Languages
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 9 10 ... 12   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จะทำอย่างไรดีเมื่อน้องปาคันโปรดของเร  (อ่าน 65479 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #15 เมื่อ: เมษายน 23, 2013, 09:13:34 am »

อ่านแล้วเห็นใจเลย แบบอารมณ์ซื้อป้ายแดงแล้วรถดันมาพัง เวลาเดินทาง
ยิ่งเรื่องความร้อนนี่เรื่องไหญ่ครับ ลองให้ 0 เช็คดูครับ แก้ไม่ยากครับ
แต่ถ้าปล่อยไว้นี่บานแน่ๆ

ถ้าไม่ไว้ใจ 0 ลองหาช่างเก่งไว้ใจได้ก็ได้ครับผมว่าเจ๋งกว่า 0 อีก

ส่วนเรื่องเกียร์ค้างแบบของคุณ MK28
รถผมใช้เชียงใหม่ ขับบนดอยทางดำบ่อยๆ
สะเมิง-ฝาง-เชียงราย ทางเขาทั้งนั้นครับ เกียร์มันจะ Heat ครับ
เพราะชุดเกียร์มันใช้หม้อน้ำหน้ารถระบายความร้อน
แก้โดยติด oli cooler gear เพิ่มไปครับ รับรอง ยืดอายุชุดเกียร์ไปได้ทั้งชีวิตรถ
ถ้าออยไม่พังก่อนครับ เอารูปให้ดูละกัน
คันนี้รถผมเอง แต่รูปผมยืมมาจาก เฟสบุ๊คของอู่ที่ติดให้ให้นะครับ







ตามปกติแล้วในขณะรถหยุดนิ่ง เวลาเราเปลี่ยน gear จาก N มาเป็น D รถคันอื่นจะมีการกระตุ๊ก 1 ครั้งเหมือน รถของ จขกท รึเปล่าครับ ฮือๆๆ หรือรถผมขี้โรคอยู่คันเดียว
บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #16 เมื่อ: เมษายน 23, 2013, 09:13:44 am »

อ่านแล้วเห็นใจเลย แบบอารมณ์ซื้อป้ายแดงแล้วรถดันมาพัง เวลาเดินทาง
ยิ่งเรื่องความร้อนนี่เรื่องไหญ่ครับ ลองให้ 0 เช็คดูครับ แก้ไม่ยากครับ
แต่ถ้าปล่อยไว้นี่บานแน่ๆ

ถ้าไม่ไว้ใจ 0 ลองหาช่างเก่งไว้ใจได้ก็ได้ครับผมว่าเจ๋งกว่า 0 อีก

ส่วนเรื่องเกียร์ค้างแบบของคุณ MK28
รถผมใช้เชียงใหม่ ขับบนดอยทางดำบ่อยๆ
สะเมิง-ฝาง-เชียงราย ทางเขาทั้งนั้นครับ เกียร์มันจะ Heat ครับ
เพราะชุดเกียร์มันใช้หม้อน้ำหน้ารถระบายความร้อน
แก้โดยติด oli cooler gear เพิ่มไปครับ รับรอง ยืดอายุชุดเกียร์ไปได้ทั้งชีวิตรถ
ถ้าออยไม่พังก่อนครับ เอารูปให้ดูละกัน
คันนี้รถผมเอง แต่รูปผมยืมมาจาก เฟสบุ๊คของอู่ที่ติดให้ให้นะครับ







ตามปกติแล้วในขณะรถหยุดนิ่ง เวลาเราเปลี่ยน gear จาก N มาเป็น D รถคันอื่นจะมีการกระตุ๊ก 1 ครั้งเหมือน รถของ จขกท รึเปล่าครับ ฮือๆๆ หรือรถผมขี้โรคอยู่คันเดียว
บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #17 เมื่อ: เมษายน 23, 2013, 09:20:46 am »

