปเราจะต้องลดระยะเวลาการจ่ายแก็สลง  เพราะ gas มีมวลหนาแน่นขึ้น  แต่การปรับของ Newguy กับเป็นตรงกันข้ามเพราะไปเน้นค่า I A T ที่พอจะฝากเลี้ยงไปด้วยพอได้บ้าง   เลยทำให้ Users ที่ไม่เคยได้ทดสอบแบบจริงจัง  หัวเราะเยาะเอาได้แบบ ฮา ฮา  แต่พอเข้าใจลึกแล้วก็จะเห็นตามด้วยว่า  อืมมันพิศดารเล็กน้อย

อาการที่ป๋าไปดอยสูงมาแล้วเจออาการนั้น   มันมักจะเกิดขึ้นกับ ECU แก็สทั่วไป ที่บังเอิญจูนไว้พอดีมากมากหรือบางอยู่นิด  พอไปเจอแบบนั้นก็จะเด่นชัดเลยว่า บางเพราะอากาศเย็นหนาแน่น  จำเป็นต้องได้ Dose เชื้อเพลิงที่สมดุลย์กัน  แต่ต้องดูเป็นกรณีไป  เพราะระบบโดยรวมอาจร่วมสร้างปัญหาด้วยเช่น กรองเริ่มตัน  แรงดันตก หัวฉีดหนืดและอื่นอื่นประกอบด้วย

มีวิธีแก้ไขดังนี้ 2-3 วิธี

--- ถ้าเกิดเหตุแบบนั้นขึ้น  ก็ใช้น้ำมันในพื้นที่นั้น  อันนี้ง่ายสุด ถ้าไฟ Engine มาเพราะเหตุนั้น
--- ถ้าเป็น 300isa2 ปรับจูนแบบทั่วไปแล้วมีการเปิด ADT หรือ Auto Adaptive อยู่แล้วก็ให้สลับไปวิ่งน้ำมันสักพักในสภาพแวดล้อมนั้น  เพื่อการ Update การจ่ายเชื้อเพลิงน้ำมันในสภาพแวดล้อมแบบนั้น  ได้ถูกบันทึกเข้าไปในตารางน้ำมัน  และการปรับ ADT ของ ECU จะแม่นยำเพิ่มขึ้น  เพราะข้อมูลน้ำมันที่เก็บเก่า  มาจากการวิ่งพื้นที่อีกแบบ  เราก็เลย Update ให้มันใหม่สดชื่น  การทำ ADT จะแม่นยำขึ้นได้อีกแน่นอน

--- ถ้าเป็น 300 ญพำทรีท OBD แล้วเปิด OBD ADT. ให้ทำงานอยู่ก็  จะได้ผลรวมโดยค่า Trim น้ำมันที่ ECU  น้ำมันทำการคำนวณผสมหลาย Factors เข้าด้วยกัน แล้วปล่อยค่า Short Term/Long Term Fuel Trim ออกมาให้ และ ECU แก็สก็เอาไป Process อีกที (ผมยังไม่รู้ว่ามันเอามาคำนวณแบบไหนอย่างไร)  แต่อย่าลืมว่าค่าเหล่านี้  เป็นอาหารท่ปรุงสุกแล้วสำหรับ ECU น้ำมันมาสั่งเพิ่มลก Dose การจ่ายของ ECU น้ำมัน  มันมีการเอาค่าหลายค่ามาคำนวณร่วมกว่าจะได้ค่านี้ออกมา  และแน่นอนรวมถึง I A T. ด้วย  แต่ ECU แก็สไม่ได้เอาค่า IAT. ดิบ หรือ ค่า Voltage Oxygen Sensors ดิบ มาคำนวณแยกเองต่างหาก   แต่โดยรวมแล้วมันก็ได้ผลดีที่เน้นไปที่ข้อมูลแบบ บางไป หนาไป เอาไปปรับตามโดย Ecu แก็ส   แต่ก็อีกนั่นแหละ ค่า Sh/LT Fuel Trim นี้  ก็ไม่สามารถเอาไปใช้โดย ECU แก็สได้เลย   เพราะสถานะแก็สและน้ำมันก็ต่างกัน  จึงคงมีการเอาไป Process โดย ECU แก็สก่อน  ดูเหมือนจะมีคำพูดกันในทุกที่ว่า Real Time  แต่สำหรับ Punpun แล้ว  จินตนาการตามแล้ว   คิดว่าวันนึงพอเข้าใจมากมากแล้ว อาจจะออกมาพูดแผลงแผลงออกไปก็ได้