3. เมื่อไปกินข้าวลิงที่ตากมาแล้ว คราวนี้ผมไม่ไว้ใจศูนย์ต่างจังหวัดล่ะ ขับรถเข้ากรุงเทพเอามาซ่อมที่ศูนย์ สิธิผล สาขาพราม 3 ทางศูนย์ ก็รับรถไปทำการตรวจสอบอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ทางศูนย์ก็ไม่พบความผิดปกติ จึงแจ้งให้ไปรับรถกลับมาใช้**ใส่วาวล์น้ำกลับไปแล้วนะครับ (เอิ่ม ครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รุ กับศูนย์มิตซู ถ้ารถมันไม่ผิดปกติ มันจะมีปัญหาตามที่เล่ามาได้ยังไง) ทางศูนย์ก็บอกมาอีกว่าถ้าอยากพิสูจน์จริงๆต้องเปิดฝาสูบเพื่อดูว่าประเก็นมีปัญหา รึไม่ (เอิ่ มอีกรอบ รถใหม่เอี่ยมไม่ถึงปีจะโดนผ่าเครื่อง มันใช่เหรอ) โดยต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ (จะนานไปไหนว่ะ) และ ต้องนัดมาทำหลังปีใหม่ เนื่องจากตอนนั้นใกล้ถึงวันปีใหม่แล้ว ทางผมก็ เอาว่ะ ถ้าศูนย์บอกว่าปกติคงเป้นผมขับรถไม่ถูกวิธีล่ะมั้ง แล้วในช่วงวันปีใหม่ 2013 ที่ผ่านมาก็ได้พาครอบครัวไปเที่ยว (ชายแดนอีกแล้ว) แต่คราวนี้เป็นชายแดนพม่า ฝั่ง อ.สังขละบุรี จะไปเดินเล่นสพานมอญ กินหนมจีน อร่อยๆ ซะหน่อย แต่รถเจ้ากำดันมีปัญหา คว่ทร้อนขึ้นอีก แต่คราวนี้ไม่เหมือนทุกทีเพราะเรารู้วิธีเอาตัวรอดแล้ว หึหึหึ ผมเลยเอารถเข้าไปจอดที่ด่านตรวจของตำรวจ ที่อยู่ใกล้ๆนั้น แล้วลงไปขอความช่วยเหลือ ทางพี่ๆตำรวจก็น่ารักเดินไปลากสายยางมาให้ แถมบอกว่าใช้น้ำได้ตามใจเลย แม่ผมก็น่ารักเอามะขามแก้ว OTOP ของดีประจำจังหวัดพิจิตร ไปแจก พี่ๆตำรวจที่ตั้งด่านอยู่คุยกันสนุกๆสนามเลย ฮ่าๆๆๆ พอครบครึ่งชั่วโมง ผมก็เลยเปิดฝาหม้อน้ำเติมน้ำลงไปจนเต็มแล้วติดเครื่่อง ให้เครื่องมันดูดน้ำที่เติมเข้าระบบ หล่อเย็น จนเต็มแล้วก็ก็ทำการถ่ายรูป ถ่ายคลิป VDO แล้วก็ทำการขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้น่ารักแล้วเดินทางกันต่อ จนการท่อเที่ยวตลอดสี่วันผ่านไป พอเปิดทำการในวันที่ที่ 2 ม.ค. 2013 ผมก็ทำการติดต่อศูนย์สิธิผลพระราม 3 เพื่อเอารถเข้าไปทำการแก้ไข โดยเอารูป และ VDO ที่ถ่ายไว้ให้ช่างดูว่ามันมีฟองผุดในหม้อน้ำแบบนี้ ช่างเลยบอกว่า แบบนี้มันน่าจะเป็นที่ ฝาสูปโก่ง ไม่ก็ประเก็นแล้วล่ะ Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh? (แล้วที่ช่างบอกว่าตรวจเช็คแล้ว ไม่พบความผิดปกติล่ะ ทำไม่เรื่องแค่นี้ไม่เจอ ขนาดช่างพม่าที่ชายแดนมันยังรู้เลย แต่พูดกันไม่รู้เรื่อง ไม่งั้นเค้าคงบอกว่าเป็นที่อะไรมาแล้วล่ะ) สุดท้ายก็ทิ้งรถไว้ เป็นเดือนกว่าจะเสร็จ สรุปเป็นที่ประเก็นแล็ปครับ โรคประจำตัวของเครื่อง 4D56 

Clip VDO ครับ มาดูกันครับว่าฟองผุดกันเห็นๆมันเป็นยังไง
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=hkcf13AMOyo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=hkcf13AMOyo</a>

4.หลังจากที่แก้ไขประเก็นเรียบร้อยก็ไม่มีโอกาสไปขับรถเที่ยวไกลๆๆอีกเลยจนกระทั้งเมื่อวันที่ 16-19/4/2013 ที่ผ่านมาที่บ้านผมมีทริปเที่ยว ชายแดนอีกแล้ว (บ้านนี้สงสัยชอบชายแดน) เริ่มจากพิจิตร-เลย-เชียงคาน-หนองคาย-เวียงจันทร์ (พาไปเมืองนอกมาแล้วเน้อ) และ ขากลับวิ่งทาง หนองคาย-อุดร-หนองบัว-ชุมแพ-เพชรบูรณ์-พิษณุโลก-พิจิตร ซึ่งเส้นทางก็ขึ้นเขาสลับซับซ้อน ช่วง น้ำหนาว-หล่มสัก-พิษณุโลก ก็ไม่พบอาการเครื่องร้อนแล้ว แอบสบายใจ.....แต่คราวนี้ได้อาการอื่นมาแทนนั้น คือ อาการน้ำมันเครื่องซึม และ เครื่องยนต์มีเสียงแปลกๆๆๆๆ  เวลาเข้าเกีย D ตอนรถหยุดนิ่งก็จะมีอาการกระตุก 1 กึก ซะงั้น


***** เดียวมาต่อกระทู้ พร้อมเอาภาพ มาลงนะครับ ตอนนี้พิมพ์เหนื่อยล่ะ

มาอัพเดตรูปให้ตามสัญญาใจ จากผู้ชายคนนึงครับ
รูปชุดนี้เป็นชุล่าสุดในข้อที่ 4 จากกระทู้แรกนะครับ ที่ถ่ายกรณี น้ำมันเครื่อง ไม่รู้จะเรียกว่ารั่ว หรือ ซึมดี ครับ พอดีเวลาเร่งเครื่องจำชุดกำลังเครื่องยนต์ตอนขึ้นเขา ช่วง น้ำหนาว-หล่มสัก มาลงพิษณุโลก พอมาถึงบ้านมันก็มีน้ำมันหยดลงพื้นเลยหาสาเหต แล้วก็มาเจอตามรูปครับ






มี Clip VDO ที่ถ่ายมาให้ดูกันด้วย
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=gaKCoq6czV0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=gaKCoq6czV0</a>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 23, 2013, 09:42:45 am โดย timman_1987 » บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #18 เมื่อ: เมษายน 23, 2013, 09:54:45 am »

แวะมาเพิ่มเติมรูปภายในข้อที่ 2 ครับ
ตามที่จั่วหัวไว้ว่าไปตายที่ตากนั้นมีรูปภาพอยู่นิดหน่อยนะครับ

1.จอดให้ช่างเช็คเครื่องที่ ศูนย์มิตซูแม่สอดที่ตัวศุนย์ยังไม่เปิดทำการมีแต่ Sale ขายอย่างเดียว แต่โชคดีที่มีช่างจากศูนย์ตากแวะมาเที่ยวพอดี