เพราะไม่คิดว่ามันเป็นการทำแบบ Realtime แบบที่เข้าใจแบบนั้น   แต่เพราะยังล้วงไม่ลึกเลยบอกอธิบายไม่ได้    แต่แค่สงสัยว่า ขั้นตอนของมันน่าจะเป็นการ Realtime สำหรับการเก็บลงกระดาษทดเลขของ Memmory ECU หนึ่งขั้นตอนก่อน  แล้วถึงทำการเปรียบเทียบกับการจ่ายแก็สปัจจุบัน  แล้วถึงจะยอมปรับให้   แต่ยังไม่เชื่อว่าเอาค่า Short/long Fuel Term  มาปรับลดแบบดื้อดื้ออย่างที่อ่านได้ทั่วไปเลย   เพราะมันเอามากินดิบดิบแบบนั้นไม่ได้ (อันนี้คุยกันเฉพาะ  เล่าส่กันฟังนะป๋า   เพราะมันต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเจาะเล็กน้อยออกมาได้ )

สิ่งที่ผมพบได้ใน Premium ที่เห็นเค่นชัดเลยในการทดสอบ 2000 km นี้ มีการเปิด OBD ต่อยอดจากการจูนแบบไสตล์ผมแล้ว   มันแก้โจทย์เรื่อง  IAT ผันผวนได้ดีกว่าที่เคยทุกวิธี อันนี้ต้องยกประโยชน์ให้ 300 Premium  แต่ยังไม่ชัวร์  จะมีการทดสอบระเอียดกับ ECU ตัวนี้ อีก โดยกะระยะเวลารวมไว้ที่  20000 Km. ซึ่งก็ไม่น่านานเกินหน้าฝนนี้ครับ   เพราะตอนนี้เอา 300ISa2 ECU ขึ้นหิ้งไว้ก่อนแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 30, 2014, 07:28:11 pm โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #128 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2014, 07:29:28 pm »

พิมพ์ไปหยุดไปขอดทษครับสมาชิก   ตอนนี้พิมพ์เสร็จแล้วครับ   

แอบเอาข้อมูลมายัดเพิ่มคุณภาพให้ร้านกาแฟคอ AC กันหน่อยครับ

--- เมื่อวานนี้แอบไปถอด ลิ้นปีกผีเสื้อออกมาล้างเบนซิน  ปรากฎว่าถอดง่ายมากพอควร  ถอดปลั๊ก  ถอดน็อท  ก็เอาออกมาทั้งลูก ออกมาล้าง  ด้านหลังสกปรกพอควร พอล้างแล้วใส่กลับ อืมมันอุปทานไหมไม่รู้ดูเครื่องเดินสบายขึ้น  น่าจะอุปทานมากกว่า  แต่สบายใจขึ้น   

เน้นนิดนะครับ   อ่านบทความฝรั่งได้เกร็ดมาอันนึง   พวกปีกผีเสื้อรุ่นใหม่ใหม่พวกนี้  หากไม่ได้ถอดออกมา   อย่าไปผลักลิ้นมันไปข้างหน้าหรือหลัง  แบบล้วงฉีดด้วยน้ำยา  โดยหวังว่าจะไปทำความสะอาดด้านหลังมันโดยดันลิ้นโยกไปมา   ฝรั่งเจ้านั้นเขาบอกว่า  รถบางคันการทำแบบนั้น  อาจเป็นการเปลี่ยน step ที่มีการโปรแกรมโดย Servo ที่มีกาสั่งงานร่วมกับ ecu ถ้าเลือกที่จะถอดออกมาก็จะดีกว่าถ้าง่าย  แล้วไม่ต้องโยกมัน  หากโยกอาจเป็นการโปรแกรมมิ่งแบบ Passive ไปทำนองนั้น ในรถบางคัน