พี่คนนี้เป็น Sale ครับทำไรไม่ได้ แต่มายืนดู และ คอยให้กำลังใจครับ ขอบคุณมากๆๆ


ช่างเค้ากำลังรื้อเครื่องมือ มาต่อสู้กับรถจอมงอแงครับ



2.เมื่อทำการถอดวาวล์น้ำออกจากแม่สอดก็ขับรถต่อไปจนรถไปร้อนที่ศูนย์รักษาต้นน้ำแม่เมย ช่างเส้นเขตแดนไทย-พม่า ไม่เกิน 20 เมตรครับ สมาชิกร่วมทางยืน เซ็งกันเป็นแถบ ฮ่าๆๆ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 23, 2013, 09:57:27 am โดย timman_1987 » บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #19 เมื่อ: เมษายน 23, 2013, 10:04:26 am »

มาต่อๆๆๆๆอีกชุด หลังจากเครื่องเย็น และ ทำการเติมน้ำลงไปในหม้อน้ำจากศูนย์อนุรักษ์ต้นน้ำแม่เมยแล้วผมก็ขับรถต่อไปจนถึง ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย ซึ่งก็มืดมากๆแล้ว เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะไรมากมายครับ ทำการหุงหาอาหาร เติมพลังกัน


หลังจากท้องอิ่มกันแล้ว ก็เป็นเวลา 22.00 น. พอดีทางอุทยานทำการดับเครื่องปั่นไฟครับ ทำให้ไฟฟ้าเกือบทั้งหมด ดับลง เหลือไว้เพียงแค่ส่วนที่จำเป็นเท่านั้น กลุุ่มผมที่เพิ่งไปถึงได้ไม่นานก็บ่นกันใหญ่เลยว่า เหนื่อยๆมากันยังไม่ได้อาบน้ำเลยจะดับไฟแล้วเหรอ แต่เมื่อแสงสว่างจากหลอดไฟดับลง ก็มีแสงจากดาวบนฟ้าอันสวยงาม แสดงตัวออกมา ทำให้สมาชิกผู้ร่วม ทริป ที่อารมษ์ เสียจากการที่รถเสียมาทั้งวัน เพียงแค่เห็นก็ถึงกับหายเหนื่อยกันเลยที่เดียว  ลองดูกันครับว่าทำไมผมถึงได้หายเหนื่อย

สวยเปล่าไม่รู้ แต่ ณ ตรงนั้น มันทำให้ผมหายเหนื่อยเลย หุหุ














แทบจะร้องเพลงคืนที่ดาวเต็มฟ้า ฮ่าๆๆ

บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #20 เมื่อ: เมษายน 23, 2013, 10:10:13 am »

ยังไม่หมดนะครับกับเรื่องที่ตาก พอเช้ามาผมก็ไปเช็ครถดูว่าน้ำหายไปบ้าง หรือ ไม่ ก็พบว่ามีหายไปบ้างเหมือน กันแต่ไม่ มาก ก็ ทำการเติมน้ำลงไปแล้วก็ขับรถขึ้นไปชม ทะเลหมอกกันต่อ











พาน้องปามาดู ทะเลหมอก อิอิ ที่หมอน ครูบาใสครับ ถ้าไม่ติดเรื่องรถมีปัญหา มันจะเป็นทริปที่สนุกมากๆ แต่ก็แก้อะไรไม่ได้ล่ะครับ สมาชิกผู้ร่วมชะตากรรมก็มีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยว สนุกปนทุกกันไป มันก็ดีนะครับที่รถมีปัญหาทำให้ได้ขับรถช้าลง แล้วชื่นชมกับความสวยงามของทิวทัศน์อันสวยงามข้างทางเพิ่มขึ้น     แต่ที่สำคัญขากลับจาก อ.ท่าสองยาง - อ.เมือง จ.พิจิตร น้องปา มันไม่เห็นจะมีปัญหาเหมือน ขาไปเลย ซักนิด เอ้ว แปลกดีเหมือน กัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 23, 2013, 10:21:23 am โดย timman_1987 » บันทึกการเข้า
vmazz
MY13 White
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 85



« ตอบ #21 เมื่อ: เมษายน 23, 2013, 05:14:36 pm »