ก็เลยแกะใจความออกมาได้แค่นั้น   ก็เลยเอาตามไปก่อนละนะ ปลอดภัยไว้ก่อน  ฟังดูก็มีเหตุผล  เผื่อมันคล้ายกับหุ่นยนต์ที่โปรแกรมขั้นตอนโดยการจับมันจี้ตรงนั้นตรงนี้  แล้วจะเป็นการป้อนข้อมูลให้ทำงานแบบย้อนกลับมาได้  อันนี้ไม่รู้แค่ตามน้ำไปก่อนครับ  ถ้าถอดออกมาก็อย่าผลักมันเล่นปลอดภัยไว้ก่อนเรื่อง Steping Motor นี่

แล้วก็ไปซื้อกรองอากาศแท้มาลองใช้ดู  หลังจากใช้ของเทียม 300 กว่า มานานหลายอัน  เลยลองของแท้จากร้านอะไหล่เดิม ราคา 600 บาท มีตรา Mitsu เหมือนของ 0 เป๊ะ เลย  ใครจำได้ว่าใน 0 mitsu เท่าไร  ก็บอกกันนิดนะ  งวดหน้าจะได้เอาที่ 0 สะเลย

ตอนนี้กำลังจับผิดเรื่องเครื่องไม่นิ่งตอนเดินเบาอยู่   ใจก็อยากเปิดวาวล์ไอดีมาตั้งสักที   แต่ติดอยู่ตรงที่ไม่มี Spec ว่าตั้งแค่ไหนดี  ใครมีแวะมาแจ้งหน่อยนะ  เอาา 2 Gen 6b31 นะ 1 Gen.  ไม่เอา  มัน CR: แค่ 9:1   ของเรา 10.5 :1  ส่วนหัวเทียนยังดีอยู่ ที่ 60000 โลนี่  ประเมินไปที่ 100000 โล ค่อยจัดการ

แต่เชื่อไหมผมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแบบไม่ Syth. มาบ่อยมากตอนครบระยะ ทุก 10000 โล แต่ถ้าช่วงไหนเดินทางไกลบ่อยก็มักจะเอาเองที่ 5000 โล แต่ไม่เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง  ซื้อมาใส่เองก็แค่ 4 ลิตรกว่าเท่านั้นไม่ถึงพันเลย  ก็ลื่นสบายดี ใช้ Concept แบบของเกรดธรรมดา  แต่ถ่ายที่ 5000 ตัวเอง 5000 โลครบ 10000 ที่ Mitsu  ส่วนตัวผมว่าถูกกว่าดีกว่าเพราะได้น้ำมันสะอาดเพิ่มมาอีก 1 รอบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 31, 2014, 09:27:35 am โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
aszaultz
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108


« ตอบ #129 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2014, 10:10:24 am »

ปีผีเสื้อรุ่นใหม่ๆ ถ้าเผลอผลักไปแล้ว มันอาจจะเด้งกลับมาไม่อยู่ในตำแหน่งเดิมหรือไม่แป่ะๆ เท่าเดิม ของผมเจอบ่อยชอบถอดมาล้าง เพราะท่อ suction ไอน้ำมันเครื่องดันไปอยู่หน้าปีผีเสื้อ  โอ๊ยมึน โอ๊ยมึน ต้องมานั่ง Initialize ใหม่เพื่อให้มัน reset กลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมเทียบกับ ecu

อิอิ มาอ่านตลอดครับป๋า เขียนเรื่อยๆ สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า
kong_za
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 170


« ตอบ #130 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2014, 11:38:34 am »

 Cheesy

ล้างลิ้นปีกผีเสื้อนี่น่าสนใจครับ ผมว่าซัก 40000 โล ก็ว่าจะทำอยู่

เห็นในเวปอีกเวปนึงของเจ้าปา เค้าถอดท่อไอดีมาล้างกันครับป๋า Punpun

แบบแกะออกมานี่ข้างในท่อ เน่ามาก มีคราบเขม่าเหนียวหนึบ แน่นเลย ผมเห็นแล้วสยองเลยครับ

ตอนป๋า Punpun ถอดลิ้นปีกผีเสื้อออกมา ได้ส่องดูด้านในท่อร่วมไอดีมั๊ยครับ
บันทึกการเข้า
kong_za
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 170


« ตอบ #131 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2014, 11:51:29 am »

 

ขออนุญาติลงภาพให้ได้รับชมจาก อีกบ้านนึงนะครับ

ขออนุญาติท่าน จขกท เจ้าของรถ ด้วยนะครับ

เห็นว่าดูดีมีประโยชน์เลยอยากเผยแพร่เพื่อนสมาชิกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 31, 2014, 11:53:40 am โดย kong_za » บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #132 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2014, 12:28:57 pm »

ตอบป๋า Kongza ครับ  ผมถอดทั้งยวงออกมาชำแหละหวังแค่ศึกษาดูทั้งหมดอยากรู้ว่าหัวเทียนผม  หลังจากผ่านการวิ่งแก็สมา 50000 กว่าโล  ว่าจะมีหลักฐานอะไรที่เสียหายให้เห็น  ปรากฎว่า สะอาดเอี่ยมเลย  แต่หลังลิ้นมีคราบไม่มากก็ล้างสะอาดเอี่ยม   หัวเทียน V6 ถ้าใครจะเปลี่ยนแนะนำเลยว่าถ้าไม่มีฝีมือช่างพอควร  ไปศูนย์ Mitsu ดีกว่าครับ  เพราะงานนี้ Kill the elephant to get ivory กันทีเดียวครับ

วันนั้นไม่มีเวลามากเลยไม่ได้ถอดศึกษา วาวล์ EGR ว่าลิ้นมันดังกระพือเวลามันทำงาน  ไว้วันหลังว่างจะเอาสักที  แต่เอาหัวเทียนมาพิสูจน์ว่าเราวิ่งแก็สที่ผ่านการจูนแบบเราแล้วมีผลอย่างไร   พอถอดออกมาโล่งอกเลย  มันอยู่ในสภาพที่ดีมากถึง 85% ทีเดียวแสดงว่าการเผาไหม้ของรถผมอยู่ในขั้นดีถึงดีมากทีเดียว  ส่วน Coils นี่ภายนอกดูดี  ตอบไม่ได้  แต่พบว่าการนิ่งของเครื่องยนต์รอบเดินเบา  ต่างจากรถใหม่นิดนึงหากสังเกตดีดี   Test ที่ระบบน้ำมันและแก็สแล้ว

จุดที่เป็นเหตุมี
--  Coils ด้านที่อยู่ใต้ท่อร่วมไอดี 3 หัว นี่ น่าจะเสื่อมได้เร็วกว่าอีก Bank นึง เพราะมันระอุมากบริเวณนั้น ถ่ายเทความร้อนยาก
--  อยากทำการปรับระยะวาวล์ไอดี ตาม Spec ใหม่   ไอเสียเป็น Auto อยู่แล้ว   
--  ตรวจสอบจากโปรแกรม Ac Syn.. ดูแล้วตอนใช้น้ำมัน  อัตราการฉีดของหัวฉีดน้ำมัน 6 หัวออกมาดี

หากลองข้อ 2 แล้วอาการกลับมาเหมือนรถใหม่จะมาเล่ากันฟังครับ   แต่ตอนนี้ไม่มีข้อมูลระยะปรับตั้ง  เลยรอก่อน  ส่วน Coils นี่ถ้าหาซื้อใหม่ตรงแท้เป๊ะ  ไม่แพงมากเกิน 3 พัน ก็กะว่าจะเอามา Spare ไว้ สัก 3 อัน มาสลับเปลี่ยนใช้ดู  เพราะยังไงก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดีในอนาคต   โดยเฉพาะ Bank 1  นี่

ในรูปนี่น่าจะเป็นพวก ดีเซลไหมครับ   เบนซิลเราถึงจะมีการเอาไอเสียมาเวียนใช้มั่งก็ไม่น่าถึงในรูปครับ 


บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
kong_za
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 170


« ตอบ #133 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2014, 12:34:27 pm »

 

ใช่ครับป๋า ของป๋าเจ้าของรถเป็นเครื่องดีเซลครับ ระยะทางเห็นบอกว่าวิ่งมาราว 90000 โลแล้วน่ะครับ
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


« ตอบ #134 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2014, 05:04:34 pm »

เอางี้ดีไหมครับ  ใครมีที่ซื้อ Coils V6 เราบ้างราคาเท่าไรอยากรู้ครับ   เร็วเร็วนี้จะมีพวกเราได้เปลี่ยนใช้กันมั่งครับ  ผมเองก็ด้วย  หรือใครมีราคา 0 Mitsu ก็เอามาลงกันได้ในกระทู้นะครับ รวมทั้งหัวเทียนเข็มของ V6 เราครับ

 
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15 16 17 ... 26   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 21 คำสั่ง