อ่านแล้วเห็นใจเลย แบบอารมณ์ซื้อป้ายแดงแล้วรถดันมาพัง เวลาเดินทาง
ยิ่งเรื่องความร้อนนี่เรื่องไหญ่ครับ ลองให้ 0 เช็คดูครับ แก้ไม่ยากครับ
แต่ถ้าปล่อยไว้นี่บานแน่ๆ

ถ้าไม่ไว้ใจ 0 ลองหาช่างเก่งไว้ใจได้ก็ได้ครับผมว่าเจ๋งกว่า 0 อีก

ส่วนเรื่องเกียร์ค้างแบบของคุณ MK28
รถผมใช้เชียงใหม่ ขับบนดอยทางดำบ่อยๆ
สะเมิง-ฝาง-เชียงราย ทางเขาทั้งนั้นครับ เกียร์มันจะ Heat ครับ
เพราะชุดเกียร์มันใช้หม้อน้ำหน้ารถระบายความร้อน
แก้โดยติด oli cooler gear เพิ่มไปครับ รับรอง ยืดอายุชุดเกียร์ไปได้ทั้งชีวิตรถ
ถ้าออยไม่พังก่อนครับ เอารูปให้ดูละกัน
คันนี้รถผมเอง แต่รูปผมยืมมาจาก เฟสบุ๊คของอู่ที่ติดให้ให้นะครับ





ตามปกติแล้วในขณะรถหยุดนิ่ง เวลาเราเปลี่ยน gear จาก N มาเป็น D รถคันอื่นจะมีการกระตุ๊ก 1 ครั้งเหมือน รถของ จขกท รึเปล่าครับ ฮือๆๆ หรือรถผมขี้โรคอยู่คันเดียว

ถ้าจากเกียร N ไป D มีอาการกระตุกนิดหน่อยถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ แต่ถ้าแรงเกินหรือมีเสียงนี่ต้องเช็คครับ มาจากหลายสาเหตุครับ
อาการเกียรค้างคือ มันจะไม่เปลี่ยนเกียรให้ครับ ทั้งๆที่รอบสูงแล้ว บวกกับไฟโชวด้วยครับ ต้องจอดพัก ประมาณ 15 นาที ให้น้ำมันเกียรมันเย็นก่อนครับ
บันทึกการเข้า
vmazz
MY13 White
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 85



« ตอบ #22 เมื่อ: เมษายน 23, 2013, 05:19:08 pm »

น้ำมันเครื่องเลอะห้องเครื่องที่เป็นรอบหลัง
ให้ผมวิเคราะห์น่าจะเกิดจากช่างที่ 0 ถอดฝาวาล์วออกมาเช็ค แล้วใส่กลับไม่ดี
พวกฝาครอบวาล์วแตก/ร้าว ปะะก็นฝาวาล์วเหลื่อม หรือ กาวปะเก็นไม่ยอมทาให้เราครับ ผมเคยเป็นครับ แบบนี้
เวลาเราเร่งเครื่องจะเกิดแรงดันในเครื่องยนต์มากทำให้น้ำมันเครื่องมันออกมาตามจุดที่เป็นช่องว่างครับ

เพราะตอนแรกรถไม่มีอาการนี้เลยใช่มั้ยครับ พอเข้า 0 ปุ๊ป ได้ปัญหาเพิ่มมาอีกซะงั้น anger
ลองเช็คดูจุดที่น้ำมันออกมาก่อนเลยครับ
น่าโวยมากเรื่องนี้ เครียดแทนเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 23, 2013, 05:21:38 pm โดย vmazz » บันทึกการเข้า
nokpajero
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 299



« ตอบ #23 เมื่อ: เมษายน 23, 2013, 08:19:19 pm »

น้องให้เห็นแบบนี้แล้วเครียดแทน......หายไวๆๆนะครับ



ปล.เล่าเรื่องได้สนุกน่าติดตามอ่านเพลินเลย ยอดเยี่ยม
บันทึกการเข้า

ID 3395
ปาขาวมุก MY13 2.5 GT
Date : 6-4-56
JAJA-RY
Jr. Member
**

like: 23
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 302



« ตอบ #24 เมื่อ: เมษายน 23, 2013, 09:02:20 pm »

น้ำมันรั่วรอบหลังนี้น่าจะมาจากการประกอบตอนเปลี่ยนประเก็นฝาสูบ น่าจะสามารถเคลมได้ปกติ แต่จุดที่รั่วตรงนั้นมันเป็นปั้มน้ำมัน power ของระบบพวงมาลัย ลองดูนะครับว่าน้ำมัน power หายไปรึเปล่าถ้าไม่หายก็จะมาจากฝาวาล์วซึ่งเป็นน้ำมันเครื่อง แต่เรื่องความร้อนขึ้น น้ำหาย น้ำดัน ประเก็นไหม้ ป๋าลองหาอุปกรณ์เตือนภัยก่อนจะพังมาใช้สักตัวก็ดีครับพวก monstergauge smartgauge ช่วยได้เยอะทีเดียวให้มันเตือนก่อนที่เครื่องจะ heat หากมีความผิดปกติในระบบน้ำหล่อเย็นเพราะเกจ์ที่หน้าปัทม์ไมล์เทมมากกว่า 100 องศาแล้วมันถึงขยับครับซึ่งจุดนั้นส่วนใหญ่ประเก็นฝาจะเกิดความเสียหายไปแล้วถ้าใช้ smart gauge ก็ตั้งให้ alarm สัก 97'C ก่อนจะถึงจุดที่น้ำจะเดือดครับลองดู 
บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #25 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 01:10:40 am »

น้ำมันรั่วรอบหลังนี้น่าจะมาจากการประกอบตอนเปลี่ยนประเก็นฝาสูบ น่าจะสามารถเคลมได้ปกติ แต่จุดที่รั่วตรงนั้นมันเป็นปั้มน้ำมัน power ของระบบพวงมาลัย ลองดูนะครับว่าน้ำมัน power หายไปรึเปล่าถ้าไม่หายก็จะมาจากฝาวาล์วซึ่งเป็นน้ำมันเครื่อง แต่เรื่องความร้อนขึ้น น้ำหาย น้ำดัน ประเก็นไหม้ ป๋าลองหาอุปกรณ์เตือนภัยก่อนจะพังมาใช้สักตัวก็ดีครับพวก monstergauge smartgauge ช่วยได้เยอะทีเดียวให้มันเตือนก่อนที่เครื่องจะ heat หากมีความผิดปกติในระบบน้ำหล่อเย็นเพราะเกจ์ที่หน้าปัทม์ไมล์เทมมากกว่า 100 องศาแล้วมันถึงขยับครับซึ่งจุดนั้นส่วนใหญ่ประเก็นฝาจะเกิดความเสียหายไปแล้วถ้าใช้ smart gauge ก็ตั้งให้ alarm สัก 97'C ก่อนจะถึงจุดที่น้ำจะเดือดครับลองดู 

คุณพ่อผมเคยใช้รถ แล้วความร้อนขึ้นแต่แกไม่รู้ตัวขับจนเครื่องดับไปครับ ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ ควรทำไงดีครับเพราะตามความคิดผมมันน่าจะเกิดความเสียหายต่อระบบเครื่องยนต์โดยรวมไปแล้วไม่มากก็น้อย ร้อนจนเครื่องดับเนี้ย แต่ศูนย์บริการเครมเปลี่ยนให้แค่ประเก็นฝาสูบ แถมพอทำเสร็จ เครื่องรถผมก็มีเสียงดังแปลกๆเหมือน มอไซค์เก่าๆที่เครื่องหลวมแล้วเลยครับ แล้วยังมาเจอน้ำมันเครื่องซึมออกมาอีก เฮ้อยิ่งคิดยิ่งเศร้า ปัญหาเยอะอย่างกับรถทดลองประกอบ ว่าแล้วก็เซ็ง
บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #26 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 01:35:50 am »

น้ำมันเครื่องเลอะห้องเครื่องที่เป็นรอบหลัง
ให้ผมวิเคราะห์น่าจะเกิดจากช่างที่ 0 ถอดฝาวาล์วออกมาเช็ค แล้วใส่กลับไม่ดี
พวกฝาครอบวาล์วแตก/ร้าว ปะะก็นฝาวาล์วเหลื่อม หรือ กาวปะเก็นไม่ยอมทาให้เราครับ ผมเคยเป็นครับ แบบนี้
เวลาเราเร่งเครื่องจะเกิดแรงดันในเครื่องยนต์มากทำให้น้ำมันเครื่องมันออกมาตามจุดที่เป็นช่องว่างครับ

เพราะตอนแรกรถไม่มีอาการนี้เลยใช่มั้ยครับ พอเข้า 0 ปุ๊ป ได้ปัญหาเพิ่มมาอีกซะงั้น anger
ลองเช็คดูจุดที่น้ำมันออกมาก่อนเลยครับ
น่าโวยมากเรื่องนี้ เครียดแทนเลย


ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับผม ผมคิดว่าผมใจดีใจเย็นให้โอกาสทาง MMTH แก้ไขปัญหามาหลายครั้งหลายหน และ มันใช้เวลามากเกินไปแล้ว ผมคงจะเริ่มทำอะไรที่มันเป็นการเรียกร้องสิทธิ์ของผม ที่ผมพึงจะได้รับจาก การที่ผมซื้อสินค้าที่มีข้อบกพร่องจากการผู้จำหน่าย ซะแล้วล่ะ
บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #27 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 01:39:06 am »

อาการที่ว่าก็น้ำดันอีกคันแล้วครับ ส่วนต้นเหตุจะมาจากปิดฝาหม้อน้ำไม่สนิทหรือความผิดผลาดของการประกอบก็คงต้องตามที่ศูนย์ต่อไป แต่ในกรณีแบบนี้มีสมาชิกเราได้เปลี่ยนเครื่องใหม่มาแล้ว ป๋าลองศึกษาและปรึกษาป๋าจากกระทู้นี้ดูครับว่ามีขั้นตอนและวิธีการอย่างไรถึงได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=9679.0 เพราะรถที่เคยน้ำดันมาแล้วหลังจากซ่อมที่มีการปาดฝาความร้อนจะสูงกว่าเดิมครับผมมีประสบการณ์กับเรื่องนี้สองรอบกับคันเก่าซ่อมที่ศูนย์ได้ไม่ถึง 3 เดือนก็ดันอีกต้องเข้าอู่รถซิ่งอุดตาน้ำระหว่างสูบจุดที่เป็นจุดอ่อนของ 4D56 ถึงใช้ได้ยันขายรถ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมคงต้องเอาเยี่ยงอย่างมั้งแล้ว
บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #28 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 01:48:44 am »

สู้ๆครับ ปัญหาแก้ได้แต่ต้องแก้ให้ถูกจุด อยากให้นำข้อมูลต่างๆ พยายามทำเรื่องขอเปลี่ยนเครื่องใหม่ (ผมนอนอ่านเมื่อคืนจนหลับ มาจบเช้านี่ อยากรู้ว่ามันจะจบยังไง)
ว่าแต่ป๋าก็ใจเย็นมานาน เป็นผมคงไม่กล้าเดินทางไกล หากความร้อนขึ้นแล้วยังฝืนใช้ก็มีแต่ผลเสีย

ขอให้ happy ending นะครับ งานนี้ต้องกัดฟันสู้ครับ เป็นผมต้องได้เครื่องใหม่เท่านั้น 
มีต่อข้อ 3-4 ด้วยนะครับได้ไปอ่านรึยังเอ่ย? และกำลังจะมีการอัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมครับเรื่อยๆจากการที่ได้ประสานงานกับทาง MMTH มาครับ

ปล.ที่ผมใจเย็นอยู่เพราะผมเชื่อในความสามารถของศูนย์บริการครับว่าเค้าน่าจะสามารถวิเคราะห์ถึงปัญหา และ หาทางแก้ไขให้เราได้ ที่สิ่งที่ผมได้รับก็คือ ผมเอารถเข้าศูนย์บริการหลายที่มาก หลายครั้งช่างก็ยังไม่มีปัญญาจะแก้ไขให้ได้เลย จนผมต้องใช้รถต่อไปเรื่อยๆเพราะมีมันที่เป็นรถที่นั้งได้ 7 ที่นั้งเพียงคัน จนผมไปเจอปัญหาระหว่างเดินทางจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดมาถึงสามครั้ง ดีที่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องพวกนี้มาก่อนเลยไม่ตื่นตกใจเกินไป เอารถเข้าที่ปลอดภัยมาได้ และ ที่สำคัญผมเป็นคนศึกษาหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆถึงที่มาถึงความผิดปกติของรถด้วยตัวเอง รวมถึงพิสูจน์เองด้วยว่าที่น้ำดันนั้นเป็นเพราะอะไรตามที่ผมได้ ถ่าย Clip VDO ไว้ตาม หัวข้อที่ 3 สาม แล้วผมเอา Clip นั้นไปให้ ช่างที่ศูนย์บริการดูช่างถึงได้รู้ว่าต้องแก้ปัญหาที่ตรงไหน แบบนี้เหรอครับที่จะทำให้ลูกค้าเชื่อมันศูนย์บริการ ทาง MMTH น่าจะมอบปริญญาให้ผมอีกใบด้วยซ้ำที่สามารถศึกษาข้อมูลเรื่องเครื่องยนต์ จนสามารถหาสาเหตุของปัญหาได้ แทนช่าง สมองนิ่มของ MMTH เองเสียด้วยซ้ำ ..... (ตอนที่พิมพ์นี้อารมษ์เสียนะครับอาจจะแรงไปซักหน่อย)
บันทึกการเข้า
timman_1987
Newbie
*

like: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #29 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 01:50:20 am »

อ่านแล้วเห็นใจเลย แบบอารมณ์ซื้อป้ายแดงแล้วรถดันมาพัง เวลาเดินทาง
ยิ่งเรื่องความร้อนนี่เรื่องไหญ่ครับ ลองให้ 0 เช็คดูครับ แก้ไม่ยากครับ
แต่ถ้าปล่อยไว้นี่บานแน่ๆ

ถ้าไม่ไว้ใจ 0 ลองหาช่างเก่งไว้ใจได้ก็ได้ครับผมว่าเจ๋งกว่า 0 อีก

ส่วนเรื่องเกียร์ค้างแบบของคุณ MK28
รถผมใช้เชียงใหม่ ขับบนดอยทางดำบ่อยๆ
สะเมิง-ฝาง-เชียงราย ทางเขาทั้งนั้นครับ เกียร์มันจะ Heat ครับ
เพราะชุดเกียร์มันใช้หม้อน้ำหน้ารถระบายความร้อน
แก้โดยติด oli cooler gear เพิ่มไปครับ รับรอง ยืดอายุชุดเกียร์ไปได้ทั้งชีวิตรถ
ถ้าออยไม่พังก่อนครับ เอารูปให้ดูละกัน
คันนี้รถผมเอง แต่รูปผมยืมมาจาก เฟสบุ๊คของอู่ที่ติดให้ให้นะครับ







ตามปกติแล้วในขณะรถหยุดนิ่ง เวลาเราเปลี่ยน gear จาก N มาเป็น D รถคันอื่นจะมีการกระตุ๊ก 1 ครั้งเหมือน รถของ จขกท รึเปล่าครับ ฮือๆๆ หรือรถผมขี้โรคอยู่คันเดียว


ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล ผมนึกว่ารถผมมันจะมีปัญหาได้ทุกส่วนซะแล้ว ตัดไปได้หนึ่งอย่าง หุหุ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 9 10 ... 12   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.052 วินาที กับ 20 คำสั่ง